- ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว จากสินค้าหลายประเภทพาเหรดกันขึ้นราคา ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันแพง ซ้ำมาเจอกับสถานการณ์หมูราคาแพง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ บางพื้นที่ขยับสูงกิโลกรัมละเกือบ 300 บาท
- เพราะราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น เกิดโรคระบาดในหมู โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกา หรือ ASF ซึ่งเริ่มระบาดตั้งแต่ปี 2562 และไม่มีวัคซีนป้องกัน จากการออกมาระบุของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ทำให้ต้องฆ่าหมูเป็นจำนวนมากและฝังกลบ เพื่อควบคุมโรค ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูแบกรับภาระไม่ไหว ต้องเลิกเลี้ยงไปโดยปริยาย
- ในประเด็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู ทางกรมปศุสัตว์ ปฏิเสธมาโดยตลอดไม่พบการระบาดในไทย ยกเว้นในประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีการระบาด จึงต้องเฝ้าระวังตามแนวชายแดนคุมเข้มการลักลอบหมูเข้ามา แต่ยอมรับมีการระบาดของโรคเพิร์สในฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งไม่สามารถติดต่อสู่คนได้
ที่ผ่านมาสร้างความกังวลใจให้กับเกษตรกรรายย่อยเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะมีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา เพราะอาการของโรคคล้ายๆ กับโรคเพิร์ส มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ และเกิดอาการเลือดคั่งบนผิวหนังของหมูที่ติดเชื้อ แต่แตกต่างในเรื่องความรุนแรง หากติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกา อัตราการเสียชีวิตจะสูงกว่า หรือตายเฉียบพลันในทันที อีกทั้งไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกัน
...
เมื่อประมาณต้นเดือน ต.ค. ปี 2564 ได้เกิดโรคระบาดในหมู พื้นที่ จ.สงขลา ทำให้คนกังวลคิดว่าเป็นโรคระบาดลึกลับ เพราะหมูที่ติดเชื้อมีปื้นแดงบริเวณผิวหนัง เป็นภาวะคั่งเลือดโดยเฉพาะใบหู มีสีม่วงคล้ำ เป็นไข้นอนซม เบื่ออาหาร และชักดิ้น ตายในที่สุด แต่สุดท้ายหน่วยงานในพื้นที่ บ่งชี้ว่าหมูติดเชื้อโรคเพิร์ส ไม่ใช่โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู แต่อย่างใด
ปศุสัตว์ยืนกรานซ้ำ ไทยปลอด "อหิวาต์แอฟริกา"
เป็นอีกครั้งที่กรมปศุสัตว์ออกมายืนยันให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูคลายกังวล จากการระบุของนายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะโฆษกกรมปศุสัตว์ ยืนยันไทยยังคงปลอดจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู แต่ด้วยลักษณะอาการของโรคทั้งเพิร์ส อหิวาต์ และอหิวาต์แอฟริกาในหมู คล้ายๆกันและอัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกัน อาจทำให้เกิดความสับสนเข้าใจผิด
ขณะนี้ไทยพบการระบาดของโรคเพิร์ส และโรคอหิวาต์เท่านั้น เป็นส่วนหนึ่งทำให้หมูราคาแพง เนื่องจากเมื่อมีโรคระบาดในหมู จะต้องทำลายฆ่าทิ้งและฝังกลบ เพื่อลดความเสี่ยงกระจายโรคในพื้นที่รอบๆ โดยภาครัฐจ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้การออกมายืนยันว่าหมูติดโรคระบาดชนิดใด เป็นหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ ในการนำเชื้อมาตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 และข่าวที่ออกมาได้สร้างความสับสน โดยไทยยังไม่มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา แต่อย่างใด อาจเพราะโรคระบาดในหมูทั้ง 3 โรค มีอัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกัน จนคนเข้าใจผิดในช่วงนี้
โรคระบาดในหมู ไม่ติดต่อไปสู่คน หรือสัตว์อื่น
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ทางกรมปศุสัตว์ ได้เข้าไปควบคุมการระบาดทุกโรคในหมู ทั้งโรคปากและเท้าเปื่อย และทุกๆ โรค ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ ซึ่งมีโรคเพิร์ส รวมอยู่ด้วย ภายหลังได้เข้ามาในไทย เมื่อหลายปีมาแล้ว จนทำลายระบบอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู หากพื้นที่ใดสงสัยว่าจะเกิดการระบาดของโรคนี้ ได้ให้อำนาจกับปศุสัตว์ในพื้นที่ทำการสอบสวนโรค เพื่อบ่งชี้โรค
หากย้อนไปในอดีต พบว่าโรคในสัตว์หากเคยเกิดขึ้นแล้วในไทย จะไม่หมดไปจากประเทศ จะมีการระบาดเป็นระลอก ยกตัวอย่างโรคไข้หวัดนก เคยเกิดขึ้นในปี 2547 และยังอยู่ในไทย แม้สามารถควบคุมป้องกันได้ตั้งแต่ปี 2552 รวมถึงโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ก็เคยเกิดขึ้น หากระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และระบบสุขาภิบาลไม่ดี เช่น การให้อาหารหมู จนเกิดโรคทางเดินอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฟาร์มเปิด และมีการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์
...
แม้ปัจจุบันจะผลิตสุกรได้น้อยกว่าความต้องการของตลาด เนื่องจากหลายปัจจัย และขอยืนยันว่าไม่มีโรคระบาดรุนแรงในสุกรที่ติดต่อผ่านการบริโภคเนื้อหรืออวัยวะ โดยกรมปศุสัตว์เน้นการกำกับดูแลการผลิตสุกรที่มีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ และเข้มงวดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์ม เพื่อป้องกันโรคระบาดต่างๆ
ในส่วนโรคระบาดสุกรที่มีการพบในช่วงนี้ มีโรคเพิร์ส หรือพีอาร์อาร์เอส โรคอหิวาต์สุกร รวมทั้งโรคอหิวาต์แอฟริกาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขอยืนยันด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ว่าโรคเหล่านี้ ไม่มีการติดต่อไปยังคน หรือสัตว์ชนิดอื่น หรือแม้แต่ปนเปื้อนในเนื้อสุกร หากนำมาปรุงสุกด้วยความร้อนที่เหมาะสม อุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป อย่างน้อย 10 นาที สามารถทำลายเชื้อทั้งไวรัสและแบคทีเรีย หรือหากมีแผลที่มือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อสัตว์หรือเลือดสัตว์โดยตรง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากเชื้อที่อาจปนเปื้อน เข้าสู่แผลได้
"อหิวาต์แอฟริกา" อัตราการตายสูง ติดง่าย
รศ.ดร.นสพ.อนุวัตน์ วิรัชสุดากุล ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยกล่าวว่า หากโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู เข้ามาในไทยจะเป็นโรคอุบัติใหม่ ส่งผลกระทบหนักต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงหมู เนื่องจากไม่มีวัคซีนรักษาเป็นโรคติดต่อจากสารคัดหลั่ง มีเห็บเป็นพาหะ คล้ายกับลัมปี สกิน ที่ระบาดในโค กระบือ มีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะ
...
ส่วนโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู มีอัตราการตายสูง หากเข้ามาในไทยจะเกิดความเสียหาย เพราะติดง่าย เป็นโรคในสัตว์ไม่เคยมีในไทยมาก่อน ไม่ติดสู่คน และยังไม่มีรายงานการเกิดอย่างชัดเจนในไทย
ขณะที่ โรคเพิร์ส อาการทางระบบสืบพันธุ์ และระบบทางเดินหายใจ เคยเกิดขึ้นในไทยเมื่อปี 2537 จึงไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ซึ่งการติดต่อมาจากการดมและเลีย ผ่านสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก ปัสสาวะ อุจจาระของสัตว์ที่ป่วย รวมถึงน้ำเชื้อในการผสมเทียม และการติดต่อจาก ยุง แมลงวันบ้าน แมลงดูดเลือดอื่นๆ เป็นพาหะนําโรค
ปัจจุบันจากผลตรวจในห้องปฏิบัติการ พบว่าโรคเพิร์สอาจรุนแรงมากขึ้น จากหลายปัจจัย และอาจกลายพันธุ์ ทั้งจากสายพันธุ์ ชนิด 1 และชนิด 2 หลังเคยแพร่ระบาดมาก่อนในยุโรป และอเมริกาเหนือ.
ผู้เขียน : ปูรณิมา