ต้องเปลี่ยนโค้ชไหม? บอลไทยได้บทเรียนอะไรจากการตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ ในประวัติศาสตร์ 24 ปี … ไปฟัง ‘โค้ชเฮง’ วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค ส.ฟุตบอลไทย วิเคราะห์แบบตรงไปตรงมา!
หลังจากที่ “ทัพช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ตกรอบแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยนัดแรก เสมอกาตาร์ 1-1 นัดที่สอง เสมอกับบังกลาเทศ 1-1 และนัดสุดท้าย แพ้อุซเบกิสถาน 0-1 ทำให้ทีมชาติไทยมีคะแนนเพียงแค่ 2 แต้ม จากการแข่งขันทั้งหมด 3 นัด จบแค่อันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่มบี ซึ่งนับเป็นการตกรอบแรก เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี จากครั้งสุดท้ายในการแข่งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมฟุตบอลฯ ถึงปมเหตุความผิดหวังของแฟนบอลชาวไทยในครั้งนี้...
...
ไม่ได้ซ้อม! ปมเหตุตกรอบแรกเอเชียนเกมส์
ในฐานะประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมฟุตบอลฯ วิเคราะห์ปมเหตุช้างศึกตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ 2018 ว่า ปัจจัยหลักๆ คือ ผู้เล่นส่วนใหญ่ล้ามากจากการเล่นลีก และไม่มีการเตรียมตัว
“ผมคิดว่า ปัจจัยหลักๆ คือ การไม่ได้เตรียมตัว บอกตรงๆ ว่าการแข่งขันครั้งนี้ เด็กไม่ได้ซ้อมอะไรเลย หลายสโมสรไม่ปล่อยตัวนักเตะเพราะยังต้องแข่งขันกันอยู่ในลีก และก่อนจะบินไป 1 วันก็ได้มาพร้อมหน้ากัน ทำให้ช้างศึกชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ไม่ได้ซ้อมเพื่อไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 เลยส่วนเรื่องแผนการเล่นก็อยู่ในหัวข้อการเตรียมตัวว่าจะเล่นแบบไหน หากบอกให้นักเตะเล่นตามแผนนี้โดยที่ไม่มีการฝึกซ้อมมันก็ทำให้เด็กสับสนมากกว่าครับ”
ไขเหตุไม่ส่งนักเตะรุ่นพี่ประคองทีม?
สำหรับการแข่งฟุตบอลในกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น จะมีโควตาให้สามารถส่งนักเตะอายุเกิน 23 ปีลงแข่งด้วยได้ แต่ครั้งนี้โค้ชโย่งไม่ได้ส่งไป ประเด็นดังกล่าว ประธานเทคนิค สมาคมฟุตบอลฯ มองว่า “ต้องดูว่านักเตะที่อายุเกินมีความสามารถมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจริงๆ ก็ตั้งใจจะส่งชื่อไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ ชนาธิป อุ้ม ธีราธร แต่ก็ติดภารกิจ ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ก็มีปัญหาเรื่องการแข่งลีก จะเห็นว่านักเตะมีอาการเหนื่อยล้า ซึ่งโค้ชโย่งก็จะคัดนักเตะที่มีโอกาสเล่นในลีกเยอะที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องไปปรับในเรื่องของความฟิต
แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับโค้ช เพราะการคัดเลือกนักเตะไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย เพราะมีหน้าที่ตรวจสอบ ให้คำแนะนำ สนับสนุนเท่านั้น ซึ่งได้ให้คำแนะนำในเรื่องของข้อมูลคู่ต่อสู้ วิเคราะห์ข้อบกพร่องของทีม ถามว่าเขาได้นำไปปรับใช้บ้างไหม ก็ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะว่าเราไม่ได้ฝึกอะไรเลย”
นอกจากนี้ ประเด็นที่โค้ชเข้ามาคุมทีมไม่ต่อเนื่อง เพราะหลังจากจบซีเกมส์ โค้ชโย่งถูกเด้ง แล้วให้โซรัน ยานโควิช เข้ามาคุมทีมช้างศึก U23 ลุยชิงแชมป์เอเชียแทน แต่หลังจากที่ผลงานไม่ดีก็ถูกเด้ง และให้โค้ชโย่งเข้ามาคุมอีกครั้ง โค้ชเฮง มองว่า ประเด็นดังกล่าวก็มีส่วนในเรื่องของการเตรียมตัวเช่นกัน
เฮงซัง เชื่อ นักเตะมีความสามารถ แต่ขาดการฝึกซ้อม
ผลงานที่ผ่านมาของช้างศึก จะต้องปรับแก้จุดใดบ้างนั้น ประธานฝ่ายเทคนิค สมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า “จากที่ผมมอง จะปรับแก้ก็คือ เรื่องเวลาการซ้อม เนื่องจากทีมเรามีความสามารถอยู่แล้ว ต่อมาก็เป็นเรื่องของแท็กติกต่างๆ ถ้าไม่ได้ฝึกซ้อม เมื่อลงไปเล่นก็เล่นไม่ได้หรอกครับ ดังนั้น ปัญหาหลักๆ คือ นักเตะไม่ได้ซ้อม”
...
ถอดบทเรียนเอเชียนเกมส์ 2018 นักเตะต้องวิเคราะห์ข้อบกพร่อง และพัฒนาตัวเอง
สำหรับบทเรียนจากการตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ โค้ชเฮง ให้ความเห็นว่า คงเป็นเรื่องของฝ่ายจัดการแข่งขัน และมีเวลามากน้อยแค่ไหน รวมทั้ง นักเตะแต่ละคนจะพัฒนาตัวเองอย่างไร เพราะว่าการพัฒนาของนักเตะแต่ละคนเริ่มจากสโมสร จะก้าวกระโดดมาทีมชาติเลยไม่ได้ เพราะฉะนั้น ข้อบกพร่องต่างๆ ผู้เล่นจะต้องวิเคราะห์ข้อบกพร่องของตัวเอง และไปฝึกพัฒนาต่อไป
เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่าง 4 ปีก่อนกับวันนี้ โค้ชเฮง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “คนละเรื่องเลยครับ เมื่อก่อนมันมีเวลาเตรียมตัวเยอะมาก แต่ครั้งนี้ไม่มีเลย”
...
ปธ.เทคนิคฯ ชี้ มูรินโย่ง ยังเหมาะคุมทีม ขอเพียงเวลา
ในฐานะประธานฝ่ายเทคนิค คิดว่า ต้องเปลี่ยนโค้ชไหม? โค้ชเฮง กล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องอยู่ในที่ประชุมครับ...ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า เขายังเหมาะที่จะคุมชุดนี้ ถ้าให้เวลาเขา อีกทั้ง เขายังรู้จักนักฟุตบอลเยอะมาก เป็นคนที่ควบคุมผู้เล่นได้ดี”
ส.บอลฯ จ่อลดไทยลีกเหลือ 16 ทีม เอื้อซ้อมทีมชาติ
สำหรับแนวทางในอนาคตเรื่องการซ้อมของทีมชาติไทยนั้น โค้ชเฮง กล่าวว่า สมาคมพยายามปรับปรุงเรื่องนี้อยู่ โดยการลดทีมในลีกลง จาก 18 ทีม เหลือ 16 ทีม ซึ่งต้องดูว่าการลดทีมจะช่วยอำนวยเวลาให้แก่ทีมชาติมากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่า ผลเสียก็คงมีน้อยกว่าผลดี เพราะผลดีก็คือจะเป็นลีกที่แข่งแกร่งขึ้น มีการแข่งขันสูงขึ้น และคุณภาพฟุตบอลไทยก็จะดีขึ้น มีเวลาให้ทีมชาติด้วย และถ้าลดทีมแล้วมีเวลา ไม่ว่าอย่างไรสโมสรก็ต้องปล่อยอยู่แล้ว เพราะว่า มันเป็นกฎกติการของฟีฟ่า ที่จะต้องปล่อยผู้เล่นมาฝึกซ้อมให้กับทีมชาติ
...
วอน แฟนบอล วิจารณ์ได้ ขอให้ใช้สมองมากกว่าหัวใจ!
แน่นอนว่า การตกรอบแรกในรอบ 24 ปีของทีมชาติไทยในการแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น แฟนบอลย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา โค้ชเฮง กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทุกคนสามารถใช้มือพิมพ์วิจารณ์อะไรก็ได้ แต่อยากให้ใช้สมองตัดสินใจ ไม่ใช่ใช้หัวใจ นักบอลแต่ละคนเขามีความตั้งใจอยู่แล้ว เราต้องให้กำลังใจกัน ผมเห็นแต่ละคนกินข้าวแทบไม่ลง เพราะทุกคนมีโทรศัพท์ในมืออยู่แล้ว มันไม่มีใครทุกคนที่จะรับมือกับการวิจารณ์เสียหายแบบนี้ได้
อีกทั้ง สมาคมฯ เพิ่งเริ่มมาได้แค่ 4 ปี การปรับจูนในเรื่องของลีก สโมสร ผู้ฝึกสอน และโค้ช เพิ่งมาทำจริงๆ จังๆ เราอย่าไปเอาอดีต เพราะ อดีตมันเป็นเรื่องที่น่าจดจำ แต่ว่าปัจจุบัน และอนาคตมันสำคัญกว่า”
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวเอเชียนเกมส์ทั้งหมด คลิก