สมาชิก

วิมานเมขลา

ตอนที่ 9

เมขลาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอในสภาพไม่รู้สึกตัว พญาตึงเครียดมาก อรัญปลอบว่าครูปริมคงไม่เป็นอะไร ปล่อยให้หมอจัดการไปเถอะ

ขณะพยาบาลเข็นเตียงเมขลาเข้าห้องฉุกเฉินไข่มุกก็มาถึง ชะเง้อมองตามพูดกับพญาว่าท่าทางไม่ค่อยดีนะ มาการีนก็ว่าหรือจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้ว แต่แอนนี่ทำเป็นพูดดีปลอบพญาว่าครูปริมต้องไม่เป็นอะไร ตนเอาใจช่วย เสี่ยส่งเดินตามเข้ามา พอพญาเห็นก็พุ่งเข้าใส่ว่าเขาทำให้เมียตนเป็นแบบนี้ ถ้าเมขลาเป็นอะไรไปเขาต้องรับผิดชอบ

“มาโทษกันได้ไง ไม่ดูแลเมียตัวเองดีๆ มาหาว่าคนอื่นทำ ไม่รู้ว่าตั้งใจให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า” เสียเยาะ

พญาพรวดจะเข้าไปชกเสี่ย อรัญรีบห้ามไว้บอกว่าคนแบบนี้แลกไปไม่คุ้ม เลยยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ในห้องฉุกเฉิน หมอทำแผลที่หัวให้เมขลาพลางถามว่าได้ยินไหมตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาล เมขลาส่ายหน้าช้าๆ อย่างเริ่มรู้สึกตัว หูแว่วเสียงหมอ ค่อยๆลืมตาขึ้นมองหมอตาลอยๆ หมอถามว่าจำได้ไหมว่าตัวเองชื่ออะไร เธอมองหมอนิ่งคล้ายจะนึกอะไรออก แต่แล้วก็ค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนล้า

พญาเฝ้าอยู่ข้างเตียง กุมมือเมขลาไว้ตลอดเวลา พร่ำเรียกให้ตื่น รำพันความเป็นห่วงของตน แต่เธอก็ยังคงนอนนิ่งเหมือนไม่รับรู้ พอดีทองหลางถือโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าคุณวินัยที่สั่งกล้าไม้โทร.มาบอกว่ามีเรื่องด่วนอยากคุยด้วย พญาจึงปล่อยมือเมขลารับโทรศัพท์จากทองหลางเดินออกไป

พอพญาออกไป เมขลาลืมตามองตามหลังเขาไป แววตาว่างเปล่า

ต่อมาเมื่อรู้สึกตัวดีขึ้น เมขลาลุกขึ้นพิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอน ไข่มุกกับมาการีนก็แง้มประตูเข้ามา พอเห็นเมขลาฟื้นแล้วก็หันมองหน้ากันแล้วเดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นห่วงว่าเป็นอย่างไรบ้างเจ็บปวดตรงไหนไหม เมขลาโอดครวญว่าทั้งเจ็บทั้งปวดไปทั้งตัว ไข่มุกทำทีจะช่วยนวด พอเข้าใกล้เมขลาก็โผกอดแน่นร้องไห้รำพันอย่างซาบซึ้งพลางทุบหลังอั้กๆ

“ทำไมคุณดีกับฉันแบบนี้ ทั้งรัก (อั้ก) ทั้งห่วง (อั้ก) ทั้งเห็นใจ (อั้ก) ขอบคุณมากนะคะ ฉันซึ้งใจจริงๆ”

ไข่มุกโดนเมขลาแสดงความซึ้งใจไปหลายอั้กจนอ่วม ยกมือให้มาการีนช่วยดึงตนออก มาการีนเข้าไปดึงสุดแรงจนไข่มุกหลุดออกมา ไข่มุกถามมาการีนเบาๆ ว่า “เมป่วยจริงหรือแกล้ง ทำไมแรงเยอะแบบนี้”

มาการีนเดินมาดูใกล้ๆ พึมพำ “ดราม่าแน่ๆ” ถูกเมขลาคว้าไปบีบบ่าแน่น รำพึงรำพันอีกว่า

“คุณอีกคนที่เป็นห๊วง...เป็นห่วงฉัน นี่ขนาดไม่ใช่ญาติยังห่วงขนาดนี้ ถ้าเป็นญาติจะห่วงขนาดไหน ขอบคุณมากนะคะ” พูดพลางเมขลาบีบบ่าทั้งสองข้างเขย่าจนมาการีนหัวสั่นหัวคลอน

“พอแล้ว โอย...ไม่ต้องซึ้งมากขนาดนี้ก็ได้” มาการีนโวย ไข่มุกรีบเข้าช่วยดึงออกมาแต่เมขลาจับไว้แน่น พอไข่มุกออกแรงดึงเต็มที่ เมขลาก็ปล่อยทันที สองแม่ลูกเลยหงายผลึ่งลงไปกองทับกัน พอลุกขึ้นมาได้ ไข่มุกกระซิบกับมาการีนว่า ดูอาการแปลกๆชอบกล ต๊องไปหรือเปล่าเนี่ย มาการีนบอกว่าปกตินางก็เว่อร์ อย่างนี้อยู่แล้ว แม่คิดมากไปหรือเปล่า แล้วหันมองเมขลาที่ยิ้มหวานอยู่ไปมา

ooooooo

แจ๊คมาที่โรงพยาบาล เดินหาห้องเมขลาจนเจอ ได้จังหวะขณะพญาออกไปซื้อโจ๊กให้เมขลาพอดี แจ๊คผลุบเข้าไปในห้อง ทำตัวเป็นแฟนถามหยอกว่าจำได้ไหมทำความเคารพเดี๋ยวนี้เจด้า ไม่รู้หรือไงตนคือบอสของเธอ

เมขลาทำเป็นบิดตัวแก้เมื่อย แจ๊คปะเหลาะจะนวดให้ ถูกเมขลาชกท้องจนจุกตัวงอแล้วทำเป็นขอโทษบอกว่านอนนานไปเส้นมันกระตุก แล้วยังแกล้งเอาหมอนฟาดแจ๊คบอกว่าขอยืมตัวปัดฝุ่นหน่อย แกล้งจนตัวเองเหนื่อยแล้วถามว่าบิ๊กบอสไม่มาด้วยหรือ แจ๊คหลุดปากไปว่าไม่มีบิ๊กบอสหรอกมีแต่ไอ้มิ่ง เสี่ยส่งใช้ให้ทำอะไรมันก็ทำ พอนึกได้ก็รีบปิดปากตัวเอง

เมขลามองแจ๊คนิ่งอย่างเก็บข้อมูล...

วันนี้พญาพาเมขลากลับบ้านแล้ว พาเธอขึ้นไปห้องพักแล้วลงมาก็เจอเพ็ญ เพ็ญถามว่าครูปริมเป็นอย่างไรบ้าง พญาบอกว่าหลับไปแล้ว นั่งรถก็หลับมาตลอดทาง สงสัยเพลียและยังเจ็บแผลอยู่

“ถ้าครูปริมรู้ว่าลูกห่วงขนาดนี้ เขาคงดีใจมาก” พญาบอกว่าตนรักเขา ไม่ปล่อยให้เขาเป็นอะไรแน่ “แม่รู้และดีใจที่สุดที่พญามีครูปริมเป็นคู่ชีวิตนะลูก”

พญานิ่ง เพราะในความคิดของเขายังสับสนเกี่ยวกับเมขลาอยู่หลายเรื่อง แต่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้

ooooooo

พอแผลดีขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น เมขลาก็ไปที่สำนักงานไร่ภูพญา พญาถามว่าไม่พักอีกหน่อยหรือ พอหายป่วยก็มาทำงาน ขยันจริงๆ บอกเธอว่าต่อไปเราสองคนต้องมาช่วยกันดูแลที่นี่

แอนนี่เดินมายิ้มให้พญาทักว่ามาอยู่นี่เอง ตนเข้าจังหวัดซื้อขนมมาฝากตั้งหลายอย่าง พญาขอบคุณแต่ไม่ต้องลำบากก็ได้ แอนนี่เหล่ไปทางเมขลาแล้วเข้าจับมือพญาฉอเลาะว่า

“ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ถึงคุณแต่งงานไปแล้ว ระหว่างเราก็ยังเหมือนเดิม” แล้วหันไปทางเมขลาถามว่า “ครูปริมเป็นไงบ้าง หายป่วยแล้วหรือ มีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะ”

“คุณหวังดีกับฉันมาตลอด สมแล้วค่ะที่สามีฉันเคยชื่นชม” เมขลาดึงแขนพญาไปคล้องหมับ แอนนี่แกล้ง ยิ้มกลบเกลื่อน เอ่ยแสดงความยินดี อวยพรให้มีความสุข มากๆแล้วขอตัว หันบอกพญาว่าอย่าลืมทานของฝาก

พอแอนนี่ไป ก็มีมีดพุ่งมาปักที่ต้นไม้ เมขลารู้ว่าเป็นสัญญาณเรียกตัวจากองค์กร จึงออกไปพบที่ป่าใกล้ไร่เสี่ยส่ง

มิ่งที่สวมรอยว่าเป็นบิ๊กบอสมาพบเมขลา บอกให้เธอทำงานให้องค์กรอีกชิ้นแล้วจะได้ออกตามที่ต้องการ เมขลาถามว่างานอะไร มิ่งบอกว่าเผาไร่ภูพญา เธอเกี่ยงว่าคราวที่แล้วตนเผาไม่เป็นมีคนมาดับได้ ก็ไม่เห็นมีใครมาสอนว่าให้ทำอย่างไร มิ่งเสียรู้จึงทำให้ดู เมขลาแกล้งกระพือไฟไหม้เป็นวงกว้างจนลามเข้าไปในไร่ของเสี่ยส่ง

พวกลูกน้องเสี่ยส่งวิ่งดับไฟกันวุ่น เสี่ยถามว่าทำกันยังไง ดีที่ไม่ไหม้โรงไม้ มิ่งเสียงอ่อยว่า

“ก็ทำตามที่เสี่ยสั่ง ไม่รู้มันแกล้งเราหรือเปล่า ลมมันก็แรงพัดไฟมาทางไร่เรา”

“เมขลาไม่ได้แกล้ง แต่มันตั้งใจจะเผาไร่เรา” เสี่ยตะคอกอย่างหัวเสียที่ลูกน้องโง่เง่าเต่าตุ่นเสียรู้เมขลา

ooooooo

ไข่มุกกลัวว่าถ้าเมขลาความจำกลับมาจะเป็นปัญหากับป่าสายน้ำผึ้ง จึงไปเสนอขายเสี่ยส่งถึงไร่ ในราคาสิบล้านบาท เสี่ยเล่นแง่ว่าที่ดินผืนนี้มีแต่ปัญหาตนไม่อยากได้แล้ว ไข่มุกลดราคาลงมาอีกเหลือเจ็ดล้าน เสี่ยก็ยังไม่ซื้อ แอนนี่จึงเสนอว่า

“ป่าสายน้ำผึ้ง ฉันให้ห้าล้าน ถ้าตกลง รับเช็คไปเลย”

“ถ้าจะเอาราคานั้น ก็ต้องจ่ายเงินสด ฉันกลัวเช็คเด้ง” ไข่มุกเล่นแง่ทั้งที่ดีใจมากที่ขายป่าสายน้ำผึ้งได้เสียที

รุ่งขึ้นไข่มุกและมาการีนไปพบแอนนี่ที่สำนักงานที่ดินอำเภอเพื่อทำการซื้อขายและโอนที่ดิน บังเอิญอรัญเจอและรู้เรื่องเขารีบโทร.บอกพญา ขณะเดียวกันก็พยายามถ่วงเวลาพวกไข่มุกไม่ให้เซ็นสัญญาซื้อขายกัน

แต่พอพญามาถึงก็ถูกมิ่งขวางไม่ให้เข้า อรัญขู่ว่าที่นี่เป็นสถานที่ราชการห้ามก่อเรื่องไม่อย่างนั้นจะเรียกตำรวจจับ แล้วรีบพาพญาเข้าไปแต่ไปถึงไข่มุกก็เซ็นชื่อขายไปแล้ว ทั้งยังแนะนำแก่พญาว่าแอนนี่คือเจ้าของป่าสายน้ำผึ้งคนใหม่

แอนนี่ยิ้มหวานให้พญา ชวนไปฉลองกัน

ooooooo

กลับถึงบ้าน พญาขอโทษกับรูปถ่ายของตระกลที่ตนไม่สามารถรักษาป่าผืนนั้นไว้ได้ เพ็ญปลอบใจว่าอย่าคิดมาก อะไรที่ไม่ใช่ของเราก็ไม่ใช่ เมขลายืนอยู่ข้างหลังพญา เอ่ยขึ้นว่า

“คุณทำได้ทุกอย่างเลยนะเพื่อป่าผืนนั้น”

กลับจากโรงพยาบาล เมขลาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอเย็นชา หมางเมินกับพญาจนเขารู้สึก และยังบอกกับเด็กๆในศูนย์เด็กเล็กว่าตนอาจจะไม่ได้อยู่กับพวกเขาอีกแล้ว เด็กๆต่างไม่ยอมให้ครูปริมจากไป เมขลาบอกว่าถึงวันนี้ไม่ไป วันหน้าครูก็ต้องไป พอดีศนิเดินมาหา เมขลาบอกให้เด็กๆไปเล่นข้างนอกก่อน ครูมีธุระจะคุยกับเพื่อน

ศนิคุยกับเมขลาอย่างไม่แน่ใจว่าความจำเธอกลับคืนมาหรือยัง พูดถึงใครๆและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเมขลาก็ยังอยู่ในความจำเดิม ศนิพูดอย่างทำใจแล้วว่า

“ช่างเถอะ ถึงใครจะเป็นใครก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เธอจำอะไรไม่ได้สักที แล้วฉันก็ต้องกลับแล้วด้วย”

“ต้องขอบใจแทนคุณเมขลาด้วย ถ้าเขารู้ว่ามีเพื่อนที่รักที่ห่วงใยเขามากขนาดนี้ เขาคงดีใจมาก”

“หวังว่าสักวัน...เขาจะจำฉันได้” ศนิคิดในใจ มองหน้าเมขลาเศร้า

เมื่อเมขลาเดินไปส่งศนิที่รถ ศนิร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ชวนอีกว่ากลับไปด้วยกันไหม

“ยังค่ะ ต้องอยู่เคลียร์ก่อน” ศนิถามว่าเคลียร์อะไร เมขลาเฉไฉว่าสะสางเรื่องงานสอนเด็ก ศนิร้องไห้เมื่อต้องจากเพื่อนรักไป เมขลาส่งผ้าเช็ดหน้าให้ซับน้ำตา เปรยๆ ว่า “แล้วนางก็ขี้แยอีกตามเคย”

ศนิสะอึกอึ้ง มองผ้าเช็ดหน้าในมือ เรื่องราวในอดีตที่เคยไปดูหนังกับเมขลาแล้วเธอร้องไห้สงสารนางเอก เมขลาก็ส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธออย่างนี้...ศนิเบิกตากว้าง โผกอดเมขลาเมื่อนึกรู้ว่าความจำของเพื่อนกลับคืนมาแล้ว

ooooooo

พญารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเมขลานับแต่กลับจากโรงพยาบาล ที่เธอเย็นชา ห่างเหินกับตน คิดว่าอาการของเธอยังไม่ดีจะพาไปหาหมออีก เมขลาไม่ยอมไปบอกว่าตนไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

“อะไรทำให้เธอเป็นแบบนี้ เย็นชา ถามคำ ตอบคำ ถ้าทำอะไรให้เธอโกรธ บอกฉันหน่อยสิ”

“ฉันไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไร...มันยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด”

“หมายถึงเรื่องอะไร ทำไมเธอดูเปลี่ยนไป ไม่เหมือนครูปริมคนเดิม เธอ...จำทุกอย่างได้แล้วใช่ไหม... เมขลา”

เมขลาไม่ตอบ แต่มองพญาด้วยสายตาที่ทำให้เขาเย็นวาบไปทั้งตัว เมื่อเมขลาเดินหนี เขาตามไปถามว่า

“คุณจำทุกอย่างได้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ฉันจำได้เมื่อไหร่ มันไม่สำคัญ สำคัญที่ฉันได้เห็นธาตุแท้ของคุณหมดแล้ว” เมขลาเดินหนีไป พญาวิ่งไปดักเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด เมขลาจ้องหน้าถามอย่างเจ็บปวด

“ทำแบบนี้กับฉันได้ไง เพราะแค่ป่าไม่กี่ร้อยไร่ ทำลายชีวิตฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ จะเก็บฉันไว้เป็นครูบ้านนอกจนแก่ตายหรือไง”

พญานิ่งอึ้ง พูดไม่ออก เมขลาน้ำตาไหลพราก ทั้งโกรธทั้งเสียใจ พูดเสียงเครือว่า

“บอกมาสิว่าไม่จริง หลอกว่าเป็นครูปริมไม่พอยังหลอกว่าฉันเป็นเจด้า นักฆ่าสาวอีก...เรื่องแต่งงานก็แผนหลอกใช้ใช่ไหม ที่คุณทำไปทุกอย่างเพื่อป่าสายน้ำผึ้ง ถ้าได้เป็นผัวเมียกันแล้วจะได้ทรัพย์สินของฉันไปด้วยใช่รึเปล่า...ทุเรศ”

พญาบอกว่าเรื่องของเราไม่เกี่ยวกับป่า เมขลาไม่เชื่อ พอดีเพ็ญมาเจอถามว่า “มีอะไรกัน พญา...ครูปริม

“ไม่ใช่ครูปริมค่ะ หนูชื่อเมขลา” เมขลาพูดอย่างห่างเหิน เพ็ญไม่รู้อีโหน่อีเหน่ฟังแล้วอึ้ง

ooooooo

เมื่อเรียกทั้งพญาและเมขลาไปนั่งเคลียร์กัน แม้พญาจะเป็นลูก แต่เพ็ญก็ยึดถือความถูกต้อง ถามพญาว่าทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้ พญาชี้แจงอย่างรู้สึกผิดมากว่า ตอนแรกตนพยายามขอซื้อป่าสายน้ำผึ้ง... แล้วเล่าความเปลี่ยนแปลงว่า...

เมขลาไม่ยอมขายป่าสายน้ำผึ้งให้ บอกว่าตนเกลียดเขา ป่าสายน้ำผึ้งเป็นของตน จะขายให้ทุกคนยกเว้นเขา โต้เถียงกันในรถ พญาโกรธจัด เผลอไม่ได้ดูทาง จนรถเกิดอุบัติเหตุตกหลุมและชนต้นไม้

“เพราะอย่างนี้เหรอถึงให้ฉันเป็นครูปริม” เมขลาถามอย่างรับไม่ได้

“คุณไม่เข้าใจหรอกว่าป่าสายน้ำผึ้งสำคัญกับชาวบ้านขนาดไหน”

“แล้วชีวิตฉันล่ะ ไม่สำคัญเลยใช่ไหม เห็นฉันเป็นตัวตลกหรือไง” พญาบอกว่าตนพยายามบอกความจริงหลายครั้งแล้ว เมขลาตัดบทว่า “ไม่ต้องมาแก้ตัว”

ป้าแหวงกับบัวผาดแอบฟังมุมหนึ่ง และไข่มุกกับมาการีนแอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง เพ็ญได้เสียงผิดปกติรู้ว่ามีคนแอบฟัง ตะโกนไล่ไปให้พ้น ทุกคนตกใจป้าแหวงกับบัวผาดตกใจเผ่นแน่บ

ไข่มุกกับมาการีนรู้ว่าความจำของเมลขากลับคืนมา ก็กลัวว่าจะมาทวงเงินค่าขายป่าสายน้ำผึ้ง วางแผนหนีกันทันที

ในห้อง เพ็ญหันมาหว่านล้อมเมขลาว่า

“เอาเถอะ พญาอาจจะทำผิดกับหนูมาก แต่เขาก็จริงใจกับหนูนะ แล้วสองคนก็แต่งงานกันแล้ว หันหน้าพูดกันดีๆ”

“ลูกชายคุณ แต่งงานกับครูปริม ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อเมขลา” เมขลาตอบด้วยน้ำเสียงห่างเหินแล้วเดินออกไปเลย

พญาตามมาง้อขณะเมขลาเก็บเสื้อผ้าเตรียมเดินทางว่า รู้ว่าโกรธแต่อย่าเพิ่งไปได้ไหม ให้อารมณ์เย็นกว่านี้แล้วค่อยคุยกัน เมขลาปลดมือเขาออก พูดเรียบๆ แต่ถ้อยคำบาดลึกถึงหัวใจพญาว่า

“ฉันเกลียดคุณ ไม่ได้แค่เกลียดนะ แต่ขยะแขยงว่าคนอย่างคุณทำแบบนี้ได้ยังไง”

“เมขลา...” พญาครางเจ็บปวด

“หยุดเรียกฉันแบบนั้น คนเลวอย่างคุณ ไม่คู่ควรจะเรียกชื่อฉัน” เมขลาถอดแหวนส่งคืนให้ พูดเสียงแข็ง “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก คุณกับฉัน จบกันแค่นี้”

พญาไม่ยอมรับแหวนคืน เมขลาพูดน้ำตาคลอ ทั้งรักทั้งแค้นว่า “เอาคืนไปสิ เอาไป”

“คนอย่างผม ให้อะไรแล้วไม่เคยคิดเอาคืน”

พญาไม่ยอมรับแหวน เมขลาจึงปล่อยแหวนหล่นลงพื้น แล้วหิ้วกระเป๋าเดินออกจากห้องอย่างไร้เยื่อใย พญามองแหวนที่พื้นอย่างเจ็บปวด

เด็กๆพากันมาห้อมล้อมเมขลาไม่ยอมให้ครูปริมไป เมขลาบอกว่าตนไม่ได้เป็นครูอีกแล้ว ครูคนใหม่มาเด็กๆ อย่าดื้ออย่าซนแกล้งเขาเหมือนที่แกล้งตน บอกทุกคนให้ดูแลตัวเองดีๆ และขอบคุณทุกคนที่ดีกับตนมาตลอด

“หวังว่าสักวันจะเข้าใจกันแล้วกลับมาที่นี่อีก” เพ็ญเอ่ยเมื่อเมขลาเดินไปไหว้ลา

“รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณป้า” เมขลาเรียกเพ็ญเป็นป้าแทนแม่ แล้วเดินจากไป

พญาแอบดูอยู่ห่างๆด้วยความเศร้าเสียใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เมื่ออรัญรู้เรื่อง เขาถามพญาว่าทำไมทำแบบนั้นกับเมขลา เขาวางแผนไว้แต่แรกแล้วใช่ไหม พญาบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ อรัญถามว่าทำไปเพราะผลประโยชน์ใช่ไหม พญาบอกว่าไม่เกี่ยว และเขาไม่มีวันเข้าใจ

อรัญยอมรับว่าตนไม่เข้าใจ แต่ยังไงตนก็ยังเข้าข้างเขาตลอด แต่จะเก็บป่าสายน้ำผึ้งไว้ก็น่าจะใช้วิธีอื่นไม่ใช่ทำลายชีวิตคนอื่นแบบนี้ พญาขอโทษที่ทำให้เพื่อนผิดหวัง แล้วเดินจากไปอย่างรู้สึกผิดจริงๆ

ooooooo

การไปของเมขลา ทำให้พญาเศร้ามาก ข้าวปลาก็กินไม่ลง บัวผาดจะยกขึ้นไปให้ข้างบน เพ็ญขัดขึ้นอย่างรำคาญว่าเขาไม่กินก็ช่างเถอะจะไปเซ้าซี้อะไรนักหนา

พญาบอกเพ็ญว่าไม่ต้องห่วง ปัญหาทุกอย่างตนจะแก้ไขเอง เพ็ญบอกว่าก็แน่ละ ทำตัวเองทั้งนั้น

ส่วนพวกป้าแหวงกับบัวผาดต่างรู้สึกต่อพญาในด้านลบ คิดไม่ถึงว่าจะทำกับครูปริมได้ถึงขนาดนี้ พญาก็ได้แต่เครียดกับความรู้สึกของคนรอบข้างที่เปลี่ยนไป

เมื่อเมขลากลับกรุงเทพฯแล้ว เธอไปที่สถานีโทรทัศน์ทำเอาผู้คนแตกตื่นคิดว่าผีเมขลามาหลอก จนเธอต้องบอกว่าไม่ต้องกลัว นี่คือลาล่าตัวจริง ผู้บริหารถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าลาล่ามาได้ยังไง

“ก็มาทวงบทบาทเจด้าคืนไงคะ” เมขลายิ้มในแบบของเจด้า จนทุกคนอึ้ง มองตาค้าง

จากนั้นเธอก็ไปหาศนิที่ทำงาน ศนิโดดกอดด้วยความดีใจ จนพนักงานมองงงถามกันว่า “อ้าว...เป็นคนเหรอ”

“นึกว่าจะความจำเสื่อมตลอดชีวิตแล้วซะอีก ทำไมมาหาช้านักล่ะ” ศนิดีใจจนน้ำตาคลอ

“แหม ก็ต้องไปหางานก่อนสิ งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข”

“อ๊ายยยยย...ดีใจ เมขลาคนเดิมกลับมาแล้วจริงๆ งกแบบนี้มีคนเดียวเท่านั้น”

ทั้งสองกอดและหัวเราะกันอย่างมีความสุขที่ได้กลับมามีความรู้สึกเหมือนเดิมกันอีกครั้ง

ooooooo

ที่บ้านไร่ พญาให้ทองหลางติดจานดาวเทียมเพื่อจะได้ดูทีวีกัน

เป็นเวลาที่เมขลาเปิดตัวออกมาให้สัมภาษณ์นักข่าว นักข่าวพากันถามว่าหายไปไหน มีข่าวว่าเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเป็นการสร้างกระแสหรือเปล่า

เมขลาในชุดสวยหน้าตาแจ่มใส ตอบนักข่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างใจเย็นว่า

“ลาล่ามีอุบัติเหตุจริงค่ะ แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ข่าวที่ออกไปเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ”

ที่ห้องนั่งเล่นบ้านพญา พอมีทีวี ทุกคนก็มานั่งสลอนกันหน้าจอ ทองหลางเป็นคนถือรีโมต เปลี่ยนช่องไปมาหาที่ถูกใจ จนบัวผาดร้องลั่นชี้ให้หยุด ดอกปีบตาไวถามว่าเมื่อกี้ครูปริมหรือเปล่า ป้าแหวงกับบัวผาดจ้องทีวีตาแทบทะลัก ก็พอดีเมขลาให้สัมภาษณ์ว่า

“ต้องขอโทษนะคะ ออกมาแถลงข่าวช้า พอดีตอนนั้น ต้องพักรักษาตัวตามคำสั่งหมอ เลยถือโอกาสพักผ่อนไปในตัว ที่ไม่ได้บอกเพราะอยากจะอยู่เงียบๆ”

นักข่าวถามว่าอยู่ที่ไหน เธอบอกแต่ว่าที่หนึ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไร

กุ้งฟังแล้วโพล่งออกมาอย่างเสียความรู้สึกว่า อยู่ตั้งนานไร่เราไม่สำคัญเลยหรือ

“อย่าว่าแต่ไม่สำคัญเลย เขาคงไม่อยากจำเชื่อไร่เราได้ด้วยซ้ำ” เพ็ญพูดประชดเหล่มองพญาที่นั่งหน้าขรึม

นักข่าวถามถึงแจ๊ค เมขลาบอกว่ายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ ก็พอดีแจ๊คยิ้มเผล่โผล่มาถามว่ากำลังพูดถึงตนหรือเปล่า นักข่าวแซวว่ามีเซอร์ไพรส์แบบนี้ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาแล้ว อีกคนถามว่ามีโอกาสรีเทิร์นไหม เมขลาชิงตอบว่า

“ยังบอกไม่ได้หรอกค่ะว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไหม เป็นเรื่องของอนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น”

แจ๊คทำตัวเป็นคนพิเศษของเมขลา พยายามจะเข้าไปหาเมขลาในห้องประชุมบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ถูกศนิขวางไว้

“ค่อยมาได้ไหมแจ๊ค ไม่ใช่เวลา เมคุยธุระสำคัญอยู่ ถ้าเมอยากคุยด้วยนางก็โทร.หานายเองแหละ เชื่อสิ”

พอแจ๊คเดินคอตกกลับไป ศนิก็เข้าไปในห้องประชุม เมขลากระซิบถามว่าไอ้แจ๊คไปแล้วใช่ไหม ศนิพยักหน้า ก็พอดีผู้บริหารเดินมาส่งเช็คให้เมขลา ศนิตาไวเห็นตัวเลขห้าล้านบนเช็ค

“นี่แค่ก้อนแรก พอเซ็นต์สัญญากับทางสถานีแล้วยังมีอีกก้อนใหญ่ให้” ผู้บริหารบอก เมขลาขอบคุณ บอกผู้บริหารว่าตนทุ่มกับเรื่องนักฆ่าสาวไว้มาก ยังไงก็ต้องกลับมาเล่นให้จบ อ้อนผู้บริหารว่าถ้ามีงานอื่นอีกก็บอกได้ ผู้บริหารตอบรับทันที “ได้ๆ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง นี่สถานีก็เตรียมละครเรื่องต่อไปไว้ให้แล้วนะ”

เมขลาดีใจแต่ขอค่าตัวเพิ่ม ผู้บริหารโอเคบอกว่าเรื่องนี้แล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม

เธอขอคอนโด ผู้บริหารรับปากจะจัดให้อย่างดี มีอะไรก็ให้บอกเลขาไว้ แล้วขอตัวไป

ศนิถามเมขลาว่าขอคอนโดทำไม เธอบอกว่าเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้หนี้เพราะน้าไข่มุกก่อหนี้ไว้ตั้งสามสี่เจ้า ขายบ้านแล้วยังไม่พอใช้หนี้ด้วยซ้ำ

ฝ่ายไข่มุกกับมาการีนกลับมาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ เมื่อดูข่าวรู้ว่าเมขลากลับเข้าวงการก็คิดจะไปเกาะเมขลาอีก แต่อีกใจก็กลัวถูกทวงค่าขายป่าสายน้ำผึ้งห้าล้าน เพราะนี่ก็หมดไปหลายแสนแล้ว

ooooooo

เมื่อมีเงิน เมขลาประสานกับตำรวจไปใช้หนี้ จึงรู้ว่าพญาใช้ให้ไปส่วนหนึ่งแล้ว เธอคำนวณแล้วบอกว่าถ้าอย่างนั้นตนก็เหลือแค่สองแสน แก๊งทวงหนี้บอกว่ายังมีอีกสองล้านที่ไข่มุกติดอยู่ เธอต้องใช้ให้ด้วย

“ส่วนของฉันมีแค่นี้ ที่เหลือไปเอาที่น้าไข่มุกเอง ไม่รับรู้”

“อ้าว ๆ พูดงี้ได้ไง” หัวหน้าแก๊งไม่ยอม ตำรวจที่มาด้วยตัดบทว่า

“ต่อไปอย่ามายุ่งรบกวนคุณลาล่าอีกไม่งั้นโดนคดีแน่”

ooooooo

เมื่อเมขลาไปแล้ว เป็นโอกาสให้แอนนี่รุกพญาเต็มที่ เธอบอกเขาว่าถึงตนจะซื้อป่าสายน้ำผึ้ง ไปแล้ว ถ้าเราแต่งงานกัน ป่าสายน้ำผึ้งก็ต้องเป็นของเขาด้วยอยู่ดี

เพ็ญเห็นแอนนี่มาบ่อยก็ถามพญาอย่างไม่พอใจว่าเธอมาทำไม อย่าลืมว่าตัวเองมีเมียแล้ว พญาพูดอย่างน้อยใจว่าป่านนี้เธอคงลืมไปแล้วว่าตนเป็นใคร

“ไปหลอกเขาขนาดนั้น เป็นใครก็ต้องโกรธทั้งนั้นแหละ แม่รู้ว่าลูกรักเขา ถ้ารักจริงก็ต้องพิสูจน์ให้เขาเห็น มาทำเป็นซึมกระทืออยู่คนเดียว เขารู้ไหมล่ะ” แล้วเพ็ญก็พูดเฉียบขาดก่อนเดินผละไปว่า “ฉันมีสะใภ้คนเดียว ไม่เอาลูกสาวเสี่ยส่ง อย่าทำให้แม่ต้องเสียใจอีก”

วันนี้อรัญเอาเอกสารมาให้พญาที่ออฟฟิศบอกว่าอีกสองวันมีสัมมนาเครือข่ายเกษตกรที่กรุงเทพฯ พญาถามว่าเขาไปหรือเปล่า แล้วเลียบเคียงถามว่ายังติดต่อกับศนิอยู่ไหม แล้วเพื่อนศนิล่ะเป็นยังไง

“ถ้าหมายถึงคุณเมขลา เขาสบายดี งานเยอะ ค่าตัวก็ขึ้นเอ๊าขึ้นเอา ดีใจแทนเขาที่ความจำกลับมาไม่งั้นคงต้องลำบากอยู่หลังเขาแบบนี้ไปทั้งชาติ”

พญาสะอึกที่ถูกพูดกระทบอย่างแรง

“เออ เห็นเขาว่ากองนักฆ่าสาวจะมาถ่ายใกล้ๆ โรงแรมที่สัมมนาด้วย” อรัญนึกได้บอกอย่างตื่นเต้น พญาสดชื่นขึ้นมาอย่างมีความหวัง

แล้วพญาก็ใส่เสื้อยีนส์สะพายกระเป๋าไปยืนปนกับกลุ่มแฟนคลับที่มาคอยดูลาล่า ผู้ช่วยผู้กำกับมาเห็นถามว่า

“ใช่เอ็กซ์ตร้าที่มาหรือเปล่าครับ” ทีแรกพญาจะปฏิเสธ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจบอกว่าใช่ “มาเร็วกว่าที่คิดแฮะ ...มาทางนี้เลย” ผู้ช่วยผู้กำกับเปิดแผงกันให้พญาเข้า เขาเดินตัวลอยเข้าไปด้วยความหวังว่าจะได้เจอเมขลา

พญาถูกพาตัวไปแต่งหน้า ผู้กำกับวอเรียกลาล่ามาเข้าฉากเลย พอมากันพร้อมผู้กำกับแนะนำคิวให้เมขลา เป็นคิวที่เธอบาดเจ็บหนักหนีผู้ร้ายมา ผู้ร้ายตามทันเธอหันสู้แต่สู้ไม่ได้ โดนจับตัวไป ไม่มีบทพูดอะไร ผู้กำกับย้ำว่า

“ต้องแอ็กแบบหมดแรงสู้ไม่ไหวเลยนะ” เมื่อเมขลารับคำ ผู้กำกับสั่ง “เอ้า พร้อมซ้อมครับ”

พอผู้กำกับสั่งแอ็กชั่น เมขลาเงยหน้าขึ้นเห็นพญา เธอร้องเฮ้ย ผู้กำกับชมว่าดี ทำหน้าตกใจดีมาก

เมขลาเล่นนอกบททันที เธอพุ่งเข้าใส่ต่อยเต็มเหนี่ยว คนในกองตกใจ ผู้ช่วยผู้กำกับตกใจร้องว่าเจด้าต้องสู้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ผู้กำกับมองอย่างเข้าใจอารมณ์นักแสดงว่าลาล่าอาจตีความลึกกว่านี้

กว่าผู้กำกับจะรู้ว่าเมขลาเล่นนอกบท พญาก็ถูกซ้อมเสียน่วมแล้ว ผู้กำกับสั่งทีมงานให้รีบเข้าไปห้าม พอทีมงานจะเข้ามา เมขลาถามพญาด้วยสายตาเย็นชาว่า

“อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะให้อภัยคุณ” แล้วเดินออกไปอย่างสะใจ พญาได้แต่มองตามเศร้าๆ ส่วนคนในกองต่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น

ooooooo

สถานีส่งเจ๊มิ้ว กะเทยเนี้ยบจี๊ดจ๊าดทุกมิติ มาเป็นผู้จัดการคอยดูแลเมขลา ที่บัดนี้ได้ย้ายมาอยู่เพนต์เฮาส์หรูจนศนิบอกว่าเริ่ดมากๆ เดิร์นสุดๆ แบบนี้ต้องขอมานอนค้างบ่อยๆ

“สำหรับคุณนาย มาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยย่ะ” แล้วหันยิ้มหวานกับเจ๊มิ้ว “ขอบคุณมากนะคะเจ๊ ฝากกราบนายด้วยค่ะ”

“ต่อไป เจ๊จะเป็นคนดูลาล่าทุกอย่างนะฮ้า ทั้งเรื่องคิว การให้สัมภาษณ์ เสื้อผ้าหน้าผม กิน อยู่ หลับนอน เจ๊มิ้วคนนี้จัดหมด จัดเต็ม”

เมื่อเข้าไปในห้องนอน เมขลาโถมตัวนอนบนเตียงเสียงพูดอย่างพอใจมากว่า

“แบบนี้ค่อยกลับมาใช้ชีวิตแบบเก่าหน่อย นี่แหละชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ ใช่เลย”

ศนิถามว่าใช้ชีวิตแบบโสดสนิทหรือ ถูกเพื่อนรักปรามว่าจะพูดอะไรอีก ศนิถามว่าไม่อย่างนั้นพญาจะยอมให้ซ้อมเป็นกระสอบทรายขนาดนี้ทำไม

“ผู้ชายคนนี้แผนเยอะ ซับซ้อนกว่าที่คิด คนอย่างฉันเจ็บแล้วจำ ไม่ตกเป็นเหยื่อของเขาอีกแล้ว เธอก็เหมือนกัน ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด”

“ได้อยู่แล้ว เธอไม่ชอบใคร ฉันก็ไม่ชอบด้วย เราทีมเดียวกัน” ศนิพูดอย่างเอาใจ สองสาวยกมือประกบกันเป็นสัญญา

เมขลาไปซื้อเสื้อในห้างหรู เจอจ๊ะเอ๋ถือชุดสวยทำท่าจะซื้อแต่ก็ไม่ซื้อสักที เมขลาเข้าไปแย่งดู ถามว่ามีกี่สีแล้วสั่งซื้อทั้งเซต พูดเย้ยจ๊ะเอ๋ว่าเห็นยืนดูจนสีเสื้อจะซีดหมดแล้ว จ๊ะเอ๋พูดแก้หน้าว่ากำลังจะซื้อ ด่าเมขลาว่าหัดมีมารยาทหน่อย

“ของร้านนี้มาปุ๊บต้องหยิบปั๊บไม่ใช่มัวคิดหนัก นับเงินในกระเป๋าว่ามีจ่ายพอรึเปล่า ถ้าเงินไม่มีก็ไม่ต้องมาดู ทำใจหน่อยนะ ถ้ายังไม่ใช่เบอร์หนึ่งอย่างฉัน รอตอนลดราคาแล้วกัน”

เมขลายิ้มเย้ย เจ๊มิ้วเดินมายื่นบัตรเครดิตให้พนักงานบอกว่าวงเงินไม่จำกัด เอาไปรูดด่วนเลย เมขลาหางตาใส่จ๊ะเอ๋และเดินไปช็อปร้านอื่นต่อ เจ๊มิ้วพูดขณะเดินผ่านจ๊ะเอ๋อย่างสะใจว่า

“อย่าเครียดสิฮ้า...เดี๋ยวหนังหน้าแก่หมดหรอก เพิ่งเคยมาร้านนี้ล่ะสิ เด็กใหม่ก็งี้แหละ รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ต้องรู้จักนะฮ้า”

จ๊ะเอ๋มองตามทั้งสองไปอย่างแค้นใจ

เมื่อพากันไปกินสเต๊กร้านหรู ทั้งเนื้อและผักอร่อยมาก จนศนิถามว่ามื้อนี้คงหลายพัน ถ้าอยู่ที่ไร่ภูพญาคงกินได้เป็นเดือนแน่ เมขลาชักสีหน้าถามว่าจะเอ่ยชื่อนี้อีกทำไม ศนิบรรยายว่าผักที่นั่นสดมาก ทั้งหวาน กรอบ ธรรมชาติสุดๆ

เมขลาประชดว่าอยากกลับไปสอนหนังสือแทนตนไหมจะฝากให้ ศนิถามว่าไม่อาลัยอาวรณ์เลยหรือ

“จะแค่ไหนก็ไม่มีวันคิดถึง ฉันกลับเป็นลาล่าคนเดิมแล้ว ไม่มีวันกลับไปตกระกำลำบากอยู่กับคนใจโหดแบบนั้นอีกแล้ว” เมขลาตัดบทและหั่นสเต๊กอีกชิ้นเข้าปากเคี้ยวอย่างหนัก ราวกับจะบดคนที่เอ่ยถึงให้แหลกคาปาก

อนงค์ฟังเรื่องราวของพญาวันนี้แล้ว พูดกับอรัญว่า คู่นี้ท่าจะลงเอยกันยาก แต่อรัญก็พยายามถามศนิว่าเมขลาอยู่ที่ไหน ศนิไม่ยอมบอก อรัญตื๊อจนเกือบทะเลาะกันไปอีกคู่ เลยกลายเป็นอยู่คนละฝ่าย ต่างอยู่ข้างเพื่อนตัวเองอย่างเหนียวแน่น

“โอ๊ย...มนุษย์ผู้หญิง เข้าใจยากจริงวุ้ย” อรัญบ่นที่ช่วยเพื่อนไม่ได้ซ้ำถูกเหวี่ยงใส่อีก

ooooooo

มาการีนเข้าห้างช็อปอย่างเพลิดเพลินให้สมกับที่ไม่ได้ช็อปมานาน ไข่มุกเดินหิ้วถุงตาม เตือนสติว่า

“ตอนนี้เราไม่มีไอ้เมให้เกาะแล้ว เงินที่มีก็ต้องเก็บให้ดี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมันจะไม่เหลือเอา ไม่มีป่าให้เอาไปขายอีกแล้วนะ”

ขณะเดินกลับมาขึ้นรถ ถูกแก๊งทวงหนี้มาดัก สองแม่ลูกวิ่งหนีกันกระเจิง พอจนมุมไข่มุกบอกว่าตนไม่มีเงินให้ มันขู่ว่าเดี๋ยวโดนตัดหู แจ๊คเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตะโกนว่ามีคนโดนจี้ แก๊งทวงหนี้ตกใจเลยวิ่งหนีไป

งานนี้แจ๊คเล่นบทพระเอกได้ใจมาการีนไปเต็มๆ ยิ้มปลื้มชมว่า “แบบนี้สเปกเลย”

บ้านอรัญชานเมืองที่พญามาพัก เขานั่งดูรูปถ่ายคู่กับเมขลาที่ชายทะเลอย่างเศร้าสร้อย อนงค์เดินมานั่งข้างๆ เอ่ยว่า

“ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมั่นใจตัวเองมาก ท่าทางเด็ดเดี่ยวใช่เล่น ถ้าจะให้เขาหายโกรธ คงไม่ง่าย คิดหาวิธีให้ดีๆลูก”

“ผมง้อใครไม่ค่อยเก่งครับ ไม่รู้จะไปหาเขาที่ไหนด้วย เขามันคนดัง ออกงานสังคมตลอด” พญาท้อ

พอดีพิธีกรในทีวีประกาศงานที่เมขลาจะมาที่สถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ใครเป็นแฟนคลับไปคอยต้อนรับได้ อนงค์หันมองพญา ปรากฏว่าหายไปแล้ว

ถึงเวลา เจ๊มิ้วเป็นพิธีกรประกาศนาทีสำคัญที่นางเอกร้อยล้านของช่องจะปรากฏตัวโชว์เพลง “ยังโสด” บรรดาแฟนคลับกรี๊ดกันสนั่น พญาทึ่งความสามารถในการร้องเพลงของเมขลา เธอเหลือบมองเห็นก็อึ้งไปนิดหนึ่งแล้วหันไปทางแฟนคลับ ให้ความบันเทิงอย่างมืออาชีพ

เมื่อเมขลาเดินมาถึงบริเวณที่จ๊ะเอ๋ยืนอยู่ ถูกจ๊ะเอ๋ขัดขาเกือบล้ม พญาตะโกนบอกให้ระวัง เมขลาจับตัวเจ๊มิ้วไว้ทัน จ๊ะเอ๋ถูกเจ๊มิ้วจับได้ หันปรามว่าอาชีพเดียวกันจะมากัดกันให้คนดูหรือ เดี๋ยวเจ๊ตบสลบคาเวที เมขลาเตือนว่าสื่อเต็มไปหมด เอาไว้เล่นที่อื่นเถอะ

เมขลาเหล่มาทางพญา เขายิ้มให้ถูกเธอเมินอย่างไร้เยื่อใย พญาเลยยิ้มเจื่อน มองตามไปเศร้าๆ แต่ก็ยังพยายามไปดักพบขณะเมขลากับเจ๊มิ้วเดินออกมา แต่ถูกการ์ดกีดกันจนเข้าไม่ถึง เจ๊มิ้วเห็นพญาตามตื๊อถามเมขลาว่ารู้จักไหม เธอบอกว่าอย่าไปสนใจเลย คนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ตามตื๊ออยู่ได้ แต่ความหล่อของพญา ทำให้เจ๊หันมองบ่นอย่างเสียดาย

“ท่าทางก็ดีนี่ ไม่น่าจะบ้าเลย”

ooooooo

วิมานเมขลา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด