ริ่มแล้ววานนี้ (1 ก.ค. 68) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดให้ประชาชนจองใช้สิทธิ์โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่รัฐจะช่วยอุดหนุนค่าที่พักและ e-Coupon สำหรับใช้จ่าย ซึ่งโครงการนี้อาจทำให้ใครหลายๆ คนนึกถึงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ในสมัยรัฐบาลก่อน ทั้ง 2 โครงการมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ไทยรัฐออนไลน์ รวบรวมมาให้อ่านกัน

วัตถุประสงค์

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เริ่มต้นขึ้นเมื่อกลางปี 2563 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยเหลือธุรกิจการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในขณะนั้นยังมีนโยบายปิดประเทศ ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นศูนย์ ก่อนดำเนินการต่อเนื่องมาอีกหลายเฟส จนสิ้นสุดเฟสที่ 5 ในเดือนเมษายน 2566

ขณะที่โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศระลอกใหญ่ กระจายรายได้สู่เมืองท่องเที่ยวรองและในช่วงโลว์ซีซัน 

ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีลักษณะที่รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการท่องเที่ยว และให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิออกค่าใช้จ่ายเองในส่วนที่เหลือ

...

งบประมาณ - จำนวนสิทธิ

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีการตั้งงบประมาณไว้แตกต่างกันไปในแต่ละเฟส โดยข้อมูลจากนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวฯ คนปัจจุบัน กล่าวว่า จากทั้งหมด 5 เฟส มีการใช้งบประมาณทั้งสิ้น 24,016 ล้านบาท รวมจำนวนห้องพัก 12.06 ล้านสิทธิ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ (ทางตรง) รวม 58,621.3 ล้านบาท

ขณะที่โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เบื้องต้นตั้งงบประมาณที่วงเงิน 1,750 ล้านบาท จำนวน 5 แสนสิทธิ ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 35,033 ล้านบาท

นายสรวงศ์ เผยว่า จะมีการนำเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาเพิ่มสิทธิ หากนักท่องเที่ยวสนใจเกิน 500,000 สิทธิแรกที่ตั้งไว้ รัฐบาลยังมีงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการ เช่น งบกลางที่ยังสามารถนำมาจัดสรรได้ แต่ยังไม่มีการกำหนดจำนวนสิทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่ชัด แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ต้องการเพิ่มจำนวนให้กลับไปเท่ากับตัวเลขเบื้องต้นที่เคยตั้งไว้ของโครงการที่ 1 ล้านสิทธิ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นไปได้เช่นกัน โดยอาจจะทยอยเพิ่มเป็นทีละล็อต

ค่าเดินทาง

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1-4 รัฐบาลสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อการเดินทางไปจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดัง คือ ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, เชียงใหม่ และเชียงราย และไม่เกิน 2,000 บาทในจังหวัดอื่นๆ โดยผู้ใช้สิทธิต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินก่อน จากนั้นเมื่อไปท่องเที่ยวแล้วจึงลงทะเบียนเพื่อรับเงินคืน โดยการจอง 1 ห้องพัก ได้สิทธิคืนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่ง

ขณะที่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ไม่มีการอุดหนุนค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว เช่นเดียวกับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ที่ไม่มีการช่วยค่าเดินทางเช่นกัน

ค่าที่พัก

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลสนับสนุนค่าที่พัก 40% ไม่เกิน 3,000 บาท/คืน จำนวนห้องที่จองได้สูงสุดต่างกันไปในแต่ละเฟส
- เฟส 1 จำกัด 5 ห้อง 5 คืน
- เฟส 2 ช่วงแรก จำกัด 5 ห้อง 5 คืน ก่อนเพิ่มเป็น 10 ห้อง 10 คืน
- เฟส 3 จำกัด 15 ห้อง 15 คืน
- เฟส 4 จำกัด 10 ห้อง 10 คืน
- เฟส 5 จำกัด 5 ห้อง 5 คืน

โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง แบ่งจังหวัดออกเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก (เมืองหลัก) 22 จังหวัด และเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) 55 จังหวัด โดยรัฐจะช่วยจ่าย 50% ในการจองที่พักเมืองหลักวันธรรมดา และเมืองรองทุกวัน และช่วยจ่าย 40% ในการจองที่พักเมืองหลักในวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ จำกัดไม่เกิน 3,000 บาท/คืน สูงสุด 5 ห้อง 5 คืน (แบ่งเป็นเมืองหลัก 3 สิทธิ เมืองรอง 2 สิทธิ)

...

e-Coupon ใช้จ่าย

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลสนับสนุนคูปองส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 600 บาท/วัน ใช้ในสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการที่เข้าร่วมโครงการ โดยรับได้เมื่อมีการเช็กอินเข้าพัก

โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รัฐบาลสนับสนุนคูปองส่วนลด 50% สูงสุดไม่เกิน 500 บาท/วัน ใช้ในสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการที่เข้าร่วมโครงการ โดยรับได้เมื่อมีการเช็กอินเข้าพัก

แอปพลิเคชัน

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และใช้สิทธิผ่านแอป “เป๋าตัง” ขณะที่โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ลงทะเบียนผ่านแอป "Amazing Thailand" แต่จะมีการยืนยันตัวตนผ่าน ThaID ก่อน และยืนยันผ่าน ThaID อีกครั้งในวันที่เข้าพัก เพื่ออุดช่องโหว่การสวมสิทธิที่พบในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

ขอบคุณ: กรมประชาสัมพันธ์ประชาชาติธุรกิจ 

...