วันนี้ (28 พ.ค. 2568) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน เสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับสภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) แถลงข่าวผลการทดสอบสารพิษตกค้างจากผัก-ผลไม้ที่นำเข้าผ่านด่านเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ทาง กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ และเครือข่าย ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างผักและผลไม้ จำนวน 10 ตัวอย่างที่นำเข้าผ่านด่านศุลกากรเชียงของ จ. เชียงราย เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยชนิดที่เก็บมาสุ่มตรวจ ได้แก่ ผักกาดหอม ผักกาดหวาน ผักปวยเล้ง ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดแก้ว ส้ม กะหล่ำปลี และหัวไชเท้า โดยทั้งหมดเป็นผักและผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน
จากนั้นนำส่งวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17025 วิเคราะห์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้งหมด 419 รายการ ผลปรากฏว่า 7 ใน 10 ตัวอย่าง หรือ 70% พบสารเคมีตกค้างเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากกว่า Thai-PAN สุ่มตรวจประจำปี
...
นอกจากนี้ 1 ตัวอย่างยังพบสาร “คลอร์ไพริฟอส” ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ที่ประเทศไทยห้ามใช้งาน ห้ามผลิต นำเข้า และส่งออก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบประสาท หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับก็อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์มีความบกพร่องทางสติปัญญาได้ โดยพบตกค้างอยู่ที่ 0.78 ppm ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก ยิ่งกว่าในสมัยที่ประเทศไทยเคยอนุญาตให้ใช้สารนี้
ทาง กมธ.ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกด่านใน จ.เชียงราย และหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานผักและผลไม้ ทั้งในฝั่งเกษตรและสาธารณสุข และเห็นข้อจำกัดในการทำงาน การขาดแคลนทรัพยากรในการตรวจสอบ เช่น ที่หน้าด่านไม่มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ที่จะสามารถสุ่มตรวจและรู้ผลภายใน 24 ชม. ก่อนปล่อยสินค้าเข้าสู่ประเทศ
ทั้งนี้ ทาง กมธ. และเครือข่าย คาดหวังถึงการยกระดับระบบการตรวจสอบความปลอดภัยทางอาหารของไทย และการป้องกันการทุ่มตลาดผักผลไม้ที่ไม่ปลอดภัยจากประเทศจีนหรือประเทศอื่นๆ ซึ่งถ้าหากสามารถยกระดับการตรวจสอบและป้องกันการทุ่มตลาดได้ ก็จะเป็นพื้นที่ให้เกษตรกรไทยที่ผลิตผักผลไม้ที่ปลอดภัย มีคุณภาพ สามารถแข่งขันในตลาดได้
นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่นำเข้าผักและผลไม้เองก็ควรมีส่วนร่วมในการตรวจสอบสินค้าตัวเอง หากพบว่ามีปัญหาก็พร้อมที่จะแจ้งเตือนและเรียกคืนสินค้าตัวเองก็จะช่วยได้มาก
ขอบคุณ : Thai-PAN