เกิดขึ้นมาแล้วหลายราย กรณีข้าราชการอนาคตกำลังไปได้ไกล ต้องถูกลงโทษ หรือหนักสุดโดนให้ออกจากราชการเพราะมีชู้ และล่าสุดเกิดเหตุอลหม่านชุลมุนขึ้น เมื่อหญิงสาวหอบหิ้วใบทะเบียนสมรส บุกเข้ามากลางงานแต่งแบบไม่ได้รับเชิญ ตะโกนลั่นต่อหน้าเจ้าสาวว่าเจ้าบ่าวที่สวมเครื่องแบบตำรวจคนนี้ ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า

แน่นอนระเบียบข้าราชการตำรวจ มีบทลงโทษทางวินัยอยู่แล้ว หากการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ากระทำผิดไปเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นหรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว หรือไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร รวมถึงจดทะเบียนสมรสซ้อน จะถูกลงโทษกักขัง 30 วัน

ในทางกฎหมายไม่สามารถ "จดทะเบียนสมรสซ้อน" ได้ ดังนั้นการจดทะเบียนซ้อนจึงเสมือนว่าไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส จะตกเป็นโมฆะไม่มีผลผูกพันเป็นสามี-ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา หรือที่เรียกว่ามีชู้ ทางฝ่ายภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถดำเนินการฟ้องหย่า และเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิงที่มาเป็นชู้ได้

จากปัญหาการมี "กิ๊ก" หรือมี"ชู้" ฝ่ายชายไม่ซื่อสัตย์แอบไปแต่งงานใหม่ จนเกิดการจด "ทะเบียนสมรสซ้อน" ในสังคมไทยมีอยู่มากมาย “จะเด็จ เชาวน์วิไล” ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวกับ "ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ว่า เกิดจากวิธีคิดและค่านิยมในสังคมไทยตั้งแต่อดีตที่มองว่าชายเป็นใหญ่ มีการปลูกฝังให้ชายมีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิง โดยหลายครอบครัวก็ยอมรับในเรื่องนี้ และมีบางครอบครัวที่ผู้ชายมีเมียหลายคน ซึ่งกรณี "ตำรวจจดทะเบียนสมรสซ้อน" หรือไปมีหญิงอื่น ไม่ใช่เฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อยกระทำ ยังมีข้าราชการระดับสูงอีกเป็นจำนวนมากในสังคมไทย

...

สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะการปลูกฝังกันมานานมีค่านิยมในหมู่ผู้ชายที่ใครจีบผู้หญิงได้เป็นจำนวนมาก ก็ยกย่องว่าสุดยอดเหมือนขุนแผน จากการสอนในโรงเรียนเรื่องวรรณคดีขุนช้างขุนแผน เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาก็ไม่โทษผู้ชายแต่กลับโทษนางวันทองว่าหลายผัว หรือเรื่องพระอภัยมณีก็มีเมียหลายคน รวมถึงในละครหลายเรื่อง ทำให้การมีเมียหลายคน เกิดขึ้นในสังคมมาโดยตลอด

กรณีล่าสุดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะสังคมเริ่มรับไม่ได้มากขึ้น จนแม่ของฝ่ายชายต้องเข้าไปจัดการกับลูกชาย รวมถึงพ่อด้วยที่บอกว่าลูกทำไม่ถูก ซึ่งต้องขอชื่นชม เพราะการมีเมีย 2 คนได้สร้างผลกระทบให้กับครอบครัว และที่ผ่านมามีหลายเคสที่มาปรึกษา กรณีผู้ชายมีเมียหลายคน เมื่อเบื่อเมียเก่าก็อยากเลิกจึงทุบตีทำร้าย เพื่อให้เกิดการฟ้องร้องจะได้เลิกรากัน

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงหลายคนทนไม่ได้ที่สามีไปมีเมียใหม่ จึงฆ่าสามี นำไปสู่ความรุนแรงในครอบครัว เพราะผู้ชายไม่รับผิดชอบ หรืออย่างเคสล่าสุดนี้ได้ทำให้ลูกรู้สึกแย่ กระทบต่อคนในครอบครัว และไม่ควรโทษผู้หญิงที่เป็นเมียน้อย

“หลายเคสที่ผู้หญิงไม่รู้ว่าผู้ชายมีเมียอยู่แล้ว มีการหลอกพูดอย่างงั้นอย่างงี้บอกว่ากำลังจะหย่าบ้าง เลิกกับเมียแล้วเพราะเมียที่อยู่ด้วยกันไม่ดีบ้าง จนผู้หญิงเชื่อคิดว่าจริง ทำให้เกิดการจดทะเบียนซ้อน แต่ระบบของกระทรวงมหาดไทย ก็สามารถตรวจสอบได้ หากมีการทำงานที่เข้มแข็ง ก็จะทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนซ้อนได้”

อีกอย่างมองว่าหลักสูตรการศึกษา ควรมีความก้าวหน้ากว่านี้ ไม่ให้มีการกดทับผู้หญิง และเนื้อหาในละคร ไม่ควรเข้าข้างผู้ชายว่าทำแบบนี้แล้วถูกต้อง หรือกรณีที่ผู้ชายบอกว่าจะดูแลส่งเสียผู้หญิงตลอดไปและให้ลาออกจากงานนั้น ไม่น่าจะใช่ สุดท้ายแล้วอยากให้ผู้หญิงทำงาน เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว หากผู้ชายไปมีคนใหม่ โดยมีหลายเคสที่ผู้หญิงไม่สามารถเลิกกับสามีได้ทั้งๆ ที่อยากจะเลิก เพราะไม่มีงาน และต้องดูแลลูก

เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อผู้หญิงแต่งงาน อย่าออกจากงานควรพึ่งพิงตัวเองให้ได้ตั้งแต่แรก หากมีปัญหาจะได้มีทางเลือกทางเดินของตัวเอง หากผู้ชายเปลี่ยนไปไม่รักเราแล้ว อยากให้ลุกขึ้นมา อย่าเชื่อผู้ชายว่าจะเลี้ยงดูไปตลอด เพราะค่านิยมชายเป็นใหญ่ ทำให้ไม่แคร์กับการกระทำของตัวเอง และกรณีตำรวจจดทะเบียนซ้อนหากไม่เป็นข่าว คาดว่าองค์กรคงจะช่วยกันปกป้องอย่างหลายเคสที่เคยเกิดขึ้นในหลายหน่วยงาน แต่เมื่อเป็นข่าวออกมา จึงอยากให้จริงจังในการเอาผิดไม่เข้าข้างผู้ชาย

จากหลายเคสที่ผู้ชายมีผู้หญิงหลายคน เพราะทำงานข้าราชการต้องย้ายไปหลายที่ ทำให้มีเมียไปทั่ว เพราะฉะนั้นต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ และผู้หญิงก็เชื่อในเรื่องที่ผู้ชายหลอกลวง จึงขอให้เป็นบทเรียนอย่าเชื่อใครง่ายๆ.

...