สมาชิก

ทะเลไฟ

ตอนที่ 2

สุดารัตน์รีบแจ้นมาบอกข่าวดีกับสิรินดาว่านลินีต้องการจะให้เธอไปทำหน้าที่เลขาฯให้เตชินจะได้คอยรายงานให้ท่านรู้ทุกฝีก้าวว่าเขาไปไหน ทำอะไรกับใครบ้าง สิรินดาปฏิเสธทันทีว่าทำไม่ได้ แค่งานที่ทำอย่างเดียวตอนนี้ยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอด จะให้ไปเป็นเลขาฯซึ่งต้องทำหลายอย่างพร้อมกันแล้วจะรอดได้อย่างไร

“แล้วใครว่าฉันจะให้แกทำหน้าที่เลขาฯเป็นงานหลัก นั่นน่ะงานรอง หน้าที่หลักของแกคือจับคุณเต้เอาเป็นผัวให้ได้” สุดารัตน์เห็นหลานสาวส่ายหัวดิกไม่เอาด้วยก็โกรธ กระชากแขนเธอสีหน้าเอาเรื่อง ทวงบุญทวงคุณที่เป็นคนชุบเลี้ยงเธอมา ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องตอบแทนบุญคุณ แล้วไล่ให้ไปแต่งตัวสวยๆ ตนจะได้พาไปหาเตชิน สิรินดานั่งนิ่งไม่ยอมขยับ สุดารัตน์ต้องไล่ซ้ำเธอถึงลุกขึ้นได้...

ฝ่ายพศิกากลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านบนเขา ระหว่างยืนเช็ดผมให้แห้งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง อดครุ่นคิดถึงคำพูดของเตชินเมื่อตอนที่โยนเธอลงทะเลไม่ได้

“จำไว้นะพศิกา นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น เธอกับฉันยังต้องสนุกกันอีกเยอะ”

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ ตอนนั้นเธอหนีออกจากบ้านมานั่งทอดอาลัยอยู่ที่ริมทะเล ฝั่งโรงแรมอันดามันเพิร์ล คิดไม่ตกจะทำอย่างไรกับชีวิตดี ถ้าไม่ได้อนุพงศ์คอยพูดให้กำลังใจแถมเสนองานที่รีสอร์ตให้ทำ ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ คิดได้ดังนั้น สีหน้าที่เคร่งเครียดของพศิกาเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น

“พั้นซ์จะสู้ค่ะ พั้นซ์จะเอาชนะใจคุณเตชินให้ได้ คุณลุงช่วยเป็นกำลังใจให้พั้นซ์ด้วยนะคะ”...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน สุดารัตน์พาสิรินดาที่แต่งตัวสวยมาเคาะประตูห้องทำงานของเตชิน แต่ไม่มีเสียงขานตอบ เธอลองเคาะเรียกอีกครั้ง ก่อนจะผลักประตูเข้าไป ในห้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ อดแปลกใจไม่ได้ว่าเขาหายไปไหน ระหว่างเดินกลับมายังห้องทำงานตัวเอง สุดารัตน์ได้ยินปลาบอกกับณีว่าวันนี้พศิกาไม่เข้าออฟฟิศ ถ้ามีอะไรด่วนให้โทร.เข้ามือถือ ถึงกับหูผึ่ง

“คุณเตชินไม่อยู่ นังพศิกาก็ไม่อยู่ หรือว่า...จะไปด้วยกัน”

คิดเองเออเองเสร็จสรรพ สุดารัตน์รีบแจ้นไปฟ้องนลินีถึงบ้านของอนุพงศ์ว่าเตชินออกไปกับพศิกาสองต่อสอง มณีกาญจน์ที่มาอยู่เป็นเพื่อนนลินีทักท้วงว่าเห็นกับตาตัวเองหรือเปล่าว่าทั้งคู่ไปด้วยกัน สุดารัตน์ว่าไม่ต้องเห็นขนาดนั้นก็พอจะเดาได้ เพราะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนที่ทั้งพศิกาและเตชินจะไม่อยู่พร้อมกัน

“สุดาหวั่นใจกลัวนังนั่นจะใช้มารยาทำให้คุณเตชินหลงเสน่ห์เหมือนที่มันทำกับคุณอนุพงศ์มาแล้ว”

“ฉันว่าคุณคิดมากเกินไป” มณีกาญจน์ติง นลินีกลับเชื่อคำยุแยงของสุดารัตน์ พานจะทำให้ความดันเลือดกำเริบขึ้นมาอีก มณีกาญจน์ขอร้องอย่ามัวแต่มานั่งคิดเองอยู่อย่างนี้ ถ้าอยากรู้ว่าลูกชายไปไหนก็ให้โทร.ไปถาม นลินีคว้ามือถือขึ้นมาโทร.หาลูกกลับมีเพียงสัญญาณให้ฝากข้อความ ยิ่งทำให้เธอคิดมาก

“แบบนี้ชัดเลยค่ะว่าเรื่องที่สุดาพูดเป็นความจริง”

“นังพศิกา นังแพศยา เห็นทีแกกับฉันจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว”

ooooooo

ทั้งเตชินและพศิกาไม่ได้ไปด้วยกันอย่างที่สุดารัตน์ใส่ความ เขาไปพบกับทรงศักดิ์ผู้จัดการโรงแรมอันดามันเพิร์ลเพื่อให้ช่วยสอนงานให้ คนถูกขอร้องกลับบอกให้เขาไปเรียนรู้งานจากพศิกาซึ่งเป็นคนเก่งและรู้ระบบงานดีที่สุดของบริษัท เตชินอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอเก่งขนาดนั้นเลยหรือ

“ครับ เก่งขนาดที่ว่าคุณอนุพงศ์ไว้ใจให้ทำทุกอย่างทั้งเรื่องบัญชีเรื่องกฎหมาย พูดง่ายๆก็คือแทบจะทุกเรื่องนั่นแหละครับ แต่ก่อนที่นี่ไม่เป็นระบบ พอคุณพศิกาเข้ามาก็เซตระบบทั้งหมดใหม่จนทำให้อันดามันเพิร์ลติดหนึ่งในห้ารีสอร์ตที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน” ทรงศักดิ์ชื่นชมพศิกา ส่วนเตชินได้แต่นั่งอึ้ง

ฝ่ายพศิกาแวะมาหานวลทิพย์ที่โรงแรมแห่งนี้เช่นกัน เพื่อสอบถามเรื่องการรวบรวมหลักฐานไปถึงไหนแล้ว เธอรายงานว่าช่วงนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนพวกนั้นจะระวังตัวมากขึ้น พศิกากลัวพวกคนร้ายจะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ นวลทิพย์ไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้เพราะเธอทำทุกอย่างด้วยความเงียบเชียบที่สุด

“พี่ทิพย์อย่าประมาทนะคะ ถ้าเห็นอะไรไม่ชอบมา พากลรีบโทร.บอกพั้นซ์ทันที”

อีกมุมหนึ่งไม่ห่างนัก เตชินเพิ่งคุยงานกับทรงศักดิ์เสร็จ เดินผ่านมาเห็นพศิกากำลังซุบซิบหน้าตาเคร่งเครียดอยู่กับนวลทิพย์ก็หยุดมองด้วยความสนใจ เธอหันมาเห็นเขาก็รีบเมินหน้าหนีทำเป็นไม่เห็น เตชินตะโกนเรียกเธอก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ครั้นจะเข้าไปหาก็ถูกรถเข็นกระเป๋าขวางทาง เขามองไปอีกครั้งเธอหายไปแล้ว พศิกาซึ่งแอบอยู่ตรงหลืบคะเนว่าเขาคงไปพ้นแล้ว จึงออกจากที่ซ่อนเพื่อจะกลับไปขึ้นเรือ แต่ต้องชะงักเมื่อเตชินโผล่พรวดมาดักหน้าไว้ ต่อว่าว่าทำไมทำเป็นไม่เห็นเขา แถมร้องเรียกยังเดินหนีอีกต่างหาก

“คุณเรียกฉันด้วยเหรอ ฉันไม่ได้ยินจริงๆ” พศิกาตีหน้าซื่อตาใส

เตชินสงสัยว่าเธอคุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ท่าทางมีลับลมคมใน คิดจะทำอะไรกันแน่ เธอปฏิเสธว่าไม่ได้คิดจะทำอะไรทั้งนั้น ผู้หญิงที่เขาเห็นคือนวลทิพย์ เป็นผู้จัดการแผนกบัญชีและการเงินของที่นี่

“งั้นก็ดี ฉันจะไปถามเขาว่าเขาคุยอะไรกับเธอ” ว่าแล้วเตชินจ้ำพรวดๆออกไป...

ขณะที่พศิกากลัวเตชินจะรู้เรื่องยักยอกเงินก่อนเวลาอันควร นลินีกำลังสั่งการให้สง่าเอากุญแจผีมาไขประตูบ้านบนเขาที่อนุพงศ์ยกให้พศิกาโดยมีสุดารัตน์กับพรชัยยืนรอรับคำสั่งอยู่ไม่ห่าง ส่วนมณีกาญจน์พยายามห้ามปรามเพื่อนรักไม่ให้บุกรุกบ้านคนอื่น นอกจากจะไม่ฟัง นลินีกับพวกยังเข้าไปรื้อข้าวของในบ้านเอามาโยนทิ้ง มณีกาญจน์ขอร้องให้เธอพอได้แล้ว

“กาน...ที่ฉันให้เธอมาด้วยเพราะอยากให้เธอมาดูความพินาศของมันพร้อมกับฉัน ไม่ได้ให้มาเกลี้ยกล่อมให้ฉันหยุด เธอไม่เป็นฉันเธอไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกที่เห็นผัวตัวเองไปหลงรักเมียสาวมันเจ็บปวดแค่ไหน”

ooooooo

พศิกาเร่งฝีเท้าตามเตชินที่เดินลิ่วไปยังแผนกบัญชีด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก พลางร้องเรียกให้เขารอเธอก่อน เขากลับเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น เธอเห็นท่าไม่ดีรีบไลน์ไปเตือนนวลทิพย์ว่าเจ้านายคนใหม่กำลังจะไปหาทำให้นวลทิพย์ตั้งรับได้ทันและรอดจากการถูกเขาสงสัยมาได้หวุดหวิด...

ในเวลาเดียวกัน หลังจากปลากับณีฟังป้าน้อยเล่าว่าตอนเดินผ่านบ้านบนเขา เจอสง่ากับพรชัยและสุดารัตน์กำลังช่วยกันขนข้าวของในบ้านออกมาโยนทิ้งก็รีบโทร.รายงานพศิกาซึ่งเพิ่งเดินตามเตชินออกมาจากห้องทำงานของนวลทิพย์ เธอโมโหมากคิดว่าเขารู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้ด้วย ปรี่เข้าไปขวางหน้า

“เป็นพวกหมาลอบกัดเหรอไงหะ แน่จริงก็ทำซึ่งหน้าสิ มาทำลับหลังฉันทำไม อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันถอดใจยอมลาออกไปง่ายๆ ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะครบกำหนดสองปี ไม่ว่าคุณ แม่คุณหรือว่า

ใครก็เอาฉันออกไม่ได้...จำไว้คุณเตชิน” พศิกาพูดจบเดินหน้าเชิดจากไป เตชินได้แต่มองตามงงๆ...

ครู่ต่อมาพศิกากลับถึงบ้านเห็นข้าวของของตัวเองกระจัดกระจายเกลื่อนหน้าบ้าน เข้าไปต่อว่านลินีว่าทำเกินไปแล้ว เธอกลับบอกว่านี่ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับการที่พศิกาปอกลอกสามีของเธอ แล้วไล่ตะเพิดคู่อริไปให้พ้นจากที่นี่ หญิงสาวยืนกรานจะไม่ไปไหนทั้งนั้น แล้วก้มเก็บรูปถ่ายครอบครัวตัวเองที่พังเสียหายขึ้นมา

“บ้านนี้คุณลุงยกให้ฉันแล้ว เพราะฉะนั้นที่นี่เป็นบ้านของฉัน คนเดียวที่มีสิทธิ์ไล่ฉันออกไปได้ก็คือคุณลุงไม่ใช่คุณ แล้วก็เลิกอ้างความเป็นภรรยาสักทีเพราะคุณเป็นอดีตของคุณลุง ฉันต่างหากคือปัจจุบัน”

เตชินมาทันได้ยินคำพูดประชดประชันของพศิกาถึงกับชะงัก กัดกรามแน่นไม่พอใจ นลินีเองก็โกรธไม่แพ้กัน เงื้อมือจะตบ พศิกาคว้าข้อมือไว้ ประกาศกร้าวจะไม่ยอมถูกเธอตบเป็นครั้งที่สาม

“เอามือสกปรกของแกออกไปจากตัวฉัน”

พศิกาบีบแขนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เตชินทนดูไม่ไหว สั่งให้เธอปล่อยมือแม่ของเขาเดี๋ยวนี้ นลินีเห็นลูกมาแกล้งทำเป็นอ่อนแอ ร้องเรียกให้ลูกช่วยด้วย พศิกาจำต้องปล่อยเธอเป็นอิสระ ในเมื่อเธอกับลูกต้องการประกาศสงคราม ตนก็จะสู้ไม่ถอย จะได้เห็นกันว่าใครจะอยู่ใครจะไป แล้วเดินเข้าบ้านปิดประตูปัง...

ทางฝ่ายมณีกาญจน์ทนเห็นความอยุติธรรมไม่ไหว รอจนได้อยู่ตามลำพังกับเตชิน เล่าความจริงให้ฟังว่านลินีเป็นฝ่ายไปหาเรื่องพศิกาก่อน เธอก็เลยต้องป้องกันตัวเอง เขากลับหาว่าท่านไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้หญิงคนนั้น ถึงได้หลงเชื่อว่าเธอไม่มีพิษสง เขาเห็นความร้ายกาจของเธอมาแล้ว รู้เช่นเห็นชาติว่าเธอเป็นคนอย่างไร

ooooooo

เตชินเห็นพศิกาไม่มาทำงาน บุกไปตามถึงบ้านบนเขา เธอขอลางานหนึ่งวันเพื่อเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เขาไม่อนุญาตให้ลา ไล่เธอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเห็นเธอทำหูทวนลมจัดแจงลากตัวไปที่ห้องน้ำ เปิดฝักบัวราดน้ำจนเปียกไปทั้งตัว เธอแค้นใจมากถึงกับร้องไห้โฮสั่งให้หยุดได้แล้ว

“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าเรายังต้องสนุกด้วยกันอีกเยอะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันให้เวลาเธอสิบห้านาที ฉันจะรอที่ห้องรับแขก ถ้าช้า...ฉันจะเข้ามาช่วย” ขู่เสร็จเตชินผละจากไป พศิกาจำต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว

จากนั้นไม่นาน เตชินลากแขนพศิกาไปที่ห้องทำงานของเขาแล้วปิดประตูตามหลัง ทั้งสิรินดา ปลาและณีต่างมองหน้ากันตาปริบๆ ก่อนจะพุ่งไปแอบฟังที่หน้าประตูห้อง พศิกาดึงมือเตชินออก มีอะไรจะสั่งให้ทำก็รีบสั่งมา เขาต้องการให้เธอรวบรวมรายชื่อลูกค้าที่เข้าพักตั้งแต่ปี 2554 แยกประเภทลูกค้าด้วยว่ามาจากประเทศไหน เพื่อจะได้รู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราส่วนใหญ่อยู่ประเทศอะไร แต่มีข้อแม้ เธอต้องทำให้เสร็จภายในสี่โมงเย็นวันนี้ พศิกาโวยลั่นรายชื่อมากมายขนาดนั้นจะเสร็จทันได้อย่างไร

“ฉันเชื่อว่าคนเก่งอย่างเธอทำได้อยู่แล้ว จริงไหม” เตชินยิ้มยียวน

สักพัก พศิกาเปิดประตูห้องผลัวะออกมาทำให้สิรินดากับปลาและณีที่เอาหูแนบกับประตูแอบฟังอยู่ถึงกับหน้าคะมำ ณีกับปลาถามด้วยความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าเตชินสั่งให้พศิกาทำอะไร สองสาวอาสาจะช่วยเธออีกแรงหนึ่ง สามคนช่วยกันน่าจะเสร็จทันเส้นตายที่เขาขีดเอาไว้...

ด้านสุดารัตน์ถึงกับหัวร่อร่าเมื่อสิรินดาเล่าเรื่องที่เตชินแกล้งพศิกา เธอคาดไม่ถึง เขาจะร้ายได้โล่ขนาดนี้ วงจันทร์ซึ่งร่วมฟังอยู่ด้วยตั้งข้อสังเกตว่าเขาน่าจะร้ายกาจกว่าพศิกาด้วยซ้ำ...

เป็นอย่างที่วงจันทร์พูดไม่มีผิดเพี้ยน เตชินร้ายกาจมาก ห้ามปลากับณีช่วยพศิกาถ้าไม่อยากโดนไล่ออก สองสาวจำต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ลืมค้อนเขาหนึ่งวงก่อนจะเดินจากมา...

พศิกาทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ยังเห็นเวลาเหลือ วางเอกสารที่เพิ่งทำเสร็จไว้บนโต๊ะทำงานแล้วออกมาชงกาแฟ พอกลับไปอีกทีเอกสารอันตรธานไปจากโต๊ะ หาจนทั่วก็ไม่เจอ ครุ่นคิดหนักจะทำอย่างไรดี ตัดสินใจไปบอกเตชินตามตรงว่าเอกสารที่เพิ่งทำเสร็จหายไป ต้องมีคนกลั่นแกล้งตนแน่ๆ

“เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ฉันว่าเธอทำไม่เสร็จมากกว่า”

เธอยืนยันทำเสร็จแล้วจริงๆ แต่ไม่รู้ใครขโมยไป เตชินจะเชื่อก็ต่อเมื่อเธอพิสูจน์ได้ว่ามีคนเอาไป...

เอกสารทั้งหมดที่พศิกานั่งหลังขดหลังแข็งทำอยู่ครึ่งค่อนวันถูกวงจันทร์ขโมยไปให้สุดารัตน์ตอนที่เอาเอกสารมาให้พศิกาที่ห้องทำงาน สุดารัตน์ชมเปาะว่าทำดีมาก ก่อนจะยกเอกสารเหล่านั้นออกไป

ooooooo

พศิกากลุ้มใจมากไม่รู้จะไปตามหาเอกสารที่ไหน ปลากับณีพลอยรู้สึกแย่ไปด้วยที่เธอซวยซ้ำซวยซ้อนไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ อุตส่าห์อดข้าวอดน้ำทำแทบตาย เอกสารดันมาหายไปอีก พศิกามั่นใจต้องมีคนเอาไป อยู่ๆเอกสารจะมีขาเดินเองไม่ได้ ณีเห็นด้วยและคนที่เอาไปต้องไม่หวังดีกับเธอ

“จริงสิ เมื่อเช้าตอนที่คุณเตชินสั่งงานคุณพั้นซ์ ยัยสิรินดาอยู่ด้วย หรือว่าคนที่ขโมยเอกสารไปคือเธอ”

“เราแยกย้ายกันตามหาสิรินดาเถอะค่ะ” พศิกาว่าแล้วรีบเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง โดยที่ปลากับณีไปทิศทางตรงกันข้าม ในที่สุดสองสาวก็หาตัวสิรินดาเจอ คาดคั้นให้บอกความจริงว่าเอกสารเหล่านั้นอยู่ไหน เธอสารภาพว่าสุดารัตน์กำลังเอาไปเผาทิ้งด้านหลังรีสอร์ต พศิการู้เรื่องนี้รีบตามไปขัดขวางแต่สายเกินไป สุดารัตน์โยนเอกสารปึกสุดท้ายลงไปในกองไฟเสียก่อน เธอพยายามจะดึงสายยางมาฉีดน้ำดับไฟ

แต่ยัยจอมยุแยงตะแคงรั่วเข้ายื้อแย่ง น้ำจากสายยางฉีดเข้าเต็มหน้าถึงกับร้องลั่น พศิกาพุ่งเข้าไปจะเอาเอกสารออกจากกองไฟ ยัยจอมยุแยงตามมากระชากผมแล้วตบซ้ำ เธอไม่ยอมเจ็บฝ่ายเดียวชกหน้าไปหนึ่งหมัด สุดารัตน์เหลือบเห็นเตชินเดินเข้ามา รีบคว้ามือพศิกามาตบหน้าตัวเอง พร้อมกับร้องโวยวาย

“อย่าค่ะคุณพั้นซ์ อย่าทำสุดาเลยนะคะ โอ๊ย”

พศิกายืนตะลึงไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะบ้าได้ขนาดนี้ แต่พอได้ยินเสียงสั่งให้หยุดของเตชิน ก็ถึงบางอ้อทันทีว่าสุดารัตน์กำลังเล่นละครตบตา เธอพยายามอธิบายว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น แต่เขาไม่ฟัง ระหว่างนั้นปลากับณีพาตัวสิรินดาเข้ามาเพื่อให้บอกความจริงให้เตชินฟังว่าสุดารัตน์เอาเอกสารของพศิกาไป เธอกลับพลิกลิ้นว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ปลากับณีบังคับให้เธอสารภาพในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ แถมขู่จะทำร้ายอีกด้วย เธอกลัวก็เลยยอมรับ แทนที่จะสอบถามความจริงให้แน่ชัดก่อน เตชินกลับหาว่าทั้งหมดเป็นแผนการของพศิกา

ป่วยการจะอธิบายเพราะเขาปักใจเชื่อไปแล้ว พศิกาก็เลยตัดบทจะทำเอกสารให้เขาใหม่ แล้วเดินออกไปกับปลาและณี เตชินมองตามไม่พอใจ สิรินดาพยายามจะอ่อยเขา แกล้งเจ็บแขนร้องโอดโอย

“ถ้าเจ็บมากก็ไปหาหมอซะ” พูดจบเขาเดินจากไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้สิรินดายืนเซ็ง...

ปลากับณีเสนอตัวจะช่วยพศิกาทำเอกสารให้เตชินใหม่ แต่เธอไม่ยอมให้ช่วย เนื่องจากไม่อยากให้ทั้งคู่เดือดร้อน

ooooooo

กว่าพศิกาจะได้เอกสารครบถ้วน ฟ้าสว่างคาตา ครั้นเธอเอาเอกสารไปให้ เตชินกลับบอกว่าไม่อยากได้แล้ว เธอโมโหสุดๆ ขว้างเอกสารใส่หน้า ประกาศกร้าวจะไม่ยอมไปจากที่นี่ไม่ว่าเขาจะใช้แผนสกปรกแค่ไหน เขากลับหาว่าที่เธอไม่ไปเพราะต้องการเงิน ให้เธอบอกมาว่าอยากได้เท่าไหร่

“เก็บเงินของคุณไว้จัดงานศพให้ตัวเองเถอะ” ด่าเสร็จพศิกาหันหลังจะไป แต่เกิดวิงเวียนตาลาย ทรงตัวไม่อยู่ เตชินรีบเข้ามาประคองเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มหัวฟาดพื้น...

หมอมาตรวจอาการของพศิกาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่อ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย หมอก็เลยฉีดยาบำรุงให้ และให้นอนพักผ่อนอีกสักพักก็คงฟื้น ไม่นานนัก พศิกาก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น เห็นเตชินนั่งอยู่ข้างเตียง รีบลุกพรวด แต่พอเห็นตัวเองอยู่ในเสื้อคลุมตัวเดียวก็โวยวายลั่นว่าทำอะไรเธอ เขายิ้มกวน

“สภาพนี้ คิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ”

พศิกาตกใจมาก ด่าว่าเขาต่างๆนานาแล้วจะลุกหนี เขากอดเอวเธอไว้แน่น อยากจะรู้เหมือนกันว่ามีดีอะไรพ่อของเขาถึงได้ยกย่องเทิดทูนเธอนัก แล้วซุกไซร้ซอกคอเธอ

อีกมุมหนึ่งของรีสอร์ต วีรภาพเห็นป้าน้อยเดินออกมาจากตัวอาคารก็ต่อว่าว่าหายไปไหนมา คนงานไม่พอต้องรีบไปทำความสะอาดห้องให้ลูกค้าที่กำลังจะมาเช็กอินบ่ายนี้ เธอถูกเตชินเรียกไปช่วยเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พศิกา เพราะอยู่ๆเกิดเป็นลมขึ้นมาจนต้องเปิดห้องวีไอพีให้นอน ทั้งคู่มัวแต่คุยกัน ไม่เห็นสง่าที่อยู่แถวนั้น เขารอจนทั้งคู่ลับสายตารีบโทร.บอกสุดารัตน์ซึ่งรีบคาบข่าวนี้ไปฟ้องนลินีอีกทอดหนึ่ง...

ฝ่ายพศิกาดิ้นหนีจนหลุดจากอ้อมกอดของเตชิน แต่พอจะก้าวเดินกลับเซจะล้ม เขาเข้ามาประคองเอาไว้ เธอยังเคืองที่ถูกกลั่นแกล้ง หันไปคว้าเหยือกน้ำร้อนที่วางอยู่สาดใส่เสื้อเขาเต็มๆถึงกับร้องจ๊าก รีบถอดเสื้อออกแทบไม่ทัน เตชินจะเข้ามาเอาเรื่อง เธอเงื้อเหยือกน้ำร้อนขู่จะฟาด เขาพุ่งไปคว้ามือเธอไว้ ยื้อแย่งเหยือกน้ำร้อนกันไปมาจนเสียหลักล้มลงบนเตียงด้วยกันโดยที่พศิกานอนทับบนตัวเตชิน เธอจะลุกหนีแต่เขาจับเธอพลิกให้นอนหงาย แล้วกดมือสองข้างไว้กับเตียงก่อนจะเอาตัวทับไว้

เป็นจังหวะเดียวกับนลินีใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องพักเข้ามาพร้อมกับสุดารัตน์และมณีกาญจน์ ต่างฝ่ายต่างตกใจ เตชินลุกขึ้นยืนแทบไม่ทัน นลินีปรี่เข้ามาจะตบพศิกาฐานมายุ่งกับลูกชายของตน แต่เขาขวางไว้ แก้ตัวเป็นพัลวันว่าไม่ใช่อย่างที่แม่คิด พศิกาต้องการเอาคืน เข้ามาคล้องแขนเตชินไว้

“คุณเต้คะจนขนาดนี้แล้วยังจะปิดบังคุณแม่คุณอีกทำไม มันเป็นอย่างที่คุณลีคิดนั่นแหละค่ะ ไม่น่ารีบเข้ามาเลย ฉันกับคุณเต้เกือบจะฟีทเจอริ่งกันอยู่แล้วเชียว แล้วไว้นัดกันใหม่นะคะคุณเต้” พศิกาหอมแก้มเขาหนึ่งฟอด แล้วเดินนวยนาดออกไป นลินีแทบจะอกแตกตายสั่งให้ลูกชายอธิบายทุกอย่างให้ฟัง...

แม้เตชินจะเคลียร์ทุกอย่างกับแม่ได้ แต่เธอไม่มีวันปล่อยให้เสี้ยนหนามอย่างพศิกาลอยนวล มีแผนการขั้นเด็ดขาดชนิดไม่ให้ผุดให้เกิดไว้ให้เธอแล้ว...

ในเวลาต่อมา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมือง เตชินไม่ค่อยจะพอใจนักที่เสกสรรเอาแต่ขำกลิ้งเมื่อได้ฟังเขาเล่าเรื่องตัวเองกับพศิการาวกับเป็นเรื่องตลก แถมยังชื่นชมเธอออกนอกหน้าที่กล้าหอมแก้มเขาต่อหน้านลินี จนเขาต้องเตือนว่าผู้หญิงที่เพื่อนกำลังปลื้มอยู่เป็นเมียของพ่อของเขา เสกสรรทักท้วงว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง

“ไม่ต้องพิสูจน์ฉันก็มั่นใจ” เตชินเสียงกร้าว...

แผนการที่นลินีเตรียมไว้ให้พศิกาก็คือส่งสง่ากับพรชัยซึ่งสวมหมวกไอ้โม่งอำพรางใบหน้าบุกเข้าหาเธอยามวิกาลเพื่อปลุกปล้ำทำอนาจาร โชคดีที่เตชินมาช่วยไว้ทัน อัดพรชัยไปหลายหมัดจนต้องวิ่งหนี ทิ้งให้สง่าต่อสู้กับเขาตามลำพัง สง่าสู้ไม่ได้ตัดสินใจวิ่งหนีเตชินตามไปตะครุบตัวไว้ได้ กำลังจะดึงหมวกไอ้โม่งออกแต่สุดารัตน์มาขัดจังหวะเสียก่อน สง่าสบช่องผลักเขาพ้นทางแล้วหนีหายไปในความมืด เตชินเจ็บใจมาก สั่งการให้สุดารัตน์ไปแจ้ง รปภ.ให้ช่วยกันออกตามหาคนร้ายให้เจอ แล้วรีบกลับไปดูพศิกา

ด้วยความไม่ไว้ใจเตชินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พศิกาพาลคิดว่านี่เป็นแผนการที่เขาวางไว้ ส่งคนมาปลุกปล้ำ เพื่อให้เขาตามมาช่วย เตชินไม่พอใจมากที่ถูกกล่าวหาผิดๆ

“ฉันจะตามหาตัวไอ้สองคนนั่นมาให้ได้ เธอจะได้รู้ว่าฉันไม่ได้ทำ”...

ทางด้านนลินีแค้นใจที่พศิการอดเงื้อมมือสง่ากับพรชัยไปได้แถมคนช่วยยังเป็นลูกชายตัวเองอีกต่างหาก เตือนให้สุดารัตน์ระวังตัวไว้ คนอย่างเตชินไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปง่ายๆ กำชับว่าหากเกิดอะไรขึ้น อย่าให้สาวมาถึงตนเด็ดขาด สุดารัตน์มองตามเจ็บใจที่นลินีคิดจะเอาตัวรอดคนเดียว

ooooooo

เตชินกลัวรีสอร์ตจะเสียชื่อเสียงก็เลยไม่กล้าแจ้งความ ได้แต่ขอร้องให้เสกสรรช่วยมาสืบหาคนร้ายเป็นการภายใน สิ่งแรกที่เขาต้องการดูก็คือภาพจากกล้องวงจรปิด เตชินจึงขอให้วีรภาพช่วยพาไปที่ห้อง รปภ.

สุดารัตน์บังเอิญได้ยินทั้งสามคนคุยกัน ครุ่นคิดหนักจะหาทางออกอย่างไร แล้วนึกถึงสิรินดาขึ้นมาได้ รีบส่งเธอไปถ่วงเวลา ส่วนตนเองตรงไปที่ห้อง รปภ.ติดสินบนเจ้าหน้าที่ รปภ.สองคนให้ออกไปจากห้อง แล้วจัดการลบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด โดยไม่ลืมส่งข่าวให้นลินีรู้เป็นระยะๆ...

เนื่องจากไม่พบเบาะแสจากกล้องวงจรปิด เสกสรรจึงขอให้พศิกาพาไปดูที่เกิดเหตุเผื่อจะมีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง ครู่ต่อมา พศิกาพาเสกสรรกับเตชินมาที่บ้านของเธอ สารวัตรหนุ่มขอให้เธอรอที่หน้าบ้านกับเตชิน ระหว่างที่เขาเข้าไปค้นหาหลักฐาน เตชินอดถามเธอไม่ได้ว่ายังปักใจเชื่ออยู่อีกหรือเปล่าว่าตนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เธอตอบโดยไม่ต้องคิดว่าใช่ เตชินยืนยันว่าไม่ได้ทำจะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้

“คนที่ชอบสาบานคือคนโกหก”

“พศิกา ฉันจะไม่ทนล่ะนะ” เตชินเสียงกร้าว พศิกาไม่สน หากเขาทนไม่ได้ก็เป็นเรื่องของเขา...

นลินีเดินออกมาหน้าบ้านของอนุพงศ์เห็นเตชินยืนอยู่กับพศิกาที่บ้านฝ่ายหลัง แปลกใจลูกไปทำอะไรที่นั่น ยิ่งเห็นเสกสรรเดินออกจากตัวบ้านมาคุยบางอย่างกับทั้งคู่ ชักใจคอไม่ดี รีบหลบมุมแอบดู พยายามเงี่ยหูฟังแต่ไม่ได้ยินอะไร จึงไม่รู้ว่าเสกสรรพบรอยเท้าของคนร้ายและถ่ายรูปส่งไปที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อเช็กว่าเป็นรองเท้าเบอร์อะไร ยี่ห้อไหน อาจจะได้เบาะแสจากรอยรองเท้าและคงจะไม่เกินวันพรุ่งนี้ก็น่าจะรู้

“ผมลืมถามประเด็นสำคัญไป คุณพศิกามีศัตรูที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ”

“มีค่ะ ศัตรูหมายเลขหนึ่งของฉันอยู่ตรงหน้าสารวัตรนี่เอง” พศิกาปรายตามองเตชินซึ่งไม่พอใจนักหาว่าเธอพูดจาไม่รู้เรื่อง ควรจะคิดถึงหลักความจริงบ้าง ถ้าเขาเป็นคนทำจะเรียกเสกสรรมาสืบหาคนร้ายทำไม เธอตั้งข้อสังเกต อาจเป็นเพราะเขาต้องการสร้างภาพว่าเป็นคนดี แต่เธอฉลาดพอจะแยกแยะดีชั่วออก เสกสรรเห็นท่าไม่ดี ขอตัวกลับก่อน เตชินอาสาจะไปส่ง เพราะขืนอยู่แถวนี้นานๆพาลจะหายใจไม่ออก

นลินีรอจนทั้งสามคนลับสายตา รีบออกจากที่ซ่อนสีหน้าไม่สบายใจ จะต้องรู้ให้ได้ว่าเสกสรรมาที่นี่ทำไม แล้วทิ้งระยะเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าสารวัตรหนุ่มอยู่คนเดียว จึงโทร.ไปหลอกถามว่ามาที่เกาะไข่มุกทำไม เขาไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเธอ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทำให้เธอรู้ว่าเขาจะใช้รองเท้าเป็นเบาะแสในการหาตัวคนร้าย

ooooooo

พิรญาณ์มัวแต่คุยกับปาณัทและน้องพุฒลูกชายเพลินไปหน่อย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเย็นนี้แม่จะมากินข้าวด้วย ยังไม่ได้เข้าครัวทำอาหารสักอย่าง ปาณัทอาสารับหน้าที่พ่อครัวหัวป่าก์ให้ โดยมีพิรญาณ์และน้องพุฒคอยเป็นลูกมือ ไม่นานนักอาหารหน้าตาน่ากินถูกยกออกมาวางบนโต๊ะ...

มัทนากินน้อยผิดปกติจนพิรญาณ์ร้องทักว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงไม่ค่อยกินอะไร ท่านแค่คิดถึงพศิกาขึ้นมา เนื่องจากไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้ว

“จริงด้วยค่ะ พิณก็คิดถึงน้องเหมือนกัน งั้นเราเฟสไทม์หายัยพั้นซ์กันไหมคะ”

อึดใจ ใบหน้าของพศิกาปรากฏอยู่ที่จอแท็บเล็ต พร้อมกับเสียงทักทายด้วยความคิดถึงของทุกคน ปาณัทชวนให้เธอมาเที่ยวบ้านบ้าง ลางานสักสองสามวัน เจ้านายของเธอคงไม่ไล่เธอออก พศิกาไปไหนไม่ได้จริงๆ ช่วงนี้อยู่ในช่วงปรับตัว รับมือกับเจ้านายคนใหม่ ทุกคนมาหาเธอที่นี่จะง่ายกว่า แม้สีหน้าของพศิกาจะยิ้มแย้ม เวลาที่ทักทายพูดคุยกันแต่ทั้งพิรญาณ์และมัทนามองออกว่าเธอกำลังมีปัญหาแต่ไม่ยอมบอก

ในเมื่อพศิกาไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง พิรญาณ์จึงโทร.ไปถามปลาว่าเกิดอะไรขึ้น ทีแรกเธอไม่ยอมเล่า อ้างไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แต่พอถูกคาดคั้นหนักเข้าถึงได้ยอมเปิดปาก

มัทนาไม่สบายใจมากที่รู้เรื่องพศิกาถูกคุกคามหนักขนาดส่งคนมาทำร้ายกัน จะโทร.ไปบอกให้เธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้ พิรญาณ์ห้ามไว้เพราะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ น้องใจเด็ดเดี่ยวมาก พูดให้ตายก็ไม่มีทางกลับ

“แล้วพิณจะปล่อยให้น้องเผชิญหน้ากับคนใจดำอย่างนายเตชินลำพังงั้นเหรอลูก แม่ทนไม่ได้หรอกนะ ชีวิตนี้แม่ไม่อยากสูญเสียอะไรอีก” มัทนาตาแดงจะร้องไห้ หลังครุ่นคิดเรื่องของน้องสาวอยู่หลายตลบ ในที่สุดพิรญาณ์ก็หาทางออกได้ ขอร้องให้ปาณัทช่วยพูดให้พศินลงไปช่วยเป็นบอดี้การ์ดให้พศิกา

ooooooo

ปาณัทไม่รอช้าโทร.นัดให้พศินมาพบและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพศิกาให้ฟัง พศินอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ที่ต้องไปอยู่ในดงเสือสิงห์กระทิงแรดแบบนั้น ช่วงนี้เขาว่างพอดีจะลงไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเองจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอปลอดภัย มัทนากังวลใจ หากพศิกาไม่มีความปลอดภัย พศินไม่ต้องอยู่ที่นั่นถึงสองปีเลยหรือ

“ผมจะดูลาดเลาครับ ถ้าเห็นท่าไม่ดีจริงๆผมจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้พั้นซ์กลับบ้านให้ได้ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง แต่ผมจะไม่ไปหาพั้นซ์ในฐานะคนในครอบครัว เพราะถ้าเจ้านายพั้นซ์รู้ อาจจะสงสัยว่าทำไมผมต้องมาอยู่เป็นเพื่อนพั้นซ์ เขาอาจจะคิดไปไกลว่าพั้นซ์ต้องการมาปอกลอกเขาและคนที่ซวยที่สุดก็คือพั้นซ์”

“ถ้าอย่างนั้นนายจะไปอยู่ที่เกาะกับพั้นซ์ในฐานะอะไร”

พศินได้แต่ยิ้มๆ มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ทั้งปาณัท พิรญาณ์และมัทนาต่างมองเขาอย่างสงสัย...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสกสรรได้เบาะแสคนร้ายจากรอยรองเท้าที่ย่ำในบ้านพศิกาแล้ว รู้ทั้งขนาดและยี่ห้อรองเท้า เตชินสั่งการให้สุดารัตน์ไปเรียกพนักงานชายทุกคนมาที่ด้านหลังรีสอร์ตและให้เอารองเท้าทุกคู่ที่มีมาด้วย เธอรับคำสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินหายไปทางบ้านพักพนักงาน

ไม่นานนัก พนักงานชายทั้งหมดของรีสอร์ตมายืนเรียงแถวที่จุดนัดหมายพร้อมด้วยรองเท้าของตนวางอยู่ตรงหน้า เตชินเห็นทุกคนมาครบแล้ว บอกให้เสกสรรเริ่มตรวจได้เลย พศิกาทักท้วงว่ายังไม่ครบ เตชินยังไม่ได้เอารองเท้าของตัวเองมา แม้เขาจะเป็นประธานกรรมการแต่ก็ถือว่าเป็นพนักงานของที่นี่เช่นกัน

“ได้...งั้นรอเดี๋ยว” เตชินหายไปสักพัก กลับมาพร้อมกับรองเท้าในมือ

จากนั้นการตรวจสอบรอยรองเท้าก็เริ่มต้นขึ้น ปรากฏว่าไม่มีรองเท้าของใครตรงกับหลักฐานที่เสกสรรเก็บได้จากที่เกิดเหตุ รวมทั้งรองเท้าของสง่ากับพรชัย สุดารัตน์แอบถอนใจโล่งอก นี่ถ้านลินีไม่เตือนให้เธอไปบอกสง่ากับพรชัยให้เอารองเท้าที่ใส่เมื่อคืนไปทิ้ง ป่านนี้ทั้งคู่คงถูกตำรวจซิวไปแล้ว...

ค่ำวันเดียวกัน เตชินเดินมาเปิดผ้าม่านห้องรับแขก เห็นพศิกาเดินอยู่ในบ้านบนเขาก็หยุดมอง โดยไม่รู้ว่านลินีมายืนอยู่ข้างหลัง เธอถามเสียงเข้มว่าแอบดูนังนั่นทำไม เขาโกหกว่าไม่ได้แอบดู แค่จะมาปิดม่าน นลินีรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับนังนั่นแล้วและเชื่อว่ามันสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง คงจะนัดชายชู้มาหาถึงบ้าน แต่กลัวโดนจับได้ก็เลยสร้างสถานการณ์ขึ้นมาว่าจะโดนข่มขืน เตชินไม่อยากให้แม่หมกมุ่นมากไปรีบเปลี่ยนเรื่อง

“แม่อาการดีขึ้นแล้ว น่าจะพาน้ากานไปเที่ยวนะครับ น้ากานมาอยู่ที่นี่หลายวันแล้วยังไม่ได้ไปไหนเลย”

เตชินเห็นแม่สนใจ เสนอจะจัดรถให้ท่านกับมณีกาญจน์ไปเที่ยวกันวันพรุ่งนี้เลย นลินีขอบใจลูกมาก ขอตัวไปบอกให้มณีกาญจน์เตรียมตัวก่อน เขารอจนแม่คล้อยหลัง หยิบแฟ้มเอกสารทางการเงินของโรงแรมอันดามันเพิร์ลมาเปิดอ่าน สะดุดตากับบางอย่างในนั้น

ooooooo

เช้าวันถัดมา เตชินรีบไปที่โรงแรมเพื่อสอบถามเรื่องงบการเงินจากทรงศักดิ์ซึ่งบอกเขาว่าหากอยากคุยเรื่องตัวเลขให้ไปหานวลทิพย์ผู้จัดการฝ่ายบัญชีจะดีกว่า ครั้นได้เจอกับนวลทิพย์ แทนที่เตชินจะถามเรื่องงบการเงินกลับคาดคั้นให้เธอบอกความจริงว่าครั้งก่อนเธอคุยเรื่องอะไรกับพศิกากันแน่

“เออ...ฉันก็พูดไปหมดแล้ว”

“ผมเห็นคุณเป็นคนซื่อและอายุก็มากพอสมควร คงไม่อยากตกงานก่อนเกษียณหรอกนะครับ” คำขู่ของเตชินได้ผล นวลทิพย์ยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่พศิกาสงสัยว่าจะมีการยักยอกเงินเกิดขึ้น...

ด้านพศิกาแปลกใจมากที่อยู่ๆพศินโผล่มาหา จะมาของานทำระหว่างรอบริษัทใหญ่เรียกตัว เธอมั่นใจว่าการมาครั้งนี้ของเขามีบางอย่างแอบแฝง สั่งให้บอกมาตามตรงดีกว่าว่ามาทำอะไรที่นี่กันแน่ พศินเฉลยให้ฟังว่าทุกคนที่บ้านรู้แล้วว่าเธอเจออะไรที่เกาะแห่งนี้บ้าง ก็เลยเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ แต่เนื่องจากรู้ดีว่าเธอไม่มีวันไปจากที่นี่ก็เลยส่งเขามาช่วย โดยให้เธอหาทางทำให้เขาได้ทำงานที่นี่จะด้วยตำแหน่งอะไรก็ได้

“แล้วถ้าพั้นซ์ไม่ทำตามที่พัฒน์ขอร้อง”

“ป้ามัทก็คงจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง พั้นซ์ก็คงจะต้องกลับบ้าน ส่วนพัฒน์ก็คงโดนพี่นนท์ด่าตามระเบียบ คิดดูให้ดี พัฒน์รู้ว่าพั้นซ์เป็นคนฉลาด รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร” พศินเห็นพศิกานั่งเงียบ ก็ยิ้มแบบถือไพ่เหนือกว่า “เงียบแบบนี้ถือว่าตกลง...ในที่สุดพัฒน์ก็เอาชนะพั้นซ์จนได้” พศินหัวเราะชอบใจ

อีกมุมหนึ่งหน้าบ้าน เตชินได้ยินเสียงผู้ชายหัวเราะถึงกับชะงัก ลองบิดลูกบิดประตูจะเปิดเข้าไป แต่มัน ล็อกก็เลยทุบประตูปังๆ ร้องเรียกให้พศิกามาเปิด สองพี่น้องต่างมารดาหันมองตามเสียง เตชินเห็นเธอไม่ขานตอบ ขู่ลั่นถ้าไม่เปิดประตูจะพังเข้าไป เธอขอให้พศินรีบไปหาที่ซ่อนตัวก่อน ขืนเตชินเห็นเขาต้องซักเธอไม่หยุดและเขาจะไม่ได้ทำงานที่นี่ พศินพยักหน้ารับรู้ แล้วผลุบหายเข้าไปในห้องนอน

พศิการีบไปเปิดประตูรับก่อนที่เตชินจะสงสัยมากไปกว่านี้ เธอพยายามไม่ให้เขาเข้าบ้าน แต่เขาเดินแทรกเธอเข้ามาสำรวจข้างในจนได้ เธอกลัวเขาจะเจอพศิน ถามว่ามีอะไรจะคุยก็ให้รีบๆพูดมา เขาต่อว่าเธอที่ไม่ยอมบอกว่ามีการยักยอกเงินของบริษัท เธออ้างว่ายังไม่ถึงเวลา

“ไม่ถึงเวลาหรือเธอนั่นแหละที่เป็นคนทำซะเอง”

เธอนึกอยู่แล้วว่าเขาต้องคิดแบบนี้ ในเมื่อคิดจะหาเรื่องกันก็ออกไปจากบ้านของเธอได้แล้วที่นี่ไม่ต้อนรับ เตชินเหลือบเห็นกระป๋องน้ำอัดลมสองใบวางอยู่ยิ่งมั่นใจว่าเธอต้องซ่อนใครไว้เพราะได้ยินเสียงผู้ชายหัวเราะตอนที่อยู่หน้าบ้าน พศิกาแก้ตัวน้ำขุ่นๆว่าน้ำอัดลมทั้งสองกระป๋องเป็นของเธอเอง เขาไม่เชื่อ หาว่าเธอพาผัวใหม่มาซ่อน เหลือบไปเห็นประตูห้องนอนเปิดอยู่ พุ่งเข้าไปทันที พศิกาตกใจมากรีบวิ่งตาม

ooooooo

ทะเลไฟ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด