ถือว่าได้ใจคนไทยไปนานแล้ว สำหรับ"ทูตวีรชัย" ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทย ในการต่อสู้คดีเขาพระวิหารกับฝ่ายกัมพูชาในศาลโลก กระทั่งถึงวันพิพากษา 11 พ.ย.2556 ซึ่งต้องจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ท่ามกลางกันตีความคำพิพากษาในหลายแนวทางว่าไทยเสีย หรือไม่เสียดินแดนกันแน่ ?
แต่สรุปว่าท่านทูตวีรชัย ออกมายืนยันเลยว่า คำพิพากษาศาลโลกไม่ได้เอื้อตามคำขอของกัมพูชา โดยไทยไม่มีการเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รวมทั้งพื้นที่ภูมะเขือ ยกเว้นพื้นที่เล็กมากๆ บริเวณพื้นที่ชะง่อนผา ที่มีการคำนวณกัน และหารือกันตามคณะกรรมาธิการร่วม (เจซี) ไทย-กัมพูชา ส่วนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ศาลไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย
แถมยังฝากให้คนไทย อย่าไปคิดว่าตัวเองเป็นคนชนะ หรือเสียใจว่า ตัวเองสูญเสียดินแดน พร้อมย้ำว่า คำตัดสินของศาลถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว แต่หากมีข้อขัดแย้ง สามารถขอให้ศาลตีความคำพิพากษาวันนี้ได้ภายใน 10 ปี แต่ต้องมีหลักฐานข้อเท็จจริงใหม่ในการยื่นขอตีความ...ก็ได้ทำให้คนไทยเกิดความสบายใจ และโล่งอกหากเป็นอย่างที่ท่านทูตว่า
ชื่อ-สกุล : นาย วีรชัย พลาศรัย
ประวัติครอบครัว : ภรรยาชื่อนางอลิซาเบธ พลาศรัย
การศึกษา :
- หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.20)
- ศึกษาต่อต่างประเทศLicencie en Droit Public, Universite de Paris X (Nanterre),Maitrise, U.E.R. Droit, Universite de Paris X (์Nanterre), Doctorat de 3 emeCycle, Universite de Paris I, Pantheon Sorbonne ประเทศฝรั่งเศส
- มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตำแหน่งปัจจุบัน : 26 พฤษภาคม 2552 เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)
การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่ :
- 1 เมษายน 2547 รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ
- 3 มีนาคม 2549 อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
- 15 กันยายน 2550 อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
- 28 พฤษภาคม 2551 เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง (แทนนายธนาธิป อุปัติศฤงค์ )
- 19 สิงหาคม 2551 อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (นักบริหาร 10) (แทนกฤต ไกรจิตติ)
- 26 พฤษภาคม 2552 เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)
ตำแหน่งอื่นๆ : 14 กุมภาพันธ์ 2550 กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ