ชีวิตแพทย์พิษพเนจร ช่วยเหลือประชาชน หวังลดอัตราการเสียชีวิตจาก “เห็ดพิษ” เป้าหมายสูงสุด คือ ทำคู่มือเห็ดพิษให้บุคลากรทั่วประเทศใช้ดูแลคนไข้ พร้อมเผย 3 ความเชื่อผิดๆ เช็กรายชื่อ 15 เห็ดพิษ ติงการล้วงคอ กรอกไข่ขาว มิควรทำ

ฤดูฝนทุกปี ความชุ่มฉ่ำทำให้พืชผักหลากหลายชนิดเจริญงอกงามตามธรรมชาติ โดยเฉพาะ “เห็ดป่า” วัตถุดิบยอดฮิตที่หลายคนรอคอยมาทั้งปี เห็ดมีพิษกับเห็ดกินได้นั้นบางชนิดมีความคล้ายกันมากทั้งรูปร่างลักษณะและชื่อ หากคนเก็บเห็ดมากิน หรือขายสร้างรายได้เสริม ไม่สันทัด แยกชนิดเห็ดกินได้กับเห็ดพิษได้ยาก อาจทำให้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ดังที่เป็นข่าวเกิดขึ้นประจำ

ถ้าไม่อยากเสี่ยงชีวิต ผศ.พญ ธัญจิรา จิรนันทกาญจน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และศูนย์พิษวิทยาศิริราช ที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับทีมงานจากหลายสังกัดออกสำรวจเห็ดพิษในประเทศไทยจำนวน 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี เชียงราย น่าน สุราษฎร์ธานีและกาญจนบุรี ทำการศึกษาวิจัยและเป็นสื่อการเรียนการสอน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเห็ดพิษที่เกิดกับพี่น้องชาวไทยและผู้ป่วยชายขอบ มาให้ความกระจ่างทุกเรื่องราวเกี่ยวกับเห็ดพิษ 

...

อุบลฯ ครองแชมป์ ผู้ป่วย "เห็ดพิษ" 3 ปีซ้อน

สถิติคนไทยป่วย หรือเสียชีวิตจากการกินเห็ดพิษ ผศ.พญ ธัญจิรา เปิดเผยกับทีมข่าวฯ ว่า มีแนวโน้มขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ ความชื้นในแต่ละปี จากสถิติการรายงานผู้ป่วย สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 1 ม.ค. - 18 ก.ค. 2562 พบผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ 447 ราย จาก 36 จังหวัด และมีผู้เสียชีวิต 3 คน กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 65 ปี น้อยสุด คือ 45 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับ คือ อุบลราชธานี เลย ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ บึงกาฬ

ปี 2561 พบผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ 1391 ราย จาก 51 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 6 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 65 น้อยสุด คือ 45 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับคือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร และพะเยา

ปี 2560 พบผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ 1232 ราย จาก 49 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 8 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 45-54 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับคือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และสุรินทร์

สถิติผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2546-2562
สถิติผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2546-2562

“จากสถิติการรายงานผู้ป่วยเข้าไปที่ สำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ปี 46 - 18 ก.ค. 62 จำนวนผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษ อยู่ในหลักพัน มากสุดสองพันกว่าโดยประมาณ จำนวนคนเสียชีวิต มากสุด 20 กว่าคน จังหวัดที่เป็นแชม์พบผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษบ่อย คือ ภาคอีสาน และภาคเหนือ ในระยะหลังๆ พบในภาคใต้เยอะขึ้นจากคนภาคอีสานย้ายถิ่นฐานไปทำงานอยู่ภาคใต้ เห็ดในไทยมีทั้งหมดประมาณ 2,600 ชนิด แต่เห็ดที่กินแล้วเป็นพิษจริงๆ มี 20 กว่าชนิด เป็นเห็ดที่มีพิษ amatoxin ซึ่งเป็นตัวทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ แพทย์พิษวิทยาอธิบาย

เช็กรายชื่อ 15 "เห็ด" กินได้ และ "เห็ดพิษ" 

ในภาคอีสาน ซึ่งเป็นแชมป์ผู้ป่วยมากที่สุด ตั้งแต่ปี 2560 - ก.ค. 2562 เห็ดที่มีพิษ amatoxin แพทย์พิษวิทยาระบุกับทีมข่าวฯ จากการลงพื้นที่สำรวจและพูดคุยกับชาวบ้าน ประเทศไทยพบอยู่ประมาณ 2-3 ชนิด โดยชาวบ้านเรียกว่า เห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก เห็ดขี้ไก่เดือน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุรายชื่อ 15 เห็ดพิษ ดังนี้

เห็ดระโงกหิน เป็นเห็ดที่มีพิษถึงตาย
เห็ดระโงกหิน เป็นเห็ดที่มีพิษถึงตาย

...

1. เห็ดระโงกเหลืองก้านต้น 2. เห็ดกระโดงตีนตัน 3. เห็ดคล้ายเห็ดโคน 4. เห็ดข่า 5. เห็ดขี้ควาย 6. เห็ดตอมกล้วยแห้ง 7. เห็นระโงกหิน 8. เห็ดไข่ 9. เห็ดมันปูใหญ่ 10. เห็ดดอกกระถิน 11. เห็ดแดงก้านแดง 12. เห็ดเผาะ (มีราก) 13. เห็ดขี้วัว 14. เห็ดไข่หงษ์ 15. เห็ดโคนส้ม

"เห็ดโคน" เห็ดป่าหน้าฝน กินได้ไม่มีพิษ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน

เห็ดเผาะ ที่กินได้ต้องไม่มีราก
เห็ดเผาะ ที่กินได้ต้องไม่มีราก

...

ส่วน เห็ดกินได้ ดังนี้ 1. เห็ดแดงกุหลาบ 2. เห็ดไข่เหลือง 3. เห็ดระโงกขาว 4. เห็ดโคน 5. เห็ดโคนฟาน 6. เห็ดก่อเหลือง 7. เห็ดกูด 8. เห็ดไข่ 9. เห็ดตับเต่า 10. เห็ดน้ำแป้ง 11. เห็ดหล่มกระเจียว 12. เห็ดข้าวเหนียว 13. เห็ดพุงหมู 14. เห็ดเผาะ (ไม่มีราก) 15. เห็ดมันปู 16. เห็ดจั่น

“ชื่อของเห็ด แต่ละพื้นที่เรียกไม่เหมือนกัน บางชนิดหน้าคล้ายกับเห็ดที่กินได้ ถ้าคนเก็บไม่รู้จักดีพอ ส่วนมากคนไม่ตั้งใจเก็บมากินเพื่อทำร้ายตัวเอง ส่วนใหญ่เก็บเพราะคิดว่ากินได้ เช่น เห็ดระโงกขาวซึ่งเป็นเห็ดกินได้ กับเห็ดระโงกหินที่เป็นเห็ดพิษ ก็จะมีความต่างกันเล็กน้อยที่เยื่อหุ้มดอกเห็ด” แพทย์พิษวิทยา ผู้เชี่ยวชาญยกตัวอย่าง

เห็ดระโงกหินที่บานและมีรอยสัตว์แทะกิน มีพิษถึงตาย
เห็ดระโงกหินที่บานและมีรอยสัตว์แทะกิน มีพิษถึงตาย

ภัยเงียบ “เห็ดพิษ” ออกฤทธิ์ถึงตาย หลังกิน 4 ชั่วโมง

...

กรณีโชคร้าย กินเห็ดพิษเข้าไป หากเป็นเห็ดที่ไม่มีพิษแรง แพทย์พิษวิทยา กล่าวถึงลักษณะอาการ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย และถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ แต่ถ้าเป็นเห็ดที่มีพิษ amatoxin หลังกิน 4 ชั่วโมง จะมีอาการเหมือนเห็ดที่ไม่มีพิษแรง หากไป รพ. ได้รับน้ำเกลือ ยา ก็จะดีขึ้น เหมือนสบายดี แต่ในระหว่างที่ดีขึ้นกลับมีภัยเงียบคุกคาม ตับจะค่อยๆ เริ่มอักเสบมากขึ้น จนตัวเหลือง ตาเหลืองจากนั้นตับเริ่มทำงานได้น้อยลง ทำให้การทำงานของร่างกายเปลี่ยนไป เข้าสู่วันที่ 3 จะเป็นวันที่พีคสุด เพราะตับถูกทำลายหนักจนทำงานไม่ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น มีเลือดเป็นกรด เริ่มซึม การทำงานของตับ และไตอาจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

วิธีช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่ควรซื้อยากินเอง หรือรักษาแบบพื้นบ้าน รีบนำส่ง รพ.ให้เร็วที่สุด และต้องแจ้งประวัติการรับประทานเห็ดโดยละเอียดทั้งชนิดและปริมาณ หากมีตัวอย่างเห็ดที่ยังเหลือมาด้วยยิ่งเป็นการดี กรณีล้วงคอ หรือกรอกไข่ขาวผู้ป่วยให้อาเจียน พึงอย่ากระทำ เพราะกลับยิ่งเพิ่มอาการหากทำไม่ถูกต้อง

“ถ้ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียหลังกินเห็ดให้รีบไป รพ. หรือ รพ.สต. เพื่อได้รับการประเมิน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ปกติจะให้กินผงถ่านเข้าไปดูดซับพิษเพื่อไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย บางทีอาจล้างท้อง หรือตรวจเลือด อย่าล้วงคอเพื่ออาเจียนจะเกิดผลเสียตามมา เช่น ให้คนอื่นล้วงคอ แล้วอาจมีแผลในคอ บางคนกินไข่ขาวหรือของดิบ ก็ยิ่งทำให้ท้องเสียเพิ่ม หรือติดเชื้อได้

3 ความเชื่อผิดๆ ตรวจเช็ก “เห็ดพิษ” 

ชีวิตแพทย์พิษพเนจร ผศ.พญ ธัญจิรา บอกเล่าถึงหน้าที่การงาน หากมีเหตุการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุขต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชน เช่นกรณีปัญหา “เห็ดพิษ” ซึ่งในไทยมีคนทำวิจัยน้อยมากนั้น แพทย์พิษวิทยาจะลงพื้นที่ สำรวจจากเซียนเห็ดว่าแต่ละจังหวัดมีเห็ดชนิดใดกินได้ กินไม่ได้ และไปให้ความรู้กับชาวบ้านและบุคลากรทางการแพทย์ทั้ง รพ.สต. สาธารณสุขอำเภอและจังหวัด ถึงวิธีแยกเห็ดพิษ ไม่พิษ เมื่อได้ข้อมูลเห็ดพิษก็มอบให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เก็บไว้เป็นข้อมูล และนำมาศึกษาวิจัยต่อที่ กทม.โดยมีเป้าหมายสุดท้ายในปี 63 คือ ทำคู่มือเห็ดพิษให้บุคลากรทั่วประเทศใช้ดูแลคนไข้ให้เหมาะสม

ผศ.พญ ธัญจิรา จิรนันทกาญจน์ แพทย์พิษวิทยา ปีนป่ายเขาสูง 1700 เมตร ระยะทาง 10 กิโลเมตรตามหาเห็ดพิษ amatoxin
ผศ.พญ ธัญจิรา จิรนันทกาญจน์ แพทย์พิษวิทยา ปีนป่ายเขาสูง 1700 เมตร ระยะทาง 10 กิโลเมตรตามหาเห็ดพิษ amatoxin

ความเชื่อผิดๆ ของคนบางพื้นที่เพื่อตรวจเช็ก "เห็ดพิษ" จากประสบการณ์และข้อมูลที่ได้พูดคุยคนในพื้นที่ แพทย์พิษวิทยาให้ความกระจ่างแจ้ง ไว้ดังนี้ 1. ความเชื่อว่าเห็ดที่มีรอยแมลงกัดกินแปลว่ากินได้ นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องด้วยคนกับสัตว์ไม่เหมือนกัน เห็ดบางชนิดสัตว์กินได้ คนกินไม่ได้ และบางครั้งสัตว์กินแล้ว ไปตายที่อื่น เพราะอาการไม่ได้ออกฤทธิ์ทันที 2. ความเชื่อว่า นำเห็ดไปต้มกับข้าวสาร หรือข้าวเหนียว หรือหอมแดง แล้วเปลี่ยนสีเป็นเห็ดพิษ ถ้าไม่เปลี่ยนสีแสดงว่าเป็นเห็ดกินได้นั้นไม่เป็นความจริง 3. ความเชื่อว่าเห็ดสีขาวกินได้ เห็ดสีฉูดฉาดเป็นเห็ดพิษนั้นไม่จริง เพราะเห็ดที่มีพิษรุนแรงคือ ระโงกเขียวและมีสีขาว

การกินเห็ดที่ปลอดภัยต้องกินเห็ดที่สุกเท่านั้น
การกินเห็ดที่ปลอดภัยต้องกินเห็ดที่สุกเท่านั้น

สำหรับคำเตือนในการเลือกรับประทานเห็ด แพทย์พิษวิทยา ผู้มากประสบการณ์กว่า 20 ปี แนะนำดังนี้ 1. ให้เก็บเห็ดเฉพาะที่มั่นใจว่ากินได้ 2. หลีกเลี่ยงการเก็บเห็ดที่เป็นดอกตูม เนื่องจากแยกยากว่ากินได้ หรือมีพิษ 3. หากนำเห็ดมาประกอบอาหาร ควรปฏิบัติดังนี้ ให้กินเห็ดที่มีสภาพดี ล้างให้สะอาดให้เร็วที่สุด เนื่องจากเห็ดเสื่อมสภาพเร็ว หากเริ่มเหี่ยว มีเมือก อย่ากิน และต้องปรุงให้สุกก่อนกิน อย่ากินเห็ดดิบ เพราะเห็ดบางชนิดยังจะมีพิษอย่างอ่อนเหลืออยู่ ผู้รับประทานจะไม่รู้สึกตัวว่ามีพิษ จนเมื่อรับประทานหลายครั้งก็สะสมพิษมากขึ้น และเป็นพิษร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตได้ในภายหลัง 4. แม้กรณีนี้ไม่ได้เกิดบ่อยก็ตาม แต่อย่ารับประทานเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา หรือหากดื่มสุราหลังจากรับประทานเห็ดแล้วภายใน 3 วัน เพราะเห็ดบางชนิดจะเกิดพิษทันที และสุราจะเป็นตัวช่วยให้เกิดพิษรุนแรงกระจายได้รวดเร็ว

หากนำเห็ดมาประกอบอาหาร ควรกินเห็ดที่มีสภาพดีและล้างให้สะอาด
หากนำเห็ดมาประกอบอาหาร ควรกินเห็ดที่มีสภาพดีและล้างให้สะอาด

“ห้ามคนไม่ให้เก็บเห็ดไม่ได้หรอก บางคนบอกว่าก็อย่าไปเก็บสิ จากการได้ไปคุยกับคนเก็บ ดอกบานพอแยกได้ว่ามีพิษหรือไม่มี แต่ก็ต้องมีความรู้สั่งสมภูมิปัญญามา บางครั้งคนตายก็ไม่ได้เป็นคนไปเก็บเห็ด ถ้าไม่แน่ใจ หรือคนอื่นเก็บเห็ดมาเอามาต้มแล้วชวนกินก็ควรปฏิเสธ เพราะเห็ดยิ่งต้มไปแล้วยิ่งดูยาก" แพทย์พิษวิทยาแนะนำ

ผศ.พญ.ธัญจิรา จิระนันทกาญจน์ และคณะทำงาน ประชุมองค์ความรู้เรื่องเห็ดที่ต้องต่อยอดต่อไป เพื่อจัดทำ
ผศ.พญ.ธัญจิรา จิระนันทกาญจน์ และคณะทำงาน ประชุมองค์ความรู้เรื่องเห็ดที่ต้องต่อยอดต่อไป เพื่อจัดทำ "คู่มือเห็ดพิษ" สรุปผลการดำเนินโครงการและแนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเห็ดพิษ ที่ จ.อุบลราชธานี ช่วยลดอัตราตายได้

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่

reporter.thairath@gmail.com  หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ