คดีดัง เรื่องหลอนขนหัวลุก ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ นำมาเสนอทุกวันศุกร์ จะพาย้อนกลับไป เมื่อ 11 ปีก่อน ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านเยาวราช กลายเป็นแหล่งกบดานของนักค้ากุมารชาวไต้หวัน และถูกจับได้ เพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวนให้ช่วยเหลือ จึงมีการบุกค้นห้องพัก เจอศพเด็ก 6 ร่าง ในกระเป๋าเดินทาง

17 พ.ค. 2555 กลางดึกช่วงเวลาพักผ่อน ในโรงแรมย่านเยาวราช เสียงร้องโหยหวนของเด็กชายและหญิง ดังลั่นทั่วทั้งโรงแรม บางช่วงสลับเสียงฝีเท้าหนักเบาราวกับต้นเสียงกำลังถูกทำร้าย ทำให้แขกที่พักในชั้น 3 ต้องโทร. เรียกพนักงาน ให้มาระงับเหตุ

เสียงโหยหวนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พนักงานโรงแรมประเมินแล้วว่าอาจยากระงับเหตุ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่แล้วเมื่อมาถึง... เสียงร้องนั้นยังคงอยู่ และยากจะหาต้นเสียงว่ามาจากห้องไหน

ทุกคนพยายามเงียบจนแทบได้ยินแค่เสียงลมหายใจ แต่หัวใจกลับเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น และทุกคนลงความเห็นว่าเสียงนั้นน่าจะมาจากห้องหมายเลข 301

เสียงเคาะประตูดังแรงเหมือนกำลังกดข่มความกลัวให้หายไป... ไม่นานคนในห้องเปิดประตูมาพร้อมท่าทีสะลึมสะลือ เมื่อลอบมองเข้าไปในห้องพบเพียงเงามืด ทางตำรวจจึงขออนุญาตแขกเปิดไฟในห้องพัก แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่พบความผิดปกติ

...

ประตูห้อง 301 ถูกปิดลงพร้อมคำขอโทษ แต่เสียงโหยหวนนั้นกลับไม่หยุด โรงแรมที่โอ่อ่าบัดนี้ชวนหลอน จนทุกคนอยากให้แสงเช้าวันใหม่ปรากฏขึ้นโดยเร็ว

การค้นหาไล่จากชั้น 3 ขึ้นมาชั้น 4 เดินเลยมาชั้น 5 แล้วหยุดยืนที่ชั้น 6 หน้าห้องหมายเลข 613 เสียงร้องนั้นชัดเจนเหมือนกำลังมากระซิบอยู่ข้างหู เสียงเคาะประตูแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ประตูไม้บานใหญ่เปิดขึ้น พร้อมคำทักทายเป็นภาษาไต้หวัน

หนุ่มไต้หวันดูท่าทีมีพิรุธจนน่าสงสัย ตำรวจจึงขอค้นสัมภาระ แล้วถึงกับผงะ! ร่างเด็กตัวน้อยถูกบรรจุอยู่ในถุงอย่างดี เมื่อนำออกมาดูพบอักขระยันต์ ติดแผ่นทองบนร่างกายอันบริสุทธิ์ ที่ไม่มีโอกาสได้ร้องเรียกแม่ผู้ให้กำเนิด

เมื่อตรวจสอบพบว่าชาวไต้หวันชื่อ “โจว ฮอง ชุน” มีประวัติเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ปี 2550 เดินทางเข้าออกมาแล้ว 16 ครั้ง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่างของเด็กน้อยคือ กุมาร ที่ผ่านการปลุกเสก เตรียมนำกลับไปยังไต้หวัน เพื่อจำหน่ายให้กับนักธุรกิจเงินหนา ซึ่งมีความเชื่อว่า กุมารจะช่วยทำให้กิจการรุ่งเรือง

ตำรวจทำการตรวจสอบขบวนการซื้อขายกุมาร พบว่าร่างเด็กส่วนใหญ่มีอายุครรภ์ 5–6 เดือน สูงเฉลี่ยประมาณ 27.8 เซนติเมตร ได้ทำการตรวจสอบสถานพยาบาลย่านปทุมธานี ขณะเดียวกัน “ตี๋จอมขมังเวท” ให้ข้อมูลว่า มีการติดต่อกับชาวไต้หวันที่พำนักอยู่ในไทย เพื่อหาร่างของเด็กที่มาทำกุมาร

ส่วนราคาเมื่อนำไปขายที่ไต้หวันจะอยู่ที่ร่างละ 1.5-2 แสนบาท ซึ่งเดิมยังพอหาร่างทารกในไต้หวันมาทำพิธีได้ แต่ช่วงหลังตำรวจกวาดล้าง ทำให้ต้องมาหาร่างทารกในไทย

เรื่องราวหลอน 6 กุมาร ไม่ได้จบอยู่เพียงเท่านั้น เมื่อนำไปเก็บไว้ในห้องของกลางบนโรงพัก ยามค่ำคืนมักได้ยินเสียงเด็กวิ่งป่วนจนตำรวจที่เข้าเวรหลอนนอนไม่หลับ หรือช่วงกลางวันแสกๆ นั่งประชุมอยู่ห้องข้างๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กวิ่ง จนตำรวจต้องนำน้ำแดงและนมมาเซ่นไหว้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น

...

คดีนี้ชาวไต้หวัน ถูกตั้งข้อหาซ่อนเร้นเคลื่อนย้ายศพ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 พันบาท แต่ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ จึงเหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 2 พันบาท พร้อมกับปลดปล่อยวิญญาณเด็กน้อยทั้ง 6 ร่าง ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือพันธนาการของนักค้าศพ.