พสกนิกรชาวไทยต่างเฝ้าติดตามพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ภายหลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2565 และพร้อมใจร่วมถวายพระพรให้พระพลานามัยแข็งแรง ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ขณะที่หลายหน่วยงานได้แจ้งให้ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน และสวดมนต์บท ”โพชฌังคปริตร”

รวมถึงสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ทรงมีพระบัญชาโปรดให้สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แจ้งวัดทุกวัดทั่วราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ ให้คณะสงฆ์ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายเป็นพิเศษ ต่อจากการสวดมนต์ทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น เพื่อถวายพระพรชัยแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2565 เป็นต้นไป

บทสวดโพชฌังคปริตร หรือโพชฌังคสูตร เป็นบทสวดในสมัยพุทธกาลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ใช้สวดเมื่อตัวเองเจ็บป่วย หรือสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ป่วย เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่า อานิสงส์แห่งการเจริญพระพุทธมนต์บทนี้ ทำให้เกิดสมาธิและความสงบใจ บรรเทาอาการเจ็บป่วยด้วยสภาพจิตที่สงบ และจะเกิดอานุภาพมากหากบำเพ็ญจิตเจริญภาวนาควบคู่ไปด้วย หรือในโอกาสสำคัญ เช่น วันเกิด วันปีใหม่ มีการสวดบทโพชฌังคปริต อวยพรให้มีความสุขสวัสดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและให้มีอายุยืน

...

มีการอ้างอิงพระไตรปิฎก ซึ่งเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะที่อาพาธอยู่ จึงทรงแสดงธรรมบทสวดโพชฌงค์ หลักธรรมหมวดหนึ่งในบทสวดโพชฌังคปริตร แก่พระมหากัสสปะ และพบว่าสามารถหายจากอาพาธได้ อีกครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้นพบว่าพระโมคคัลลานะ หายจากอาพาธ และเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอาพาธ จึงตรัสให้พระจุนทะเถระ แสดงธรรมบทนี้ถวาย จนหายจากอาพาธเช่นกัน ทำให้พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าบทสวดนี้ ช่วยให้หายจากโรคและอาการเจ็บป่วยได้.