“รางวัลเป็นเพียงสิ่งตอบแทนอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งสำคัญในการทำงานวิจัย
แต่ความรู้ที่ได้ต่างหาก คือ สิ่งสำคัญที่ได้ทำ”
รศ.(พิเศษ) ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เมื่อมีแพทย์ชาวไทยขึ้นไปผงาดโชว์ผลงานวิจัยในงาน ISHRS Poster Awards 2017 ที่จัดโดยสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery) โดยในงานนี้ รศ.(พิเศษ) ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป อาจารย์ประจำ สาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตัวแทนของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้ส่งบทความพิเศษ เพื่อการนำเสนองานวิจัย (ประเภทโปสเตอร์) ในหัวข้อวิจัย "Proteomic Analysis in Dermal Papilla from Male Androgenetic Alopecia After Treatment with Low Level Laser Therapy"
ทั้งนี้ พญ.รัชต์ธร คว้ารางวัลที่ 1 ในประเภทงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในรูปแบบของโปสเตอร์ ซึ่งเป็นงานวิจัยชิ้นแรกในเอเชีย ในการยืนยันประสิทธิภาพของกระบวนการยิงด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ เพื่อขจัดปัญหาโรคผมร่วงที่เกิดจากพันธุกรรม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่าการใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมนั้น ให้ผลดีที่ 24 สัปดาห์ โดยความสำเร็จครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการศึกษาในประเทศไทย
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัวคุณหมอสุดสวยมาให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จในครั้งนี้ด้วย...
...
จากเด็กหญิงผู้มีความฝันอยากเป็นหมอ สู่ที่ 1 ผลงานวิจัยรักษาผมร่วงระดับโลก!
ตอนเด็กๆ หลายคนมีความฝันอยากจะเป็นหมอ วิศวกร แอร์โฮสเตส นักแสดง หรืออาชีพอื่นๆ แต่มีเด็กจำนวนไม่มากที่โตขึ้นแล้วสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ สุภาพสตรีท่านนี้ก็เช่นกัน เมื่อครั้งยังอายุไม่กี่ขวบ เธอเองมีความฝันอยากจะเป็นหมอ และเชื่อมั้ยว่า เธอไม่ใช่แค่ทำมันได้สำเร็จ แต่ยังทำได้ดีจนโด่งดังในระดับโลกด้วย!
รศ.(พิเศษ) ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป หรือที่คนไข้เรียกกันสั้นๆ ว่า “หมอโบนัส” อายุ 38 ปี จบจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะมาเรียนต่อแพทย์ จุฬาฯ 6 ปี และเรียนด้านแพทย์ผิวหนัง จุฬาฯ จากนั้น จึงเรียนต่อสาขาศัลยศาสตร์เลเซอร์ผิวหนัง ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ปี และไปเรียนด้านการปลูกผมจากอเมริกา หากจะให้บรรยายถึงประวัติการศึกษา การทำงาน รวมทั้งผลงานวิจัยที่ผ่านๆมากว่า 40 ชิ้น ก็คงจะยาวเหยียดบรรยายไม่หมดในรายงานพิเศษนี้แน่ๆ
“โรคผิวหนังคนมักดูแต่ผิวเผิน คิดว่ามีแต่ความสวยงาม แต่แท้จริงแล้วยังมีอีกมากมาย และเราก็ชอบเรียนเรื่องผมมาตั้งนานแล้ว หลังจากเรียนศัลยศาสตร์เลเซอร์ผิวหนังจบ จึงสนใจมาเรียนทางด้านปลูกผมต่อ และปัจจุบันก็ทำงานด้านนี้ประมาณ 40% ของเวลาทำงานทั้งหมดเลยค่ะ” หมอโบนัส เล่าอย่างเป็นกันเอง
3 สาเหตุสำคัญอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องงานวิจัย หมอโบนัส ขออธิบายถึง สาเหตุของอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ว่า เกิดจาก....
1.พันธุกรรม : ยีนตกทอดจากพ่อแม่ ปัจจุบันการรักษาด้วยยีนบำบัด (Gene Therapy) ยังไม่สามารถรักษาได้ เทคโนโลยียังไปไม่ถึง ดังนั้น จึงต้องใช้ยาชะลอไปเรื่อยๆ เพราะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้
2.ฮอร์โมนเพศชาย : มียาที่สามารถยับยั้งฮอร์โมนเพศชายที่กินกันอยู่ทุกวันนี้ได้ แต่ว่าจะมีผลข้างเคียงที่ผู้ชายไม่ชอบ คือ เรื่องสมรรถภาพทางเพศลดลง แม้จะไม่ได้เกิดมากเพียง 3 ใน 100 คน แต่ผู้ชายก็มีความกังวล ซึ่งแพทย์ไม่เคยไม่ให้ยา แต่จะยังให้ยาเป็นหลักอยู่ไม่ใช่ทำเลเซอร์อย่างเดียว โดยมียากิน หรือยาทาบ้าง สำหรับยาที่ได้รับการยอมรับมี 2 ชนิด คือ ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) และ ไมนอกซิดิล (Minoxidil)
...
3.สิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยหลักๆ แล้วจะเกิดจากความเครียด แสงแดด การอักเสบที่หนังศีรษะ บางคนหนังศีรษะมันแล้วเกิดการอักเสบ หรือที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “หัวมันผมก็จะร่วงง่าย” ซึ่งปัจจุบันเชื่อว่า สาเหตุต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เกิดการอักเสบที่หนังศีรษะและทำให้เกิดผมร่วง
“ต้องเข้าใจว่า โรคนี้รักษาไม่หายขาด และไม่ได้เกิดจากสาเหตุข้อใดข้อหนึ่ง แต่เกิดจากทุกสาเหตุร่วมกัน ซึ่งคนไทยเป็นโรคนี้เยอะ ส่วนใหญ่จะพบในผู้ชายที่อายุ 50 ปีขึ้นไปพบได้ถึง 50% ส่วนผู้หญิงจะน้อยกว่า ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป พบได้ 30%” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง อธิบาย
...
ยากิน ยาทา ผ่าตัดปลูกผม...สู่ทางเลือกใหม่ใช้แสงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำรักษา
เมื่อถามถึงที่มาที่ไป แรงบันดาลใจ ในการผลิตงานวิจัยชิ้นนี้ พญ.รัชต์ธร เริ่มเล่าว่า...อาการผมบางที่เกิดจากพันธุกรรมเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เพราะเป็นการเกิดจากพันธุกรรม เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย และในปัจจุบันการรักษาผมร่วงมีจำกัด แค่ 3 วิธี คือ ยากิน ยาทา และการผ่าตัดปลูกผม ซึ่งคนไข้หลายคนไม่ชอบกินยา เพราะ ถ้ากินยาแล้วได้ผลจะต้องกินนานไปตลอดชีวิต หรือจนถึงอายุหนึ่งที่คิดว่า อายุมากแล้ว ทำใจได้แล้ว จึงเลิกกินยา
ทำให้มีคนไข้กลุ่มหนึ่งที่ไม่อยากกินยา และไม่อยากผ่าตัดปลูกผม ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่เยอะ จึงหันมาใช้วิธีการทำเลเซอร์ ซึ่งแสงเลเซอร์ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ครั้งแรกในปี 2007 โดยแพทย์จากต่างประเทศเป็นผู้คิดค้นตั้งแต่ปี 1967 มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำมาฉายบนหลังหนู เพื่อทดลองว่าจะเกิดเซลล์มะเร็งหรือไม่ ผลปรากฏว่า ไม่เกิดมะเร็ง แต่ทำให้ขนขึ้น หลังจากนั้น จึงมีคนนำแสงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำมาใช้รักษาผมร่วง
...
และก่อนหน้านี้ มีเครื่องรักษาออกมาในท้องตลาดมากมาย มีการศึกษาในคนจริงๆ แต่เป็นต่างชาติ แต่ปัญหาคือ คนไทยมีสีผม สีผิว ไม่เหมือนกัน เวลาที่ผมขาว หนังศีรษะขาว แสงจะลงไปได้ดี ต่างจากคนผิวสีดำ ผมดำ คนก็เลยตั้งคำถามกันว่า...
แสงจะสามารถลงไปถึงรากผมหรือเปล่า และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ หรือแค่การขายของเท่านั้น? จึงเป็นที่มาของการศึกษาวิจัยเรื่องนี้
“ที่ผ่านมา ในโลกนี้ยังไม่เคยมีงานวิจัยจากการตัดชิ้นเนื้อของมนุษย์จริงๆ ไปตรวจเลย มีแต่การวิจัยในเซลล์อื่นที่ไม่ใช่เซลล์ผม หรือทำในเซลล์ทดลอง ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยเซลล์ผมชิ้นแรก ที่พิสูจน์ หรือ ยืนยันประสิทธิภาพของเลเซอร์ชนิดนี้ว่า ได้ผลกับมนุษย์จริงๆ” หมอโบนัส เล่าถึงที่มาของวิจัยระดับโลก
เผยวิธีรักษาโรคด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ ตัดชิ้นเนื้อตรวจสอบจริง!
สำหรับงานวิจัย Low Level Laser Therapy (LLLT) หรือการใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมขึ้นมาใหม่นั้น จะมีการตัดชิ้นเนื้อหนังศีรษะของคนไข้ในบริเวณที่ผมบาง ขนาด 4 มม. ก่อน จากนั้น จะให้หมวกฉายแสงแก่คนไข้ให้นำกลับไปฉายแสงที่บ้าน ผ่านไป 24 สัปดาห์ หลังจากนั้น จะตัดชิ้นเนื้อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
และนอกจากจะเก็บผลการตัดชิ้นเนื้อแล้ว ยังเก็บปริมาณผมด้วยว่าดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร โดยต้องติดตามคนไข้ 6 เดือน ส่วนกระบวนการทำงานวิจัยชิ้นนี้ทั้งหมดใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ปี
ส่วนผลข้างเคียงของการทำเลเซอร์นั้น ไม่มี...เพราะว่า เลเซอร์เป็นตัวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา โดยผ่าน FDA 510(k) คือมีความน่าเชื่อถือในด้านความปลอดภัย ซึ่งการใช้แสงเลเซอร์อยู่ในประเภทที่สามารถนำไปใช้ที่บ้านได้ด้วย
“กระบวนการทั้งหมดไม่มีผลข้างเคียง และปลอดภัย เนื่องด้วยแสงเลเซอร์ที่ใช้ผ่าน FDA และมีความเข้มข้นต่ำ และหมวกก็มีความปลอดภัยเช่นเดียวกัน โดยใส่อยู่ที่หัวจึงจะมีแสง เมื่อยกออกจากหัวแสงก็จะดับ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวว่าคนจะไปมองแสงด้วยตาเปล่า ซึ่งมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะมีอันตรายต่อดวงตา” เจ้าของงานวิจัย ระบุ
ผลการวิจัย ใช้เลเซอร์กระตุ้นได้ผลดีที่ 24 สัปดาห์ หญิงได้ผลกว่าชาย!
จากการศึกษาวิจัยโดยการใช้เลเซอร์จากหมวกอย่างเดียว ไม่ได้ใช้การรักษาด้วยยากิน ยาทา หรือวิธีอื่นใด ในคนไข้ 20 คน ผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 10 คน นั้น พบว่า การใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมนั้นให้ผลดีที่ 24 สัปดาห์
นอกจากนี้ ยังพบว่าการรักษาด้วยเลเซอร์จากหมวกอย่างเดียว ผู้หญิงจะได้ผลดีกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงไม่มียากินที่เป็นที่ยอมรับ หรือให้ยาที่ไปยับยั้งฮอร์โมนเพศชายไม่ได้ เพราะหากเกิดการตั้งครรภ์ และลูกในครรภ์เป็นผู้ชาย ลูกจะกลายเป็นอวัยวะเพศกำกวม หมายความว่า เพศที่ปรากฏออกมาหรืออวัยวะเพศที่ปรากฏออกมานั้นไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง อาจจะมีทั้ง 2 เพศอยู่ในที่เดียวกัน เพราะว่ายาตัวนี้จะไปยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย จึงใช้วิธีการทายาได้เพียงอย่างเดียว ทำให้ผู้หญิงไม่ค่อยมีตัวเลือกในการรักษา
แตกต่างจากผู้ชาย จะมี 3 ตัวเลือก คือ ยาทา ยากิน หมวก ซึ่งการใช้ยากินผู้ชายจะได้ผลดีกว่าผู้หญิง
แต่อย่างไรก็ตาม เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำในการกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างเส้นผมนั้น เหมาะสำหรับคนไข้ที่เป็นน้อยหรือปานกลาง เท่านั้น!!!
“ที่สำคัญที่สุด เลเซอร์เหล่านี้ต้องใช้ไปเรื่อยๆ เหมือนกับเราใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ วันที่เราใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้จะเติบโต แต่วันที่เราไม่ใส่ปุ๋ยไม่ใส่น้ำ ต้นไม้ก็กลับมาแห้งเหี่ยวเหมือนเดิม การรักษาผมก็เช่นกัน คนไข้ต้องใช้เลเซอร์ไปเรื่อยๆ เพราะการรักษาต้องการความสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติหมอแนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละ 20 นาที” รศ.(พิเศษ) ดร.พญ.รัชต์ธร ให้คำแนะนำ
ความสำเร็จเป็นของคนที่ไม่หยุดค้นคว้า!
กว่าจะก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย หมอโบนัส เล่าถึงเส้นทางแห่งความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยว่า ทั้งชีวิตนี้ได้ทำงานวิจัยมากว่า 40 เรื่องแล้ว และรักษาคนไข้มานับพันราย ซึ่งงานวิจัยเป็นเรื่องที่ท้าทาย ได้รับความรู้ใหม่ๆ สามารถตอบคำถามในสิ่งที่เราไม่ทราบคำตอบได้
จากการที่เป็นคนชอบศึกษาวิจัย และชอบค้นคว้าหาคำตอบ จึงได้ส่งงานวิจัยไปประกวดใน ISHRS ซึ่งเป็นสถานบันที่มีแพทย์ปลูกผมทั่วโลก โดยส่งงานวิจัยที่ทำมาแล้วหลายครั้ง กระทั่ง ปีนี้ได้รับรางวัลที่ 1 ในที่สุด
“รู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะว่ายังไม่เคยมีคนไทยได้รางวัลนี้เลย และปกติเมื่อไปอยู่บนเวทีระดับโลก ต้องยอมรับว่าคนเอเชียก็ยังเป็นรองฝรั่งอยู่ แต่วันนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แพทย์ไทยก็ไม่แพ้ชาติอื่น สามารถไปยืนในจุดนั้นได้เหมือนกัน แล้ววันที่ได้รับรางวัลก็เป็นวันเกิดเราด้วย ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ภาคภูมิใจที่สุดเลยค่ะ” หมอโบนัส กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ถามว่าประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตหรือยัง? หมอโบนัส หัวเราะก่อนตอบว่า “จริงๆ มันก็ยังไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จที่สุดนะคะ ชีวิตเราก็ต้องมุ่งมั่นทำต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งรางวัลเป็นเพียงสิ่งตอบแทนอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งสำคัญในการทำงานวิจัย แต่ความรู้ที่ได้ต่างหาก คือ สิ่งสำคัญที่ได้ทำ และจะเป็นสิ่งที่เผยแพร่ออกไปสู่โลกด้วยค่ะ”
ท้ายที่สุดนี้ หมอโบนัส ยังฝากความห่วงใยไปยังผู้ที่อ่านรายงานพิเศษชิ้นนี้ ด้วยว่า “หากมีปัญหาผมร่วงหรือมีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาผมบางจากพันธุกรรมเริ่มแรก อยากให้มาตรวจรักษาก่อน เพราะบางทีสมุนไพรที่ขายตามท้องตลาดมีเป็นพันกว่ายี่ห้อ แต่ก็ไม่รู้ว่าได้ผลจริงหรือไม่จริง ซึ่งมีคนไข้ส่วนหนึ่งไปเสียเวลากับเรื่องนี้ เป็นสิบๆ ปี จนผมร่วงถึงขนาดที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเวลา ดังนั้น ให้มาปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุดดีกว่านะคะ”
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน