ส่องคนเพื่อไทยรุ่นใหม่ ยุคเปลี่ยนผ่านจากตระกูลชินวัตร หลัง "แพทองธาร" ลาออกหัวหน้าพรรค ประกาศหัวเรือคนใหม่จะไม่ได้มาจากตระกูลนี้
ฃเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษแล้วที่ภาพลักษณ์ของพรรคสีแดง ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน มาสู่พรรคเพื่อไทย ผูกโยงอย่างแนบแน่นกับตระกูล “ชินวัตร” แต่ล่าสุดหลังการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคอย่าง น.ส.แพทองธาร แกนนำก็ประกาศว่า หัวเรือคนใหม่จะไม่ได้มาจากตระกูลนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และให้คนรุ่นใหม่ในพรรคมาเดินนำเข้าสู่สนามเลือกตั้ง‘69 เพื่อคว้าชัยชนะและกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง
คนเพื่อไทยรุ่นใหม่ที่น่าจับตา
ในการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) หนล่าสุด เริ่มมีการถ่ายเทอำนาจและความรับผิดชอบสู่มือของนักการเมืองรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นหัวหน้าพรรคต่อจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แม้ยังคงเป็นตระกูลเจ้าของพรรคอยู่ แต่ก็ยังชูความเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 40 ปีมาเป็นผู้นำ ก่อนจะยุติบทบาทหลังผ่านไปเพียง 2 ปี
...
ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง ลูกชายของ นายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ก็ก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรค เชื่อมคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ภายในพรรค พร้อมรองเลขาธิการพรรคเจนใหม่อีก อย่าง ดร.หญิง ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ได้พิสูจน์ฝีมือในฐานะ “กระบอกเสียง” ของพรรคที่สามารถสื่อสารกับสาธารณะและตอบโต้ประเด็นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และ นายศรันย์ ทิมสุวรรณ อีกหนึ่ง สส. รุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับและก้าวขึ้นมามีบทบาทในคณะทำงานของพรรค
สำหรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ได้มีการกระจายบทบาทให้กับบุคคลที่มีความถนัดและภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล มีความโดดเด่นในด้านเศรษฐกิจ สามารถสื่อสารนโยบายที่ซับซ้อนให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนนโยบายเรือธงของรัฐบาล
น.ส.จิราพร สินธุไพร เป็นภาพแทนของนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ที่มีฐานเสียงที่เข้มแข็งในพื้นที่ และมีบทบาทสำคัญในการอภิปรายในสภาฯ ขณะที่ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ คือตัวแทนของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ผันตัวเข้าสู่การเมือง นำเสนอมุมมองการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้กับพรรค
เช่นเดียวกับกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่หลายคน อาทิ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.หนึ่งเดียวของพรรค เจ้าของพื้นที่ลาดกระบัง และอดีต รมช.มหาดไทย, นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารรุ่นใหม่ รวมถึง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรี และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรค ที่มีบทบาทในหน้าสื่อไม่น้อย
พวกเขาเหล่านี้คือภาพอนาคตของพรรคเพื่อไทย คือบทพิสูจน์ว่าพรรคกำลังก้าวข้ามเงาของ “ชินวัตร” เพื่อสร้างตัวตนขึ้นใหม่ในฐานะสถาบันทางการเมืองของประชาชน ก่อนจะมีการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 31 ตุลาคมนี้