หลายคนสงสัยว่า อาการผลข้างเคียง และแพ้วัคซีนโควิด-19 นั้นมีระดับความรุนแรงแค่ไหน และต้องระวังอย่างไร เพราะแม้จะกลัวติดโควิด-19 แต่ก็กังวลการฉีดวัคซีนโควิด-19 พอๆ กับความกลัวท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังวิกฤติ

วิกฤติที่ว่าคือขณะนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยรวมเกือบสี่หมื่นรายแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยการระบาดระลอกล่าสุดมียอดผู้ป่วยติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลักพันต่อวันแล้ว และที่สำคัญการหาโรงพยาบาลรักษาก็ยากเต็มที เพราะเตียงเต็ม

ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นความหวังช่วยลดจำนวนผู้ป่วย และชะลอการแพร่เชื้อก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีทางเลือกน้อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุในไทยที่ขณะนี้มีทางเลือกเพียงวัคซีนแอสตราเซเนกาเท่านั้น

จากการสำรวจตัวเลขจำนวนผู้ฉีดวัคซีน ที่กรมควบคุมโรคสรุปประจำวันนั้น พบว่าตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 15 เมษายน 2564 มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 586,032 โดส ฉีดเข็มแรกแล้ว 510,456 ราย ที่ฉีดครบสองเข็มแล้ว 75,576 ราย มีไม่ถึง 1% ท่ามกลางความสับสนเรื่องข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนชนิดต่างๆ รวมทั้งอาการผลข้างเคียง และอาการแพ้ต่างๆ 

ขณะเดียวกันรายงานของกรมควบคุมโรคได้ระบุถึงอาการผลข้างเคียงกับอาการแพ้วัคซีนโควิด-19 ออกจากกัน และพบว่า ในจำนวนผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วนั้นมีอาการแพ้ หรืออาการไม่พึงประสงค์ ที่ได้รับการยืนยันจากคณะผู้เชี่ยวชาญ 7 ราย ส่วนใหญ่มีอาการระบบผิวหนัง และเยื่อบุ เช่น ผื่นแดง ปากบวม หน้าบวม และระบบทางเดินอาหาร และได้หยุด คือไม่ฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว

กราฟิก : Pradit Phulsarakij
กราฟิก : Pradit Phulsarakij

...


แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค
อธิบายเพิ่มเติมว่าอาการแพ้วัคซีนโควิด-19 นั้นจะรุนแรงแค่ไหน หรือจะฉีดต่อหรือไม่ ต้องมีคณะผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัย หากรุนแรงต้องหยุดฉีดชนิดเดิมก่อน จากนั้นต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะฉีดวัคซีนชนิดใหม่ต่อได้เมื่อไร และจำนวนโดสขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนนั้นๆ หากต้องฉีด 2 โดส สามารถนับต่อจากการฉีดวัคซีนเข็มแรกก่อนหน้านั้นได้

ส่วนอาการแพ้รุนแรงนั้น ย้ำว่าโดยส่วนใหญ่จะพบภายในครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงหลังได้รับวัคซีน เช่น ผื่นขึ้น ซึ่งอาการนี้จะต่างจากอาการผื่นขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดที่ผื่นค่อยๆ ขึ้นในช่วงแสดงอาการป่วย แต่การแพ้วัคซีนผื่นจะขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นต้น