ตอนที่ 9
จบจากงานเลี้ยงจอมปลอมของวิรงรองกับคุณหญิงก้อย คุณชายรองกับคุณชายเล็กก็กอดคอกันไปเมาจนดึกดื่น กว่าจะกลับวังก็แทบคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว แต่กระนั้น...จิตสำนึกส่วนลึกก็ทำให้คุณชายรองอดตีโพยตีพายไม่ได้
“ฉันไม่น่าเสียรู้หญิงก้อยเลย เขาไม่อยากเจอฉัน เพราะคืนดีกับผัวเก่า วันนี้ก็ฉีกหน้าฉันต่อหน้าธารกำนัล”
แต่ถึงจะโวยวายแบบนั้น คุณชายรองก็ทำใจได้มากกว่าที่คิด เรื่องเลวร้ายที่คุณหญิงก้อยก่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้หัวใจรักภักดีของเขาชินชาเสียแล้ว จนไม่คิดกลับไปแก้ไขให้เหมือนเดิมอีก
เวลาเดียวกับที่วังรัชนีกุล...หม่อมวาณีกับคุณหญิงกลางประสาทเสียอย่างหนัก กับพฤติกรรมหน้าไม่อายของคุณหญิงก้อย แต่เจ้าตัวคนก่อเรื่องกลับไม่ยี่หระ และคิดว่าตัวเองทำเรื่องถูกต้องแล้ว
“โธ่...แล้วนี่ชายรองจะคิดยังไง หญิงนัดเขามาคืนดี คนก็รู้กันทั่ว แต่หญิงกลับพาเจ้าอัศนีย์มาฉีกหน้าเขา”
คุณหญิงก้อยตาลุกวาว ตอกกลับ “หญิงน่ะหรือคะฉีกหน้าเขา เขาต่างหากที่ฉีกหน้าหญิง หม่อมแม่กับพี่กลางเลิกคิดเสียทีว่าเขาเป็นคนดีวิเศษ รักเดียวใจเดียว ตลอดเวลาที่เขาหายหน้าไป เขาไปไหนทราบไหมคะ...เขาไปตามรับตามส่ง งอนง้อกระซิกกระซี้กับแม่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีคนเห็นไม่เว้นแต่ละวัน”
หม่อมวาณีกับคุณหญิงกลางมองหน้ากันงงๆ ไม่อยากเชื่อ เพราะคุณชายรองอยากคืนดีกับคุณหญิงก้อยมาตลอด แต่ราชนิกุลสาวหัวสูงก็ยืนยันว่าเห็นภาพเขากับผู้หญิงอื่นด้วยตัวเอง
หม่อมวาณีเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกสาวคนเล็กเหมือนเคย ต่างจากคุณหญิงกลาง ย้อนถามเสียงเรียบ
“แล้วทีหญิงทำกับเขาล่ะ”
“นั่นมันยังน้อยไปค่ะ เขาจะได้รู้ว่าคนอย่างหญิงไม่ใช่คนที่เขาจะกลับกลอก โผไปทางนั้นที ทางนี้ทีได้”
“นั่นหญิงพูดถึงชายรองหรือพูดถึงตัวเองกันแน่จ๊ะ”
คุณหญิงก้อยแทบเต้น แต่ก็พยายามปั้นหน้านิ่ง สั่งอย่างเอาแต่ใจเหมือนเคย
“อ้อ...แล้วช่วยเอาดอกไม้ช่อนั้นไปทิ้งให้พ้นหูพ้นตาหญิงด้วยนะคะ หญิงไม่อยากเห็น”
“ทิ้งได้จ้ะ...ถ้าดอกไม้นี้เป็นของหญิง แต่นี่คุณรอง ให้พี่กับมือ หญิงจึงไม่มีสิทธิ์ทิ้งขว้างเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆ”
ท่าทางทะนุถนอมดอกไม้และรอยยิ้มเย้ยหยันของพี่สาว ทำให้คุณหญิงก้อยหมดความอดทน ถลาไปยื้อแย่ง พร้อมร้องสั่งให้พี่สาวทำตามต้องการ คุณหญิงกลางกลับยืนนิ่งแต่ตาลุกวาว โพล่งกลับไปเสียงเข้ม
“ฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาออกคำสั่ง”
จบคำก็สะบัดตัวออกจากน้องสาว หม่อมวาณีรีบไปประคองลูกสาวคนเล็ก พร้อมเอ็ดลูกสาวคนโตใหญ่ คุณหญิงก้อยได้ที ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความไม่พอใจ จนเสียงลอดไปถึงหูท่านชายจันทร์ซึ่งอยู่ในห้องทำงาน
“ฉันจะเขียนหนังสือ ต้องการความสงบ อย่าให้ตัวอะไรมาส่งเสียงรบกวนให้เสียสมาธิเป็นอันขาด แล้วถ้าอยากจะกรีดร้อง โน่น...ในสวนหลังวัง ไปอยู่กับลิงค่างบ่างชะนี ร้องหาผัวแข่งกับมันโน่น!”
ooooooo
เหตุการณ์วุ่นวายฉาวโฉ่ คุณหญิงเทพีเพ็ญแสงจูบกับอัศนีย์ สามีเก่ากลางงานเลี้ยงวันเกิดของวิรงรอง ฉีกหน้าคนรักเก่าอย่างคุณชายกิตติราชนรินทร์ กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วพระนครในเช้าวันต่อมา
สาลินกลุ้มมาก กลัวพี่สาวต้องแต่งงาน เพราะคุณชายรองไม่ได้คืนดีกับคุณหญิงก้อย ส่วนทุกคนในวังวุฒิเวสม์ โดยเฉพาะเสด็จพระองค์หญิงก็ทรงรับรู้ข่าวด้วยความหนักใจ และพยายามปกปิดไม่ให้ศรีจิตรารู้เรื่อง แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะสาวเรียบร้อยจากบ้านราชดำริ เห็นภาพข่าวก่อนหน้านั้นแล้ว
ฝ่ายจรวย...ขัดใจที่ทุกอย่างไม่เป็นตามหวัง เลยเปลี่ยนแผน ยุยงศรีจิตราให้เข้าใจว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้คุณชายรองไม่ได้คืนดีกับคุณหญิงก้อย แต่ศรีจิตราก็ไม่หัวอ่อนจนขาดสติ คำพูดสอดเสียดของจรวยเลยทำอะไรเธอไม่ได้
ขณะที่ศรีจิตราควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง สาลินกลับหงุดหงิดไม่เลิก แถมพาลไปลงกับพลหรือคุณชายเล็กในคราบช่างฟิตที่ไม่ยอมช่วยจีบพี่สาว ช่างฟิตหนุ่มได้แต่กลั้นยิ้ม ตีหน้าตื่นตกใจเต็มที่ เมื่อได้ยินเรื่องทุกอย่างตอนที่แวะไปกินกลางวันกับเธอในอีกสองสามวันต่อมา
“เขาถึงกับชกกันเลยหรือครับ”
“ค่ะ เฮ้อ...ฉันอยากเจออีตาคุณชายนี่อีกจัง”
“อ้าว...แล้วทำไมไม่ไปหาเขาที่วังล่ะ”
“ไม่ได้หรอก สองอาทิตย์ก่อนฉันก็เพิ่งไป อีกอย่างเขาอยู่อีกตำหนักหนึ่ง ขืนฉันไปเพ่นพ่านบ่อยๆคงไม่ได้”
“ใช่ฮะ ถ้าคุณไปเพ่นพ่านบ่อยๆคงเกิดเรื่องแน่”
สาลินมัวกลุ้มเรื่องพี่สาว เลยไม่ทันเอะใจคำพูดแปลกๆของอีกฝ่าย พลหรือคุณชายเล็กเลยรอดตัวไปได้ และถือโอกาสเอาความต้องการของเธอไปบอกพี่ชายคนรองในคืนเดียวกัน
“แล้วนายไปรู้มาจากไหนว่าเขาอยากพบฉัน”
“เอ้อ...คือว่าเพื่อนคุณสาคนหนึ่งทำงานที่บริษัทน้ำมัน คุณสาบ่นกับเขาว่าอยากพบพี่รอง ผมเลยมาส่งข่าว ว่าแต่...พี่รองอยากเจอว่าที่น้องสาวภรรยาหรือเปล่า ล่ะครับ”
“นายอยากเรียกชื่อเขาก็เรียกไป ทำไมต้องใช้คำแทนชื่อบ้าๆด้วย”
“บ้าตรงไหน ก็คุณสาเขาไม่ใช่น้องสาวว่าที่ภรรยา ของพี่รองหรือฮะ”
“เอาให้แน่...ว่าที่น้องสาวภรรยาหรือน้องสาวว่าที่ภรรยา”
“ก็เหมือนกันแหละ เขาไม่ใช่น้องเมียในอนาคตพี่รองหรือ”
“ใครจะไปกะเกณฑ์อนาคตได้...ออกไปได้แล้ว”
ooooooo
แม้จะทำท่าเหมือนไม่สนใจ แต่คุณชายรองก็โผล่ ไปหาว่าที่น้องสาวภรรยาถึงห้องสมุดในเย็นวันต่อมา สาลินถึงกับทำหน้าไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่อถูกเพื่อนร่วมแก๊งมองมาด้วยความสงสัย เลยแก้เก้อด้วยการนั่งรถออกไปกับเขาดื้อๆ แต่ก็หนีไม่พ้นเพราะแก๊งเพื่อนสาวโบกรถแท็กซี่ตามติดด้วยความอยากรู้
สาลินมองสวนสวย สถานที่ที่เธอยืนเถียงกับเขาเมื่อคราวที่แล้วด้วยความรู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะพามาทำไมอีก คุณชายรองเงียบไปอึดใจ ก่อนจะย้อนว่าได้ยินเรื่องเธออยากเจอเขามาจากพล เพื่อนของน้องชาย
“ใครกัน...คุณพลของเธอ”
“เพื่อนของฉันเองค่ะ ฉันบ่นกับเขาว่าอยากพบคุณ”
คุณชายรองเริ่มหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล “แล้วทำไมต้องบ่นผ่านคนอื่น เธอไม่รู้หรือว่าฉันอยู่ไหน”
“รู้...แต่จู่ๆจะให้ฉันเดินไปหาคุณที่ตำหนักได้ยังไง”
“ก็เธอทำมาหลายหนแล้วไม่ใช่หรือ”
“นี่คุณ...อย่ามานอกเรื่อง คุณพลเป็นเพื่อนที่แสนดี มีอะไรฉันก็เล่าให้เขาฟัง”
“อ้อ...สนิทชิดชอบกันมากสินะ”
“มากสิ มีอะไรฉันก็พูดกับเขาได้ทุกเรื่องแหละ”
คุณชายรองหมั่นไส้มาก แต่ต้องพยายามข่มไว้ แล้วเข้าเรื่อง ถามถึงสาเหตุที่เธออยากเจอเขา สาลินเลยถึงบางอ้อ ตอบตามตรงว่าเป็นเพราะข่าวใหญ่เมื่อหลายวันก่อนที่ว่าเขากับคุณหญิงก้อยยังไม่คืนดีกัน
“ใครว่า...ข่าวน่ะจริง แต่ว่าฉันกับหญิงก้อยไม่ได้โกรธกันอีกแล้ว เขากับฉันยังไม่เคยคืนดีกันต่างหาก”
“ฉันว่าคุณหญิงคงแค่ประชดคุณเท่านั้นแหละ อีกหน่อยก็คืนดีกันได้”
สาลินยังให้กำลังใจ จนคุณชายรองอดขำไม่ได้ “นี่ธุระของเธอ คือการมาอวยพรฉันหรือ”
“เปล่า...ฉันแค่อยากบอกคุณว่าตอนนี้ถึงคุณจะอกหักจากคุณหญิง แต่คุณก็ห้ามหันมาหาพี่สาวฉันเด็ดขาด”
คุณชายรองนึกสนุก แกล้งยั่ว “แม้แต่ให้เขาปลอบประโลมใจฉันบ้าง...ก็ไม่ได้เชียวหรือ”
“อย่านะ พี่ศรียิ่งสงสารคนง่ายอยู่แล้ว”
ภาพและเสียงหัวเราะของคุณชายรองกับสาลิน ทำให้พวกจิตริณีถึงกับอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่าสองหนุ่มสาวคู่ปรับจะญาติดีกันได้ แต่ที่แก๊งห้องสมุดไม่รู้และไม่ได้ยิน คือเรื่องที่สองหนุ่มสาวคุยกัน
“ฉันเข้าใจว่าเธอไม่อยากให้พี่สาวเธอแต่งงานกับฉัน เพราะฉันเป็นคนไม่ดี ขี้โมโห อวดดี เย่อหยิ่ง เห็นแก่ตัว แล้วก็เป็นคนขี้ขลาด พาลพาโลชอบหาเรื่อง”
“ใครว่า...แต่เพราะคุณชายรักกับคุณหญิงก้อยต่างหาก”
“แล้วถ้าฉันเลิกกับคุณหญิงให้เด็ดขาดล่ะ เธอจะว่ายังไง เธอจะยอมให้พี่สาวเธอแต่งงานกับฉันไหม”
“ก็มันเรื่องอะไรคุณต้องเลิกล่ะ มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก”
“ใช่...มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น แต่ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ”
สาลินขยับมาจับแขนเขาอย่างลืมตัว พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจอย่างสุดความสามารถ
“ฉันรู้ว่าคุณกำลังโกรธ กำลังแค้น กำลังอยากประชด แต่ว่ามันไม่มีประโยชน์”
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ ก็ฉันจะได้ตามพระทัยเด็จป้าไง”
“อ้อ...คุณตามพระทัยเสด็จป้า แต่พี่สาวฉันต้องมารับบาปกับคุณ”
“รับบาปอะไรกัน”
“คุณแต่งงานโดยปราศจากความรัก พี่สาวฉันไม่อกหักตายหรือ”
“อ้าว...แล้วฉันไม่อกหักเหมือนกันหรือไง”
สาลินอึ้ง แต่ยังโต้ “ถึงคุณจะอกหัก แต่พอเสด็จฯทรงยกสมบัติล้นฟ้าให้คุณ คุณจะไปสำเริงสำราญที่ไหนก็ได้”
“อ้าว...ถ้าฉันได้สมบัติ พี่สาวเธอก็ต้องได้เหมือนกัน”
“ยังไงผู้หญิงก็เสียเปรียบผู้ชาย คุณจะให้พี่สาวฉันไปหาความสุขนอกบ้านได้ยังไง”
“นี่เธออคติกับฉันเหลือเกินนะ โกรธกันตั้งแต่วันแรก แล้วยังเกลียดมาจนวันนี้”
“ใครว่าฉันเกลียด”
คุณชายรองขยับไปจับแขนเธอ ถามเสียงเครียด “ไม่เกลียด...แล้วทำไมตั้งแง่กับฉันขนาดนี้ล่ะ”
ภาพความใกล้ชิด ถึงขั้นจับมือถือแขนของทั้งสอง ทำให้แก๊งห้องสมุดถึงกับตาโต อยากรู้แทบคลั่งว่าสองหนุ่มสาวคู่ปรับคุยอะไรกันแน่ แต่ถึงจะพยายามเงี่ยหูแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน
สาลินหน้าแดง ขืนตัวออก “ฉันไม่ได้เกลียดคุณ แค่ฉัน...ไม่อยากได้คุณเป็นพี่เขย”
“ฉันจำได้จนขึ้นใจแล้ว”
“ฉันขอโทษที่ฉันเคยว่าคุณแรงๆ ตอนนั้นฉันคิดว่าคุณเป็น...”
“เป็นพวกเซ็กซ์จัด หรือพวกชอบโชว์”
“ฉันจะพูดว่า ฉันคิดว่าคุณเป็นเสือผู้หญิงต่างหาก... เอาล่ะ บางครั้งฉันก็เป็นคนชวนคุณทะเลาะเอง แต่บ่อยๆเข้า มันเลยติดเป็นนิสัย ขอย้ำว่าฉันไม่ได้เกลียดคุณ ถึงฉันจะชอบทะเลาะกับคุณก็ตามที”
คุณชายรองนึกชอบใจอย่างบอกไม่ถูก จนถึงกับชวนเธอไปกินข้าวด้วย แต่เธอก็ปฏิเสธและขอตัวกลับบ้าน เขาเลยอาสาไปส่งและถือโอกาสขอกินมื้อเย็นกับคุณตาคุณยายด้วย สาลินไม่ขัด โบ้ยให้เขาไปถามท่านทั้งสองเอง คุณชายรองถึงกับยิ้มร่า และพาเธอกลับบ้านด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข...ไม่เหมือนคนอกหักเลยแม้แต่นิดเดียว!
ooooooo
บรรยากาศบนรถซึ่งไม่อึดอัดเหมือนเคย กลายเป็นสนามรบย่อยๆอีกรอบ เมื่อคุณชายรองแวะเติมน้ำมันจากปั๊มของพุดซ้อน แล้วดันได้ยินเรื่องความสนิทสนมของพลกับสาลิน ที่แวะเวียนหากันเกือบทุกวัน
สาลินไม่สะทกสะท้านกับสายตาจับผิดของเศรษฐินีเจ้าของปั๊ม ที่คิดเอาเองว่าเธออาจมีความสัมพันธ์พิเศษกับว่าที่พี่เขย มัวต่อปากต่อคำกับคุณชายขี้เก๊กเรื่องพล
“นายพลนี่คงมาหาเธอบ่อยสินะ ขนาดแม่ค้าปั๊มน้ำมันยังรู้”
“ใครว่าล่ะ เขาแค่มาหาฉันตอนเวลามีเวรมาตรวจปั๊ม”
“อ๋อ...ทำงานหน้าที่เดียวกับน้องชายฉัน”
“น้องชายคุณ...ชื่ออะไรนะ”
“หม่อมราชวงศ์บดินทราชทรงพล”
สาลินแกล้งตบอก แซวขำๆว่าชื่อน้องชายเขายาวกว่าชื่อเขาเสียอีก
“สู้ชื่อพลสั้นๆไม่ได้อย่างนั้นสิ”
“ฉันฝากขอบใจน้องชายชื่อยาวกว่าของคุณด้วยก็แล้วกัน ที่อุตส่าห์เป็นธุระให้”
“นายคนนี้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน...คล้ายๆกับเธอนั่นแหละ”
มื้อค่ำบ้านสวนเมืองนนท์อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าที่คิด คุณตาคุณยายให้การต้อนรับคุณชายรองเป็นอย่างดี โดยมีพิณคอยพินอบพิเทาตามประสาพวกเห่อเจ้าเหมือนเคย สาลินเห็นทุกคนเอาอกเอาใจเขา เลยแกล้งเหน็บด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ต้องหน้างอ เมื่อถูกคุณตาคุณยายส่งสายตาปราม
คุณชายรองดวงตาพราวระยิบระยับด้วยความชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าถูกดุของคู่ปรับสาว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมเหมือนเคย เมื่อคุณตาคุณยายถามถึงศรีจิตรา หลานสาวคนโตด้วยความคิดถึง
“คุณศรีก็สบายดีครับ”
สาลินนิ่วหน้า ย้อนด้วยความสงสัยและจับผิด “คุณรู้ได้ยังไงว่าพี่ศรีสบายดี”
“ก็น้องชายฉัน เขาหมั่นไปดูแลถามทุกข์สุขบ่อยๆ”
“คนที่ทำงานบริษัทน้ำมัน ที่ชื่อยาวไม่แพ้คุณน่ะหรือ”
“ใช่...ไม่สั้นเหมือนชื่อพลหรอก”
คุณชายรองอดไม่ได้ แขวะถึงพลอีกจนได้ คุณตาคุณยายถึงกับมองหน้ากันงงๆ ก่อนจะพยายามไกล่เกลี่ย ด้วยการเอ่ยถึงหลานสาวคนโต ว่าไม่ได้เจอกันสองปีแล้ว คุณชายรองอึ้งไปอึดใจ ก่อนจะเลิกกวนประสาทสาลิน และขอให้เธอพาพี่สาวออกจากวังมาเยี่ยมคุณตาคุณยายบ้าง
คุณตาคุณยายเป็นปลื้ม สาลินเองก็มองมายิ้มๆ...
ไม่อยากเชื่อเลยว่าอีตาคุณชายขี้เก๊กนี่ก็ใจดีเหมือนกัน
ความสนิทสนมและความใกล้ชิดของคุณชายรองกับสาลิน ทำให้คุณตาคุณยายอดเป็นกังวลไม่ได้ โดยเฉพาะคุณยาย ถึงกับตามไปคุยหยั่งเชิงกับหลานสาวคนเล็กถึงในห้องนอนกลางดึกคืนเดียวกันนั่นเอง
“วันนี้หนูไปหาแม่ศรีอีกหรือ คุณชายถึงได้มาส่ง”
“เปล่าค่ะ เขาไปเจอหนูแถวห้องสมุด หนูกับเขามีธุระคุยกันนิดหน่อย เรื่องเขาจะแต่งงานกับพี่ศรีน่ะค่ะ”
“แล้วนี่พี่ศรีเขารู้หรือเปล่า เรื่องที่คุณชายมาสนิทสนมกลมเกลียวกับหนู”
“ใครบอกคะว่าเขามาสนิทสนมกลมเกลียว วันนี้น่ะเป็นครั้งแรกนะคะที่เขาพูดดีๆกับหนู...และหนูไม่จิกกัดเขา”
คุณยายถึงกับตบอกผาง “นี่แม่คุณ พูดจาให้มันสมเป็นลูกผู้หญิงหน่อยได้ไหม”
“แต่ลงท้ายก็อดไม่ได้ค่ะ ก็เลยแขวะกันอีก...หนูคงชอบทะเลาะกับเขา”
คำพูดซื่อๆของหลานสาว ทำให้คุณยายถึงกับอึ้ง อยากจะพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่สุดท้ายก็ต้องยั้งไว้ และเก็บไประบายกับคุณตาด้วยความอึดอัดใจ กลัวจะเข้าอีหรอบพี่เขยกับน้องเมีย คุณตารับฟังด้วยสีหน้าหนักใจไม่แพ้กัน แต่ก็พยายามปลอบคุณยายไม่ให้คิดมากหรือตีตนไปก่อนไข้เลย
ooooooo
ขณะที่ทุกคนในบ้านสวนเริ่มกังวลกับความสนิทสนมของสาลินกับคุณชายรอง คุณชายเล็กก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกัน เมื่อเห็นพี่ชายเดินฮัมเพลงเข้าบ้าน พร้อมกับหน้าตายิ้มแย้ม อารมณ์ดีไม่เหมือนคนอกหัก
“ร้อยวันพันปี พี่รองไม่เคยฮัมเพลงที่ไหน เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ แล้วนี่ไปไหนมาครับ”
คุณชายรองเดินไปนั่งโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะตอบเสียงเรียบว่าไปเจอสาลินมา
“นี่พี่รองไปพบคุณสา เอ้อ...สาลินมาแล้วหรือครับ”
“ทำไมไม่เรียกว่า ว่าที่น้องสาวภรรยาในอนาคตอีกล่ะ”
คุณชายเล็กไม่สนคำเย้ากวนๆของพี่ชาย อยากรู้มากกว่าว่าสาลินมีธุระอะไร
“ก็ไม่มีอะไร...นอกจากพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่าไม่อยากให้ฉันเป็นพี่เขยในอนาคตของเขา”
คุณชายเล็กถึงบางอ้อ พอจะเข้าใจสถานการณ์ แต่ก็อยากรู้ความคิดของพี่ชาย แต่คุณชายรองก็ดันไม่ขยายความ แต่ไพล่ไปถามถึงพล ช่างฟิตหนุ่มปริศนาที่เข้านอกออกในบ้านสวนของสาลินจนแม้แต่เจ้าของปั๊มยังรู้
“โอ๊ยตาย...นี่พี่รองเจอยายพุดซ้อนแล้วหรือ”
“ยังไงนายเล็ก เพื่อนนายไปติดพันสาลินใช่ไหม”
“ง่า...ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่มีข้อมูลครับ”
“เอ๊ะ...แล้วทำไมนายรู้จักคุณนายพุดซ้อนล่ะ”
“ผมก็เคยไปตรวจปั๊มแถวนั้นเหมือนกันแหละ...ผมไปนอนแล้วดีกว่า”
พูดจบก็ขอตัว ทิ้งให้คุณชายรองมองตามงงๆ ก่อนจะหยิบสมุดบันทึก ซึ่งมีดอกไม้แห้งของสาลินที่เขาเก็บจากบนรถเมื่อคราวก่อนมานั่งดู อมยิ้มน้อยๆแล้วลงมือเขียนบันทึกประจำวันเหมือนเคย...
น่าแปลกที่สถานการณ์ในวังวุฒิเวสม์ไม่น่าอึดอัดเจียนระเบิดเหมือนที่ผ่านมา แม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ฉาวโฉ่ในงานปาร์ตี้วันเกิดของวิรงรองมาไม่ถึงอาทิตย์ แต่ทุกคนในวังก็อยู่ในความสงบดี คงมีเพียงจรวย เป็นเดือดเป็นร้อน และพยายามยุแยงศรีจิตราไม่หยุดหย่อน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่หลงลม
แต่กระนั้น...แผนการแต่งงานของคุณชายรองกับศรีจิตราก็ดำเนินต่อ ท่ามกลางความนิ่งเฉยของว่าที่บ่าวสาว แต่ตัวตั้งตัวตีอย่างเสด็จพระองค์หญิงกับคุณสอางค์ กลับไม่มีเวลาสนใจ มัวจัดแจงวางแผนให้คู่หมายใหม่อย่างคุณชายเล็กกับสาลิน และวันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดี ให้สองหนุ่มสาวได้ทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรก
ศรีจิตราต้องเข้าร่วมขบวนการอย่างเลี่ยงไม่ได้ และหน้าที่เธอวันนี้คือพยายามยื้อและถ่วงเวลาคุณชายเล็กไว้ที่ตำหนักใหญ่จนกว่าสาลินจะมาถึงตามแผน แต่ที่นักวางแผนทุกคนนึกไม่ถึง คือสาลินเปลี่ยนใจไม่เข้าเฝ้าตั้งแต่แรกที่มาถึงวังวุฒิเวสม์ แต่เลือกจะเดินชมสวนงามรอบตำหนัก
สาลินเดินลึกไปในสวนเรื่อยๆ พลันสายตาก็เหลือบเห็นศาลากลางสวน พร้อมข้าวของมากมายหลายอย่าง ทั้งสมุดบันทึก วางคู่กับดอกไม้แห้งคั่นหน้า สมุดวาดรูปเล่มใหญ่ ปากกาด้ามหรู หนังสือภาษาอังกฤษและซองใส่กล้องส่องนก สาวแสบบ้านสวนยื่นหน้าไปดูใกล้ๆ ก่อนจะอดทึ่งไม่ได้เมื่อเห็นภาพวาดนกนานาพันธุ์
คุณชายรองส่องกล้องมาเห็นก็ตกใจ รีบผละจากมุมที่ซ่อนตัวมาทักเสียงนิ่ง
“แอบดูอีกแล้วนะ ไม่เลิกนะนิสัยถ้ำมองแบบนี้”
“ฉันเปล่านะ ฉันเดินเล่น เห็นของวางอยู่ก็เข้ามาดู นี่ของของคุณหรือ”
“ใช่...และเธอก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ฉันก็แค่ดู ทำไมหรือคะ...มีอะไรซุกซ่อนอยู่หรือไง”
คุณชายรองร้อนตัว รีบก้าวไปปิดสมุดบันทึก ไม่ให้เธอเห็นดอกไม้แห้งที่เขาแอบเก็บไว้ แล้วตีหน้าดุ
“มีธุระอะไรถึงมาที่นี่ มารบกวนความสงบของฉัน ...หรือว่าตั้งใจมาหาฉัน”
“ตั้งใจมาหาคุณเรื่องอะไรไม่ทราบ”
“ก็มาพูดซ้ำๆซากๆ เรื่องไม่ให้ฉันแต่งงานกับพี่สาวเธอไง”
“ถ้าพูดเรื่องนั้น ฉันไม่ต้องมาถึงที่นี่หรอก เสด็จฯ
รับสั่งให้ฉันเข้าเฝ้าวันนี้ต่างหาก ฉันจะพาพี่ศรีไปซื้อของ”
สีหน้ารั้นๆของเธอ ทำให้คุณชายรองนึกสนุก แกล้งเอ็ดที่อีกฝ่ายเอ้อระเหย ปล่อยให้เสด็จฯรอ สาลินคอหด แอบรู้สึกผิด รีบขอตัวดื้อๆ แต่ก็ไม่วายยั่วประสาทเขาทิ้งท้าย
“อ้อ...ถ้ารูปวาดนกนั่นเป็นฝีมือคุณชายจริง ก็นับว่ามีฝีมือเข้าที ส่วนดอกปีบอัดแห้งนั่น ก็น่ารักดีนะเจ้าคะ”
ooooooo
คุณชายเล็กอดแปลกใจไม่ได้ที่ถูกเสด็จพระองค์หญิงเรียกเข้าเฝ้าแต่เช้า แต่กระนั้น...ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรมาก เพราะมีศรีจิตราเป็นเพื่อนคุย ระหว่างที่นั่งกินมื้อเช้ารอเสด็จฯ
บทสนทนาของคุณชายเล็กกับศรีจิตราเริ่มต้นด้วยเรื่องรอบตัว อย่างอาหารเช้ามื้อใหญ่และรสนิยมเรื่องกาแฟ จนกระทั่งถึงเรื่องของสาลิน ที่เขาทราบมาว่าพี่ชายไปเจอตัวโดยบังเอิญเมื่อหลายวันก่อน เลยไปส่งถึงบ้านสวน
“ตายจริง ไม่รู้ว่ายายสาไปก่อเรื่องอะไรกับคุณชายรองหรือเปล่า”
“คงไม่ล่ะฮะ เพราะเห็นพี่รองอารมณ์ดีกลับมา แถมฮัมเพลงด้วยนะฮะ”
ศรีจิตรานิ่วหน้า แล้วยิ้มบางๆ เมื่อคิดถึงคำยุแยงของจรวยเมื่อวันก่อน นึกขอบคุณตัวเองที่มีสติพอ ไม่หลงคารมสอดเสียดของสะใภ้ใหญ่จากตำหนักเล็ก คุณชายเล็กเห็นเธอเงียบไป เลยชวนคุยเรื่องนิทาน
“ผมเคยบอกจะหานิทานมาให้คุณศรี แต่ต้องเล่าให้ผมฟังไงฮะ ผมชอบฟังนิทานแต่ไม่ชอบอ่านเอง”
“ดิฉันคงเล่าไม่เก่งเหมือนคุณนม”
“แต่คงน่าฟังกว่าหลายเท่าจริงๆนะฮะ”
“คงไม่หรอกค่ะ นี่ถ้าคุณนมมาได้ยินเข้าคงเสียใจแย่”
คุณชายเล็กยิ้มหวาน นึกเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันสรตะความรู้สึกตัวเอง คุณ
สอางค์ก็โผล่เข้ามาเสียก่อน พร้อมกับข่าวร้าย ว่าสาลินก็มาถึงแล้ว คุณชายเล็กนึกรู้ทันที ว่าทุกอย่างต้องเป็นแผนจับคู่ของเสด็จฯและคุณสอางค์แน่ เลยหาทางเอาตัวรอดออกจากตำหนักใหญ่ไปจนได้
แผนการจับคู่ของเสด็จฯกับคุณสอางค์เลยพังไม่เป็นท่า สาลินไม่ได้เจอหน้าคุณชายเล็ก แต่กระนั้น...สาวแสบบ้านสวนก็ไม่รู้เรื่องและไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตากินมื้อเช้าด้วยความเอร็ดอร่อย ไม่รู้เลยว่าคุณชายรองส่องกล้องมาจากมุมเดิม เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและอดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมน้องชายถึงต้องหลบหน้า ไม่อยากเจอหน้าสาลิน
แล้วคำตอบก็วิ่งมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา เมื่อคุณชายเล็กผ่านมาเจอเขากำลังส่องนก
“นายวิ่งออกมาทำไม...ทำไมไม่อยู่ทำความรู้จักกับสาลินก่อน”
“ไม่เอาครับ ผมไม่อยากถูกจับคู่ เสด็จฯทรงวางแผนให้ผมนัดบอดกับคุณสาน่ะครับ”
“นายคงกลัวเสียคุณธรรมน้ำมิตรกับเพื่อนนายมากกว่าล่ะมั้ง”
คุณชายเล็กนิ่วหน้า ก่อนจะยิ้มขัน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายคงหมายถึงพล ช่างฟิตหนุ่มรูปหล่อผู้เป็นปริศนาเลยแกล้งรับสมอ้างและขอตัวดื้อๆ แต่ไม่วายทิ้งท้าย ขอให้อีกฝ่ายบอกทุกคนว่าเขาท้องเดินไม่หยุด และไม่พร้อมเจอใคร!
สาลินกินมื้อเช้าจนอิ่มแปล้ แต่ไม่วายถือกล้วยของโปรดมานั่งกินเล่นที่ศาลาใกล้ตำหนักใหญ่ คุณชายรองส่องกล้องเห็นเธอผละจากโต๊ะอาหาร จึงตามมาดู เลยได้ปะทะคารมกันอีกยก
“คุณมาทำอะไรตรงนี้ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมารบกวนความสงบของฉันทำไม”
“ฉันจะมาเฝ้าเด็จป้า แล้วก็ไม่รู้ว่าความสงบของเธอ คือเธอนั่งหลับอยู่”
“ใครบอกว่าฉันนั่งหลับ...ฉันแค่นั่งหลับตาเฉยๆ แล้วมันก็มีเคลิ้มไปบ้าง ก็ลมมันเย็น”
“ไม่ใช่หรอก แต่เธอกินไปไม่รู้กี่ขนาน พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนต่างหาก นั่นไง...กล้วยยังคามืออยู่เลย”
สาลินหน้าแดง อับอายเพราะจริงตามเขาพูดทุกอย่าง แต่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ กินกล้วยต่อหน้าตาเฉย พร้อมกับบ่นเซ็งๆ ที่ถูกลากตัวมาถึงวังวันนี้ ไม่ใช่แค่ต้องพาพี่สาวไปซื้อของตามนัด แต่ดันถูกจับนัดบอดกับคุณชายเล็กด้วย
คุณชายรองพยักหน้ารับรู้ ไม่แปลกใจเพราะได้ยินจากน้องชายก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ต้องนิ่วหน้ามากกว่า เมื่อเธอยื่นผ้าเช็ดหน้าซักรีดเรียบร้อยคืนให้ เขาทำท่านึกนิดเดียว ก่อนจะถึงบางอ้อ ว่าคือผืนที่เคยให้เธอยืมเช็ดมือเมื่อวันที่เขาพาเธอไปช่วยเลือกของขวัญที่ร้านผ้าไหมเมื่อหลายวันก่อน
“หวังว่าเจอกันคราวหน้า คงไม่มีชิ้นส่วนอะไรของฉันไปตกค้างกับเธออีกนะ”
สาลินเชิดหน้า คว้ากล้วยเข้าปากอีกรอบแล้วผละไป ทิ้งคุณชายรองให้มองตามอึ้งๆ
“ใครได้ไปเป็นลูกเป็นเมีย สงสัยต้องทำสวนกล้วย”
สองหนุ่มสาวคู่ปรับแยกย้ายไปคนละทางแล้ว ไม่รู้เลยว่าเสด็จพระองค์หญิงทอดพระเนตรเห็นทุกอย่างจากระเบียงชั้นบน พลางนึกสงสัย ว่าสองคนนี้ไปสนิทสนมกันตอนไหน...หรือว่าแผนการจับคู่จะผิดคู่ ผิดฝาผิดตัว!
ooooooo
ความจริงที่ว่าตัวเองถูกจับคู่นัดบอดกับคุณชาย เล็กแห่งวังวุฒิเวสม์ ทำให้สาลินหงุดหงิดมาก ต้องไประบายกับพี่สาวด้วยความอึดอัด ศรีจิตราต้องปลอบและกล่อมให้ลองพิจารณาคุณชายเล็ก เพราะเป็นคนดี สาลินเลยได้ที เสนอให้พี่สาวยอมไปพบพลเพื่อนชายแสนดีที่เธออยากแนะนำให้รู้จักเป็นการแลกเปลี่ยนคำขอของน้องสาวทำให้ศรีจิตราคิดหนัก แต่เมื่อเก็บไปใคร่ครวญอีกครั้งก็อดอยากรู้ไม่ได้ แต่กระนั้น...ความคิดของน้องสาวที่ว่ามีเพื่อนหนุ่มหน้าตาและนิสัยดีกว่าคุณชายเล็ก ก็ทำให้เธอหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล
“ฮึ...นายพลของสา จะมาดีเท่าคุณชายเล็กได้ยังไง!”
ด้านอัศนีย์...เคืองไม่หายที่ถูกคุณหญิงก้อยใช้เป็นเครื่องมือปั่นหัวคุณชายรอง จนกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ทั่วพระนคร แถมพาลโกรธถึงเจ้าของปาร์ตี้วันเกิด ที่ยอมให้ราชนิกุลสาว อดีตภรรยาคนสวยใช้งานเป็นฉากสำคัญ
วิรงรองส่ายหน้าอ่อนใจ ก่อนจะพยายามหาข่าววงในเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณหญิงก้อยฉีกหน้าคุณชายรองกลางงานจากอัศนีย์ แต่ก็ต้องยั้งไว้ เมื่อเห็นหน้าแขกคนสำคัญซึ่งเพิ่งมาถึงงานเลี้ยงคณะทูต อัศนีย์มองตาม อมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วจะผละไปหา จิตติณกับวิรงรองรีบรั้งตัวไว้ ไม่อยากให้มีเรื่องอัศนีย์ทำแค่ยักไหล่ แล้วไปเผชิญหน้ากับคู่กรณีหนุ่ม วิรงรองกับจิตติณตามประกบไม่ห่าง แต่เศรษฐีหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง นอกจากทักทายอย่างสุภาพ แถมจับมืออีกฝ่ายเพื่อสงบศึกกันอีกต่างหาก!
ภาพการจับมือของสองหนุ่มคู่กรณีกลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมในวันถัดมา คุณหญิงก้อยโกรธมาก และไม่รอช้าจะไปเอาเรื่องวิรงรองกับจิตติณ เจ้าของภาพข่าวกับพาดหัวฉาว คอลัมนิสต์สาวกับช่างภาพจำเป็นพยายามแก้ตัวและไกล่เกลี่ยสถานการณ์ แต่อัศนีย์ซึ่งทนฟังอยู่นาน ก็ทำให้ทุกอย่างพัง ด้วยการยั่วประสาทอดีตภรรยา
“ท่าทางคุณจะหวังให้ผมกับเขาฟาดปากกันทุกครั้งที่เจอหรือไง”
“ใช่...นั่นยังเข้าใจได้มากกว่า”
“ไม่หรอก แต่มันแปลว่าเขาหึงหวงคุณหญิง
น้อยกว่าที่คุณหญิงวาดหวังไว้ต่างหาก โธ่เอ๊ย...อุตส่าห์จูบผมต่อหน้าคุณชายสุดที่รัก แต่เขากลับไม่สะดุ้งสะเทือน”
“นี่อย่ามาทำเป็นรู้ดีนักเลย”
“โธ่...มีอะไรบ้างเกี่ยวกับคุณหญิงที่ผมไม่รู้ อย่าลืมว่าผมรู้จักคุณหญิงดีกว่าใครในโลกนี้ทุกคน รู้ดี...ทุกสัดส่วน ทุกตารางนิ้วบนเรือนกายคุณหญิงเชียวล่ะ”
คุณหญิงก้อยเดือดจัด ตบหน้าอดีตสามีฉาดใหญ่ แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน ยอกย้อนอย่างเจ็บแสบ
“เฮ้อ...อุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้ เขายังไม่วิ่งมาหา แปลว่าอะไรรู้ไหม...คุณหญิงแพ้เด็กผู้หญิงคนนั้นเสียแล้ว ไม่กี่วันก่อน เขาก็มารับมาส่งกันอีก ทั้งๆที่เพิ่งมีเรื่องกับคุณหญิงมาหยกๆ เห็นว่าไปหวานกันในสวนสาธารณะเลยนะ”
แน่นอนว่าข่าวของอัศนีย์ต้องมาจากจิตริณี สายสืบคนสวยจากห้องสมุด คุณหญิงก้อยเชื่อสนิท และถึงกับเต้นผ่าง เมื่อเห็นสายตาและท่าทางสอดรู้สอดเห็นตามประสากระจอกข่าวของวิรงรองกับจิตติณ แถมรอยยิ้มเย้ยหยันของอดีตสามีก็ทำให้เธอโกรธจนตัวสั่น แทบจะกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่านไว้ไม่ไหว
“ขอบใจ...ขอบใจที่อุตส่าห์สนใจเรื่องของฉันขนาดนั้น ขอบใจในความสาระแนของเธอด้วยยายติ่ง นายจิตติณ และฝากขอบใจนังผู้หวังดีจอมแส่จากห้องสมุดนั่นด้วย!”
พายุอารมณ์ของคุณหญิงก้อยไม่หยุดแค่นั้น แต่ทวีความรุนแรงไปถึงห้องสมุดในบ่ายวันเดียวกัน จนพนักงานทุกคนถึงกับผงะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าราชนิกุลสาวคนสวยจะปรากฏตัว สาลินฉีกยิ้มกว้างตามประสาบรรณารักษ์ที่ดี เสนอตัวให้บริการและความช่วยเหลือ แต่กลับถูกตอกกลับแบบไม่ไว้หน้า
“ขอบใจ แต่ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ฉันแค่มาดูหน้าเธอ ว่าทำหน้าที่บรรณารักษ์ ให้ยืมหนังสือเป็นรายอาทิตย์ หรือให้ยืมตัวเป็นรายวันหรือรายชั่วโมงด้วยกันแน่”
ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง โดยเฉพาะสาลิน อึ้งไปพักใหญ่เพราะยังตั้งตัวไม่ติด
“จะทำหน้าซื่ออีกนานไหม ทำหน้าไร้เดียงสาแบบนี้ใช่ไหม คุณชายถึงได้ติดใจนัก”
ไนเจลจะเข้าไปห้ามและปกป้องลูกน้อง แต่จิตริณีก็รั้งไว้ อยากให้รอดูท่าทีของสาลิน แล้วก็ไม่ผิดหวัง
“อ่อ...คุณหมายถึงคุณชายกิตติน่ะเอง คุณชายเคยมาหาฉันที่นี่หรือแถวๆนี้สามสี่หน เอ๊ะ...หรือห้าหกหน...”
สาลินพยายามตีหน้านิ่ง ตั้งรับอย่างมีสติ แต่ก็แทบทนไม่ไหว เมื่อได้ยินประโยคถัดมาของคุณหญิงก้อย
“นี่คงภูมิใจมากสินะ ที่จับคุณชายรองไว้ได้อยู่มือน่ะ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะจับไว้ให้พี่สาว หรือให้ตัวเองกันแน่!”
สาลินกลัวเรื่องไปกันใหญ่ เลยหยุดยั่วและพยายามอธิบายว่าตัวเองก็อยากให้อีกฝ่ายคืนดีกับคนรัก แต่ดูเหมือนคุณหญิงก้อยจะไม่รับฟัง สวนกลับด้วยสีหน้าโมโหสุดขีด
“ไม่ต้องมาพูดดีเข้าตัว ฉันรู้จักกำพืดผู้หญิงอย่างหล่อนดี พวกหญิงชาวสวน อยากไต่เต้ามาเป็นสะใภ้ผู้ดี สะใภ้เจ้า จำไว้ให้ขึ้นใจ คุณชายต้องซานกลับมาหาฉันแน่ๆ เพราะคนอย่างเธอ ไม่มีอะไรเทียบเคียงฉันได้!”
ooooooo










