นโยบายปลดล็อก “กัญชา” จากยาเสพติด ใช้เพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงที่ทางพรรคภูมิใจไทย ใช้หาเสียงและผลักดันมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ รัฐมนตรี โดยมีภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข (สธ.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ในวาระที่หนึ่ง (ชั้นรับหลักการ) เปิดทางให้ครัวเรือนสามารถปลูกและบริโภคกัญชงและกัญชาได้แต่ต้องจดแจ้ง และให้ใช้เฉพาะเพื่อการรักษาหรือทางการแพทย์ ส่วนการใช้กัญชาในทางการค้ายังต้องจดแจ้งและมีค่าใช้จ่าย รวมถึงไม่ให้จำหน่ายกัญชาให้กับผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตร เว้นแต่แพทย์อนุญาต

ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 มีผลทำให้ทุกส่วนของกัญชา กัญชง และสารสกัดกัญชาที่มีสาร THC หรือ CBD ไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ถือเป็นยาเสพติด เป็นการปลดล็อก “กัญชา” ในประเทศไทย

...

ต่อมาในสมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ในวันที่ 8 พ.ค. 2567 นายกฯ เศรษฐา ได้มีการมอบนโยบายให้ สธ.ทบทวนแก้ไขประกาศกระทรวง ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น แต่ต่อมาวันที่ 23 ก.ค. 2567 นายกฯ เศรษฐา ได้เปลี่ยนใจไม่นำกัญชากลับเข้าไปเป็นยาเสพติด แต่ให้ใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ในการควบคุมแทน เพื่อยุติความขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล (อ่าน : บทเรียนของนายกฯ เศรษฐา อำนาจทางการเมือง หรือจะสู้ ‘ดีลทางการเมือง’)

จากนั้นในสมัยของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร “พรรคภูมิใจไทย” ได้ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 18 มิ.ย. 2568 อ้างประเด็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ประเด็นข้อพิพาทชายแดน

วันที่ 22 มิ.ย. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นำทีมเจ้าหน้าที่ สธ.ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการสุ่มตรวจจัดระเบียบร้านกัญชา 20 จุด ทั่วพื้นที่ กทม. และได้จับกุมร้านลักลอบขายเยลลี่ผสมกัญชาไม่ผ่าน อย.จำนวน 3 แห่ง 

นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการทำตามนโยบายนายกฯ ในการกวาดล้างตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมไปถึงสารตั้งต้นสารยาเสพติด เช่น กระท่อมและกัญชา ไม่เกี่ยวกับกรณีพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน

จากกรณีดังกล่าว นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทยโพสต์ว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยนับตั้งแต่ปี 2562 มีความชัดเจนมาโดยตลอดว่าสนับสนุนการกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น และการปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ก็เป็นลงมติเห็นชอบโดยรัฐสภาคือทั้ง สว. และ สส.รวมทั้งจากพรรคเพื่อไทย

พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่ากัญชาต้องมีกฎหมายควบคุมเฉพาะ และได้มีความพยายามเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงมาโดยตลอด จึงเห็นด้วยกับการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่เห็นว่าการที่มีร้านที่ผิดกฎหมายอยู่จำนวนมากมายเกิดเรื่องก็เป็นเพราะการที่กระทรวงสาธารณสุขปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกันการออกใบอนุญาตให้ร้านเกิดขึ้นอย่างมากมายนั้น ก็เป็นการอนุญาตโดยกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น จนมีการกล่าวกันว่ามีการหาประโยชน์จากการออกใบอนุญาต จนร้านกัญชามีอยู่ทุกซอกทุกมุมของทุกเมือง

ต่อมาวันที่ 23 มิ.ย. 2568 น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โต้นายศุภชัย กล่าวหาปล่อยปละละเลยการควบคุมกัญชา ซัดร้อนรนจะเป็นฝ่ายค้านจนลืมความจริงและบิดเบือนเป็นความเท็จ พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนกัญชาเสรีแต่สนับสนุนกัญชาการแพทย์ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด ย้อนต้องไม่ลืมว่าในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใครหรือพรรคไหนนั่ง รมว.สธ.และปลดล็อกกัญชาเองกับมือ จนเกิดปรากฏการณ์คาเฟ่สายเขียวทั่วเมืองเพราะไร้กฎหมายควบคุม ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้

ในวันเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลต่อเรื่องกัญชาว่า เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วที่จะทำเรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์ จะเร่งทำเพื่อกำหนดให้ใช้พืชกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น

...

ล่าสุดวันนี้ (24 มิ.ย. 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายการนำกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดว่า ในอนาคตควรกลับไปเป็นยาเสพติด โดยวานนี้ (23 มิ.ย.) ตนได้ลงนามประกาศให้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น คนที่จะไปซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งหรือใบรับรองแพทย์ และในเรื่องของใบอนุญาตผู้ประกอบการรายใหม่หรือการต่อใบอนุญาตนั้น จะมีการทำกฎกระทรวงขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง กำหนดให้มีแพทย์ประจำร้าน หรือหากมีการตรวจทุกเดือนแล้วพบความผิด 2 ครั้ง จะยึดใบประกาศและใบอนุญาต

ในประเด็นที่ถูกมองว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองเนื่องจากภูมิใจไทยถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่าไม่ใช่ แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามามาก โดยเฉพาะในสมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ซึ่งเรามีความพยายามจะทำให้กัญชาเป็นยาเสพติด และวันนี้ทำได้ในการเป็นสมุนไพรควบคุมเข้มข้นใช้ในทางการแพทย์ แต่ในอนาคต ก็คือยาเสพติด