วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า และไทยถูกขึ้นภาษีเป็น 36% ล่าสุด ประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ผ่านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ถึงนายเจมสัน กรีเออร์ ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. โดยในเนื้อหาได้เสนอกรอบการหารือที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานนโยบายการค้า และผ่านความเห็นชอบจากนายกฯ แล้ว ประกอบไปด้วยการเจรจา 5 เสาหลัก ได้แก่

1. ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย-สหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูป และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล (Data Center และ AI) และการลดอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี

2. เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์บริการ โดยปลัดกระทรวงพลังงานพร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด ได้เดินทางไปรัฐอลาสกา เพื่อหารือกับผู้ว่าการรัฐอลาสกา รวมถึงบริษัทด้านพลังงานของสหรัฐฯ เพื่อหาโอกาสและเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย – สหรัฐฯ

3. การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย เช่น ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

4. การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า

5. ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยขณะนี้นางนลินี ทวิสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย รวมถึงภาคเอกชนชั้นนำของไทย อยู่ระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมงาน Select USA Investment Summit 2025 เพื่อไปดูลู่ทางการลงทุนในสหรัฐฯ ด้วย

...

นายพิชัย กล่าวว่า นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีเป็นบวกต่อข้อเสนอของไทย โดยพูดถึงประเทศไทย ในการขึ้นเวที Saudi Arabia Investment Forum เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 68 ระบุว่าเป็นข้อเสนอที่ดี แบบเดียวกับที่พูดถึงข้อเสนอของอินโดนีเซีย และไต้หวัน ถือเป็นสัญญาณบวกจากระดับนโยบายของสหรัฐฯ และคาดว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในระดับ working level พิจารณาในรายละเอียดต่อไป

ส่วนที่จะคุยเมื่อไหร่นั้น ตนเชื่อว่า เขาคงรอเวลา เพราะในส่วนของ USTR มีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 200 กว่าคน ต้องแบ่งงานกันทำ ตอนนี้ รมว.คลังสหรัฐฯ เดินทางไปต่างประเทศเยอะ ถ้ามีจังหวะดีๆ ท่านก็คงจัดคิวดูว่าใครจะอยู่ในกลุ่มที่จะเข้าไปคุยได้ ซึ่งหวังว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน

เมื่อถามว่า คาดการณ์ตัวเลขภาษีจะอยู่ที่เท่าไหร่ นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้ทุกคนได้แต่คาดเดาว่า สหรัฐฯ ต้องการตัวเลขภาษีเพิ่มขึ้น น่าจะยืนอยู่ในระดับ 10% เมื่อถามว่ารัฐบาลมองว่าการทำงานในครั้งนี้ล่าช้าไปหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เราเป็นประเทศคู่ค้าที่ไม่ได้อยู่ในเทียร์ 1 เราอยากฟังว่าเขาคุยอะไรกับประเทศใหญ่ๆ ซึ่งการคุยในจังหวะที่เหมาะสมน่าจะดีที่สุด ตนคิดว่า ไม่ช้า เพราะคงจะจบไล่ๆ กัน ตนมองทางนั้นก็คงอยากเห็นทุกอย่างจบในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน