สมาชิก

ทะเลไฟ

ตอนที่ 13

ในเวลาไล่เลี่ยกัน พศินกำลังจะกลับห้องพักตอนที่เห็นพนักงานของรีสอร์ตคนหนึ่งยืนลับๆล่อๆอยู่กับใครบางคนที่ตรงมุมมืด ค่อยๆย่องเข้าไปใกล้จนเห็นพนักงานคนนั้นยื่นแบงก์พันสามใบให้สง่า แต่เขากลับขอเงินเพิ่มอีกสองพันบาท พนักงานบ่นอุบแบบนี้เอาเปรียบกันชัดๆ

“ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องเอา เพราะมีอีกหลายคนที่เขาพร้อมจ่าย”

พนักงานไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบหยิบเงินเพิ่มให้ สง่าจึงหยิบซองยาบ้าออกมา พศินตาวาวโรจน์ รีบคว้ามือถือขึ้นมาถ่ายภาพ อารามรีบร้อนดันลืมปิดแฟลช

ไฟสว่างวาบตอนที่สง่ากับพนักงานกำลังยื่นหมูยื่นแมวกัน ทั้งคู่ถึงกับชะงัก พศินตกใจไม่แพ้กัน รีบเผ่นแน่บ สง่าสั่งให้พนักงานรออยู่ตรงนี้ก่อนแล้ววิ่งตามตากล้องปริศนาไป พศินไม่รู้จะทำอย่างไรดี รีบโทร.หาจิรายุหวังจะให้มาช่วย แต่เธองอนเขาอยู่ไม่ยอมรับสาย เขาโทร.หาพศิกาแทนที่ จังหวะที่เธอรับสาย สง่าไล่ตามมาทันพอดี กระชากไหล่เขาให้หันกลับมา

“แกเองน่ะเหรอเนี่ย”

“ฉันเห็นหมดแล้วว่าพี่ทำอะไร พี่ค้ายา ถ้าคุณเตชินรู้เขาไม่ปล่อยพี่ไว้แน่”

“แต่ก่อนที่คุณเตชินจะรู้ แกอาจจะตายก่อน” ไม่ขู่เปล่าสง่าหยิบมีดพกออกมาอีกด้วย...

ขณะที่พศินตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน พศิกาซึ่งได้ยินทุกอย่างผ่านทางมือถือรีบวิ่งไปหาจิรายุที่บ้านอนุพงศ์เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยไม่ลืมโทร.บอกให้เตชินรับรู้เรื่องนี้เช่นกัน...

สง่าตวัดมีดจู่โจมพศินที่ได้แต่หลบหลีกไปมา จังหวะหนึ่งเขาเพลี่ยงพล้ำถูกนายช่างจอมหื่นถีบท้องหงายหลังตึงแล้วตามขึ้นคร่อมเงื้อมีดจะแทง ก่อนที่พศินจะโดนคมมีด เตชิน พศิกาและจิรายุเข้ามาขวางไว้ทัน สง่าเห็นท่าไม่ดีขยับจะหนี พศินคว้าขาเอาไว้ทำให้เขาเสียหลักล้มคะมำมีดหลุดมือ

เตชินตามเข้ามาต่อยซ้ำจนหมดสติ แล้วรีบโทร.ตามเสกสรรให้มาช่วยสอบปากคำสง่าที่นี่ หากพาไปโรงพักและเรื่องรู้ถึงหูนักข่าว อาจทำให้รีสอร์ตเสียชื่อเสียงได้

ooooooo

ระหว่างที่เตชินกับพศิการอการมาถึงของเสกสรร จิรายุพาพศินกลับไปที่ห้องพักของเขาเพื่อทำแผลที่เกิดจากการต่อสู้กับสง่า เมื่อได้ฟังความจริงจากปากพศิน เธอขอโทษที่เข้าใจผิดว่าเขามีอะไรกับสิรินดา

“คุณจะรู้ได้ไงในเมื่อคุณเล่นไม่พูดกับผม แถมยังไม่รับสายอีก ผมเกือบตายเพราะคุณแล้วรู้ไหม”

“รู้แล้วๆย้ำอยู่นั่นแหละ แล้วอยากให้ทำอะไรเพื่อเป็นการไถ่โทษล่ะ”

พศินขอจูบหนึ่งที แล้วยื่นปากไปใกล้ๆ จิรายุเอามือยันหน้าเขาไว้ เขาดึงมือเธอออกแล้วขโมยหอมแก้มหนึ่งฟอดแทน แถมรวบตัวมากอดอีกต่างหาก จิรายุทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อน

“คนฉวยโอกาส ยังจะมากอดอีกออกไปเลยนะ ทั้งตัวมีแต่เหงื่อ เหม็นจะตายอยู่แล้ว”

“งั้นขอไปอาบน้ำให้ตัวสะอาดจะได้จูบคุณได้นานๆดีไหม”

“ไม่ดี ปล่อยได้แล้ว” ปากโวยวาย แต่จิรายุกลับไม่ขัดขืน ปล่อยให้พศินกอดอยู่อย่างนั้น...

ขณะรอเสกสรรสอบปากคำสง่าอยู่ที่หน้าห้องพักซึ่งใช้เป็นห้องสอบสวนชั่วคราว พศิกานั่งสัปหงกเพราะเลยเวลานอนมานานแล้ว เตชินสะกิดถ้าง่วงจะกลับไปนอนก่อนก็ได้เขาอยู่รอเอง เธอไม่ไปไหนทั้งนั้นจะนั่งรอเป็นเพื่อน เตชินเสนอให้เธอใช้ไหล่ของเขาต่างหมอน เธอยิ้มรับจะเอนหัวซบไหล่ เขากลับจับเธอมาซบกับอกเขาแทน ระหว่างนั้นเสกสรรเดินหน้าเครียดออกมา ทั้งคู่ลุกพรวดขึ้นยืน

“นายสง่าว่ายังไงบ้างไอ้เสก”

“นายสง่ายอมรับว่าค้ายามาได้สักพัก แต่เขาบอกว่าเขามีเรื่องสำคัญอยากคุยกับแกแค่สองคน”

เตชินหายเข้าไปในห้องพักใหญ่ก็กลับออกมา เล่าถึงข้อต่อรองที่ทำกับสง่า ซึ่งในการซัดทอดว่าสุดารัตน์อยู่เบื้องหลังการที่เรือระเบิดทั้งสองครั้ง ส่วนเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับพศิกาล้วนเป็นฝีมือของสง่าทั้งสิ้น

“เขาขอให้กันเขาเป็นพยานในคดีนี้และอยากให้ทำเรื่องขอลดหย่อนโทษ”

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่นายสง่าพูดจะจริงหรือเปล่าเพราะเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน บางทีนายสง่ากับหัวหน้าสุดารัตน์อาจจะกำลังมีปัญหากันอยู่” เสกสรรตั้งข้อสังเกต

“ถ้าอย่างนั้นเราต้องพิสูจน์ว่าสิ่งที่นายสง่าพูดเป็นความจริงหรือไม่”

เตชินเห็นด้วยกับความคิดของพศิกา แต่ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกับสง่าดี เสกสรรเห็นควรให้ปล่อยเขาไปก่อน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นสุดารัตน์อาจสงสัยเอาได้ พศิกาข้องใจแล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสง่าจะไม่หนี เสกสรรยิ้มอย่างมีแผนการ

ooooooo

พศินเห็นสง่ายังเดินลอยหน้าอยู่ในรีสอร์ตทั้งที่ก่อคดีเอาไว้ เก็บข้อกังขาไปถามพศิกาว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเล่าถึงข้อตกลงที่สง่าทำไว้กับเสกสรรเพื่อประกันการหนีคดี

“ในรีสอร์ตมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกมุม มันทำให้หมวดเสกสรรจับตาดูนายสง่าได้ง่ายมากขึ้นและหมวดก็ขอกำลังจากตำรวจน้ำให้คอยตรวจตราบริเวณรอบเกาะทุกหนึ่งชั่วโมง”

“อันนี้พัฒน์เข้าใจแล้ว แต่ไอ้ที่พัฒน์ไม่เข้าใจก็คือทำไมคุณเตชินถึงไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายกับพี่สง่า”

พศิกาเล่าเพิ่มเติมว่าสง่าให้การซัดทอดว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในรีสอร์ต ล้วนมีสุดารัตน์เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพียงแต่เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสิ่งที่สง่าให้การเป็นความจริงหรือแค่พูดเพื่อต้องการเอาตัวรอด พศินนึกถึงห้องนอนที่ล็อกประตูแน่นหนาที่บ้านของยายแสงขึ้นมาทันที

เล่าให้พศิกาฟังว่าในห้องนั้นจะต้องมีหลักฐานอะไรสักอย่าง ที่จะเอาผิดสุดารัตน์ได้

“งั้นเราก็ต้องหาทางเข้าไปในห้องนั้นให้ได้ แล้วจะเข้าไปได้อย่างไร พั้นซ์ไม่เห็นหนทาง”

ในขณะที่พศินครุ่นคิดหนักจะเข้าห้องสุดารัตน์ได้อย่างไร เตชินโทร.บอกให้พ่อเก็บตัวแม่ไว้ก่อน อย่าเพิ่งให้กลับมาที่เกาะไข่มุก เพราะเขากำลังจะพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเรือระเบิดและมันอาจจะพาเราไปถึงตัวการใหญ่ที่ยักยอกเงินบริษัท ถ้าแม่กลับมาตอนนี้ อาจจะเป็นอุปสรรคในการจับตัวจอมบงการ

“เพราะอะไร...หรือเป็นฝีมือของหัวหน้าสุดารัตน์”

“ผมยังไม่อยากฟันธงแบบนั้น แต่มันมีความเป็นไปได้สูงมากซึ่งผมต้องการเวลาหาหลักฐาน พ่อก็รู้ว่าแม่สนิทกับหัวหน้าสุดารัตน์มาก แม่จะต้องปกป้องและหาทางช่วยหัวหน้าสุดารัตน์”

“มันก็จริง เอาล่ะพ่อจะหาทางทำให้แม่เขาอยู่ที่นี่เอง”...

เสร็จจากคุมคนมาติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมทั่วรีสอร์ต เสกสรรแวะมาแจ้งข่าวนี้ให้พศิกาทราบถึงที่บ้าน เธอขอบคุณเขามากที่ช่วยเป็นธุระให้

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องปกป้องดูแลประชาชนให้ปลอดภัย” พูดจบเสกสรรหาวหวอดๆ พศิกาถามอย่างห่วงใยเมื่อคืนไม่ได้นอนหรือ เขาพยักหน้ารับคำกว่าจะได้นอนเกือบเช้า

“กาแฟสักแก้วไหมคะหมวดจะได้รู้สึกดีขึ้น”

พศิกาหายเข้าไปในครัวสักพัก กลับมาพร้อมกาแฟร้อนหอมกรุ่น เธอเองก็ได้นอนไม่กี่ชั่วโมง พาลซุ่มซ่ามทำกาแฟหกรดเสกสรร กาแฟร้อนจัดทำให้เขาต้องถอดเสื้อออก พศิการีบไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ เตชินเปิดประตูบ้านเข้ามาพอดี เห็นเสกสรรไม่สวมเสื้อ แถมอยู่ใกล้ชิดกับพศิกาก็เข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่มีอะไรกัน

พศิกาพยายามจะอธิบายแต่เตชินไม่ฟัง สั่งห้ามไม่ให้พูดอะไรทั้งนั้น เขาจะถามเสกสรรเอง แล้วลากเพื่อนรักออกไปคุยนอกบ้าน พศิกาได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง...

ระหว่างที่เตชินปล่อยให้ความหึงหวงเข้าครอบงำ นลินีค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆห้องอย่างไม่คุ้นเคย เมียผู้ใหญ่เดชถือกะละมังใส่น้ำจะเข้ามาเช็ดตัวให้ เห็นเธอฟื้นก็ดีใจมาก ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง นลินีถอยกรูด

“แกเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมฉันใส่ชุดนี้ เสื้อผ้าฉันอยู่ไหน”

“คุณตกน้ำเสื้อผ้าเปียก ฉันก็เลยเอาชุดของฉันเปลี่ยนใส่ให้คุณ ไม่อย่างนั้นคุณจะเป็นปอดบวมนะจ๊ะ”

“อี๋สกปรก...เอาเสื้อผ้าฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” นลินีโวยลั่น ขณะที่เมียผู้ใหญ่เดชรีบถอยออกมาแทบไม่ทัน...

ผู้ใหญ่เดชรีบไปหาอนุพงศ์ที่บ้านพัก รายงานว่า

นลินีอาละวาดใหญ่โตจนเมียของเขาผวาไปหมดแล้ว จะให้เขาทำอย่างไรดี อนุพงศ์ยังไม่ทันจะว่าอะไร ชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเสียก่อน

“ผู้ใหญ่ๆ ผู้หญิงที่อยู่บ้านผู้ใหญ่พยายามจะขโมยเรือชาวบ้าน”

อีกมุมหนึ่งของเกาะเหลาเป บรรดาเจ้าของเรือยืนขวางทางนลินีไว้ไม่ยอมให้เอาเรือของตัวเองไป เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆแค่จะขอยืมเรือกลับเกาะไข่มุก พอถึงที่หมายเธอจะให้คนเอาเรือมาคืนไม่ได้คิดจะขโมย

“คุณเอาไปไม่ได้เรือพวกเราต้องใช้ทำมาหากิน”

“ที่แท้ก็จะเอาเงินใช่ไหม...ได้ ไว้ฉันถึงบ้านก่อนพวกแกอยากได้เงินเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลย” คำพูดดูแคลนของนลินีทำเอาชาวบ้านพูดอะไรไม่ออก ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง

“อย่าคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างนะคุณลี”

นลินีชะงัก หันขวับไปเห็นอนุพงศ์เดินมากับผู้ใหญ่เดชก็ตกใจมาก พึมพำเรียกชื่อ “คุณพงศ์” ได้แค่นั้นก็เป็นลมหมดสติ อนุพงศ์รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเธอจะฟาดพื้น

ooooooo

เตชินลากเสกสรรออกมาชำระความที่ริมสระน้ำข้างบ้าน ฝ่ายหลังขอร้องให้ฟังคำอธิบายก่อนแต่เขาไม่สนใจเพราะเห็นเต็มสองตาไม่จำเป็นต้องฟังอะไรอีก

“ฉันรู้ว่าแกชอบคุณพั้นซ์ พอแกรู้ว่าฉันกับคุณพั้นซ์รักกัน แกก็เลยจะแย่งคุณพั้นซ์ไปจากฉันใช่ไหม”

“ไปกันใหญ่ ฉันจะไม่คุยกับแกจนกว่าแกจะสงบ” เสกสรรว่าแล้วเดินหนี เตชินผลักอกเขาจนเซเกือบล้ม นายตำรวจหนุ่มโมโหเหวี่ยงหมัดใส่ เขาเบี่ยงตัวหลบทำให้อีกฝ่ายเสียหลักตกลงไปในสระน้ำ เสกสรรปีนขึ้นจากสระในสภาพเปียกมะล่อกมะแล่ก โวยลั่นทำไมถึงใช้แต่อารมณ์ ไม่ฟังอะไรกันบ้าง

“จะให้ฟังอะไรอีกในเมื่อฉันเห็นเต็มสองตา”

“แต่สิ่งที่แกเห็นมันไม่ใช่ ทำไมแกถึงได้ดื้อด้านแบบนี้วะ”

พศิกาเข้ามาช่วยอธิบายอีกแรงหนึ่ง กว่าเตชินจะหายเข้าใจผิดก็เล่นเอาน้ำลายเหนียว พอรู้ตัวว่าหึงไม่เข้าท่ารีบขอโทษขอโพยเพื่อนซี้เป็นการใหญ่ เสกสรรแค้นไม่หายที่เพื่อนไม่ไว้ใจผลักตกสระน้ำเอาคืนให้บ้าง เตชินไม่ยอมแพ้ขึ้นจากสระได้ไล่เตะเสกสรรไปรอบบ้าน สองเพื่อนซี้วิ่งไล่กันเป็นที่สนุกสนาน...

ที่บ้านของผู้ใหญ่เดชบนเกาะเหลาเป นลินีค่อยๆฟื้นคืนสติขึ้นมาเห็นอนุพงศ์นั่งอยู่ข้างๆ ร้องลั่นด้วยความกลัวสุดขีดนึกว่าเห็นผี หลับตาปี๋ยกมือไหว้ท่วมหัว ขอให้เขาไปที่ชอบๆอย่ามาหลอกหลอนกันอีกเลย แล้วจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ อนุพงศ์จับแขนเธอหมับ นลินีกรี๊ดร้องบ้านแทบแตก

“อ๊าย...ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าเอาฉันไปอยู่ด้วยเลย ฉันไม่อยากตาย”

อนุพงศ์สั่งให้นลินีลืมตาดูก่อนว่าเขาใช่ผีจริงหรือเปล่า แล้วจับมือเธอมาแนบกับแก้มตัวเอง ไออุ่นจากกายของเขาทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขายังไม่ตาย เธอทั้งน้อยใจทั้งโกรธเดินหนีออกจากบ้าน อนุพงศ์รีบตามมาห้ามไม่ให้กลับเกาะไข่มุก เธอไม่สนใจ ขืนให้อยู่ใกล้เขาต่อไป ต้องทนไม่ได้ แล้วตัดพ้อต่อว่าหลอกกันแบบนี้ได้อย่างไร

“รู้ไหมว่าฉันกับตาเต้เสียใจมากแค่ไหน ถ้าตาเต้รู้เข้าคงเสียใจไม่แพ้ฉันที่อยู่ดีๆพ่อของเขาก็โผล่ออกมา”

“ก่อนหน้านี้ผมเจอลูกกับหนูพั้นซ์แล้ว ผมขอไม่ให้เต้กับหนูพั้นซ์บอกใครเพราะต้องการจับตัวคนที่วางระเบิดเรือให้ได้ก่อน” ป่วยการจะอธิบาย นลินีไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ยืนกรานจะกลับเกาะไข่มุกเพื่อประจาน

คนลวงโลกอย่างเขา แล้วจ้ำพรวดๆไปที่ชายหาดอาราม รีบร้อนไม่ทันดูทางเหยียบเศษแก้วที่พื้นเลือดไหล อนุพงศ์รีบเข้ามาประคอง เธอปัดมือเขาออกไม่อยากได้ ความช่วยเหลือจากเขา

“แก่ๆกันแล้วอย่าดื้อเหมือนเด็กๆอีกเลยได้ไหม” อนุพงศ์พยุงเธอกลับเข้าไปทำแผลในบ้าน นลินีฤทธิ์เยอะ ทำแผลเสร็จจัดแจงลุกขึ้นจะกลับเกาะไข่มุกอีก คราวนี้อนุพงศ์ไม่ห้าม เชิญตามสบาย

“แต่ผมบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าไม่มีใครช่วยคุณหรอก เพราะคนทั้งเกาะเป็นคนของผู้ใหญ่เดชซึ่งสนิทกับผม พวกเขาจะไม่ทำตามที่คุณต้องการถึงแม้คุณจะเอาเงินฟาดหัวพวกเขามากแค่ไหนก็ตาม”...

เตชินนั่งให้พศิกาเป่าผมที่เปียกจากตกสระน้ำ อยู่ๆนึกสนุกขึ้นมาดึงตัวเธอมานั่งตัก อ้างนั่งเป่าจะได้ไม่เมื่อย ความใกล้ชิดทำให้เขาทนไม่ไหวยื่นหน้าเข้าไปจูบเธออย่างดูดดื่ม แล้วอุ้มไปวางไว้บนเตียง กระซิบข้างหูว่าเธอคือผู้หญิงของเขาคนเดียว ไล่จูบไปทั่วใบหน้าของเธอ

“เราไม่ควรทำแบบนี้นะคะ”

“ผมไม่ได้จะทำอะไรคุณสักหน่อย” เตชินว่าแล้วลงนอนข้างๆ ดึงเธอมากอดแนบอกอย่างมีความสุข...

ขณะที่เตชินกับพศิกากำลังเติมความหวานให้กันและกัน พศินครุ่นคิดหนักจะเข้าไปในบ้านสุดารัตน์อย่างไร จังหวะนั้นสิรินดาเข้ามากระเซ้าไปทำอะไรยายของเธอเอาไว้ท่านถึงได้โทร.มาชื่นชมเขาไม่หยุดปาก แถมบ่นคิดถึง อยากให้เขาไปหาที่บ้านอีกด้วยทั้งๆที่เจอกันแค่ครั้งเดียว เข้าทางพศินทันที

“เออ พรุ่งนี้วันหยุดผม ผมจะเข้าไปหายายของริน...รินโทร.บอกยายด้วย”

สิรินดาทักท้วงพรุ่งนี้เธอทำงาน พศินบอกเธอว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาไปบ้านยายแสงเองได้

ooooooo

พศิกาเห็นเตชินเอาแต่ส่งยิ้มมาให้ไม่ยอมแตะต้องมื้อเช้า จึงเร่งให้รีบกินเดี๋ยวจะไปทำงานสาย แล้วจับขนมปังปิ้งทั้งแผ่นยัดใส่ปาก เขารีบดึงออกพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์

“ถ้าอยากให้ผมกินก็ต้อง...” เตชินพูดจบ คาบขนมปังไว้ในปาก แล้วโน้มตัวเข้าหาพศิกาซึ่งแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอเห็นสีหน้าเว้าวอนของเขา เธอจำต้องยื่นหน้าไปกินขนมปังจากปากของเขา

“พอใจแล้วนะคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะกินขนมปังที่คาบไว้จนหมดสีหน้าสุขใจสุดๆ...

หลังจากพศินเตี๊ยมแผนการกับจิรายุเรียบร้อยก็พากันไปหายายแสงที่บ้านโดยให้เธอรออยู่หน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเองเข้าไปหลอกล่อยายแสงออกไปนั่งกินมื้อกลางวันกันที่สวนข้างบ้าน จิรายุรอจนทั้งคู่ไปพ้นทางแล้ว รีบตรงไปที่ห้องของสุดารัตน์เอากุญแจผีที่พศินเตรียมไว้ให้ไขเข้าไปในห้อง

ระหว่างที่พศินกำลังกินขนมจีนน้ำยาฝีมือยายแสง อยู่ที่โต๊ะสนามข้างบ้าน แทบจะสำลักอาหารเมื่อเห็น สิรินดาตามมาสมทบ รีบทักทายกลบเกลื่อนไหนว่าวันนี้ไม่หยุดงานแล้วมาได้อย่างไร เธอมาทำธุระให้เตชิน ในตัวเมืองก็เลยแว่บมา แล้วขอกินขนมจีนฝีมือยายแสงด้วยคน

“อยู่ในครัว เอ็งไปตักเอาได้เลย”

สิรินดาเดินลิ่วจะเข้าในตัวบ้าน พศินตกใจกลัวจะเจอจิรายุ รีบตามไปดักหน้า อาสาจะไปตักขนมจีนให้เธอเอง สิรินดาพยักหน้ารับคำ แล้วกลับไปหายายแสง ที่โต๊ะสนาม พศินมองตามโล่งใจ...

ด้านจิรายุค้นดูในลังกระดาษที่มีอยู่เต็มไปหมดราวกับเป็นห้องเก็บเอกสารจนกระทั่งเจอลังใบหนึ่งมีอัลบั้มรูปกับแฟ้มเอกสารเป้าหมาย เธอเปิดอ่านแล้วตกใจมาก...

ขณะที่จิรายุในคราบนักสืบจำเป็นเจอหลักฐานสำคัญ เตชินเห็นลูกค้าหนุ่มใหญ่ของรีสอร์ตคนหนึ่งส่งยิ้มหวานให้พศิกาซึ่งยิ้มตอบตามมารยาทก็ไม่พอใจ คว้ามือเธอมากุมไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ เธอเตือนว่าตอนนี้เราอยู่ในที่ทำงาน ไม่ควรทำแบบนี้ ดึงมือออกแล้วผละจากไป ลูกค้าชายอีกคนหนึ่งเข้ามาถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเธอมีแฟนหรือยัง เตชินปรี่เข้ามาโอบเอวเธอด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

พศิกาเห็นท่าไม่ดี รีบบอกลูกค้าคนนั้นว่ามีแล้ว “นี่คุณเตชิน เจ้าของอันดามันเพิร์ล แฟนฉันเองค่ะ”

“งั้นขอโทษด้วยนะครับ ผมขอตัว” ลูกค้ารีบชิ่งหนีแทบไม่ทัน เตชินมองตามยิ้มชอบใจ พศิกาดึงมือเขาออกแล้วเดินหนี เขาเดินตามจนทัน ขอฟังคำพูดเมื่อครู่นี้อีกครั้งหนึ่ง เธอขอพูดแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว จะไม่ยอมพูดอีก เขาจับมือเธอมากุมไว้ออดอ้อนสุดชีวิต พศิกาอดใจอ่อนไม่ได้

“คุณเตชินเป็นแฟนฉันค่ะ พอใจแล้วนะคะ”...

พศิน สิรินดาและยายแสงกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับมื้อกลางวัน ตอนที่จิรายุส่งไลน์มาบอกพศินว่าเรียบร้อยแล้ว เขาจัดแจงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วคว้าเป้สัมภาระติดมือมาด้วย สิรินดาแปลกใจจะเอาเป้ไปทำไม

“เออ ผมเป็นโรคติดกระเป๋าน่ะครับ” พศินรีบร้อนออกไป สิรินดามองตามสงสัย ครู่ต่อมาพศินมายืนตรงหน้าจิรายุซึ่งยื่นแฟ้มกับอัลบั้มรูปให้

“เราต้องรีบเอาแฟ้มกับอัลบั้มรูปให้พี่เต้กับพี่พั้นซ์ดู มันอาจจะเป็นหลักฐานสำคัญ”

พศินเอาหลักฐานทั้งหมดยัดใส่เป้สัมภาระของตัวเอง ทันใดนั้นสิรินดาตามมาโวยวายว่าเข้าไปในห้องป้าของตนเองทำไม ถ้าไม่บอกเหตุผลจะโทร.ไปฟ้องท่านแล้วขยับจะโทร. จิรายุไวทายาดคว้ามือถือของเธอไป สิรินดาไม่ยอมแพ้แย่งกลับคืนมาจนได้ แถมผลักจิรายุกระเด็น พศินตวาดลั่นทำไมต้องทำรุนแรงด้วย

สิรินดาเห็นเขากางปีกปกป้องจิรายุก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอคือผู้หญิงที่เขารัก

“ใช่ ผมกับคุณจิลเราเป็นแฟนกันแล้ว ริน...ผมขอร้องอย่าบอกป้าของคุณ”

“พัฒน์ห้ามรินไม่ได้”

พศินตัดสินใจเล่าความจริงให้สิรินดาฟังว่าป้าของเธอเป็นฆาตกร เป็นคนวางระเบิดเรือทั้งสองครั้ง เธอหาว่าเขาไม่อยากให้บอกเรื่องที่แอบเข้าไปในห้องของท่านก็เลยกุเรื่องนี้ขึ้นมา ยืนกรานจะบอกท่านให้ได้ พศินเอาอัลบั้มที่มีรูปถ่ายของอนุพงศ์ให้ดู บอกว่าผู้ชายคนที่เธอเคยเล่าให้เขาฟังว่าสุดารัตน์กับนวลทิพย์พูดถึงคืออนุพงศ์นั่นเอง ส่วนเรื่องวางระเบิด สง่าสารภาพกับเตชินแล้วว่าสุดารัตน์เป็นคนจ้างวานให้ทำ

“ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ทำให้คุณช็อกมากแต่มันเป็นความจริงนะคะ ฉันอยากขอร้องให้คุณเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน พวกเราไม่อยากให้หัวหน้าสุดารัตน์ระแคะระคาย เราต้องการที่จะจับตัวเธอให้ได้”

“แต่...ท่านเป็นผู้มีพระคุณของฉัน”

“คุณคงทำใจลำบากผมเข้าใจ แต่ป้าของคุณทำให้คุณลุงพงศ์ตายแล้วตอนนี้เธอก็พยายามที่จะทำให้พั้นซ์ตายไปอีกคน เราต้องหยุดเธอนะริน ถ้าคุณรักป้าของคุณ เราต้องร่วมมือกัน”

ooooooo

เตชินกับพศิกาเห็นใจสิรินดามากที่ต้องมารับรู้ ความเลวร้ายของป้าตัวเอง แต่ยังดีที่เธอรับปากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แถมยังจะช่วยเราสืบหาความจริงอีกด้วย จากนั้นจิรายุเอาเอกสารทางการเงิน ของสุดารัตน์ให้ทั้งคู่ดู พศิกาแปลกใจมากที่มีเงินเข้ามาในบัญชีเดือนละห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท

“เงินพวกนี้มาจากไหนกัน” เตชินเองก็ฉงนไม่แพ้ พศิกาเช่นกัน

พศินหยิบอัลบั้มที่มีรูปถ่ายของสุดารัตน์ นวลทิพย์ กับนวลปรางขึ้นมาให้ดูอีกด้วย “เมื่อก่อนหัวหน้าสุดารัตน์ คุณนวลทิพย์และคุณนวลปรางสนิทสนมกันมากจนเกิดเรื่องที่หัวหน้าสุดารัตน์กับคุณนวลปรางมาชอบผู้ชายคนเดียวกัน พศินยังไม่ทันจะเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น เตชินชิงพูดขึ้นเสียก่อนว่าชายคนนั้นคือพ่อของตนนั่นเอง ท่านเคยเล่าเรื่องนี้ให้ตนฟัง จิรายุเห็นภาพที่สุดารัตน์แอบถ่ายอนุพงศ์ในอิริยาบถต่างๆ ฟันธงว่าคนที่ชอบทำแบบนี้เข้าข่ายเป็นโรคจิต เตชินเห็นรูปถ่ายของสิรินดาตอน 5 ขวบกับสุดารัตน์ก็ชะงัก

“ทำไมผมรู้สึกคุ้นหน้าสิรินดาตอนเด็กๆจังเลย”

พศิกาดึงรูปถ่ายของนวลปรางที่กำลังโอบกอดอยู่กับนุกูลขึ้นมาดูอย่างสนใจ ก่อนจะพลิกดูด้านหลัง มีโน้ตเขียนกำกับไว้ว่า “มอบให้ปรางที่รัก จากนุกูล” แล้วยื่นรูปนี้ให้เตชินดู เขาจำได้ว่าเสกสรรเคยเล่าให้ฟังว่านวลปรางแจ้งความจับนุกูลข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ดูจากท่าทางที่สนิทสนมกัน นุกูลไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อน หรือว่าจะผัวเก่าของนวลปรางและเป็นพ่อของนัชชา พศิกานึกถึงนวลทิพย์ขึ้นมาทันที

“มีอยู่คนเดียวที่จะตอบคำถามพวกนี้ของเราได้ค่ะ”...

ไม่นานนัก พศิกากับเตชินนำภาพถ่ายของนวลปราง กับนุกูลมาสอบถามความจริงจากนวลทิพย์ เป็นอย่างที่เตชินคาดไว้ไม่มีผิด นุกูลเป็นผัวเก่าของนวลปรางจริงๆ จากนั้นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งที่สุดารัตน์พานวลปราง นวลทิพย์และนุกูลมาทำงานที่เกาะไข่มุกก็พรั่งพรูออกจากปากนวลทิพย์

ตอนนั้นนวลปรางได้พบกับอนุพงศ์เป็นครั้งแรกก็ติดใจมาก ไม่สนใจคำเตือนของสุดารัตน์ที่ว่าเขามีเมียแล้ว และที่สำคัญเธอเองก็มีนุกูลเป็นผัวอยู่ทั้งคน นวลปราง บ่นอุบว่าเบื่อเขาจนอยากจะขอเลิกให้รู้แล้วรู้รอดแต่เขาไม่ยอมเลิก สองสาวมัวแต่เม้าท์แตกไม่ทันเห็นนุกูลแอบฟังอยู่ นวลทิพย์ที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างกันนักสงสารเขาจับใจ เข้าไปชวนไปกินข้าวด้วยกันหวังจะช่วยให้บรรเทาความเจ็บช้ำ แต่เขาไม่สนใจไยดีเธอแม้แต่น้อย

นวลทิพย์เล่าเพิ่มเติมว่าหลังจากเกิดเรื่องวันนั้น นุกูลกับนวลปรางทะเลาะกันรุนแรงจนเขาเผลอลงไม้ลงมือ นวลปรางอยากกำจัดเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยไปแจ้งความเอาผิด นุกูลโกรธมากทั้งสองคนจึงเลิกกัน เขาลาออกจากงานแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผ่านไปสามเดือนนวลปรางก็ตั้งท้องลูกของเขา

“แต่พี่ปรางบอกว่าท้องกับคุณพงศ์ นั่นเป็นชนวนที่ทำให้พี่ปรางกับพี่สุดาตัดขาดความเป็นญาติกัน พี่สุดาเอาแต่ด่าทอสาปแช่งอยากให้พี่ปรางตาย จนพี่อดคิด ไม่ได้ว่าการที่เรือพี่ปรางระเบิดอาจจะเป็นฝีมือพี่สุดา ไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่ทุกคนเข้าใจ”...

ระหว่างที่พศิกากับเตชินเดินมายังท่าเรือหลังจากแยกกับนวลทิพย์ เธอแนะให้ขอแรงจากเสกสรรตรวจสอบ เรือนวลปรางที่ระเบิดอีกครั้ง อาจเกี่ยวข้องกับการระเบิดสองครั้งหลังก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้น ทั้งคู่แวะไปหาเสกสรรที่โรงพัก เหมือนจะอ่านใจออกเขากำลังจะแวะไปหาทั้งคู่ที่เกาะไข่มุกเช่นกัน เนื่องจากผลตรวจสอบหลักฐานออกมาแล้วว่าเรือระเบิดทั้งสองครั้ง เจอปุ๋ยเคมีเหมือนที่เจอในห้องพักของสง่า

“เป็นไปได้ว่าหัวหน้าสุดารัตน์จะเป็นคนร้ายอย่างที่เราคิดกันจริงๆ”

“ถ้าอย่างนั้นแกช่วยย้อนกลับไปดูตอนที่เรือคุณนวลปรางระเบิดให้ทีสิ ฉันกำลังคิดว่านั่นก็ไม่ใช่อุบัติเหตุเหมือนกัน” คำพูดของเตชินทำเอาเสกสรรอึ้ง ยิ่งขุดคุ้ยก็ยิ่งเจอเรื่องไม่ชอบมาพากล...

ทางด้านอนุพงศ์พยายามดูแลนลินีอย่างดีตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะเหลาเป แม้กระทั่งยามเธอหลับ เขาค่อยๆเปิดประตูห้องพักเข้าไปเห็นเธอห่มผ้าไม่ดี ก็ขยับผ้าห่มให้เข้าที่ ก่อนจะออกไป นลินีลืมตาขึ้นมารู้สึกสับสนกับการกระทำของเขา

ooooooo

มีเหตุให้เหล่าพนักงานได้เม้าท์แตกกันแต่เช้า เมื่อฟ้าสาวสวยเซ็กซี่ในชุดเน้นหุ่นละลายหัวใจหนุ่มๆ ก้าวเข้ามาในรีสอร์ต โดยเฉพาะปลากับณีถึงกับอ้าปาก ค้างที่เห็นเธอโผกอดเตชินที่กำลังยืนคุยกันอยู่

“เต้...ไอมิสยู คิดถึงจังเลย”

เตชินกอดเธอตอบแบบแนบแน่น ทำให้สองสาวถอยออกมาแทบไม่ทัน...

อีกมุมหนึ่งของรีสอร์ต พศิกาเดินคุยมากับจิรายุเรื่องความรักที่ลงตัวระหว่างฝ่ายแรกกับเตชิน ตอนที่ปลากับณีวิ่งหน้าตื่นมาฟ้องเรื่องสาวสวยเซ็กซี่ที่กอดกับเตชินกลางล็อบบี้ของรีสอร์ต...

ฝ่ายฟ้าถึงกับสำลักน้ำส้มเมื่อรู้ว่าเตชินเป็นเจ้าของเกาะไข่มุก พูดติดตลกถ้ารู้มาก่อนคงไม่บอกเลิกกับเขา แล้วลุกมานั่งใกล้ๆจับใบหน้าเขาหันมาจ้องตา ถามว่ามีแฟนใหม่หรือยัง เขาจับมือเธอออกเป็นจังหวะเดียวกับพศิกา จิรายุกับปลาและณีเดินเข้ามาพอดี ภาพที่เห็นตรงหน้าจึงเหมือนเขากำลังจับมือฟ้าอยู่

“เมื่อครู่นี้กอดกัน นี่ยังจะมานั่งจับมือกันกลางวันแสกๆ ไม่เกรงใจคุณพั้นซ์สักนิด” ณีอดโมโหแทนไม่ได้จิรายุเตือนว่าอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ทั้งสี่คนอยู่ไกลจึงไม่ได้ยินที่เตชินบอกกับฟ้าว่ามีแฟนแล้ว

“มีแฟนแล้วไม่เป็นไรฟ้ารอได้ ไว้เต้เลิกกับแฟนเมื่อไหร่มาหาฟ้านะ” ไม่พูดเปล่าฟ้าเอานิ้วแตะปากตัวเอง แล้วไปแตะปากเขาก่อนจะลุกออกไป สี่สาวที่ยืนมองอยู่พากันอึ้ง พศิกาทนดูต่อไปไม่ได้หันหลังเดินหนี จิรายุรีบตามไปปลอบอย่าเพิ่งฟันธงว่าสองคนนั่นมีอะไรกัน ให้รอถามเตชินก่อน

“เห็นขนาดนั้นยังต้องไปถามอีกเหรอน้องจิล”...

เตชินไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย ถูกพศิกาทำเย็นชาใส่ก็งง พยายามขอคำอธิบายว่าโกรธเรื่องอะไร เธอก็ไม่ยอมบอก จังหวะนั้นมีเสียงฟ้าร้องเรียกเตชินดังขึ้น เขาบอกให้พศิการอสักครู่หนึ่งก่อน เดี๋ยวจะกลับมาคุยด้วย แล้วเดินไปถามฟ้าว่ามีอะไร พศิกายิ่งงอนหนัก คิดว่าเขาเห็นหญิงอื่นสำคัญกว่าเดินหนีไปทั้งน้ำตา เตชินคุยธุระกับฟ้าเสร็จหันกลับมาอีกที พศิกาหายไปแล้ว เขามั่นใจต้องมีอะไรในกอไผ่ รีบไปถามความจริงจากจิรายุ พอรู้ว่าพศิกาเข้าใจผิดเรื่องเขากับฟ้า รีบตามไปที่บ้านบนเขา เธอยังงอนไม่หายจะเดินหนี เขาต้องคว้ามือไว้

“คุณพั้นซ์ต้องฟังผมอธิบาย ผู้หญิงคนนั้นชื่อฟ้าเป็นแฟนเก่าผมตอนที่เรียนอยู่เมืองนอก ตอนนี้ผมกับฟ้าเป็นเพื่อนกันไม่ได้มีอะไรเกินเลย”

พศิกาไม่เชื่อคำแก้ตัวของเขา เพื่อนประสาอะไรถึงต้องกอดกันจับมือกันแล้วเอามือแตะปากตัวเองไปแตะปากเขาแบบนั้น เตชินถึงบางอ้อทันที ที่แท้เธอก็หึงเขานั่นเอง พศิกาปฏิเสธว่าไม่ได้หึงเราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่าเข้าข้างตัวเองนักเลย แล้วไล่ตะเพิดเขาออกจากบ้าน ไม่ต้องมาหาเธอที่นี่อีก เตชินน้อยใจขึ้นมาตงิดๆ

“คุณนึกจะตัดก็ตัดได้ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ เรื่องของเราที่ผ่านมาไม่ได้มีความหมายกับคุณเลยใช่ไหม”

“ค่ะ” พศิกาว่าแล้วเดินไปเปิดประตูบ้านเป็นการไล่ทางอ้อม เตชินจำต้องกลับออกไป แม้จะน้อยใจที่เธอเย็นชาใส่ แต่ก็เชื่อว่าเธอไม่ได้หมายความอย่างที่พูด คิดหาทางทำบางอย่างเพื่อให้เธอเผยความในใจออกมา...

ในเวลาต่อมา เตชินเห็นพศิกาคุยอยู่กับปลาและณี แกล้งสวีตหวานกับฟ้าเพื่อให้เธอหึงหวง ได้ผลดีเกินคาด พศิกาทนดูไม่ได้เดินหนี เขารีบตามจนทัน คว้ามือ เธอไว้ ขอร้องให้ไปกับเขาสักครู่ แล้วลากเธอไปหาฟ้า

“ไหนๆเราก็เลิกกันแล้ว ไม่สิไม่ใช่เลิก เพราะคุณบอกว่าเรื่องของเราไม่เคยมีความสำคัญ เรื่องของผมกับฟ้าคุณเข้าใจถูกแล้ว ฟ้ากับผมเคยคบกันมาก่อนพอมาเจอกันอีกครั้ง ถ่านไฟเก่ามันก็เลยคุ”

“ที่ลากฉันมาถึงนี่เพื่อมาบอกเรื่องนี้” พศิกาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

“ใช่ครับ อย่าบอกนะว่าคุณโกรธ คุณจะโกรธผมไม่ได้นะครับเพราะคุณบอกเองว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

พศิกาทำเป็นเข้มแข็ง ในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาจะมีใครก็เชิญตามสบาย แล้วผละจากไปพอเลี้ยวหัวมุมตึกเท่านั้น น้ำตาไม่รู้มาจากไหนไหลอาบแก้ม ฟ้ารู้สึกผิดที่ทำให้พศิกาเสียใจ

“ฟ้าว่ามันมากไปแล้วนะเต้ สงสารคุณพั้นซ์ เลิกเถอะ ฟ้ารู้สึกว่าตัวเองบาปยังไงก็ไม่รู้”

ชายหนุ่มเองรู้สึกผิดไม่แพ้ฟ้าเช่นกัน เดินตามพศิกาจนทัน เห็นน้ำตานองหน้าถามว่าร้องไห้ทำไม เธอหันหน้าหนีไม่ยอมตอบ แต่พอถูกคาดคั้นหนักเข้าถึงกับปล่อยโฮอย่างอัดอั้น

“เพราะฉันรักคุณไง ฉันหึงคุณกับผู้หญิงคนนั้น ฉันเสียใจที่คุณเลือกเธอ พอใจหรือยัง”

เตชินได้ยินเต็มสองหูก็ดีใจมาก ดึงพศิกามากอด ก่อนจะชวนให้กลับไปหาฟ้าอีกครั้งหนึ่ง สารภาพว่าเรื่องที่เขากับฟ้ากลับมาคบกันไม่เป็นความจริง เราสองคน แค่แสดงละครเพื่อทำให้พศิกาหึงหวง ขอโทษเธอด้วยไม่คิดว่าจะทำให้เธอเสียใจขนาดนี้ ฟ้าขอให้เธอยกโทษให้เช่นกัน

“พั้นซ์ไม่โกรธคุณฟ้าหรอกค่ะ แต่สำหรับคุณเตชิน ฉันโกรธมาก” พูดจบพศิกาเดินจากไป ฟ้าสมน้ำหน้าเตชินที่เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง แล้วไล่ให้ตามไปง้อ เตชิน กับพศิกาปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

ooooooo

ถึงกำหนดที่ฟ้าต้องเดินทางกลับ เตชินกับพศิกา ตามมาส่งที่ท่าเรือพร้อมกับชวนให้เธอมาเที่ยวที่นี่อีก ฟ้าอวยพรให้ทั้งคู่รักกันนานๆ มาคราวหน้าหวังว่าจะได้เห็นเจ้าตัวเล็กของทั้งคู่

“ฟ้าไปก่อนนะคะ เรือจะออกแล้ว” ฟ้าเข้ามากอดพศิกา แล้วหันไปกอดเตชินก่อนจะเดินจากไป...

ทางฝ่ายสิรินดาเดินมาเจอสุดารัตน์กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ พลันคำบอกเล่าของพศินที่ว่าป้าของเธอเป็นฆาตกรทำให้อนุพงศ์ต้องตายผุดขึ้นมาในสมอง รู้สึกกลัวป้าตัวเองจับใจ เป็นจังหวะที่สุดารัตน์หันมาเห็นพอดี เธอตกใจรีบเดินหนี สุดารัตน์เดินตามพลางร้องเรียกให้มาคุยกันก่อน เธอกลับเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น สุดารัตน์ไล่ตามจนทัน ตะคอกถามจะหนีหน้าตนไปไหน เธอปฏิเสธว่าไม่ได้หนี

“ก็ป้าบอกเองว่าป้าตัดขาดรินแล้ว อยู่ดีๆป้าก็เรียกรินรินก็นึกว่าป้าจะทำอะไรรินอีกน่ะสิ”

สุดารัตน์ไม่ติดใจสงสัยอะไร ปล่อยให้หลานเคยรักไปทำงานในหน้าที่ตัวเองต่อไป...

สายวันเดียวกัน เตชินบังเอิญเห็นบริษัทคู่ค้าเอาสินค้ามาส่งยืนมองอย่างสนใจ สมบูรณ์หันมาเห็นเขาเข้าเกิดอาการวัวสันหลังหวะ ส่อพิรุธให้เห็นทำให้เตชินสงสัย เข้ามาขอดูบิลส่งของถึงได้พบสิ่งผิดปกติ

“เอาของทั้งหมดกองไว้ตรงนี้ อย่าเพิ่งเอาเข้าไป ผมจะให้คุณสมบูรณ์ตรวจนับสินค้าใหม่อีกครั้ง อยากรู้นักว่าพนักงานสโตร์ที่นี่จะนับเลขหนึ่งถึงร้อยไม่เป็น”

ทั้งสมบูรณ์ นายหมู ผู้ช่วยของเขาและพนักงานส่งของต่างหน้าจ๋อยไปตามๆกัน...

เป็นอย่างที่เตชินคาดไว้ไม่มีผิด มีการทุจริตเกิดขึ้น จึงส่งสมบูรณ์และนายหมูให้ตำรวจจัดการ นิคม ในฐานะหัวหน้าของทั้งคู่รีบตามมาที่โรงพัก อาสาจะดูแลเรื่องนี้ให้เอง เตชินกับพศิกายืนกรานจะต้องดำเนินคดีทั้งคู่ให้ถึงที่สุด จะไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น สักพักเสกสรรออกมาจากห้องสอบสวน

“คุณสมบูรณ์รับสารภาพทุกอย่าง บอกว่าทำมานานแล้ว เขาทำคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็นเป็นใจด้วย”...

เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง ทั้งเตชินและพศิกาเห็นพ้องต้องกันว่าสมบูรณ์ไม่ได้ทำเรื่องนี้คนเดียว ต้องหาผู้อยู่เบื้องหลังให้ได้ อีกทั้งยังเชื่อว่านิคมต้องมีเอี่ยวด้วยแน่ๆ คนทำงานใต้จมูกตัวเองแท้ๆปล่อยให้มีการโกงได้อย่างไร พศิกาตั้งข้อสังเกตถ้าเป็นอย่างที่เตชินว่า สุดารัตน์อาจมีส่วนเรื่องนี้ด้วยเพราะสนิทกับนิคม

“เราต้องเริ่มสืบจากระบบบัญชีภายใน ให้ตำรวจช่วยสาวเบื้องหลังความใกล้ชิดของหัวหน้าสุดารัตน์และนิคม รวมไปถึงจุดสุดท้ายที่เงินถูกถ่ายโอนไป”

เตชินแปลกใจทำไมพวกนี้ถึงได้โกงกันมาเป็นปีๆ โดยที่พ่อของเขาไม่รู้ พศิกายืนยันว่าท่านรู้ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เรือก็เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน แต่เธอเชื่อว่าเราจะจับคนร้ายได้แน่ๆ...

เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่พศิกาหวัง ระหว่างตำรวจคุมตัวสมบูรณ์กับนายหมูลงจากโรงพักจะไปส่งเรือนจำ ทั้งคู่ต่อสู้ขัดขืนและหลบหนีไปได้ เสกสรรนำกำลังตำรวจไล่ตามโดยมีนิคมยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น กระทั่งมีเสียงมือถือของเขาดังขึ้น ผู้บงการโทร.สั่งให้นิคมจัดการปิดปากสมบูรณ์กับนายหมู

แม้จะกลัวกับการต้องฆ่าคน แต่นิคมกลัวผู้บงการมากกว่า รีบขับรถตามสมบูรณ์กับนายหมูที่วิ่งหนีไปตามถนน แล้วขับรถชนกระเด็นไปคนละทิศละทาง นายหมูตายคาที่ ส่วนสมบูรณ์ไปตายที่โรงพยาบาล เตชินเจ็บใจมากที่ไพ่ใบสุดท้ายหลุดลอยไปอีกครั้ง พศิกาต้องจับมือเขาอย่างปลอบใจ

“อย่าเพิ่งท้อสิคะ ในภาวะแบบนี้คุณต้องเข้มแข็งนะคะ เราต้องช่วยกัน”

“ถ้าไม่มีคุณผมคงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง รู้ไหมครับว่าก่อนหน้านี้น้ากานพูดกับผมให้ผมตัดใจจากคุณ ให้ผมทำเพื่อแม่ ตอนนั้นผมลังเลแล้วก็สับสน แต่พอมาตอนนี้ ผมรู้แล้วว่าผมจะเชื่อใคร ผมจะเชื่อหัวใจตัวเอง จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ ผมอยากให้คุณตอบในสิ่งที่ผมถามคุณไปอีกครั้ง ผมจะรอคำตอบนะครับ”

ooooooo

พศิกาไม่รอช้า เรียกปลากับณีมาช่วยกันตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทอย่างละเอียดอีกครั้ง พบพิรุธในการเบิกจ่ายหลายรายการ โดยเฉพาะงบที่ใช้ในการปรับปรุงทัศนียภาพของโรงแรมอันดา-มันเพิร์ลยิ่งพบพิรุธหนัก เธอก็เลยขอให้ณีเอาใบเสนอราคามาให้ดู อยากรู้มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ระหว่างนั้นนวลทิพย์นำเอกสารที่พศิกาต้องการมาให้ ถามว่ามีอะไรให้ช่วยบ้าง เธอต้องการตรวจสอบเอกสารเหล่านั้นแล้วชี้ให้ดูเอกสารกองโตบนโต๊ะ

“พั้นซ์มีลางสังหรณ์ว่าปีไหนที่มีการปรับปรุงหรือสร้างตึกใหม่จะต้องมีคนฉวยโอกาสเล่นตุกติกตอนนั้น เพราะงบในปีนั้นจะสูง มันทำให้เราไม่เห็นความผิดปกติ” ขาดคำเตชินโทร.มาตามตัว พศิกาฝากนวลทิพย์จัดการเอกสารดังกล่าวให้ด้วย แล้วลุกออกไปจากห้อง ครู่ต่อมา เธอมายืนอยู่ตรงหน้าเตชิน

“อาทิตย์หน้าผมจะให้นักบัญชีค้นดูสัญญาจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของญาติหัวหน้าสุดารัตน์ ดูว่าเราจ้างบริษัทเหล่านี้ไหม ถ้ามีจะได้รีบดูสัญญาว่ามีนอกมีในหรือเปล่า”

พศิกาเห็นดีด้วย อีกมุมหนึ่งไม่ห่างนัก นิคมแอบฟังอยู่ตกใจมากรีบคาบข่าวนี้ไปบอกสุดารัตน์ พร้อมกับเตือนถ้าเตชินพบว่าบริษัทที่ทางอันดามันเพิร์ลจ้างทั้งหมดเป็นบริษัทของเธอ ต้องเดือดร้อนกันแน่ๆ

“บางทีคุณเตชินกับคุณพศิกาอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าเธอทำอะไร”

สุดารัตน์ถึงกับหน้าซีดเผือด แล้วฉุกคิดถึงท่าทางมีพิรุธของสิรินดาตอนที่เจอกันวันก่อน เชื่อว่านังอดีตหลานรักต้องรู้ระแคะระคายอะไรแน่ๆ รีบตามหาตัวจนเจอ คาดคั้นให้บอกความจริง พอสิรินดาไม่ยอมพูด สุดารัตน์บีบคอบังคับก่อนที่เธอจะคายความลับ พศินเข้ามาช่วยเอาไว้ทัน แถมขู่สุดารัตน์เสียงกร้าว

“ถ้าไม่อยากให้ตำรวจขุดคุ้ยประวัติของคุณไปมากกว่านี้ก็อย่ามายุ่งกับรินอีก”...

ยิ่งสืบสาวใกล้ตัวผู้บงการมากเท่าไหร่ ชีวิตของพศิกาและเตชินยิ่งไม่ปลอดภัย คราวนี้ทั้งคู่ถูกจดหมายขู่ฆ่าถ้าไม่หยุดขุดคุ้ยเรื่องยักยอกเงิน เตชินต้องขอให้เสกสรรเอาจดหมายข่มขู่ไปตรวจสอบเผื่อจะได้เบาะแสคนร้าย นายตำรวจหนุ่มเตือนทั้งคู่ต้องระวังตัวให้มากๆ ดูเหมือนคนร้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเรา...

ขณะสง่ากำลังหงุดหงิดที่ถูกกิต ตำรวจนอกเครื่องแบบจับตามอง สุดารัตน์แวะมาหาจะให้เขาทำงานบางอย่างให้ เขาปฏิเสธทันทีว่าไม่อยากทำอะไรชั่วๆให้เธออีก สุดารัตน์ขัดใจมากที่สง่าไม่ทำตามคำสั่ง...

อนุพงศ์ลงมือทำแปลงปลูกมะเขือเทศเองเพราะรู้ว่านลินีชอบกินโดยไม่ยอมให้อินทร์ช่วย เล่าให้ลูกน้องคนสนิทฟังว่าตลอดชีวิตของเขารักนลินีคนเดียว แต่เธอไม่เคยไว้ใจเขา ตอนที่เรือระเบิดเขาคิดว่าต้องตาย

“ฉันเสียใจมากที่ยังไม่ได้ดูแลคุณลีกับลูกอย่างเต็มที่ เมื่อมีโอกาสอีกครั้งฉันก็อยากจะทำ”

“ถึงแม้คุณนลินีจะไม่เห็นถึงสิ่งที่คุณท่านทำน่ะเหรอครับ”

อนุพงศ์จะทำต่อไปจนกว่านลินีจะไว้ใจและเห็นเข้าไปถึงหัวใจของเขา นลินีที่แอบฟังอยู่ตั้งแต่แรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ต้องเอามือปิดปากตัวเองไว้กลัวเสียงร้องไห้จะได้ยินถึงหูอนุพงศ์...

ฝ่ายพศิกาเห็นนวลทิพย์ ปลาและณีต่างเหน็ดเหนื่อยกับการค้นเอกสารตั้งแต่เช้ายันค่ำ บอกให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว เธอจะจัดการต่อเอง นิคมซึ่งซุ่มดูอยู่หน้าห้องรอจนสามสาวไปพ้นสายตา จัดการล็อกประตูห้องเอกสาร เอาน้ำมันที่เตรียมมาราดจนทั่ว พศิกาได้กลิ่นน้ำมัน พยายามจะออกจากห้องแต่ประตูล็อก เธอรีบโทร.ขอความช่วยเหลือจากเตชิน ควันไฟเข้ามาในห้องมากขึ้น พศิกาเริ่มหายใจไม่ออก ระหว่างนั้น เตชินมาถึงหน้าห้องเกิดเหตุเห็นไฟลุกท่วม รีบเอาถังดับเพลิงมาฉีด ขณะที่จิรายุไปตามคนอื่นมาช่วย

ooooooo

ทะเลไฟ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด