ทุกอย่างรุมเร้าถาโถมเข้ามา โดน "บิ๊กตู่" อย่างจัง ในฐานะผู้นำรัฐบาล ตั้งแต่โควิดระบาดยาวนาน มึนหัวตึ้บเพราะวัคซีนไม่เพียงพอ จากการบริหารผิดพลาด จนมาเจอสถานการณ์น้ำท่วม ยิ่งซ้ำเติมประชาชนผู้ทุกข์ยาก

ห้วงเวลานี้ กับระยะเวลาการทำงานเข้าสู่ปีที่ 8 แม้จะตระเวนไปตรวจพื้นที่ใด มีอันต้องเจอกับเสียงก่นด่าขับไล่แทนการต้อนรับ ด้วยความไม่พอใจของประชาชน กลายเป็นปรากฏการณ์ "ใครๆ ก็ไม่รัก" ไปเสียแล้ว

...

ภาพที่เกิดขึ้น มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อาจหลายๆ ปัญหาที่คนไทยสะสมจนเกิดความเครียดโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ไม่รวมคลื่นใต้น้ำภายในพรรคพลังประชารัฐ ยังสะสางไม่จบ แล้วในอนาคต "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนถนนสายการเมือง จะเป็นอย่างไร เมื่อจุดขายไม่ขลังและอาจไม่มีพลังอีกต่อไป

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะ "บิ๊กตู่" ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม กำลังตอกย้ำปรากฏการณ์ กองเชียร์หดหาย กองแช่งเพิ่มพูน อาจเป็นไปได้ “รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส” คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก มองว่า ไม่ใช่อยู่ๆ ชาวบ้านจะโห่ร้องขับไล่แสดงความไม่พอใจ เพราะมีที่มาที่ไปตั้งแต่พล.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม โดยไม่ได้ให้แนวทางแก้ไขปัญหา หรือสื่อสารกับประชาชนในเรื่องไร่นาไร่สวนที่ถูกน้ำท่วม และน้ำท่วมบ้านจะมีการอพยพไปอยู่ที่ใด และจะเยียวยาอย่างไร ซึ่งไม่มีแนวทางใดๆ นอกจากการโบกไม้โบกมือ และออกมาพูดว่าให้ไปสวดมนต์

“รัฐบาลไม่สามารถพึ่งได้แล้วหรือ เพราะปกติประชาชนก็สวดมนต์ไหว้พระ เป็นที่พึ่งทางใจอยู่แล้ว แทนที่ผู้นำจะต้องแก้ปัญหา เยียวยาผลกระทบ โดยชาวบ้านพยายามเงี่ยหูฟังนายกฯ ว่า จะเยียวยาพวกเขาอย่างไร และการป้องกันในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่กลับไม่ได้ยินสิ่งเหล่านี้เลย ทำให้จะไม่ทนอีกต่อไป ถ้านายกฯ มาแล้วได้แค่นี้ มาโบกไม้โบกมือ ไม่ได้แก้ปัญหาให้พวกเขา ก็คิดว่าอย่ามาเลย”

ลงพื้นที่หาเสียง เท้าไม่เปียกน้ำ พูดซ้ำเติมชาวบ้าน

รวมถึงเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ พูดอะไรแบบนี้กับชาวบ้าน ทำให้รู้สึกเก็บกด จนในที่สุดได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา ตั้งแต่โควิดระบาด และพอมาเจอน้ำท่วมเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งปัญหาน้ำท่วมก็เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่เหมือนหาเสียงลอยๆ โดยเท้าไม่เปียกน้ำด้วยซ้ำ ไม่ได้ลงไปเผชิญกับปัญหา

...

ขณะที่ชาวบ้านจมอยู่กับน้ำ ยังไปตำหนิพวกเขาอีกว่าต้องสร้างบ้านสองชั้น แนะนำให้ไปอยู่ที่สูง เพราะแม้แต่ภูทับเบิกยังน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา หากเป็นเช่นนั้นชาวบ้านคงย้ายตามนายกรัฐมนตรีไปอยู่ดาวอังคาร ถือเป็นการพูดโดยไม่รู้สถานการณ์จริงๆ


"กับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูดว่า ให้ชาวบ้านไปอยู่ที่สูง ถามว่าให้ไปอยู่ตรงส่วนไหน ทุกวันนี้มีบ้านชั้นเดียวก็บุญแล้ว เหมือนไปซ้ำเติมชาวบ้าน เพราะทั้งบ้านและไร่นา จมน้ำไปแล้ว แต่ไม่ได้พูดในสิ่งที่สร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้าน ไม่ได้เอาใจเขาไปใส่ใจเรา"

ทั้งที่สิ่งควรทำต้องแสดงความเห็นใจ และช่วยเหลือเยียวยาว่าจะทำอย่างไรกับพืชผลการเกษตรที่จมน้ำอยู่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาล จะช่วยให้ชาวบ้านผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ไม่ใช่ทำให้ชาวบ้านเสียขวัญไปกันใหญ่

...

"บิ๊กตู่" สอบตกการสื่อสาร ถนัดเรื่องไม่ควรทำ

ในเรื่องการสื่อสารของนายกรัฐมนตรี มีปัญหามาตลอดเหมือนไม่เคยศึกษาว่าสถานการณ์ที่ประชาชนเผชิญอยู่เป็นอย่างไร และควรจะสื่อสารอย่างไร ยกตัวอย่างเหตุกราดยิงที่โคราช ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ของคน แทนที่จะสร้างขวัญกำลังใจ เพราะว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญมาก แต่กลับลงพื้นที่ไปให้ "มินิฮาร์ท" ไม่ได้ทำให้ผู้คนหายวิตกตกใจ

เช่นเดียวกับสถานการณ์น้ำท่วม ไม่ได้ช่วยให้ชาวบ้านก้าวพ้นวิกฤติ จึงทำให้รู้สึกว่าไม่อยากต้อนรับ จนเกิดปฏิกิริยาของคนในสังคมเพิ่มมากขึ้น เมื่อนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ และหากถามว่าจะอยู่ในตำแหน่งนานหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ายังอยู่อีกนานตามกลไกทางกฎหมายที่วางเอาไว้ แต่ไม่ใช่จากคะแนนนิยม

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ลงไปพื้นที่อื่นก็จะเจอชาวบ้านมีความรู้สึกเช่นนี้ต่อไป ต้องดูว่าในการลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ จะเป็นอย่างไร คอยดูว่าจะมีกองเชียร์ หรือกองแช่ง และคิดว่ากองแช่งน่าจะมากกว่า เพราะผลงานรัฐบาลไม่ดีขึ้น ทำให้คนรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น.

...