การหลอกลวงฉ้อโกงเงินหลายรูปแบบ หากินบนความศรัทธา เกิดขึ้นต่อเนื่องในสังคมไทย อาจเพราะขาดปัญญาลุ่มหลงในบุญ จึงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้ง่ายดาย
- บทเรียนในอดีตเกิดขึ้นซ้ำๆ กลับไม่ได้ย้ำเตือนให้คนระมัดระวัง และครั้งนี้เกิดเหลือบตัวละครใหม่ ทำวงการศาสนาเปรอะเปื้อนอีก จากแผนการของแก๊งแม่ชีอู๋ “อรหันต์เก๊ลวงโลก” ได้ออกอาละวาด มีผู้เสียหายกว่า 500 ราย มูลค่าความเสียหาย 25 ล้านบาท
- เหตุการณ์เกิดขึ้น 2-3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อ น.ส.อิสรีย์ อินทร์ไชยา อายุ 49 ปี หรือแม่ชีอู๋ ตั้งตนเป็นภิกษุณี ฉายา “พระยาธรรมิกราช” ร่วมกับ 4 สาวกสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนาพระพุทธสิกขี ใน อ.เมืองนครพนม หลอกลวงประชาชนว่าเป็นพระอรหันต์ มีกายทิพย์ สื่อสารกับเทวดาได้ อาศัยช่วงโควิดระบาดอ้างว่าเทวดาจะลงมาช่วยเหลือ ด้วยการระดมทุนกองผ้าป่า มีผลตอบแทนจากเทวดาเป็นเงินสดและทอง จนมีคนหลงเชื่อ
- เริ่มแรกยังไม่มีใครเชื่อมากนัก แต่บางคนได้ลองลงทุนคนละ 1-2 กอง ไม่ถึง 10 วันได้เงินเพิ่มสองเท่า หรือได้ทองรูปพรรณ 1 สลึง จึงชักชวนเพื่อนฝูงและญาติๆ มาซื้อกองผ้าป่าคนละหลายๆ กอง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอปลาปากและอำเภอท่าอุเทน สุดท้ายตกเป็นเหยื่อสูญเงิน พากันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับแก๊งแม่ชีลวงโลก รวม 5 คน
- วีรกรรมบาปหนาของแม่ชีอู๋ ขณะเป็นคนธรรมดา ยังใช้วิธีกล่อมผู้เป็นแม่ให้เซ็น ตั้งเป็นผู้จัดการมรดก และแอบนำโฉนดบ้านพร้อมที่ดินไปขายฝากในราคา 5 ล้านบาท โดยคนในครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อน จนถูกนายทุนขับไล่ ฟ้องร้องกันในชั้นศาลจนถึงปัจจุบัน หากโชคร้ายแพ้คดี อาจทำให้คนในครอบครัวไม่มีที่ซุกหัวนอนอีกต่อไป
...
เหตุใดการหลอกลวงในลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นอีก ไม่จบไม่สิ้น ทางด้าน “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง ระบุชัดการกระทำของแก๊งแม่ชี เป็นพวกมิจฉาชีพ แต่ต้องยอมรับว่าคนไทยในขณะนี้หมดหวัง ไม่มีทางเลือกอื่นอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่แปลกใจกับข่าวชาวบ้านพบกบสีทอง มีการนำแป้งมาโรยตัวกบ หาเลขเด็ดนำมาเสี่ยงโชค เพื่อหวังโชคลาภ และยิ่งเกิดการระบาดของโควิด คนท้อแท้หมดหนทาง ทำให้ตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ
“กรณีแก๊งแม่ชีลวงโลก หากพูดอย่างตรงๆ อาศัยความเชื่อความศรัทธาในการหลอกลวงคน นำไปสู่การตั้งคำถามว่า ทำไมเคสลักษณะนี้มีอยู่เรื่อยๆ โดยอาศัยความเชื่อ และต้องโทษวิธีคิดของคนไทยชอบทำบุญ แล้วหวังโชค หวังกำไรที่ได้จากการทำบุญ ทำให้แก๊งแม่ชี ใช้ความเชื่อ อ้างอิทธิฤทธิ์เป็นพระอรหันต์ สามารถสื่อสารกับเทวดา เป็นวิธีที่ใช้ได้ในการตั้งตัวเป็นพระยาธรรมิกราช เป็นพวกตนบุญ อ้างว่าเทวดาจะมาในช่วงผู้คนยากลำบาก มากำจัดทุกข์ให้กับมนุษย์”
นอกจากนี้แก๊งแม่ชียังสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการห่มผ้าแดง มีการปฏิบัติธรรม และขายความฝันให้คนมาทำบุญในฐานะเป็นตัวแทนของตนบุญ จะทำให้คนได้รับโชคลาภ จนมีคนหลงเชื่อ ซึ่งหากคนไม่โลภก็คงไม่สามารถหลอกได้ หากมีความโลภหวังทำบุญแล้วได้กำไร เป็นวิธีคิดที่ผิด แต่ควรทำบุญให้กับคนตกทุกข์ได้ยาก
สิ่งที่เกิดขึ้นหากเป็นคนปกติน่าจะฉุกคิดได้ เพราะไม่ใช่ทำบุญแล้วอยู่ดีๆ ได้เงินได้ทอง หากมองศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ จะไม่ถูกหลอก หากมองเป็นเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ก็จะถูกหลอกง่าย เพราะเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ
...
“ยิ่งขณะนี้มีสถานที่ต่างๆ อ้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมจำนวนมาก เกิดลัทธิแปลกๆชักชวนคนมาทำอะไรแปลกๆ ให้ระวังให้ดี อย่าไปเชื่อ หากใครอยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ อยากเป็นนางฟ้า เทวดา ก็จะถูกพยากรณ์ทำนายโดยเจ้าสำนัก กลายเป็นอุปทานหมู่ในที่สุด ส่วนใหญ่คนต่างถิ่นจะถูกหลอกมากกว่า เพราะคนในพื้นที่ไม่เชื่อถืออยู่แล้ว จึงขอให้ระวังในยุคที่คนไทยหมดความหวัง ไม่มีทางเลือกอื่น”.