ยังระทึกและลุ้นในการตามหาวิจิตร เสือโคร่งห้วยขาแข้ง พร้อมคำถามคือเสือโคร่งวิจิตรออกจากป่ามาทำไม พบหลักฐานเป็นคำตอบ คือออกมาเพื่อปฏิบัติการแสดงความเป็นเจ้าถิ่น และตอนนี้พ่นฉี่ข้ามจังหวัดแล้ว ตามสัญชาตญาณเสือตัวผู้ที่ต้องสร้างอาณาเขตรัศมีกว้าง 100 กิโลเมตร

จากการเปิดเผยก่อนหน้านี้โดย ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่รายงานว่า วันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2564 อุปกรณ์ส่งสัญญาณดาวเทียม และคลื่นวิทยุ ที่ติดอยู่กับปลอกคอวิจิตร เสือโคร่งห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี รายงานว่าเสือโคร่งวิจิตร อายุ 4 ปี เพศผู้ ออกนอกพื้นที่ป่าห้วยขาแข้ง มาโผล่ที่บริเวณบ้านปางสัก อำเภอเเม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ และที่บ้านเขาน้ำอุ่น อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จึงทำให้หลายคนแตกตื่น เกรงว่าจะมีชาวบ้านบังเอิญเจอกับเจ้าเสือวิจิตรเข้า นับเป็นช่วงเวลาของการเริ่มลุ้นตามหาวิจิตร เสือโคร่งแห่งป่าห้วยขาแข้งอย่างใกล้ชิด

จากนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 พบสัญญาณของเสือโคร่งวิจิตร เดินข้ามเขาน้ำอุ่นมาทางด้านหน้าเขาใกล้กับโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร แต่ก็ยังไม่มีใครพบตัวเป็นๆ ของเสือโคร่งวิจิตร

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 การเฝ้าตามหาวิจิตรยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานล่าสุด ตอนตี 4 ว่า เสือโคร่งวิจิตรข้ามถนนหมายเลข 1072 สายเขาชนกัน-เขาน้ำอุ่น-คลองลาน มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก และได้เดินกลับเข้าสู่บริเวณเขาน้ำอุ่นในเวลาตี 5 โดยมีแนวโน้มจะเดินกลับเข้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์

นับเป็นเวลา 4 วันที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการติดตามเสือโคร่งวิจิตรต้องเฝ้าดูสัญญาณดาวเทียม และสัญญาณวิทยุเพื่อตามวิจิตรว่าอยู่ไหน โดยนายธวัชชัย เพชระบูรณิน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้รายงานการติดตามหาวิจิตรว่าอยู่ที่ไหนเป็นระยะ พร้อมเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชอย่างต่อเนื่องดังกล่าว

...

ล่าสุดนายธวัชชัย ได้เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า จากการติดตามสัญญาณดาวเทียมพบว่า ตั้งแต่เย็นวันที่ 28 พฤศจิกายนที่พบสัญญาณออกจากเขตแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ และเมื่อคืนเสือโคร่งวิจิตรเดินตลอดช่วงกลางคืน จนตี 5 ข้ามถนนและจุดสุดท้ายพบสัญญาณที่บ้านเขาน้ำอุ่น น่าจะกลับเข้าป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้จากการติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตามเส้นทางการตามหาวิจิตรนั้น ยังพบว่า วิจิตรพ่นสเปรย์ ซึ่งหมายถึงการฉี่พ่นไปตามทางที่เดินเป็นระยะๆ อีกด้วย

รอยเท้าเสือโคร่งวิจิตร (ขอบคุณภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
รอยเท้าเสือโคร่งวิจิตร (ขอบคุณภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

การที่เสือโคร่งวิจิตรออกมาจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นไปตามสัญชาตญาณของเสือตัวผู้ที่ต้องการออกมาหาอาณาเขตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าถิ่น จึงพบว่ามีการฉี่พ่นระหว่างทาง เพื่อแสดงอาณาเขตครอบครองตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ซึ่งเสือตัวผู้แต่ละตัวจะพยายามสร้างอาณาเขตครอบครองไว้ประมาณ 100 ตารางกิโลเมตร

การติดตามหาวิจิตรนั้นในตอนกลางวัน จะใช้สัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ถ้าวิจิตรเข้าหลบมุมอับ สัญญาณช่วงกลางวันก็จะหายจากระบบ ส่วนตอนกลางคืนโลกหมุนตรงรัศมีดาวเทียม ก็ใช้ระบบดาวเทียมติดตามได้ จึงพบสัญญาณการเดินในช่วงกลางคืนชัดเจน

นอกจากสัญญาณดาวเทียมแล้ว ยังติดตามเสือโคร่งวิจิตร ด้วยระบบรับส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ จากจีพีเอสที่ติดกับปลอกคอ (ขอบคุณภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
นอกจากสัญญาณดาวเทียมแล้ว ยังติดตามเสือโคร่งวิจิตร ด้วยระบบรับส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ จากจีพีเอสที่ติดกับปลอกคอ (ขอบคุณภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

...


ขณะที่ยังไม่เจอเสือโคร่งวิจิตร และรอการส่งสัญญาณที่ชัดเจนอีกครั้งว่ากลับเข้าป่าอนุรักษ์ไปแล้วหรือไม่ ทางการก็พยายามเตือนชาวบ้านว่า ในเวลากลางคืนยังคงต้องอยู่ในบ้าน และให้สังเกตสัตว์ในคอกว่าหายไปบ้างหรือไม่ เพราะวิจิตรออกจากป่ามาหลายวันแล้ว อาจจะหิว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านถูกเสือกินแต่อย่างใด