กลายเป็นทุกขลาภไม่รู้จบ แม้เสี่ยปาน อดีต รปภ. ถูกหวย 30 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อนเสียชีวิตแล้ว แต่ล่าสุดภรรยาได้แจ้งความ เพื่อเรียกร้องเงินมรดกให้กับลูกชาย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้อง โดยทั้งสองฝ่ายมีนัดขึ้นศาลอีกครั้งวันที่ 30 มี.ค.นี้

ชีวิตยิ่งกว่าละคร กรณีเสี่ยปาน ถูกหวย 30 ล้าน เมื่องวดวันที่ 16 ก.ย. 2558 แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลังจากนั้น ได้เลิกรากับอดีตภรรยา และเสี่ยปาน ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 โดยทำพินัยกรรมเอาไว้ ซึ่งมรดกส่วนใหญ่มอบให้ลูกชายที่เกิดกับอดีตภรรยา และมีพี่สาวของเสี่ยปาน เป็นผู้จัดการมรดก

แต่เรื่องราวทั้งหมดกลับไปจบลงหลังเสี่ยปานเสียชีวิต เพราะอดีตภรรยาได้ออกมาเรียกร้องกับสื่อว่า ลูกชายไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงไว้ ตามพินัยกรรมที่ระบุว่า มอบเงินให้ลูกชาย 2 ล้านบาท โดยให้พี่สาวเสี่ยปาน ต้องจ่ายเงินรายเดือนให้ลูกชาย เดือนละ 7,000 บาท

หากย้อนกลับไปถึงทุกขลาภครั้งนี้ เริ่มจากการถูกหวย 30 ล้านบาท แต่หลังเสียงดีใจของครอบครัว เสี่ยปาน ก็หายตัวออกจากบ้าน จนภรรยาต้องหอบลูกชาย ขณะนั้นวัย 8 เดือน ไปร้องขอความเป็นธรรมกับศาลเยาวชน เพื่อขอค่าเลี้ยงดู หลังฝ่ายชายส่งข้อความมาบอกเลิก โดยไม่ทราบถึงต้นเหตุ

...

เรื่องราวของเสี่ยปาน เริ่มถูกเผยแพร่ตามหน้าสื่อ หลังจากที่ภรรยาออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม แต่เสี่ยปาน ก็ออกมาตอบโต้เรื่องราวทั้งหมด และเผยถึงต้นเหตุสำคัญ โดยเฉพาะพฤติกรรมของภรรยาที่เปลี่ยนไป มักมาขอเงิน พอไม่ได้ก็เริ่มดุด่า ทำให้เกิดความน้อยใจ จึงตัดสินใจเดินแยกทางออกมาเพียงลำพัง แต่สิ่งที่เป็นห่วงขณะนั้นคือ ลูกน้อย ซึ่งตั้งใจสร้างบ้านให้เสร็จ แล้วรับลูกไปอยู่ด้วย

เมื่อบ้านหลังโตสร้างเสร็จแล้ว ไม่นานเสี่ยปานตัดสินใจขายบ้านหลังดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่าไม่มีคนดูแล และออกมาตอบโต้ข่าวลือว่า ตนเองหมดตัวจนต้องขายบ้าน โดยยืนยันว่า มีเงินเก็บเหลืออีก 10 ล้านบาท ส่วนกิจการซุปเปอร์มาร์เก็ต ต้องปิดไว้ เนื่องจากพี่สาวต้องไปดูแลพี่ชายที่ป่วย

เงินรางวัลกลายเป็นทุกขลาภ เสี่ยปาน มีอาการเครียด หลังภรรยาขอค่าเลี้ยงดูลูก แต่ยืนยันว่า ไม่สามารถกลับไปคืนดีกับภรรยาได้ และวางแผนให้ค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 10,000 บาท หรือมากกว่านั้น หากมีค่าใช้จ่ายจำเป็น

จากนั้นได้ไกล่เกลี่ยค่าเลี้ยงดูบุตร โดยอดีตภรรยายืนยันว่า ทำทุกอย่างฐานะแม่ แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ส่วนเสี่ยปาน รับจ้างไถนา เกี่ยวข้าว และเลิกอบายมุขทุกอย่าง หลังผ่านมรสุมครอบครัว จนต้องใช้หลักธรรมะเข้าข่ม

แต่โชคชะตาก็เหมือนถูกลิขิตไว้แล้ว เมื่อข่าวร้ายมาถึง เสี่ยปานประกาศว่า มีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ตามคำวินิจฉัยของแพทย์ เนื่องจากเป็นโรคหัวใจ มะเร็งทวารหนักระยะสุดท้าย ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ไม่สามารถทำงานในไร่นาได้เหมือนก่อน

หลังโรคร้ายกำเริบ เสี่ยปานตัดสินใจ ขายทรัพย์สินทั้งหมด พร้อมแบ่งทรัพย์สินให้พี่น้อง และลูกชาย พร้อมทำพินัยกรรม มอบหมายให้พี่สาวเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน หลังการเสียชีวิตทั้งหมด

13 พ.ค. 2565 เสี่ยปาน เสียชีวิตเวลา 08.43 น. หลังรักษาโรคมะเร็ง ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และนำร่างมาฌาปนกิจทันที ที่วัดสร้างแข้ ต.หนองหาน จ.อุดรธานี

สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมด กลับไม่จบลงที่การเสียชีวิตของเสี่ยปาน แต่การออกมาเรียกร้องค่าเลี้ยงดูของอดีตภรรยาให้กับลูก ตามที่ได้เขียนไว้ก่อนเสียชีวิต อาจกลายเป็นทุกขลาภ ที่ทุกคนจับตาดูการไกล่เกลี่ยของทั้งสองฝ่ายในวันที่ 30 มี.ค.นี้.