ตอนที่ 10
ไข่มุกพาแจ๊คไปเลี้ยงกาแฟ พอพนักงานนำกาแฟและขนมสองสามชิ้นมาเสิร์ฟ มาการีนเลื่อนขนมไปตรงหน้าแจ๊ค
“สำหรับแจ๊ค คนเก่งคนกล้าของมาการีนค่ะ”
“เนี่ยเหรอน้า ที่บอกว่าจะเลี้ยงผมมื้อใหญ่ที่ช่วยวันนั้น” แจ๊คมองหน้าไข่มุกอย่างผิดหวัง
ไข่มุกแก้เกี้ยวว่าเอาเถอะ มื้อเล็กหรือมื้อใหญ่มันก็เลี้ยงเหมือนกัน แล้วบ่นว่าเมขลากลับมาอู้ฟู่คราวนี้ลืมญาติลืมเชื้อ ตนโทร.ไปก็ไม่รับสาย แจ๊คบอกว่าเขาคงไม่อยากคุยด้วยแล้ว เพราะน้าเล่นฮุบป่าเขาแถมยังปิดบังไม่ยอมบอกความจริงอีก ไข่มุกลำเลิกว่าตนเลี้ยงเมขลามาตั้งแต่เล็กไม่นึกถึงบุญคุณกันบ้างเลย
“เป็นผม มีน้าแบบนี้ตัดญาติไปนานแล้ว” แจ๊คยกกาแฟขึ้นดื่มหน้านิ่งๆ
ไข่มุกอ้างว่าหลานเป็นดาราดังปั๊มเงินได้มากมายก็ต้องช่วยน้า มาการีนกอ้อนให้แจ๊คช่วยพวกตน เขารับปากว่าจะช่วยดูๆให้ก็แล้วกัน
“ฟินมาก เข้มแข็งเด็ดขาด แมนสุดๆ” มาการีนปลื้มจนเคลิ้ม
ฝ่ายพญา เมื่อขอคุยกับเมขลาไม่สำเร็จ จึงไปดักที่ถนนเข้าเพนต์เฮาส์ พอเมขลาขับรถกลับมาก็กระโดดออกไปขวางแบบยอมตาย เธอโมโหมากลงจากรถมาด่าและบอกให้ศนิแจ้งตำรวจ อรัญขอว่าคนกันเองอย่าให้ถึงตำรวจเลย พญาก็ขู่ว่าอยากให้คนอื่นรู้เรื่องของเราหรือ เมขลาชะงักหาว่าพญาแบล็กเมล์ พอเขาปฏิเสธก็ปรามาสว่าคนอย่างเขาขนาดป่าของลุงตนยังหลอกเอาไปได้ แล้วจะมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก พญาถามอย่างเจ็บปวดว่า
“ในสายตาคุณผมเลวขนาดนั้นเลยหรือ?”
“เลว...เลวที่สุดเท่าที่ฉันเจอมาในชีวิต”
เมขลาพูดใส่หน้าแล้วขับรถพรืดผ่านหน้าไป ทิ้งให้พญายืนหน้าชาอยู่ตรงนั้น กลับไปบ้านแล้วก็ยังนอนไม่หลับ เจ็บปวดกับคำประณามที่รุนแรงของเมขลา
ที่ไร่ภูพญา กุ้ง บัวผาด ป้าแหวง และทองหลาง ติดตามข่าวของเมขลาอย่างใกล้ชิด พอเห็นเพนต์เฮาส์ที่เธออยู่ ต่างอุทานทึ่งว่าสวยหรูมาก ทองหลางนึกห่วงว่าลาล่าเป็นนางเอกเหมือนนางฟ้าแบบนี้นายเราจะเอื้อมถึงหรือ
เพ็ญเดินมาเก็บเอกสารบนโต๊ะเซ็งๆ เห็นใบสมัครเกษตรกรดีเด่น ก็ยิ้มอย่างนึกอะไรได้ โทรศัพท์บอกพญาที่ถอดใจกำลังเก็บกระเป๋าจะกลับบ้านว่า
“อย่าเพิ่งกลับ อยู่ต่ออีกหน่อยนะลูก รอลุ้นก่อน” พญาถามว่าลุ้นอะไร “เอาเถอะน่า แม่ว่ายังไงก็ต้องได้สักรางวัล”
เพ็ญแอบสมัครเกษตรกรดีเด่นประจำปี 2557 ให้พญา ผลปรากฏว่าไร่ภูพญาได้รับรางวัล กลายเป็นข่าวเด่น และที่ทำให้เป็นข่าวดังครึกโครม เมื่อรูปพญาขึ้นรับรางวัลแพร่ในเน็ต ความหล่อเท่สะท้านใจสาวของเขา ทำให้พวกเล่นเน็ต พากันกิ๊วก๊าวก๊อปไปลงเฟซบุ๊กกันมือเป็นระวิง ไม่นานก็มีผู้กดไลค์เป็นร้อยแล้วพุ่งถึงพันอย่างรวดเร็ว
พวกที่บ้านภูพญาก็พากันตื่นเต้นที่นายดังเป็นพลุแตก เพ็ญคิดไกลกว่านั้น รำพึงกับตัวเอง
“พญาลงข่าวโด่งดังขนาดนี้ ลูกสะใภ้ฉันจะเห็นหรือเปล่าหนอ...”
ooooooo
เช้านี้ เจ๊มิ้วถือไอแพดไล่คิวงานให้เมขลาฟังว่า มีสี่จ๊อบ จ๊อบสุดท้ายถ่ายแบบกับหนุ่มฮอตคนล่าสุด เมขลาถามว่าตนรู้จักไหม
“ทีมงานอยากเซอร์ไพรส์ให้ไปเจอกันตอนถ่าย เขาอยากได้ฟิวส์สดๆ บอกว่าได้ฟิลลิ่งกว่า หนุ่มดังมากนะขอบอกตอนนี้ในโลกออนไลน์ กระหน่ำแชร์รูปกันล้านแปด สาวๆกรี๊ดกันทั้งเมือง”
เรื่องความหล่อของนายแบบเมขลาไม่สนใจแต่ถามว่างานนี้ได้เท่าไร เจ๊มิ้วบอกว่าเป็นงานกุศลเพื่อมูลนิธิรักษ์ป่า เจ๊มิ้วพูดเองเออเอง ดีดนิ้วเปาะบอกว่าลาล่าควรไป ถึงไม่ได้ตังค์แต่ได้ภาพ หนังเราจะฉายอยู่แล้วต้องเปลี่ยนภาพพจน์จากนางเอกขาวีนกลายเป็นนางเอกรักป่า จิตใจธรรมชาติสุดๆ ดูแหวกแนวดี นักข่าวชอบ
แต่เมขลาไม่แน่ใจว่าการสร้างภาพแบบนี้จะเวิร์กไหม เจ๊บอกว่าเรื่องแบบนี้บิ๊วต์กันได้ รับปากว่า
“เดี๋ยวเจ๊วางแผนให้ เริ่มจากโปรเจกต์นี้ก่อนนางเอกรักป่ากับเกษตรกรรักไร่ ว้าว...ฟินสุดๆ”
ความดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืนของพญามาอย่างกะทันหันจนเขาตั้งตัวไม่ทัน ไปไหนมาไหนก็มีสาวๆมาทักและขอถ่ายรูปด้วย ซ้ำมีนิตยสารติดต่อเข้ามาให้ถ่ายแบบด้วย พญาปฏิเสธว่าตนไม่เป็น
เมื่อไปคุยกับทีมงานที่ติดต่อมา พญาก็ยังบอกว่าตนไม่ค่อยสะดวก ตนไม่ใช่ดาราทำอะไรแบบนั้นไม่เป็น
“เรามีสไตลิสต์ให้ ไม่ยากเลยครับ รายได้จากงานนี้เข้ากองทุนอนุรักษ์ป่า ปลูกป่าจริงจังและยั่งยืน ตรงกับความตั้งใจของคุณพญานะครับ”
“รักษาป่าเหรอครับ” พญาสนใจขึ้นมาทันที
พญาถูกกำหนดให้แต่งชุดชาวไร่แบบเมืองนอกมีสายดึงขอบกางเกงกับไหล่ เขาใส่อยู่นานก็ใส่ไม่ถูก จึงเดินออกมาจะถามทีมงาน พอออกมาก็เจอเมขลายืนรอใช้ห้องอยู่ ต่างมองกันอึ้ง
ooooooo
เมื่อรู้ว่าต้องถ่ายแบบกับใคร เมขลาเครียดมาก ต่อว่าเจ๊มิ้วที่ไม่บอกก่อนว่าต้องถ่ายแบบกับผู้ชายคนนี้ เจ๊บอกว่าก็เห็นเป็นงานเล็กๆ และเขาก็หล่อมากด้วย เจ๊กล่อมจนเมขลาเสียงอ่อนลง
แต่เมื่อไปถ่ายแบบกันจริงๆ เมขลาก็แอบแกล้งพญา ทั้งตบหน้าแล้วบอกว่าตบยุง ทั้งขัดขา ทั้งหาว่าพญาหวังเกาะกระแสตนดัง ได้ทีก็ด่าว่าเป็นคนจอมปลอมทำได้ทุกอย่าง
พอนักข่าวสัมภาษณ์ว่าทำไมรับงานการกุศลทั้งที่ไม่เคยรับเลย เธอก็เป็นคนดีได้อย่างคาดไม่ถึงตอบว่า
“ล่าคิดว่าการอนุรักษ์ป่าเป็นเรื่องสำคัญค่ะ อยากให้คนหันมาใส่ใจเรื่องป่ามากขึ้น”
นักข่าวไม่สนใจเพราะอยากรู้ความรู้สึกการถ่ายแบบกับเกษตรกรไอดอลหนุ่มหล่อสุดฮอตตอนนี้ เธอบอกว่าเฉยๆ ย้อนถามว่าแบบนี้เรียกว่าหล่อแล้วหรือ
“เห็นว่าเป็นคอนเซปต์แบบคู่รัก ไม่มีปิ๊งปั๊งกันบ้างเหรอคะ” นักข่าวถามจี้
“ไม่มีค่ะ ผู้ชายแบบนี้ไม่ใช่สเปกของลาล่าเลย แค่ทำงานด้วยกันแป๊บเดียว ไม่สนิท ไม่ได้เป็นอะไรกัน... จบนะคะ ขอตัว” ว่าแล้วก็เดินแหวกนักข่าวออกไปแบบเหวี่ยงๆ นักข่าวมองหน้ากันงงๆ ส่วนพญาฟังแล้วสะอึก
ขณะกำลังจะเดินออกจากสตูดิโอ เมขลาหันกลับมาเห็นนักข่าวกำลังรุมสัมภาษณ์พญาแบบปลื้มๆ คำถามที่ขาดไม่ได้ คือ มีแฟนหรือยัง พญาบอกว่ามีแล้ว นักข่าวสาว ถามเสียงอ่อยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เป็นใคร ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน
พญาตอบเป็นปริศนาว่าเขาอยู่ไม่ไกล ส่วนคำถามอื่นเขาขอไม่ตอบ เมขลายืนฟังจนจบเบะปากสะบัดหน้าจะเดินไป แต่เจ๊มิ้วยังปลื้มเพ้อว่า คุณพญาหล่อมากเลย เห็นแล้วใจละลาย ถูกเมขลาปรามอย่างหมั่นไส้ว่าเยอะไปแล้วเจ๊ แล้วเดินเชิดไป พญาออกจากนักข่าวเห็นเมขลาเดินไปแล้ว นึกเสียดายมากที่ยังไม่ได้คุยกัน
ooooooo
มาการีนชื่นชมและพอใจแจ๊คมาก วันนี้จึงนัดกินกาแฟกันอีก ถูกแก๊งทวงหนี้มากระชากกระเป๋าเงินของไข่มุกไปเพื่อใช้หนี้ แจ๊ควิ่งตามจะไปเล่นงาน ถูกแก๊งทวงหนี้ทุบจนคอย่นแล้วมันก็ขี่จักรยานยนต์หนีไป
แจ๊คเจ็บตัวแล้วยังโดนไข่มุกปรามาสว่าโดนมันทุบหัวทีเดียวคอย่นไปเลยไม่ไหว
มาการีนปกป้องแจ๊ค ต่อว่าแม่ว่าแจ๊คอุตส่าห์ช่วยแล้วยังว่าเขาอีก บอกแม่ให้เอาเงินไปใช้หนี้ให้หมดจะได้ไม่ต้องมาระแวงอะไรอีก ไข่มุกด่าว่าบ้าหรือให้มันหมดเราก็อดตายสิ ครั้นแจ๊คเสนอให้พึ่งตำรวจ ไข่มุกอ้างว่าตนไม่รู้จักตำรวจเลย แจ๊คเสนอให้ทำแบบเมขลา ไข่มุกก็ไม่กล้ากลัวเมขลาทวงเงินค่าขายป่าสายน้ำผึ้ง สองแม่ลูกอึกอักอย่างมีเลศนัย ทำให้แจ๊คสงสัยว่าสองแม่ลูกนี้คงทำเรื่องไม่ชอบมาพากลไว้เป็นแน่
ooooooo
พญาไปที่กองถ่ายเพื่อขอคุยกับเมขลา เธอนัดให้เขาไปพบกันที่ร้านกาแฟเงียบๆ ทำตัวลับๆล่อๆ จนพญาถามว่าทำไมต้องทำตัวแบบนี้
“พวกดาราก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ อย่างคุณอยู่แต่ในป่าจะไปรู้อะไร ฉันเสี่ยงมากนะที่ออกมาที่นี่ เกิดมีคนถ่ายรูปไปลงข่าวเป็นเรื่องใหญ่แน่”
พญาถามว่าแล้วทำไมเธอถึงยอมมาพบตน เมขลาเอาเงินที่เขาใช้หนี้แทนไปสองงวดจำนวนสี่แสนบาทคืนให้และห้ามเขาติดต่อมาอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าไม่เตือน
“ไหนเคยสัญญาว่าโกรธได้ แต่จะไม่เกลียด”
“ฮึ กับคนปลิ้นปล้อนอย่างคุณ ฉันไม่รักษาสัญญาอะไรทั้งนั้น” พญาครางชื่อเมขลาออกมาเบาๆ เธอหันมองบอกว่า “อืม...ใช่ ขอบคุณนะที่ยอมรับแล้วว่าฉันคือเมขลา ไม่ใช่ครูปริมที่คุณอุปโลกน์ขึ้น ผู้หญิงคนนั้นตายไปนานแล้ว ไม่มีตัวตนอีกต่อไป เหมือนกับเรื่องของเรา...มันจบแล้ว”
พญาถามว่าตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหม เมขลาตอบทันทีว่าใช่ แล้วเดินเชิดออกไป พญาคอตกมองตามอย่างสิ้นหวัง
แต่พอเมขลาขึ้นไปนั่งในรถ เธอซบหน้าร้องไห้กับพวงมาลัยเงียบๆ
การถ่ายแฟชั่นหนุ่มเกษตรกรดีเด่นสุดฮอตกับซุปเปอร์สตาร์สาวแห่งยุค นิตยสารขายดีจนเกลี้ยงแผง เสียงตอบรับทางสังคมก็เปรี้ยงปร้าง เชียร์ให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริงๆ จนผู้บริหารสถานีต่อยอดให้เมขลาเตรียมถ่ายละครเรื่องใหม่ เรื่องวิมานสีเขียว เมขลาติงว่าเรื่องแนวนี้น่าเบื่อ เรตติ้งน้อยแน่ๆ ผู้บริหารบอกว่าเราต้องมีตัวช่วย
พอดีพญาเดินเข้ามา ผู้บริหารบอกว่าจะให้พญามาเป็นคู่จิ้นกับเธอ เมขลารับไม่ได้เดินออกจากห้องไปทันที พญารีบตามไป
เมขลาหาว่าพญาวางแผนไว้หมดแล้วใช่ไหม ทำไมต้องมายุ่งกับตนด้วย เราจบกันแล้ว
“คุณจบแล้ว แต่ผมยังไม่จบ”
แล้วเรื่องก็ยุ่งยิ่งขึ้น เมื่อแจ๊คเข้ามาประกาศไม่ยอมให้ใครเป็นคู่จิ้นกับเมขลา เพราะเธอเป็นแฟนตน พอดีเจ๊มิ้วตามมาตำหนิเมขลาว่าเสียมารยาทที่พรวดพราดออกมา บอกว่านายยังรอประชุมอยู่
“งั้นก็ไม่ต้องรอค่ะ เจ๊ไปบอกทุกคนเลยนะว่าลาล่าไม่รับงานนี้ คู่จิ้นบ้าบออะไร ไม่เอา”
“เซ็นสัญญาแล้วห้าปี มีสิทธิ์บอกด้วยเหรอว่าจะเอาหรือไม่เอา” เจ๊มิ้วถาม
เมขลาฟังแล้วอึ้ง เดินสะบัดออกไปอย่างโมโหมากแต่พูดไม่ออก
ooooooo
เมื่อนักแสดงลงตัว ผู้กำกับเรียกประชุมอธิบายพร้อมกับคลิกสไลด์ภาพให้ดู
“เรื่องนี้นางเอกเป็นสาวไฮโซ แต่ชีวิตตกอับ ต้องไปเป็นครูในไร่กลางป่า แล้วก็ได้พบรักกับพระเอกที่เป็นนักอนุรักษ์ ซึ่งบทพระเอกเนี่ย เราจะเขียนจากบุคลิกของคุณพญา แล้วก็ไปถ่ายที่ไร่ภูพญาด้วย”
“แล้วตอนจบเป็นไงคะ” เมขลาทนฟังจนจบแล้วถามขึ้น พอผู้กำกับบอกว่าตอนจบพระเอกโดนยิงตาย เมขลามองหน้าพญาหัวเราะร่า “ตาย ฮ่าๆๆ...ชอบอ่ะ ชอบจบแบบนี้มาก เหมาะที่สุด”
แจ๊คโวยว่าทำไมให้พญาเป็นคู่จิ้นกับลาล่า ตนเล่นเป็นพระเอกทำไมไม่ให้ตนเป็น ผู้กำกับบอกว่าก็ให้กุ๊กกิ๊กกันนอกจอไง มีพระเอกตัวเองอยู่ที่ไร่ แล้วหันถามพญาว่ามีแฟนตัวจริงจะมีปัญหาหรือเปล่า พญาบอกว่าไม่มี เมขลาแย้งทันทีว่า
“แต่ลาล่ามีปัญหาค่ะ หนูทำเรื่องแบบนั้นกับเขาไม่ได้”
“เอาน่า จิ้นหน่อย ให้แฟนคลับเขาฟินกัน” ผู้กำกับตัดบท เมขลาทำท่าจะแย้งอีก ผู้กำกับขัดขึ้นว่า “ไม่มีแต่อะไรแล้ว ทุกอย่างตามนั้น” พูดแล้วเดินออกไปเลย เมขลาอ้าปากค้างทำหน้าขัดใจสุดๆ แล้วก็ไปเคี่ยวเข็ญเจ๊มิ้วให้เคลียร์ให้ตนด่วนเลย ตนไม่เอาคู่จิ้น
แต่เมขลาก็แพ้ฝีปากผู้จัดการมืออาชีพอย่างเจ๊มิ้ว บ่นฟึดฟัดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อมาถ่ายรูปคู่ที่ห้องโถงในสถานีก็ตะบึงตะบอน จนเจ๊มิ้วต้องบอกให้ทำหน้าดีๆ หน่อย และตากล้องก็บอกว่าให้ยิ้มหน่อย ตากล้องชมว่าพระเอกยิ้มหล่อมากเลย เธอจึงฉีกยิ้มยิงฟันใส่กล้อง
ที่ไร่ภูพญา บรรดาคนในไร่ทั้งแม่ครัว เด็กรับใช้ และคนงาน ได้ข่าวจะมีกองถ่ายมาที่ไร่ก็เตรียมสวยเตรียมหล่อออกทีวีกัน พญาพูดขำๆว่าเขาจะมากันเดือนหน้าโน่น เพ็ญก็ว่า แต่งกันแต่ตอนนี้กว่าจะถึงวันนั้นบูดกันพอดี
กุ้งถามว่าใครเล่นเป็นพระเอกนางเอก พญาบอกว่าแจ๊คกับลาล่า ดอกปีบถามว่าลาล่าคือครูปริมใช่ไหม พญาไม่ตอบขอตัวไปดูแปลงองุ่น หลังจากนั้นเพ็ญกำชับทุกคนว่า
“ห้ามเรียกชื่อครูปริมเด็ดขาด ให้เรียกเขาว่าคุณลาล่า แล้วอย่าให้คนอื่นรู้ด้วยว่าเขาเคยอยู่ที่นี่ ใครหลุดปากฉันตัดเงินเดือน” ทุกคนรีบรับปาก น้ำอ้อยถามว่าพวกตนไม่มีเงินเดือนเรียกครูได้ไหม “ไม่ได้ เด็กๆต้องเรียกเขาว่าพี่ลาล่าเหมือนกัน ถ้าใครไม่ทำตามจะสั่งให้ครูคนใหม่เพิ่มการบ้าน” พวกเด็กๆทำหน้าสยอง แย่งกันรับคำเสียงขรม
ระหว่างนั้นเพ็ญไม่เห็นป้าแหวง ถามว่าหายไปไหนก็ไม่มีใครรู้ ที่แท้ป้าแหวงรับสินบนเป็นสายให้แอนนี่จึงรีบไปรายงานที่บ้าน เสี่ยส่งถามว่าทำไมพญายังไม่ยอมปล่อยมือจากเมขลา เขาต้องการอะไรแน่ ระแวงว่าพญาจะคิดเอาป่าสายน้ำผึ้งคืน แอนนี่ชะงัก ส่วนมิ่งที่แอบฟังอยู่นิ่งคิด
ooooooo
ถึงกำหนดที่จะถ่ายละครเรื่องวิมานสีเขียว เมขลากับเจ๊มิ้วนั่งรถตู้ไปยังไร่ภูพญา ผ่านจุดที่เกิดอุบัติเหตุ เมขลาสั่งให้คนขับหยุดรถ เธอนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ทะเลาะกับพญาและประกาศจะไม่ขายป่าสายน้ำผึ้งให้เขาเด็ดขาด จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ความเจ็บแค้นขมขื่นก็ถาโถมเข้ามาอย่างหนัก
เมื่อถึงบ้านพัก พญายืนรอรับอยู่ เมขลามองเขาแปลกๆจนพญาถามว่าทำไมมองแบบนั้น
“คุณได้ทำบุญให้ครูปริมตัวจริงบ้างหรือเปล่า”
พญาสะอึกอึ้งกับคำถามนี้ เขานิ่งไม่ตอบ
เมื่อขึ้นบ้าน คนอื่นๆพากันชมวิวทิวทัศน์อย่างตื่นตาตื่นใจ แต่เมขลาหลับ พอตื่นขึ้นเห็นเพ็ญก็รีบยกมือไหว้
พวกเด็กๆตื่นเต้นพากันมาแอบดูดาราและทีมงาน ปลากัดจำเมขลาได้ถามเพื่อนๆว่านั่นครูปริมใช่ไหม น้ำอ้อยไม่แน่ใจ น้ำตาลบอกว่าเขาเป็นดาราไม่ใช่ครูปริม เมขลาได้ยินเสียงเด็กๆ ดีใจจนลืมตัวร้องทักปลากัด เจ๊มิ้วได้ยินถามว่ารู้จักกันหรือ เมขลารู้ตัวกลบเกลื่อนว่าตนทำการบ้านมาก่อนว่ามาทำงานที่นี่ต้องเจอใครบ้าง เจ๊มิ้วชมว่านางเอกของเจ๊ขยันจัง
พญาจัดให้เมขลานอนห้องเดิมที่ติดกับห้องของเขา เธองอแงไม่ยอมนอน เพ็ญชี้แจงว่า
“เรือนเล็กที่หนูเคยอยู่ พวกผู้กำกับเอาไปนอนแล้ว เหลือแต่ห้องนี้ คุณมิ้วเขามาดูแล้ว บอกว่าจัดให้หนูได้เลย แต่ถ้าหนูไม่สบายใจ...”
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่กวนคุณหรอก” พญาตัดบทแล้วเดินออกไปซึมๆ
ooooooo
รุ่งขึ้นเมขลานอนตื่นสาย ทีมงานจึงไปก่อนเพื่อให้เธอนอนพักให้สบาย เจ๊มิ้วขอให้พญาช่วยพาเธอตามไปภายหลัง
แต่พอพญาขับรถออกไปครู่เดียว ก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางเพราะฝนตกหนักหน้าดินทรุด ทางในป่าโดนตัดหมด แต่เส้นทางใหม่เขาไม่คุ้นชินเลยพาหลง ทางกองถ่ายร้อนใจเพราะได้เวลาแล้วแต่พระเอกนางเอกยังมาไม่ถึง โทร.ติดต่อกันสัญญาณก็ไม่ดีพูดขาดๆหายๆ สื่อกันไม่เข้าใจ ที่ร้ายกว่านั้นคือพญากับเมขลาได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือจึงย่องไปดู เจอไอ้ชิดกับไอ้หยอยจับผู้หญิงยัดเข้าโกดังจะเอาไปขาย เมขลาจำได้ว่าสองคนนี้เป็นคนที่ขับรถบรรทุกเบียดตนตกข้างทางและจับตนตอนออกจากโรงพยาบาล เธอรีบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปไว้
พญาถามว่าถ่ายไปทำไม เธอบอกว่าส่งให้ฝ่ายข่าว คนเลวๆพวกนี้ต้องแฉให้คนรู้กันทั่วประเทศ เธอพยายามจะถ่ายไปพากย์ไป ไม่ทันระวังเดินไปเกือบตกเนิน พญารับไว้ทัน เธอตกใจร้องเสียงดัง ไอ้ชิดกับไอ้หยอยได้ยิน มันยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ พญาฉุดเมขลาหนี แต่มันเห็นก่อน ไอ้ชิดสั่งให้เก็บทั้งคู่เลยถ้าหนีไปได้เราแย่แน่ๆ
พญาพาเมขลาวิ่งหนีพลางยิงต่อสู้ ไปหลบในพงหญ้า มันวิ่งผ่านไปไม่เห็น พญาจึงพาเธอออกเดินป่า เมขลาระแวงว่าเขาจะตุกติก บอกว่าให้พาตนไปส่งกองถ่าย พญาบอกว่าขืนไปตอนนี้โดนมันยิงแน่
ส่วนทางกองถ่ายรอแล้วรอเล่าพญากับเมขลาก็ไม่มา ผู้กำกับเห็นผิดปกติสั่งเลิกกองแล้วรีบตามหาตัวทั้งสองให้พบ
พญาพาเมขลาเดินมาจนเจอกระท่อมร้างกลางป่า เขาชวนให้พักเอาแรงก่อน เมขลาหาว่าเขาแผนสูงไม่ยอมเข้าไป พอพญาเข้าไปเธอนึกกลัวจึงเข้าไป พญาบอกว่าจีพีเอสของตนเสียหาพิกัดไม่เจอ
อรัญกับเทิดและเจ๊มิ้วออกตามหาเมขลากับพญา เจ๊กลัวเมขลาเป็นอะไรไป ได้เป็นข่าวใหญ่แน่
“ไม่ต้องห่วงครับ เพื่อนผมอยู่ป่าตั้งแต่เกิด พาคุณลาล่ากลับมาได้แน่” อรัญมั่นใจ
เมื่อเมขลาเข้ามาในกระท่อม พญาพยายามง้อ เขาขอโทษทุกเรื่องที่ผ่านมา เธอไม่ยอมยกโทษให้ พญาตามง้อกอดเธอไว้ เธอเสียงแข็งสั่งให้ปล่อย หันจ้องเขา
แต่พอสบตากันแววตาที่ดุดันของเธอก็อ่อนแสงลง เมื่อพญาก้มลงจะจุ๊บเธอรู้สึกตัวสะบัดหน้าหนี ศอกใส่เขาจนตัวงอแล้วปึงปังออกจากกระท่อมไป ใช้เครื่องตัวเองหาจีพีเอส แต่ไม่มีสัญญาณ รู้สึกหิว มองไปเห็นมีมะม่วงสุกจึงพยายามจะสอยกินแต่ไม่ถึง กระโดดตีมะม่วงก็ไม่หล่น จนตัวเองล้มลงข้อเท้าพลิก
ข้อเท้าพลิกแล้วก็ยังทิฐิพยายามจะเดินไป พญาเห็นทนไม่ไหวเลยจับขึ้นบ่าแบกไป ได้สัมผัสความแข็งแรงของเขาทำให้เมขลารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ถึงจะทำฤทธิ์บ้างพอถูกขู่ว่าจะโยนทิ้ง ก็รีบสงบเสงี่ยม
อรัญ เพ็ญ ศนิและเจ๊มิ้วเดินหาจนเจอพญาแบกเมขลามา เมื่อพากันกลับถึงบ้านพัก เจ๊ยังปลื้มรำพึงซึ้งว่าพระเอกนอกจอเห็นแล้วฟินไปสามโลก แล้วชวนคนอื่นไปกินของว่างกันเพราะเมขลามีคนดูแลแล้ว
พญาประคบเย็นให้บอกว่าเดี๋ยวก็ค่อยๆหายบวมช่วงนี้อย่าเดินมาก ถ้ามีคิวบู๊ก็อย่าเพิ่งเล่น พักให้หายดีก่อน เมขลาพึมพำว่าห่วงด้วย...
“ผมอาจจะเลวที่เคยหลอกคุณ แต่ความรู้สึกของผม มันเป็นเรื่องจริง” เธอถามว่ารู้สึกยังไง ก็พอดีศนิถือกระเป๋าเดินเข้ามา ถามว่าเท้าไปโดนอะไรมา เหลือบมองพญาหยอกว่ามีพยาบาลด้วยนะ เมขลาเชิดหน้าสะบัดเสียงว่าไม่เห็นสนใจเลย แล้วชวนศนิออกไป แต่เดินออกไปสีหน้าเขินๆ
อรัญดูออก เขายิ้มให้พญาแซวๆ พญายิ้มตอบนิดๆอย่างรู้กัน
ooooooo
เมขลาจะเอาคลิปที่ถ่ายพวกค้ามนุษย์ไปออกรายการจะได้กวาดล้างพวกนี้ให้สิ้นซาก พญาบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้เพราะในคลิปติดตัวเธอไปด้วย ให้เอาคลิปนั้นให้เจ้าหน้าที่เสีย เมขลารั้นไม่เชื่อ
แต่พออรัญบอกว่าถ้ากระโตกระตากไป นอกจากพวกมันจะรู้ตัวแล้วเธอเองก็อันตรายด้วย เรื่องนี้ปล่อยให้พวกตนจัดการดีกว่า ศนิเห็นด้วย อรัญจึงขอเอาไฟล์ไปก๊อบปี้เดี๋ยวจะเอามาคืน
เสี่ยส่งสั่งมิ่งให้เก็บพญาเสียเพราะชักจะรู้เรื่องของตนมากไปแล้ว แอนนี่ห้ามทำร้ายพญาเด็ดขาดเพราะเขาเป็นผู้ชายที่ตนจะแต่งงานด้วย เรื่องของพญาตนขอจัดการเองคนอื่นอย่าแส่ พลางหางตาไปทางมิ่ง
การถ่ายละครเริ่มแล้ว ในบท เมขลาจะต้องต่อว่าและตบหน้าแจ๊คว่าหลอกตน ตอนซ้อมเธอตบหลอกๆ แต่พอถ่ายจริงเธอเห็นพญามายืนดูอยู่ เลยอินมากเพราะเป็นเรื่องจริงระหว่างเธอกับพญาเผลอตบแจ๊คจริงๆ แจ๊คเจ็บจนมึนแต่ก็พยายามเล่นต่อจนจบ
ทุกคนงงมากกับการเล่นนอกบทของเมขลา เจ๊มิ้วถามว่าทำไมตบจริง เธอตัดบทว่าเจ๊ไม่มีวันเข้าใจหรอกแล้วเดินหนีไปเลย เจ๊ถามศนิว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ ศนิตอบหน้านิ่งว่า “เป็นไข้ใจมังคะ” ทำเอาเจ๊ยิ่งงง
ศนิดูออกว่าทั้งพญาและเมขลาต่างมีใจให้กัน เธอถามพญาว่าคิดอย่างไรกับเพื่อนตน ขอให้ตอบตรงๆ
“ผมยอมรับว่าช่วงแรกที่คิดจะเก็บเขาไว้ในไร่ เพราะกลัวว่าถ้าเมขลารู้ความจริงว่าตัวเองคือใคร เขาจะขายป่าให้เสี่ยส่ง แต่พอเวลาผ่านไป มันไม่ใช่แค่นั้น...ผมรักเมขลาครับ”
ฝ่ายเมขลาทำท่าโกรธเกลียดพญา ต่อหน้าเขาก็แกล้งเอาใจฉอเลาะแจ๊คประชดเขา จนศนิมองออกถามว่าเธอชอบเขาใช่ไหม เมขลาปฏิเสธพัลวัน ศนิบอกว่าตนคุยกับพญาแล้วเขาบอกว่ารักเธอ เมขลาอึ้งทำเป็นสะบัดเสียงว่าไปเชื่ออะไรกับคนอย่างนั้น
“เชื่อสิ ฉันมั่นใจว่าดูคนไม่ผิด รวมทั้งดูเธอไม่ผิดด้วยว่ารักเขา”
“อย่าพูดแบบนี้อีกไม่งั้นเลิกเป็นเพื่อนกัน เลือกเอาว่าจะเป็นข้างเขาหรือข้างฉัน ฉันไม่ได้รักเขาได้ยินไหม ฉันไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น” เมขลาเสียงแข็งเหมือนพยายามใช้เสียงกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตน
“เม...อย่าเอาชนะกันเลย การที่จะเจอคนที่เรารักจริงๆ มันไม่ง่ายนะ” ศนิเตือนเพื่อนอย่างรู้ทัน
ooooooo
แอนนี่มาตอแยพญาถามเรื่องความรู้สึกต่อเมขลา พญาบอกว่าตนคงไม่มีวันสบายใจได้ถ้าเมขลาไม่ยกโทษให้ แอนนี่ยุว่าถ้าเข้าใจยากนักก็ปล่อยเขาไปเสีย จะยื้อไว้เพื่ออะไร เพราะผู้หญิงอย่างเมขลาไม่มีวันมาใช้ชีวิตที่นี่ได้หรอก
เมขลาย่องมาแอบฟังแอนนี่ ทองหลางมาเจอแกล้งทักเสียงดัง พญาถามทองหลางว่ามีอะไร ทองหลางบอกว่าไม่มีอะไรแมววิ่งผ่านไปเท่านั้น พญาไม่ติดใจ แอนนี่ไม่เชื่อแต่ไม่พูดอะไร
คืนนี้อากาศเย็น เมขลามายืนที่ระเบียง พญาเอาผ้ามาคลุมไหล่ให้บอกว่าอากาศเย็น แล้วกอดเธอจากข้างหลัง เมขลาสั่งให้ปล่อย
“ให้อภัยผมเถอะนะ ผมรู้ตัวว่าทำผิดไปมาก แต่บอกมาสิว่าต้องทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธ”
“ไม่ต้อง คุณทำมามากเกินพอแล้ว อย่าพยายามอีกเลย เราไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว”
เมขลาน้ำตาไหลเบี่ยงตัวเดินจากไป พญายืนนิ่งอย่างเจ็บปวด กลับเข้าห้องแล้วก็ยังนอนร้องไห้ ศนิถามว่าเป็นอะไร เมขลาไม่ตอบ ศนิได้แต่มองเพื่อนอย่างเป็นห่วง
รุ่งขึ้นแอนนี่มาถามเมขลาขณะนั่งท่องบทอยู่ว่าเธออยากได้พญามากหรือถึงกับต้องลงทุนสร้างเรื่องขนาดนี้ เมขลาบอกว่าตนไม่สนใจผู้ชายคนนี้เลยสักนิด แอนนี่ได้ทีให้เธอยืนยันว่าพูดแล้วก็อย่ามายุ่งกับพญาอีก
“คนอย่างฉัน พูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อรู้แล้วว่าฉันเป็นใคร เธอก็ควรคืนป่าสายน้ำผึ้งให้ฉันได้แล้ว”
แอนนี่อึ้งสนิท คิดไม่ถึงว่าเมขลาจะมาไม้นี้
ooooooo










