อีกคดีสะเทือนขวัญเต็มไปด้วยคำด่า...เสียงสาปแช่ง เรียกร้องต้องประหาร “ไอ้บังหมัด กงหรา” เหี้ยมโหดเกินมนุษย์ อ้างเหล้าเข้าปากมีอารมณ์ ลงมือข่มขืนชิงทรัพย์ “น้องนิหน่า” เด็กสาวคราวลูก แล้วฆ่าอำพรางให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ จนมีคนมาพบศพเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.พ.

  • จากภาพในที่เกิดเหตุ ขณะชาวบ้านไปพบรถจักรยานยนต์ทับร่างไร้วิญญาณของ “น้องนิหน่า” อายุ 15 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.3 อยู่ในร่องน้ำกลางถนนสายเอเชีย พื้นที่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ต่างคิดว่าเกิดจากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน แต่ผู้เป็นพ่อคลางแคลงสงสัย ทำไมบริเวณคอลูกสาวมีรอยช้ำ

  • สุดท้ายกลายเป็นคดีข่มขืนและฆ่าชิงทรัพย์ ตำรวจปิดคดีได้ภายใน 26 ชั่วโมง จากกล้องวงจรปิดมัดตัวคนร้าย นำไปสู่การจับกุม นายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี หรือ “บังหมัด กงหรา” ชาวบ้าน ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง เคยต้องโทษคดีพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อการอนาจาร เมื่อปี 2545 ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี โทษให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับเงิน 5,000 บาท



  • ผ่านไปเกือบ 19 ปี “บังหมัด” ไม่น่าสำนึกผิดกับสิ่งที่เคยทำ เมื่อมาเติมน้ำมันในปั๊มเดียวกันกับ “น้องนิหน่า” ในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ของวันที่ 27 ก.พ. ได้เผยความชั่วร้ายออกมา หลังเติมน้ำมันเสร็จก่อน แล้วขับรถเก๋ง สีเทา ไปจอดรอ ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนขับรถเก๋งพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของน้องนิหน่า กระเด็นตกคูน้ำกลางถนน

  • ทันใดนั้น “บังหมัด” ในคราบปิศาจร้าย อ้างเพราะฤทธิ์ความเมา ได้ลงจากรถเก๋งไปชกหน้าท้องน้องนิหน่า 3 ครั้ง ก่อนลงมือข่มขืน และกระชากกระเป๋าสะพายมีเงินสด 1,300 บาท ติดมือไปด้วย ก่อนใช้เหล็กขันเปลี่ยนล้อรถ ฟาดไปยังใบหน้าอย่างโหดเหี้ยม จนน้องนิหน่าเสียชีวิต และนำรถจักรยานยนต์มาทับศพ เพื่ออำพราง กระทั่งมีชาวบ้านมาพบศพในช่วงเช้าตรู่



  • การแกะรอยจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบความผิดปกติ ขณะบังหมัดขับเก๋งออกจากปั๊มน้ำมันไปก่อน มีการขับช้าผิดปกติไปยังอีกจุดที่มีกล้องวงจรปิด ใกล้กับจุดเกิดเหตุก่อนถึงทางเข้านิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ทั้งๆ ที่ควรใช้เวลาประมาณ 2 นาที แต่กลับใช้เวลามากถึง 20 นาที และไม่เห็นรถจักรยานยนต์ของน้องนิหน่า ปรากฏในกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด

  • นำไปสู่การจับกุมคาบ้านพัก มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนในภาพจากกล้องวงจรปิด และผลการตรวจดีเอ็นเอ จากซอกเล็บของศพน้องนิหน่า ตรงกับ “บังหมัด” แบบดิ้นไม่หลุด อีกทั้งรองเท้าแตะสีน้ำเงินยี่ห้อหนึ่งในที่เกิดเหตุ เห็นได้ชัดขณะสวมใส่ลงมาจากรถเก๋ง จากภาพกล้องวงจรปิดภายในปั๊ม

  • สงสารหัวอกคนเป็นพ่อ พยายามโทรหาติดต่อ "น้องนิหน่า" ผู้เป็นลูกสาว ตั้งแต่ตี 3 อย่างกระวนกระวายใจ ไม่สามารถติดต่อได้ จนมารู้ข่าวเศร้า ยากจะทำใจได้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ. และต้องการให้ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต เพราะเคยก่อเหตุมาแล้ว แต่ไม่สำนึกผิด ยังมาก่อเหตุซ้ำสอง ถือว่าจิตใจโหดร้ายมาก

...

“รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้น้องๆ ผู้หญิง ต้องระมัดระวังมากขึ้นไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หากจะออกจากบ้านในยามวิกาล ไม่รู้ว่าจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายเมื่อใด หากจะออกจากบ้านก็ต้องจำเป็นจริงๆ เพราะปัจจุบันมีคนกระทำความผิดมากขึ้น และเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมกันมากขึ้น จึงต้องมีความระมัดระวัง

ส่วนหน้าที่ตำรวจนอกจากจับกุมคนร้ายแล้ว ควรมีมาตรการติดตามข้อมูลคนร้ายที่เพิ่งออกจากคุกว่าไปอาศัยอยู่พื้นที่ใด และยังทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ทำให้โอกาสในการกระทำผิดลดลง เพราะตำรวจรู้ว่าอาศัยอยู่พื้นที่ใด จึงไม่กล้าจะกระทำผิด

“แม้เหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นเด็กผู้หญิง หรือเด็กเล็ก เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ จะไม่ตกเป็นเหยื่อ ยังมีคนพิการ คนชรา ก็ตกเป็นเหยื่อได้เหมือนกัน และครอบครัวใดมีลูกสาว ต้องให้ความสนใจ เพราะมักตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ”

นอกจากนี้ ควรมีสายตรวจภายในชุมชน เพื่อป้องกันเหตุและทำหน้าที่ตักเตือนไม่ให้คนกระทำผิด โดยอาจใช้งบประมาณท้องถิ่นมาอุดหนุน ในการทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของอาสาสมัคร เหมือนในต่างประเทศ เพราะตำรวจมีข้อจำกัดเรื่องงบและหลายๆ อย่าง เช่น ต้องไปดูแลม็อบในกรุงเทพฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ ซึ่งการอาศัยเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีประชาชนมาช่วยดูแลคงไม่ได้

...

“สิ่งสำคัญที่สุดครอบครัวต้องให้ความสนใจ สั่งสอนไม่ให้ลูกหลานออกจากบ้านยามวิกาล อย่าคิดว่าไปแค่นี้ ไม่มีอะไร เพราะไม่รู้จะตกเป็นเหยื่อเมื่อใด ต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่แต่งกายล่อแหลม อย่าได้เปิดโอกาสให้กับคนร้ายด้วยการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หรือหากจำเป็นจริงๆ ควรนั่งรถยนต์ออกไปกับผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ ไม่ให้ตกเป็นเป้าของคนร้าย”.