นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. 63 และ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม ณ วันที่ 28 ม.ค. 64 จำนวน 16,221 ราย มีผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาจำนวน 4,858 ราย โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากสุดคือ สมุทรสาคร ที่เป็นจุดเริ่มต้นโควิดระบาดรอบสอง ทำให้ฝ่ายที่รับศึกหนักที่สุดในช่วงวิกฤติการระบาดครั้งนี้ คือ หมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ รักษาผู้ป่วยโควิด รวมถึงเฝ้าระวังเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด
จากยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่มากขึ้นๆ ประชาชนรู้สึกเป็นห่วง หมอ พยาบาล ผู้ช่วยหมอ ผู้ช่วยพยาบาล ที่ต้องทำงานหนักและเหนื่อยแล้ว ยังรู้สึกกังวลใจต่อบุคลากรทางการแพทย์อาจไม่เพียงพอหรือไม่ และในการทำงานหนักเพื่อประชาชน เหล่าฮีโร่ทั้งหลายเมื่อเกิดความเครียดจะได้รับการดูแลอย่างไร
: เปิดจำนวนทีมแพทย์ พยาบาล ต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 :
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผยถึงการทำงานหนัก เสียสละของหมอ พยาบาล เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด -19 ว่า การดูแลผู้ป่วยโควิด 1 รายต้องใช้ทีมแพทย์หรือพยาบาลกี่คนนั้น ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย กรณีผู้ป่วยมีอาการไม่หนัก ไม่ได้รักษาในห้องไอซียู โดยเฉลี่ย 1 กะต้องใช้แพทย์จำนวน 1-2 คน และพยาบาล 4-8 คน หากกรณีป่วยหนักต้องรักษาในห้องไอซียูต้องใช้ทีมแพทย์ พยาบาลเพิ่มขึ้นเท่าตัว
...
ปกติทีมแพทย์ พยาบาลทำงานวันละกะๆ คือ 8 ชั่วโมง หากเกิดกรณีคนไข้เยอะก็หมุนเวียนให้ทำงานเพิ่มได้เต็มที่ 2 กะ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้พัก ปัจจุบันแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยรักษาอยู่ เกือบ 5 พันคน ก็มีทีมแพทย์ พยาบาลเพียงพอ และผ่องถ่ายคนไข้ที่อาการไม่หนักไปรักษาต่อ รพ. อื่นๆ อาทิ รพ.มะเร็ง รพ.ราชวิถี รพ.นพรัตน์ รพ.ทรวงอก และ รพ. สนาม
“แพทย์ พยาบาลบางคนขึ้นเวรเช้า พักบ่าย ดึกก็มาเข้าเวร คนไข้อาการหนักจะรักษาตัวที่ รพ. กรณีคนไข้เยอะ อาการไม่หนักก็ส่งไปรักษา รพ.สนามวัดโกรกกรากมี 140 กว่าเตียง ใช้หมอ 2 คน พยาบาล 8 คน และมีเจ้าหน้าทีอื่นๆ 3-4 คน ดูแลคนไข้ต่อ 1 กะ” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
: มาตรการดูแล บุคลากรทางการแพทย์ เครียดเพราะทำงานหนัก :
สำหรับการทำงานหนักที่ต้องอยู่กับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกวันๆ ทีมแพทย์ พยาบาลเกิดภาวะเครียดใด ทีมข่าวฯ สอบถามจาก พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า จากการทำงานหนักของพยาบาล 8 ชั่วโมงต่อกะ เข้าๆ ออกๆ ห้องดูแลคนไข้ผู้ป่วยโควิด-ที่รักษาตัวในห้องไอซียูบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบทำให้แพทย์ พยาบาลเกิด “ภาวะอ่อนล้าและเหนื่อยสะสม”
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตเองได้มีการติดตามเฝ้าระวังสภาวะด้านอารมณ์ จิตใจ ด้วยการเปิดบริการ “สายด่วนฮีโร่” ให้บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน COVID-19 โทรมาพูดคุยโดยเฉพาะ และมีการติดตามประเมินสภาวะทางด้านจิตใจในการทำงาน โดยก่อนการปฏิบัติงานแต่ละครั้ง จะมีกระบวนการให้หัวหน้าทีมพยาบาลพูดคุยให้กำลังใจกัน ก่อนเข้าหน้างาน รวมถึงหลังปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิด ก่อนออกเวร นอกจากจะมีการคุยสรุปงานแล้ว หัวหน้าทีมจะพูดคุยสอบถามลูกทีมอีกครั้งเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย
นอกจากประเมินความเครียดจากการทำงานหนักของบุคลากรทางการแพทย์แล้ว หากพยาบาลรู้สึกไม่ไหวต้องให้หยุดพักผ่อนเสมือนถูกกักตัวไปโดยปริยาย เพื่อความปลอดภัยในสถานที่ที่จัดบริการไว้ เช่น ในพื้นที่โรงพยาบาล สำหรับข้อกังวลใจหากมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นๆ เกรงจะเกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ พญ.พรรณพิมล ได้ให้คำตอบถึงขั้นตอนการทำงานของทีมบุคลากรทางการแพทย์ว่า
“ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ โดยมีการหมุนเวียนทีมพยาบาลมาจากทั่วประเทศ ทุกภูมิภาค จากจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ เช่น นราธิวาส พะเยา มาช่วยในสมุทรสาคร เช่น รพ.สนาม จะหมุนเวียนทำงานเป็นอาทิตย์ แล้วกลับไปพักผ่อนและกักตัวเอง แล้วนำทีมใหม่เข้ามาดูแลต่อ”
...
: ประชาชนเครียดสะสม หลังโควิดระบาดรอบใหม่ :
ด้านสุขภาพจิตของประชาชนต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คนไทยกลับมาตื่นตระหนกกลัวอีกครั้ง โดยกังวลว่าตัวเองจะติดเชื้อ เนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้ อีกทั้งประชาชนเกิดความเครียดสะสม เนื่องจากเน้นการอยู่บ้าน และเจอกับสภาพแวดล้อมเดิมๆ เป็นเวลานานเกือบเดือน ส่งผลให้เกิดการระแวงซึ่งกันและกัน และพยายามหาต้นตอคนผิดที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น
...
เพื่อผ่อนคลายความเครียดให้สุขภาพจิตดีขึ้น พญ.พรรณพิมล แนะว่า สร้างพลังบวกในครอบครัว ให้กำลังใจด้วยการพูดคุย ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เสพข่าวให้น้อยลง รวมถึงป้องกันตัวเองให้ดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้หากประชาชนต้องการคำแนะนำ หากรู้สึกกังวล เครียด สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือตรวจเช็กสุขภาพใจ ผ่านเว็บไซต์ http://Checkin.dmh.go.th
“ประชาชนที่เบื่ออยู่บ้าน ขอให้อดทนเพื่อก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน การได้อยู่บ้านกับครอบครัวนับว่าโชคดีที่สุดแล้ว ต่างจากหมอ พยาบาล ที่ทำงานหนักแทบไม่ได้กลับไปหาครอบครัวเลย หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ต้องป้องกันตัวเองให้ดี เราผ่านช่วงการระบาดรอบแรกมาแล้ว ไม่นานคนไทยก็จะผ่านครั้งนี้ไปด้วยกันอีกครั้ง ขอให้เข้มแข็ง และสู้ไปด้วยกันต่อไป” พญ.พรรณพิมล กล่าว.
: ข่าวน่าสนใจ :
แท็กซี่หนี้พุ่ง ขาดส่งโดนยึด 5 หมื่นคันหายจากถนน "เราชนะ" ไม่ช่วย
“เจาะคอ” ลดติดเชื้อ ผวจ.สมุทรสาคร อาการดีขึ้น รอลุ้นปอดฟื้นตัว
เจาะชีวิต อสม. เสี่ยงชีวิตสู้โควิด ผวากลัวกันเอง เงินเดือนไม่พอเติมเน็ต
ขั้นตอน Air Ambulance ช่วย "เชฟแต่ง" กลับไทย สาเหตุต้องใช้เงิน 8 ล้าน
...