วันนี้ (7 ส.ค.2568) สถานการณ์การเมืองดุเดือดในหลายพื้นที่ ทั้งในรัฐสภาฯ ที่มีการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และปมที่ดินเขากระโดง ที่ชาวบ้านได้ออกมาคัดค้านการเพิกถอนโฉนดที่ดินพิพาท ซึ่งหากย้อนไปในอดีต พบว่าวันที่ 7 สิงหาคม เคยเกิดหลายเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบใหญ่ต่อการเมืองของไทย
7 สิงหาคม 2508 วันเสียงปืนแตก
วันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ปะทะด้วยอาวุธปืนกับตำรวจอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก ที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังจากทำงานเคลื่อนไหวจัดตั้งชาวนาอยู่ในชนบทโดยการหลีกเลี่ยงการปะทะกับทหารของรัฐบาลมาเป็นเวลานานหลายปี นับเป็นจุดเริ่มต้นของการจับอาวุธต่อสู้ของ พคท.อย่างเป็นทางการ ก่อนที่ความขัดแย้งจะยืดเยื้อยาวนานกว่า 20 ปี
7 สิงหาคม 2559 วันลงประชามติรัฐธรรมนูญ
วันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และคำถามพ่วง โดยมีผู้มาใช้สิทธิ 29.7 ล้านคน หรือคิดเป็น 59.4% ของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด โดยเสียงส่วนใหญ่ 61.35 % เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และเสียงส่วนใหญ่ 58.07% เห็นชอบคำถามพ่วงว่า
...
“ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”
ทำให้ สว.ร่วมเลือกนายกฯ ในการเลือกตั้งปี 2562 และ 2566 ก่อนบทเฉพาะกาลนี้ได้หมดลงในเดือน พ.ค.2567 ที่ผ่านมา
7 สิงหาคม 2566 เพื่อไทย-ภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาล
พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน 212 เสียง (เพื่อไทย 141 เสียง ภูมิใจไทย 71 เสียง) เสนอนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ หลังก่อนหน้านี้ เพื่อไทย ได้ถอนตัวฉีก MOU 8 พรรคร่วม ที่มีพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียง สว.ได้
ในแถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 พรรคระบุ 5 แนวทางจัดตั้งรัฐบาลไว้ว่า
1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ
2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.
3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง
4.จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
5.การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
7 สิงหาคม 2567 ยุบพรรคก้าวไกล
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมีมติเอกฉันท์ 9:0 สั่งยุบพรรคก้าวไกลและเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคทั้ง 2 ชุด คือชุดที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค และชุดที่ชัยธวัช ตุลาธนเป็นหัวหน้าพรรค (วันที่ 25 มี.ค.2564 - 31 ม.ค. 2567) เป็นระยะเวลา 10 ปี จากกรณีเสนอนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า มีความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ล้มล้างการปกครอง โดยคำวินิจฉัยตอนหนึ่งระบุว่า
...
“พฤติการณ์ของผู้ร้องที่เสนอแก้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ประโยชน์จากสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อหวังผลคะแนนเสียงและชนะการเลือกตั้ง เป็นการมุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน
ผู้ถูกร้องมีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือทำให้อ่อนแอลง อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด การกระทำของผู้ถูกร้องจึงเข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกด้วย”
7 สิงหาคม 2568 เพื่อไทย vs ภูมิใจไทย
- ปมที่ดินเขากระโดง
ในช่วงที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย เดินหน้าสั่งการให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินกว่า 5,000 ไร่ บริเวณเขากระโดง ต.อิสาณ และ ต.สะเม็ด อ.เมือง บุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 50 ปี มีผู้เข้าไปใช้ประโยชน์ทั้งปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัย สนามฟุตบอล สนามแข่งรถ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดนั้น
...
วันนี้ (7 ส.ค.68) ที่ จ.บุรีรัมย์ นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีเขากระโดง ยืนยันประชาชนมีสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และพร้อมฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหากมีการเพิกถอนโฉนดจริง ขณะที่ชาวบ้านเขากระโดงกลุ่มหนึ่ง รวมตัวถือโฉนดที่ดิประท้วง ชี้ได้มาถูกต้องตามกฎหมาย อาศัยอยู่มาก่อน รฟท. ยันพร้อมสู้ “ไม่หนี ไม่ย้าย ไม่ออก”
- โหวตรองประธานสภาคนที่ 1
วันนี้ (7 ส.ค.68) ในรัฐสภาก็ดุเดือดไม่แพ้กัน เมื่อ สส.เพื่อไทย เสนอเลื่อนระเบียบวาระเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 มาพิจารณา หลังตำแหน่งว่างเว้นลงจากกรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ถูกเพิกถอนสถานะ สส.จากคดีผันงบฯ แต่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เสนอให้พิจารณาญัตติด่วนความเดือดร้อนของประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา
ก่อนจะมีการเสนอนับองค์ประชุมวุ่น โดยเพื่อไทยเสนอนับแบบขานชื่อ ขณะที่ภูมิใจไทยเสนอแบบเสียบบัตร แต่นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่ 2 วินิจฉัยให้นับด้วยการขานชื่อ ทำให้ สส.ภูมิใจไทย ทยอยวอล์กเอาท์
จากนั้นที่ประชุมสภาฯ เริ่มนับองค์ประชุมใช่เวลาร่วมชั่วโมง พบมีองค์ประชุม 248 คน เกินองค์ประชุม 246 เสียง มาแค่ 2 เสียงเท่านั้น จากนั้นเข้าสู่วาระการพิจารณาเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส. สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายไชยา พรหมา ส.ส. หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยไม่มีผู้เสนอแข่ง ทำให้นายไชยาได้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1
ที่มา : สถาบันพระปกเกล้า, iLaw, พรรคเพื่อไทย
...