รู้จัก 2 ฮีโร่คนไทย “วิว กุลวุฒิ-โอปอล สุชาตา” ยืน 1 ระดับโลก

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว และ “โอปอล สุชาตา” จากเวทีนางงาม Miss World ได้สร้างความสุขให้กับคนไทยอีกครั้ง หลังจากคว้ารางวัลระดับโลกได้สำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว และคนไทยทั้งประเทศที่ส่งแรงใจเชียร์กันมาอย่างต่อเนื่อง พาไปรู้จักกับทั้ง 2 คน ถึงเส้นทางก่อนสู่ความสำเร็จ

นักแบดฯ มือ 1 ของโลก

“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ อายุ 24 ปี นักแบดมินตันชายเดี่ยวทีมชาติไทย เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2544 เป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนสูง 180 เซนติเมตร เป็นลูกชายของ นายณัฐวัชร และนางนัฏกนก วิทิตศานต์ ซึ่งมีน้องชาวชื่อ สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ เป็นนักแบดมินตันเช่นกัน

“วิว” เติบโตมาในครอบครัวแบดมินตัน โดยมีคุณพ่อเป็นโค้ช จึงได้แนะนำให้เริ่มเล่นตั้งแต่อายุเพียงแค่ 7 ขวบ โดยเริ่มฝึกซ้อมกับชมรมแบดมินตันเสนานิคม ชมรมแบดมินตันมาตยกุล ก่อนจะย้ายมาร่วมโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เมื่ออายุได้ 13 ปี โดยเรียน กศน.ไปด้วย

ตอนอายุได้ 16 ปี “วิว” ทะยานขึ้นไปคว้ารางวัลแชมป์เยาวชนโลกได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน ในปี 2017 2018 และ 2019 และสามารถคว้าแชมป์โลกได้ในปี 2023

หนึ่งในจุดที่ทำให้คนไทยรู้จัก “วิว กุลวุฒิ” มากขึ้น คือ เวทีโอลิมปิก 2024 เนื่องจากสามารถคว้าเหรียญเงินในประเภทชายเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เหรียญในมหกรรมกีฬานานาชาตินี้

โดยในปี 2025 นี้ ยังสามารถคว้าเหรียญทองรายการชิงแชมป์เอเชีย และล่าสุดหลังจากที่เข้าชิงรายการสิงคโปร์ โอเพ่น 2025 ทำให้ทำคะแนนขึ้นไปเป็น นักแบดมินตันชายเดี่ยว อันดับที่ 1 ของโลกได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าถ้วยแชมป์ในรายการนี้ไปครองด้วย

Miss World คนแรกของไทย

“โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี อายุ 22 ปี เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2546 ภูมิลำเนาเป็นคน จ.ชลบุรี ส่วนสูง 180 เซนติเมตร เป็นลูกสาวของ นายธเนศ ดอนกำเนิด และนางสุพัตรา ช่วงศรี โดยครอบครัวประกอบธุรกิจโรงแรมใน จ.ภูเก็ต

“โอปอล” จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายศิลป์-จีน จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเธอสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน

สำหรับเส้นทางประกวดนางงามนั้น “โอปอล” สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 ในเวที Miss Universe Thailand 2022 ได้ ก่อนจะกลับมาคว้าตำแหน่งชนะเลิศเวทีเดียวกันในปี 2024 และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดที่ประเทศเม็กซิโก และคว้ารองอันดับ 3 มาครอง พร้อมรางวัลพิเศษ Voice for Change - Silver

แต่ต่อมา เธอถูกองค์กรมิสยูนิเวิร์สปลดออกจากตำแหน่งรองอันดับ 3 เนื่องจากเข้าร่วมการประกวดเวทีอื่น (Miss World) ก่อนครบวาระ 1 ปีของตำแหน่งที่ได้รับ

โดยความสำเร็จสูงสุดของเธอ เริ่มจากการได้รับการแต่งตั้งจากกองประกวด Miss World Thailand 2025 เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดรอบไฟนอลที่ประเทศอินเดีย ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นสาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฎ Miss World มาครองได้สำเร็จ