เสียชะโดล่าฉลาม! ระดับผู้การฯวุฒิภาวะน้อย แผลเน่าสีกากี

“ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ใครที่เป็นตำรวจชั่ว ตำรวจเลวต้องออก!!!” คำสัตย์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่กล่าวกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่กำลังติดตามคดีหวย 30 ล้าน เป็นได้แค่วาทกรรมชั่วข้ามคืนเท่านั้น เมื่อวันนี้ ผบ.แป๊ะ นำทีมแถลงเวลาเดิม คาดโทษผู้การฯเมืองกาญจน์ มาตรา 157 โดยให้เหตุผลว่า การทำงานมีวุฒิภาวะต่ำ ขาดประสบการณ์ หลังมีทนายออกมาให้ข่าวจนผู้การฯตกใจ กอดคอครูปรีชาไปจบที่ศาล

ส่วนตำรวจภาค 7 เป็นไปตามความคาดหมาย ด้วยประโยคที่ว่า “ติดกระดุมเม็ดบนผิด เม็ดที่ 2 ที่ 3 ก็ผิด เรื่องมันเริ่มต้นที่เมืองกาญจน์” เป็นอันว่าจบ ... รอดตัวอย่างหวุดหวิดสำหรับทีมตำรวจภาค 7 ที่ออกมาแถลงเพิ่มพยานขึ้นมาอีก 40 ปาก เพื่อให้สอดคล้องกลมกลืนกันเข้าไปอีก จนชี้ว่าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา ทั้งที่ทางกองปราบปรามได้ช่วยทำคดีและสรุปส่งคืนไปให้ภาค 7 แล้ว แต่กลับไม่มีบทลงโทษกับการดำเนินการตรงนี้แต่อย่างใด...

หลังจบการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวรีบยกหูโทรศัพท์สอบถามไปยัง ผู้การฯวิสุทธิ์ วานิชบุตร อดีตนายตำรวจมือฉมัง และ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการปฏิรูปตำรวจ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ มองเกมดำเนินคดีใหญ่ที่คนจับตาทั้งประเทศ

...

ใคร คือ เบื้องหลังคดีหวย?

เป็นไปได้ไหม? ที่ครู กับ แม่ค้า จะสามารถสร้างแผนประทุษกรรมขนาดมีพยานรู้เห็นการซื้อขายลอตเตอรี่ ได้มากมายถึง 45 ปาก และยังให้การสอดคล้อง กลมกลืนกัน ผู้สื่อข่าวตั้งคำถาม

พ.ต.อ.วิรุตม์ ตอบว่า “เรื่องนี้มันมีคำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว การที่อยู่ดีๆ คนหนึ่งถูกหวยแล้วไปมโนว่า หวยหายไปเมื่อวันไหนที่ไหน มันทำกันง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ มันเป็นไปไม่ได้ เมื่อมันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน ก็เกิดการแต่งพยานขึ้นมาเพื่อจะเอาข้อหาอาญายัดจรูญ ซึ่งเบื้องหลังเป็นใครก็น่าจะดูออก เพราะปรีชาเขาไปแต่งสำนวนไม่ได้ เขาไม่มีอำนาจ ส่วนซองใส่ลอตเตอรี่ที่หายไป เรื่องไปถึงไหนแล้ว ใครขโมยจากลิ้นชักของพนักงานสอบสวน”

พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี

ยุ่งเกี่ยวสำนวน เร่งทำคดี ปกปิดแผลเน่า เรื่องคาววงการสีกากี

พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ปัญหาของการเร่งทำสำนวนเพื่อให้พ้นตัวตำรวจ เพื่อไปสู้กันในศาล เกิดขึ้นประจำในวงการสีกากี เป็นการปฏิบัติไม่ชอบก็โยนไปให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ จุดประสงค์เพื่อไม่ต้องการให้แผลเน่ามันโผล่ขึ้นมาในขณะนี้ พยายามทำให้คลุมเครือแล้วไปสู้กันในศาลอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพราะมันจะส่งผลต่อการปฏิรูปตำรวจ ตรงนี้เลยออกมาเป็นเพียงเรื่องบกพร่องในการทำหน้าที่เล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ โดยปกติแล้วระดับผู้บังคับการจังหวัด จะไม่เข้าไปยุ่ง และนี่คือ ปัญหาระบบสอบสวนอีกเรื่องหนึ่ง การเข้าไปยุ่งในกระบวนการสอบสวนโดยที่ไม่มีหน้าที่ ซึ่งผู้การฯถือว่าไม่มีหน้าที่ เพราะไม่ได้รับผิดชอบการสอบสวน ไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ดังนั้น การที่เรียกไปวุ่นวาย สั่งด้วยวาจา โดยไม่มีส่วนในการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นแบบนี้ทั้งประเทศ จึงเป็นปัญหาเชิงระบบที่ต้องปฏิรูปตำรวจ

กันเป็นพยาน ประกาศ ป.ป.ช. ใช้เพื่อล่าคนอยู่เบื้องหลังระดับหัวหน้า..

ด้าน ผู้การฯวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทางหน่วยงาน ป.ป.ช. เขามีประกาศ กรณีกันตัวเป็นพยานไว้ โดยมีเจตนารมณ์เพื่อนำมาใช้จัดการกับพวก “หัวหน้า” ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหน่วยงานไหนในประเทศ เมื่อได้รับการร้องเรียน จะต้องทำสำนวนให้เสร็จและส่งเรื่องภายใน 30 วัน

...

เนื่องจากคดีนี้มีการโอนย้าย จากภาค 7 มาที่กองปราบ พอกองปราบดำเนินคดีนี้ ก็ไปเจอว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ผิดตามมาตรา 157 จึงส่งให้ ปปป. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ด้วยเหตุนี้จึงนำระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อกันเป็นพยาน

ผู้การฯวิสุทธิ์ ได้ยกตัวอย่างเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดๆ

สมมติว่า เรามีผู้ต้องหาในคดีนี้ 3 คน ปลาฉลาม ปลาชะโด และปลาช่อน..

ปลาฉลาม คือนายใหญ่ หากเราจะต้องการเล่นงานให้ถึงตัวการใหญ่ เราก็จำเป็นต้องเสียปลาชะโด และปลาช่อน ด้วยการกันตัวเป็นพยาน

เพราะตามกระบวนการยุติธรรมนั้น หากยังอยู่ในชั้นสอบสวน เราจะเรียกเขาว่าเป็น “ผู้ต้องหา” แต่เมื่อมาถึงกระบวนการในชั้นศาล เราจะเรียกผู้ต้องหา ว่า “จำเลย”

ซึ่งตามกฎหมายแล้ว เราไม่สามารถนำจำเลยมาเป็นพยานได้

“ฉะนั้นเราจึงต้องให้ ปลาชะโด กับ ปลาช่อน ไปเป็นพยานได้ เพื่อที่จะล่าตัวปลาฉลาม ตามเจตนารมณ์ ตามประกาศของ ป.ป.ช.”

...

แต่...ถามว่า แค่ปลาช่อน มาเป็นพยานได้หรือไม่ ผู้การฯวิสุทธิ์ ตอบสวนทันควัน “ได้!” แต่พยานที่มาให้การอาจจะไม่เพียงพอ ที่จะมัด เอาผิดกับทั้ง 2 ได้ ก็อาจจะทำให้คดีนี้หลุดไป...

นอกจากนี้ ผู้การฯวิสุทธิ์ ยังได้ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการสอบสวนด้วยว่า การดำเนินคดีในส่วนนี้ จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการ หากอัยการเห็นด้วยก็จะดำเนินการส่งฟ้องในชั้นศาล หากอัยการเห็นว่าควรจะดำเนินการส่งฟ้องกับทั้ง 3 คน ก็ต้องไปหาพยานคนอื่นมาเสริม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องยาก เพราะเจ้า “ปลาชะโด” ดันคลายทุกอย่างออกมาหมดแล้ว..

ผู้การฯวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งนัยให้คิดตาม...

การดำเนินคดีแยกกันระหว่าง คดีอาญา กับ ทางวินัย

ผู้การฯวิสุทธิ์ ยังอธิบายต่อว่า สำหรับประกาศของ ป.ป.ช. นั้น แตกต่างจาก ป.วิอาญา ถ้าตามกฎหมาย ป.วิอาญา เราไม่สามารถกันผู้ต้องหามาเป็นพยานได้ เพราะกฎหมาย ป.วิอาญา นั้น มีเจตนารมณ์การใช้แตกต่างกัน เช่น ถูกจับคดียาบ้า จะกันตัวผู้ต้องหามาเป็นพยานในคดียาบ้าไม่ได้...!

...

ทั้งหมดนี้คือ การดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 ซึ่งทาง ปปป. จะต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แล้วส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. จากนั้น ป.ป.ช. ก็จะไปพิจารณาต่อ ก่อนส่งให้อัยการ และส่งศาลในคดีทุจริต ซึ่งนี่คือทางอาญา

แต่สำหรับ ทางวินัย นั้น เนื่องจากกาญจนบุรี สังกัดในการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ และ ก.ตร. ก็ต้องส่งเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นคนตั้งกรรมการสอบสวนวินัย..

ถ้ากรรมการพิจารณาแล้วก็จะต้องมีคำสั่งกันต่อไป..ไล่ตั้งแต่ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก ซึ่งการกระทำดังกล่าว ส่วนตัวมองว่า “น่าจะผิดวินัยร้ายแรง น่าจะต้องให้ออกจากราชการ”

ถามว่าจะช่วยกันได้ยังไง..ทำแบบนี้แล้วลงโทษภาคทัณฑ์หรือ..? เพราะสังคมจับตาอยู่

ถามว่าจะช่วยได้ไหม ก็ช่วยได้ ด้วยการอ้างว่าถูกฟ้องทางอาญาก่อน ให้รอผลทางอาญา.. ตอนนี้ยังถือว่ากระทำการโดยสุจริตจนกว่าจะมีคำพิพากษา... จะเอาแบบนี้หรือ?

เป็นตำรวจใหญ่ วุฒิภาวะน้อย ด้อยประสบการณ์ ใครผิด!?

“สำหรับประเด็นสำคัญ ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ที่มาแถลงเองว่า นายตำรวจคนนี้มันด้อยประสบการณ์ วุฒิภาวะน้อย..ไม่มีความรู้ในเรื่องการสอบสวน แล้วสำนักงานแต่งตั้งมาเป็นผู้การฯได้ยังไง เพราะผู้การฯ คือ หัวหน้าพนักงานสอบสวนของจังหวัดนี้นะ... แถลงแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเข้าตัวคนแถลงหรือไม่..? ยิ่งมาอ้างแบบนี้นะ แสดงว่า ก.ตร. ที่แต่งตั้งเป็นยังไง..!” ผู้การฯวิสุทธิ์ กล่าวเสียงดังอย่างมีอารมณ์

ติดกระดุมผิดเม็ดแรก ก็ผิดหมด..

จากนั้นได้ถามต่อถึงวลี “ติดกระดุมผิดเม็ดแรก..” ผู้การฯวิสุทธิ์ ตอบทันควันทันใดว่า.. ติดกระดุมผิดเม็ดแรกก็น่าจะถามว่า เม็ดต่อไปจะต้องผิดด้วยไหม... กระดุมเม็ดต่อไป คือ ตำรวจภาค 7 ใช่ไหม ถ้าเกิดว่ามีกระดุมมากกว่าเม็ดเสื้อจะเป็นอย่างไร เพราะการสอบสวนครั้งนี้มีมากกว่า 10 คนใช่ไหม..!?

ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า อันที่จริงแล้ว ตร.ภาค 7 ต้องโดนโทษด้วย ผู้การฯเมืองกาญจน์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ภาค 7 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะในเมื่อเห็นว่าผู้การฯปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว และได้เข้าไปตรวจสอบ จัดการหรือไม่ แต่กลับกลายเป็นว่า การที่ภาค 7 ออกมาแถลงข่าว ยิ่งเพิ่มพยานขึ้นมาอีก 40 ปาก เพิ่มพยานคนที่เห็นว่าหมวดจรูญเก็บลอตเตอรี่ได้ เพื่อให้สอดคล้องกลมกลืนกันเข้าไปอีก

ตำรวจภูธรภาค 7 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เรื่องนี้แม่ทัพใหญ่แห่งวงการสีกากีต้องมีคำตอบให้กับประชาชน...

“ผมมองว่า เรื่องนี้อย่าให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้สอบสวน แต่จะต้องเป็นหน่วยงานอื่น เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะสอบสวนกันเองก็ปกป้องพวกพ้องกัน มีอะไรที่ลงโทษกันจริงจังบ้าง ตำรวจเปิดบ่อน สถานบริการ ซึ่งมันเป็นปัญหาเชิงระบบที่ตำรวจสอบสวนกันเองทั้งหมด ผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จไม่มีใครทำอะไรได้ ซึ่งคนจะมาเป็นผู้การฯจังหวัดได้ ตร.ก็ต้องส่งมาอยู่แล้ว หรือจะส่งให้ ป.ป.ช.จัดการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ปปป. ที่เป็นของตำรวจจะสอบสวนส่งเรื่องไปอย่างไร แต่ก็อาจจะตัดพยานจนหมดไม่เหลือก็ได้” อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ อธิบาย

จากคำแถลงของผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ที่ระบุว่า กระบวนการสอบสวนในครั้งนี้ เพราะผิดที่มีความเชื่อว่าครูปรีชาเป็นเจ้าของ ทำให้มีกระบวนการทำคดีให้สอดคล้องกัน...

“มันไม่ใช่!!” ผู้การฯวิสุทธิ์ ตะเบงเสียง ก่อน..นิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วไล่เลียงว่า อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปครั้งก่อน คดีนี้ ครูปรีชา แจ้งความเอาผิดลุงจรูญ ข้อหาลักทรัพย์-รับของโจร และ หมวดจรูญ ก็แจ้งความเอาผิดครูปรีชา ข้อหาแจ้งความเท็จ - ใส่ความให้รับโทษทางคดีอาญา ทั้งสองคนหากว่ามีความผิด ก็เป็นคดีอาญายอมความกันไม่ได้อยู่แล้ว

การเจรจา แล้วเรียกมาคุยกันที่บ้านมันไม่ทำไม่ได้..กระบวนการที่ใช้ดำเนินการมันผิดมาตั้งแต่ต้น ก็เพราะว่าตำรวจไม่ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี เรื่องราวจึงวุ่นวายบานปลาย

“เป็นไปได้หรือ ที่ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ดำเนินการเพราะความเชื่อล้วนๆ ผู้การฯวิสุทธิ์ ตบโต๊ะ ตอบสวน ก็เงินมันมากขนาดนั้น มีเงินตั้ง 30 ล้าน ที่ผ่านมาก็มีการข่าวว่ามีการแบ่งเท่านู้นเท่านี้ออกมากันอีก...อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ต้องให้ทางตำรวจเป็นคนตอบ”

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการปฏิรูปตำรวจ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ

ชงปฏิรูปตำรวจ ให้หน่วยงานภายนอกตรวจสอบ หวั่นปกป้องพวกพ้อง

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิรุตม์ มองว่า การปฏิรูปต้องแยกสายงานสอบสวนไม่ให้ผู้กำกับโรงพัก หรือผู้การฯมาควบคุมหรือสั่งการใดๆ ได้ ให้เป็นสายสอบสวนโดยตรง นำโดยหัวหน้าพนักงานสอบสวนโรงพักส่งสำนวนให้อัยการ และอัยการตรวจสอบอีกครั้ง เมื่อมีร้องเรียนหรือมีประเด็นเรื่องสำคัญให้อัยการตรวจสอบ และบันทึกภาพเสียง จะป้องกันการทำสำนวนมิชอบได้แน่นอน 100%

และให้อัยการตรวจสอบตั้งแต่เกิดเหตุได้เลยทุกคดีที่จำเป็น ทุกวันนี้ตำรวจปั้นพยานอะไรมา อัยการก็ไม่รู้เรื่องเลย ทนายก็นั่งรออ่านนิยาย ซึ่งใครจะปฏิรูป เพราะถ้าปฏิรูปตำรวจก็สูญเสียอำนาจ อาชีพตำรวจก็ จะไม่อลังการเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ ซึ่งอาชีพนี้ไม่ได้ด้อยอะไรมากมายอย่างที่คิดกันหรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งลูกหลานเข้ามาสอบตำรวจกันเป็นแสนคน

“ผมว่าเล่นตามกระแสมากกว่า จริงๆ ก็ไม่อยากดำเนินคดีหรอกปฏิบัติมิชอบ แต่ว่าเดี๋ยวจะเข้าตัวเลยต้องดำเนินการไป แต่ก็อ้างว่าไม่ได้ชั่วร้ายอะไร แล้วทำไมไม่ออกหมายจับ ทำไมออกหมายเรียก ขณะที่ ครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น ไปออกหมายจับเขา ทำไมล่ะ” พ.ต.อ.วิรุตม์ ตั้งคำถามทิ้งท้าย

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

- ติดตาม คลิปซีรีส์สกู๊ป ศึกชิงหวย 30 ล้าน จากทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ที่นี่ -

สรุปคดี หวยอลเวง 30 ล้าน ฟังทุกมุม คุณลุง อาจารย์ ตำรวจ (คลิป) ตอนที่1

ถูกหวยบ่อย มีใช้เดือนละแสน! เปลือยใจครูปรีชา มั่นใจหลักฐานเด็ด ไม่อยากได้ 30 ล้าน (คลิป) ตอนที่2

เปลือยใจครูปรีชา ถ้าชนะคดีหวย 30 ล้าน จะเอาเงินไปทำอะไร? (ชมคลิป) ตอนที่3

ระฆังยกใหม่! จากภาค 7 สู่มือกองปราบ คดีหวย 30 ล้าน ทวงถามความยุติธรรม (ชมคลิป) ตอนที่4

ตีโจทย์จากพยานเพียงหนึ่งเดียว? ใกล้อวสาน ศึกชิงหวย 30 ล้าน (ชมคลิป) ตอนที่5

จำลองวันหวยหาย ใกล้วันชี้ชะตา ลุงจรูญ ครูปรีชา ใครจะได้เงิน 30 ล้าน (คลิป) ตอนที่6

แกะทีละก้าว! ย้อนฝีเท้าครูปรีชา หวย 30 ล้านหาย พยานเห็น เป็นไปได้หรือ? (คลิป) ตอนที่7

ผบ.ตร.ผนึกกำลังกองปราบ ขีดเส้นตาย หวย 30 ล้าน อึดใจเดียว รู้ผลแน่! (คลิป) ตอนที่8

ถ้าเงิบทั้งประเทศล่ะ! เปิดตัวสาวทีมครูปรีชา เฉลยปมคลิปเสียง สัมพันธ์ ดร.คนดัง (คลิป) ตอนที่9

พยานอึด ตร.ไม่ดีไม่เลี้ยงไว้ สอบยาว 8 ชม. ใกล้อวสานหวย 30 ล้าน (คลิป) ตอนที่ 10