“ผมบริสุทธิ์ ผมเป็นแพะทางการเมือง”

วลีที่ออกจากปาก “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ แกนนำ กปปส. กล่าวหลังจาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง” ในคดีหมายเลขดำ อม.22/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 กล่าวหา ร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)

โดยรายละเอียดสำคัญ ที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาพิเคราะห์ คือ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ค.ร.ม.มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนให้เปลี่ยนรูปแบบการลงทุนภาครัฐจากวิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และวิธีจัดสรรงบประมาณรายปี ส่วนวิธีที่ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเพียงเหตุผลประกอบ ซึ่งครม.พิจารณาอนุมัติโครงการและจัดสรรงบประมาณให้ไม่เกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างและวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะไม่ใช่อำนาจของ ครม. ซึ่งเป็นอำนาจของหน่วยงานรัฐคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

การที่จำเลยที่ 1 อนุมัติการจัดจ้างก่อสร้างแบบรายภาค 1-9 ภาค และเปลี่ยนเป็นวิธีอิเล็กทรอนิกส์รวมกันในครั้งเดียวโดยไม่เสนอให้ ครม.อนุมัติ จึงไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นี่คือ สาเหตุสำคัญที่ นายสุเทพ หรือ “ลุงกำนัน” รอดจากคดีนี้...

ย้อนประวัติ “สุเทพ” กับบทบาททางการเมือง...

...

หากจะย้อนไปในอดีต นายสุเทพฯ ถือว่าเป็น “นักการเมือง” คนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และมีประวัติงานทางการเมืองไม่ธรรมดา โดยชีวิตการทำงานเกี่ยวกับมวลชนและการเมือง ตั้งแต่ปี 2518 เป็น “กำนัน” ในตำบลท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นกำนันคนแรกๆ ที่เรียนสูง จบถึง ป.โท ในวัยเพียง 26 ปี

สุเทพฯ เคยให้สัมภาษณ์ ว่า เขาสนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีพ่อ เป็น “กำนัน” สมัยนั้น เขาเคยถามพ่อเขาว่า

“แต่ละวันมีคนมาหาพ่อมากมาย มาขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาต่างๆ ก็เลยสงสัยว่า ถ้าพ่อแก้ปัญหาให้เขาไม่ได้จะทำอย่างไร...”

พ่อตอบว่า “ให้ไปหาผู้ว่าฯ”
“ถ้าผู้ว่าฯ ช่วยไม่ได้ให้ทำอย่างไร” เด็กชายสุเทพฯ วัย 7-8 ขวบถามต่อ
“ต้องไปหารัฐบาล”
นี่คือคำตอบที่เป็นแรงบันดาลใจที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อยากเป็นรัฐบาล และเริ่มต้นงานทางการเมือง

ในปี 2522 ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยแรก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็เป็น ส.ส. มาโดยตลอด 12 ปี

ก้าวสู่ตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ครั้งแรก ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์

ต่อมาในช่วงปี 2535-2537 ในสมัยดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ สมัยที่ 2 ก็เกิดกรณีปัญหา “ส.ป.ก.4-01” ที่พบเศรษฐีภูเก็ต ได้รับแจกเอกสารสิทธิด้วย จนต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก

จากนั้นก็มาทำงานในฐานะ “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ในช่วงปี 2548-2554 ซึ่งมีความโดดเด่น ไม่แพ้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์

ว่ากันว่า เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลัง ในการจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี 2551 จนถูกขนานนามว่า “ผู้จัดการรัฐบาล” ก่อนจะมีคดี “สลายการชุมนุม” กับนายอภิสิทธิ์ ตามมา

ซึ่งต่อมา (ปี 2560) ศาลฎีกา ได้พิพากษา ยืน “ยกฟ้อง” ตามศาลชั้นต้น และอุทธรณ์ โดยระบุว่า คดีต้องยื่นให้ ป.ป.ช.ไต่สวน และยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่ดีเอสไอ ทำสำนวนส่งอัยการ ฟ้องศาลอาญา เนื่องจากคดีสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ - พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.ปี 2542

ปลายปี 2556 จากเลขาธิการพรรคฯ กลับมาสู่บทบาท “กำนันสุเทพ” โดยเป็นแกนนำม็อบ กปปส. ขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” โดยหยิบประเด็น “นิรโทษกรรมสุดซอย” และนโยบาย “จำนำข้าว” มาโจมตีรัฐบาลนายกฯ หญิง ณ เวลานั้น พร้อมประกาศ จะไม่เล่นการเมืองอีก มาชู กระทั่งเป็นที่มาของ คสช. และ ชายที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เราจะทำตามสัญญา...จนถึงปัจจุบัน?

...

หลังจากนั้น “สุเทพ” ก็เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อยู่หลายเดือน และก็ยืนยันว่า “จะไม่เล่นการเมือง” อีก กระทั่งเลือกตั้ง 2561 สุเทพ ก็มีบทบาท เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชาชาติไทย แต่ไม่ประกาศลง ส.ส.

เรื่องนี้ อดีตนักการเมืองผู้เก๋าเกม ถูกโจมตีอย่างหนักว่า “ตระบัดสัตย์” จนเจ้าตัวต้องเสียน้ำตา

จากนั้น บทบาทของ “สุเทพ” ก็ห่างหายไปจากวงการเมือง กระทั่ง ปี 2564 ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษา คดีที่ นายสุเทพ กับพวกรวม 39 คน ฐานร่วมกันเป็นกบฏ และข้อหาอื่นๆ กรณีชุมนุมขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป บุกยึดสถานที่ราชการ ปิดกรุงเทพมหานคร (Bangkok Shutdown) ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพมหานครรวม 7 จุด

ซึ่งคดีนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า มีความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ให้หยุดงาน และบุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย กระด้างกระเดื่องในบ้านเมือง ขัดขวางการเลือกตั้ง ให้จำคุก 25 จำเลย 1-9 ปี ซึ่งนายสุเทพ ศาลสั่งให้จำคุก 5 ปี และคดียังไม่สิ้นสุด

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่น่าสนใจ   

ศาล ยกฟ้อง "สุเทพ-พวก" คดีสร้างโรงพักทดแทน เจ้าตัว ลั่น "บริสุทธิ์"

ศาลจำคุก "สุเทพ-กปปส." คดีกบฏ พร้อมตัดสิทธิ์การมือง

ควอน โด-ฮยอง เย่อหยิ่ง หลอกลวง ล้มเหลว

...

จากคดี ม.3 ยิงหัวเพื่อน กับหลักพิจารณาคดีเด็ก โอกาสไม่ต้องรับโทษ-ลบประวัติ