ตอนที่ 12
จรวยแอบเห็นเหตุการณ์วุ่นวายหลังเวทีทุกอย่าง และคิดแผนยุแยง ด้วยการไปคุยกับคุณหญิงก้อยว่าคุณชายรองยังไม่หมดรัก แต่ยังโกรธเท่านั้น ราชนิกุลสาวรับฟังด้วยใจเต้นรัว แต่ยังตีหน้านิ่ง
“จะให้ฉันเชื่อหรือ เมื่อกี้เขาเพิ่งตัดบทฉันไป เขาไม่เหลือเยื่อใยกับฉันแล้ว”
“โถ...จำใจทำน่ะสิคะ เพราะขัดเสด็จฯไม่ได้ คนที่เขาตัดบทจริงๆน่ะคือแม่สะใภ้เอกต่างหาก เธอไม่ดูดำดูดีตั้งแต่แม่นั่นเข้าวังแล้ว แม้แต่หน้ายังไม่มองเลยค่ะ”
คุณหญิงก้อยนิ่วหน้าไม่อยากเชื่อ “ทั้งที่จะหมั้นกันอยู่แล้วเนี่ยนะ”
จรวยแสร้งยิ้มหวาน เล่าทุกอย่างราวกับเป็นละครฉากหนึ่ง “มันฝันไปฝ่ายเดียวน่ะสิคะ สองยายแก่มันหวังจะใช้หลานมาฮุบสมบัติเสด็จฯ แถมยังเอาแม่น้องสาวมายัดเยียดให้คุณชายเล็กอีกนะคะ”
“มิน่าเล่า นังน้องสาวน่ะกล้าเถียงฉันคำไม่ตกฟาก มันร้ายกว่าพี่สาวมันด้วยซ้ำ”
“ร้ายทั้งพี่ทั้งน้องค่ะ นังคนพี่...ขนาดยังไม่ตกแต่ง งานการไม่เคยแตะ วันๆคอยแต่แต่งตัวยั่วคุณชาย เปลี่ยนชุดวันละสี่ห้าชุด หม่อมอำพันน่ะชังมันมากนะคะ ตั้งแต่เข้ามาอยู่วัง หม่อมเสียไพ่ตลอด ก็เลยเรียกมันว่านังตัวขัดลาภ”
ไม่ใช่แค่ปั้นน้ำเป็นตัว จรวยยังบีบน้ำตาเรียกคะแนนความเห็นใจในฐานะสะใภ้ใหญ่วังวุฒิเวสม์ด้วย คุณหญิงก้อยเลยเชื่อสนิทว่าสองพี่น้องบ้านราชดำริคือศัตรูหัวใจ และตอบแทนจรวยด้วยเสื้อขนนกหรูหราที่ตนตั้งใจสวมมางานนี้ โดยไม่รู้เลยว่าคุณชายโต ซึ่งกำลังเมาเพราะกลุ้มเรื่องมีเมียบ่าว ไม่เชิดหน้าชูตาทั้งเกียรติและหน้าที่การงาน แอบได้ยินทุกอย่าง และไม่พอใจมากที่จรวยทำตัวเป็นนางร้ายในละคร ยุแยงคนนั้นคนนี้ไปทั่ว
เวลาเดียวกันที่โถงงาน...คุณชายรองพาสาลินไปเฝ้าเจ้าของงาน เสด็จพระองค์หญิงทอดเนตรสาวบ้านสวนแปลงโฉมเป็นนางเอกในเทพนิยาย แล้วถึงกับตะลึง น้ำตารื้น เพราะหวนคิดถึงอดีต
“วันก่อนว่าสวยแล้ว แต่วันนี้สวยยิ่งกว่า เหมือนก้าวออกมาจากเทพนิยาย”
“ใต้ฝ่าพระบาทก็ทรงพระสิริโฉมเหลือเกินเพคะ”
“ฉันแต่งเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัว เป็นตัวประกอบเท่านั้นแหละ”
“ไม่หรอกเพคะ ถ้าไม่มีนางฟ้าแม่ทูนหัว เรื่องบางเรื่องก็คงไม่เกิด”
“ฉันเองก็อยากโบกคทาให้ทุกเรื่องจบอย่างมีความสุขเหมือนกัน”
เสด็จฯทรงทำตามรับสั่งจริงๆ ด้วยการจับคู่เต้นรำให้สองสาวพี่น้อง คุณชายรองควงศรีจิตราตามระเบียบ ส่วนคุณชายเล็ก...เห็นท่าไม่ดี กลัวสาลินจับได้ว่าโกหก เลยแสร้งสวมหน้ากาก และพาเธอไปเต้นรำกลางฟลอร์
สาลินรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคู่เต้นอย่างประหลาด แล้วก็ถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเขาสารภาพดื้อๆว่าเขาคือพลช่างฟิต
“นี่หมายความว่ายังไง ที่แท้คุณคือคุณชายเล็กงั้นหรือ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมก็คือนายพล เพียงแต่คืนนี้ ผมนัดกับเจ้าคุณชาย เราแต่งตัวเป็นคู่แฝดเหมือนกันเป๊ะ”
“แล้วคุณก็หลอกทุกคนในงาน หลอกแม้กระทั่งเสด็จฯ”
พลหรือคุณชายเล็กตัดสินใจถอดหน้ากาก กวาดตามองรอบๆ เห็นทุกคนมองมาลุ้นๆ ก็อดขำไม่ได้ เพราะแผนเฉพาะหน้าของตนได้ผลเกินคาด สาลินยังจับโกหกไม่ได้ และเขาก็ได้เจอเธอแล้วในฐานะคุณชายเล็ก!
ooooooo
และเพื่อกันแผนแตกก่อนเวลาอันควร คุณชายเล็กเลยเตี๊ยมกับสาลินให้ช่วยเก็บเรื่องพลเป็นความลับ โดยอ้างว่าคุณชายเล็กไม่ชอบการจับคู่ เลยส่งตนมาช่วยปลอมตัวสวมรอยแทน ซึ่งสาวแสบบ้านสวนก็เชื่อสนิทและให้ความร่วมมืออย่างดี ก่อนจะสลับคู่กับศรีจิตรา เพราะไม่อยากให้พี่สาวเต้นรำกับคุณชายรองนานๆ
ระหว่างที่คุณชายรองกับสาลินต่อปากต่อคำกันเหมือนเคย คุณชายเล็กกับศรีจิตรากลับคุยกันถูกคอ
“เป็นไงบ้างครับคุณศรี เวลาที่เราได้ทำตัวเป็นคนอื่น”
ศรีจิตรายิ้มกว้าง ตอบตามที่ใจคิดจริงๆ “สนุกดีค่ะ...เหมือนอยู่ในความฝัน”
“แหม...ผมไม่ใช่เจ้าชายในฝันอย่างพี่รองซะด้วย”
“คุณชายทราบได้ยังไงคะว่าไม่ใช่”
“โธ่...ใครเขาก็บอกว่าผมน่ะมัน...คุณชายนอกคอก”
ศรีจิตราสบตาเขานิ่ง แววตาประกายระยิบระยับเหมือนจะบอกความในใจ “ผู้หญิงคนหนึ่ง ก็มีความฝันแบบหนึ่ง ผู้หญิงแต่ละคนก็มีความฝันของตัวเอง คุณชายต้องเป็นเจ้าชายในฝันของผู้หญิงบางคนแน่ค่ะ”
ขณะที่คุณชายเล็กสับสน เพราะสายตาบอกความนัยของศรีจิตรา บรรยากาศระหว่างคุณชายรองกับสาลินก็เริ่มจะร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อเขาดันอยากรู้ว่าเธอสลับคู่กับพี่สาวทำไม
“ฉันไม่อยากให้คุณเต้นกับพี่ศรีนานๆ”
“ทำไม...นี่เขาเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉันนะ”
“บอกแล้วบอกอีก ฉันไม่อยากได้คุณเป็นพี่เขย คุณควรกลับไปคืนดีกับคุณหญิงก้อยได้แล้ว คืนนี้ได้ยิ่งดี!”
คุณชายรองถอนหายใจเฮือกใหญ่ พึมพำว่าคงยากเพราะเพิ่งทะเลาะกับราชนิกุลสาวมา สาลินกลัวเขาจะถอดใจ เลยให้กำลังใจใหญ่ ว่าเขากับคุณหญิงก้อยรักกันมานาน คงไม่แตกกันเพราะเรื่องจับคู่บ้าๆนี้แน่
“นี่...อย่ามาทำเป็นรู้จิตใจคนอื่นดีเลย เพราะบางครั้ง...ฉันยังไม่รู้ใจตัวเองเลย...เธอห่วงแค่พี่สาวตัวเองงั้นหรือ”
“ใช่...พี่สาวฉัน ใครเข้าใกล้ก็หลงรัก เดี๋ยวคุณมาหลงรักพี่สาวฉัน หรือไม่...พี่สาวฉันก็อาจมาหลงรักคุณ”
“ทำไม...หรือว่าพอใครเข้าใกล้ฉัน ก็มาหลงเสน่ห์ฉันหมด”
รอยยิ้มยั่วประสาทของเขาทำให้สาลินเหลืออด สวนกลับ “ฮึ...อย่าหลงตัวเองนักเลย เพราะพี่สาวฉันเขาถูกสั่งมาให้เตรียมพร้อมจะรักคุณอยู่แล้วต่างหาก อีกอย่าง...เขาก็ไม่ค่อยรู้จักผู้ชายที่ไหน”
“อ้อ...ไม่ได้เจนจัดเหมือนเธอสินะ”
สาลินแทบกรี๊ด แต่ต้องกลั้นไว้ แล้วแกล้งเหยียบเท้าเขาแรงๆ
“ขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
แต่มีหรือคุณชายรองจะยอม เอาคืนด้วยการจับเธอหมุนแล้วกระชากมาใกล้จนเกือบจะจูบผม
“ขอโทษ...ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน”
สองหนุ่มสาวคู่กัดสบตากันนิ่ง เหมือนมีประกายบางอย่างปะทุในอก จนทั้งสองตกในภวังค์ โดยไม่รู้เลยว่าเลื่อมประภัสกับฉัตรอาชา สองสมุนเอก ลูกน้องของวิรงรองซึ่งเต้นรำอยู่ไม่ไกลกันนั้น เห็นและได้ยินทุกอย่าง และไม่รอช้าจะไปบอกเจ้านายสาว เพื่อใช้เป็นข่าวใหญ่ข่าวฉาวในวันต่อมา
ooooooo
แผนลวงโลกของคุณชายเล็กดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยมีคุณหญิงกลาง ศรีจิตราและสาลินเป็นตัวหลอก ผลัดกันเต้นคู่กับเขา เพื่อไม่ให้ทั้งสามสาวเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกัน ทุกคนเลยเข้าใจว่าเขาเจอกับสาลินว่าที่คู่หมั้นคู่หมายแล้ว
เช่นเดียวกันกับแผนยุยงของจรวย ที่จะให้คุณหญิงก้อยคืนดีกับคุณชายรองให้ได้ ก็ทำท่าจะไปได้สวย นัดแนะกันอย่างดี แต่ก็ต้องล่มไม่เป็นท่า เมื่อคุณชายโตซึ่งเมาแอ๋เต็มที่ โผล่มาด่าเมียบ่าวเสียก่อน
“จรวย...ฉันได้ยินนะ เธอไปพูดยุแยงอะไรคุณหญิงก้อย”
“ยุแยงอะไร รวยเปล่านะ”
“ไม่ต้องมาเถียง เพราะเธอทำตัวแบบนี้นี่แหละ คนเขาถึงดูถูก แล้วพาลดูถูกมาถึงผัวอย่างฉันด้วย”
“ดูถูกถึงคุณชาย เรื่องอะไรกันคะ”
“ทุกเรื่องที่เธอทำ ที่เธอคิดนั่นแหละ หน้าที่การงานฉันไม่เจริญก้าวหน้าก็เพราะได้เมียบ่าวอย่างเธอมาตบแต่ง”
จรวยกรี๊ดลั่น ก่อนจะลืมตัวตบผัวฉาดใหญ่ด้วยความโมโห วิรงรอง สองลูกสมุนและคุณหญิงก้อย ได้ยินเสียงเอะอะก็รีบมาดู และพยายามจะไกล่เกลี่ยสถานการณ์ แต่ก็เหมือนจะทำให้เลวร้ายกว่าเก่า
“ถ้ารวยเป็นตัวถ่วงให้คุณโตไม่เจริญ ก็หย่ากันเลยสิคะ รวยก็ไม่อยากเป็นสะใภ้เจ้านอกคอกเหมือนกัน!”
จบคำก็สะบัดหน้าหนี ทิ้งคุณชายโตให้มองตามด้วยแววตาทั้งรักทั้งแค้น โดยมีพวกวิรงรองสังเกตการณ์ไม่ห่าง และเมื่อเห็นว่าสองผัวเมียแยกย้ายคนละทางแล้ว จึงไปหยิบเสื้อคลุมขนนกของคุณหญิงก้อย ซึ่งมอบให้จรวยเป็นของตอบแทนก่อนหน้า ไปคืนเจ้าของตามเดิม...
อีกด้านของงาน...ศรีจิตรานั่งทอดอารมณ์ที่ริมสระบัว ภาพคุณชายเล็กเต้นรำและหยอกล้อกับคุณหญิงกลางอย่างสนิทสนมทำให้เจ็บร้าวในอกอย่างบอกไม่ถูก แต่คิดอะไรตามลำพังได้ไม่นาน สาวสวยในชุดนักเล่านิทานก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ๆคุณชายเล็กก็โผล่มานั่งด้วย
“ทำไมมาแอบอยู่คนเดียวมืดๆล่ะ เป็นอะไรฮะ เมาคน เมาอาหาร หรือว่าเมาแชมเปญ”
“ถูกหมดทุกข้อมังคะ แล้วคุณเล็กล่ะคะ เอ่อ...ไม่เต้นรำกับคุณหญิงกลางต่อเหรอคะ”
“อ๋อ...หญิงกลางไม่ถนัดเต้นรำหรอกครับ เธอถนัดเข้าครัวเสียมากกว่า กับข้าวคาวหวานที่หญิงทำอร่อยทุกอย่างเลยนะครับ คุณศรีต้องทานเค้กสายรุ้งของเธอ...อร่อยจนลืมไม่ลง”
คำว่าลืมไม่ลงของเขา ทำให้ศรีจิตราสะเทือนใจมาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ นอกจากกล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้คนเดียว
ระหว่างที่ศรีจิตราหักห้ามใจอย่างหนัก สาลินก็พยายามกันท่าคุณชายรองทุกทาง ไม่ให้เข้าใกล้พี่สาว จนคุณชายรองตามอารมณ์ไม่ทัน และเข้าใจว่าเธอเป็นพวกอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวบึ้ง เอาใจยาก
“นี่...คุณว่าฉันคุ้มดีคุ้มร้ายหรือ คุณต่างหากที่คุ้มดีคุ้มร้าย แต่ก่อนคุณเคยพูดดี ทำดีกับฉันที่ไหน เพิ่งจะมีวันนี้นี่แหละ ที่คุณไม่อาละวาดจิกกัดฉัน ทำตัวเป็นเจ้าชายได้ตลอด”
คุณชายรองยิ้มตาพราว แกล้งถาม “ปกติฉันเป็นอสูรกับเดอะบีสต์สินะ”
“ใช่...คุณน่ะเป็นเจ้าชายที่ถูกสาปเป็นอสูรร้าย”
“เรื่องมันเป็นยังไงนะ วันหลังเธอเล่าให้ฉันฟังบ้างสิ”
“ไม่เอา ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณไม่รู้จักเรื่องนี้ ก็คุณน่ะฉลาด...แล้วก็รู้มากจะตาย”
“ความรู้มาก ไม่ใช่รู้มาก”
คุณชายรองจงใจส่งตาหวาน แต่สาลินก็แกล้งทำไม่เห็น และเดินหนีดื้อๆ ทิ้งให้คุณชายรองมองตามยิ้มๆ แววตาเป็นประกายเหมือนกำลังเจอคนถูกใจ...
ooooooo
แม้ว่าแนวร่วมแผนกู้ชายคนรักคืนอย่างจรวยจะแยกตัวไปแล้ว แต่คุณหญิงก้อยก็ไม่คิดล้มเลิกแผน และเลือกดื่มไวน์ย้อมใจจนเมาไม่น้อย เมื่อเห็นชายหนุ่มแต่งชุดทหารเสือคล้ายชายคนรักที่สวนหน้าวัง เลยไม่รอช้าจะโผซบอก
“คุณชาย...ยกโทษให้หญิงนะคะ”
คุณชายโตเมาแอ๋ไม่แพ้กัน เห็นหญิงสาวในชุดเสื้อคลุมขนนก ก็เข้าใจว่าเป็นจรวยเมียบ่าวสุดที่รัก
“ถ้าเธอสำนึกในความผิด ฉันก็พร้อมจะยกโทษให้เธอ”
“หญิงผิดไปแล้วค่ะ ผิดมาตลอด คุณชายเข้าใจเถอะนะคะ ครั้งนั้นที่หญิงจูบกับอาร์นี่ หญิงทำเพื่อประชดคุณชาย หญิงไม่ได้รักเขาแม้แต่นิดเดียว”
“อะไรนะ...เธอเคยจูบฝรั่งด้วยหรือ ฉันก็พอรู้นะว่าเธอเคยมีผู้ชายก่อนฉัน แต่ไม่ยักรู้ว่าคือฝรั่ง แต่เมื่อเธอสารภาพ ฉันก็ให้อภัย และเชื่อว่าเธอพูดจริง ดีใจที่เธอสำนึกได้ ทำตัวเป็นเมียที่ดีเถอะนะ เพื่อหน้าที่การงานฉันด้วยไง”
“เป็นเมียที่ดี...คุณชาย...ตายแล้ว ภาษาคุณชายช่างเถื่อนอะไรอย่างนี้ แต่มันก็เร้าอารมณ์ดีเหลือเกินค่ะ”
“เวลาเธอเรียกตัวเองว่าหญิง มันก็เร้าอารมณ์ฉันเหมือนกันนะ”
“ค่ะ...หญิงพร้อมจะเป็นภริยาท่านทูต เอ๊ย...เมียทูตของคุณแล้วค่ะคุณชาย เราคือราชาและราชินีของงานค่ะ”
เสียงพลุฉลองงานวันประสูติดังขึ้นจากทุกทิศทุกทางหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ คุณชายโตกกกอดกับหญิงสาวในชุดขนนกแนบแน่น คุณชายเล็กก็จับมือศรีจิตราไปยืนดูพลุด้วยกัน ส่วนคุณชายรองนั้นยืนอยู่กับสาลิน
สีสันสวยงามของพลุ ทำให้คุณชายรองอดคิดถึงอดีตไม่ได้ “วันนี้เมื่อสองปีก่อน ฉันเคยยืนตรงนี้ ในงานประสูติของเด็จป้า แต่คนที่อยู่ข้างๆไม่ใช่เธอ สายลมแห่งโชคชะตาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปหมด”
สาลินหน้าเสีย แอบรู้สึกผิด “คุณชายคะ ฉันผิดเองที่ก่อเรื่องให้คุณ ฉันขอโทษจริงๆนะคะ”
“เธอนี่ประหลาดจริง อารมณ์อย่างกับพลุบนฟ้า บางทีก็สวยระยิบระยับ บางทีก็ระเบิดตูม เผาทุกอย่าง”
“อะไรที่ฉันผิด ฉันก็ขอโทษสิ ไม่เหมือนคุณหรอก ทำขี้โคลนเปื้อนฉันก็ไม่ขอโทษ”
“นี่เธอยังจดจำอีกหรือ”
สายตาวิบวับของเขา ทำให้เธอหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังพยายามตีหน้านิ่ง ไม่สนใจจะตอบ
“คุณชายคะ ฉันจะทำทุกอย่างให้คุณคืนดีกับคุณหญิงให้ได้”
“ช่างมันเถอะ ปล่อยให้ทุกอย่างจบไปก็ดีแล้ว”
คุณชายรองตัดสินใจถอดหน้ากาก และหันไปเผชิญหน้ากับสาลินซึ่งยังสวมหน้ากาก เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง โดยไม่รู้เลยว่าสองสมุนเอกของวิรงรองวิ่งถือกล้องผ่านมาแล้วถ่ายภาพเก็บไว้
บรรยากาศสวยงามรอบตัว และอารมณ์ที่หวั่นไหวอย่างหนัก ทำให้คุณชายรองหมดความยับยั้งชั่งใจ เอื้อมไปปลดหน้ากากจากหน้าสาลิน สาวแสบบ้านสวนถึงกับอึ้ง ก่อนจะเสพูดเรื่องเขากับคุณหญิงก้อย
“คนที่รักชีวิตเคยกล่าวไว้ มีทิฐิอะไรก็มีไป แต่อย่ามีทิฐิกับความรัก เพราะอาจทำให้ต้องเสียใจไปตลอดกาล”
คุณชายรองต้องกลั้นยิ้มแทบแย่ ก่อนจะแกล้งดุ “แก่แดดจริง...ฉันก็รู้ว่าคนเราไม่ควรมีทิฐิกับความรัก แต่ที่ฉันรีรอ ก็เพราะอยากดูให้แน่ชัด ว่าอะไรคือความรักจอมปลอม อะไรคือความรักที่แท้จริง”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะช่วยให้คุณกับคุณหญิงคืนดีกัน”
“ถ้าเธอทำไม่สำเร็จล่ะ...เธอจะทำยังไง”
“ฉันจะไปรู้เหรอ”
“ก็ง่ายๆ ถ้าเธอหวง ไม่ให้พี่สาวของเธอแต่งกับฉัน เธอก็ต้องหาคนรักใหม่...คนที่ฉันจะรักได้อย่างแท้จริง”
“แล้วฉันจะไปหาที่ไหน”
“มันอาจจะไม่หายากอย่างที่เธอคิดก็ได้”
ooooooo
บรรยากาศงานเลี้ยงท่ามกลางพลุหลากสี ทำให้ใครหลายคนหวั่นไหว แต่ก็มีบางคู่หลงเพริศจนทุกคนในงานตื่นตะลึง และคนคู่นั้นก็หนีไม่พ้นคุณชายโตกับคุณหญิงก้อย กกกอดและจูบกันกลางงานอย่างไม่อายใคร!
เหตุการณ์หลังจากนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย หม่อมวาณีกับคุณหญิงกลางลมแทบจับที่คุณหญิงก้อยก่อเรื่องงามหน้ากลางงานวันประสูติของเสด็จพระองค์หญิงจนได้ หม่อมอำพันกับจรวยก็มีปากเสียงกันใหญ่ โดยมีคุณชายโตเป็นคนกลาง ร้อนถึงเสด็จฯต้องห้ามทัพด้วยตัวเอง โดยมีคุณชายรองอุ้มคุณหญิงก้อยไปส่งที่รถเพื่อกลับวังรัชนีกุล
กว่าเหตุการณ์จะสงบ คู่กรณีฉาวแยกย้ายกันไปคนละทาง เสด็จฯก็แทบหมดแรง คุณสอางค์กับคุณสร้อยต้องนวดเฟ้น โดยมีสาลินกับศรีจิตราตามประกบไม่ห่าง กลัวจะกริ้วจนงานกร่อย แต่ก็ผิดคาด เพราะทรงแย้มสรวล พร้อมประกาศก้องว่างานปีนี้สนุกกว่าทุกปี
“ผิดฝาผิดตัวกันสนุกที่สุด ทุกอย่างเป็นพรหมลิขิต... มันคือพรหมลิขิตจริงๆ”
ภาพความวุ่นวายก่อนงานเลิกคาใจสาลินจนดึกดื่น โดยเฉพาะภาพคุณชายรองถลาไปอุ้มคุณหญิงก้อยขึ้นรถ ทำให้สาวสวยจากเทพนิยายกลายร่างเป็นนางร้าย สาวแสบบ้านสวน ปากคอร้ายกาจคนเดิม
“ฮึ...ทำเป็นบอกว่าจบแล้ว ไม่คืนดีแล้ว เอาเข้าจริงก็รีบวิ่งไปอุ้ม สาแน่ใจว่าเขายังไม่หมดเยื่อใยกันหรอก”
ศรีจิตราซึ่งกำลังกลุ้มเรื่องคุณชายเล็ก อดไม่ได้ ย้อนถามเสียงเรียบ
“แล้วถ้าคุณชายรองคืนดีกับคุณหญิง แล้วพี่ล่ะสา พี่จะเป็นยังไง”
“พี่ศรีก็เป็นอิสระไง เขาก็คงกราบทูลเสด็จฯให้เลิกล้มงานแต่ง”
“คุณป้าใหญ่กับคุณป้าสร้อยคงจับคู่ให้พี่กับใครอีกแหละ”
“ก็คุณชายเล็กไงคะ”
ชื่อคุณชายเล็กทำให้ศรีจิตราถึงกับหน้าแดง “บ้าน่ะสา คุณชายเล็กน่ะของสาต่างหาก”
“สาไม่เอาหรอก อีกอย่าง...คุณชายเล็กไม่ใช่ของใครทั้งนั้นล่ะค่ะ เพราะตาพลบอกว่าเขามีแฟนแล้ว”
ศรีจิตราใจหายวาบ “มีแฟนแล้ว...เป็นใครรู้ไหมสา”
“คุณพลบอกว่าคุณชายไปจีบเขาบ่อยๆที่บ้าน แถมยังติดใจอาหารที่บ้านสาวคนนั้นด้วยนะคะ”
ศรีจิตราอึ้งไปอึดใจ น้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเข้าใจว่าหญิงสาวคนนั้นคือคุณหญิงกลาง แต่สาลินกลับเข้าใจอีกทางว่าพี่สาวร้องไห้เพราะพลาดหวังกับคุณชายรอง...โถ่พี่ศรี ไปรักเขาตอนไหน แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้
เรื่องทุกข์ใจของพี่สาวทำให้สาลินกลุ้มไปด้วย จนไม่สนใจเรื่องตัวเองที่ดันฝันว่าถูกงูรัดเป็นรอบที่สอง ต่างจากทุกคนรอบข้าง ตื่นเต้นจะแย่ และรอลุ้นอย่างใจจดจ่อว่าคู่แท้ของเธอจะเป็นคุณชายเล็กหรือไม่
ด้านคุณชายเล็ก...ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลายคนจับจ้อง สวมรอยเป็นพลช่างฟิตคนเดิมไปเยี่ยมสาลินในวันต่อมา สาวแสบบ้านสวนเห็นหน้าเพื่อนหนุ่มที่คุยกันถูกคอ ก็อดไม่ได้จะระบายเรื่องพี่สาว
“พี่ศรีน่ะ...รักคุณชายรองเต็มหัวใจแล้วล่ะคุณพล ฉันแค่ไปเล่าว่าคุณชายรองจะคืนดีกับคุณหญิงก้อยเท่านั้นแหละ พี่ศรีก็ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า พี่ศรีนะพี่ศรี เขาไม่เคยสนใจตัวสักนิด ก็ยังไปรักเขาอีก”
พลหน้าเสีย แอบเสียดาย “พี่รองนี่ช่างทรงเสน่ห์จริงๆ”
“รู้งี้ฉันปล่อยให้แต่งงานไปดีกว่า จะได้อกหักเสียให้เข็ด นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า”
“แล้วนี่...คุณจะทำยังไงต่อไป”
“ฉันก็ต้องรีบหาทางให้เรื่องมันจบๆไปน่ะสิ เรื่องแรกก็คือให้พี่ศรีเลิกรักคุณชายรองให้เร็วที่สุด”
“มันทำได้ง่ายๆหรือฮะ”
“ก็ต้องให้พี่ศรีไปรักคนอื่นน่ะสิ ฮึ...ให้คุณช่วยคุณก็ไม่ยอมช่วย”
“ถ้าเทียบกับพี่รอง เอ๊ย...คุณชายรอง ผมจะมีอะไรไปสู้เขาได้”
พลตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เชื่ออย่างนั้นจริงๆ แต่สาลินก็ไม่ทันสังเกต
“เรื่องที่สอง...ก็ต้องให้คุณชายรองคืนดีกับคุณหญิงห่านเทโพนั่นเร็วๆ”
คุณชายเล็กในคราบพลช่างฟิตไม่คิดว่าพี่ชายจะยอมง่ายๆ แต่ยังไม่ทันซักแผนการจากสาลิน ก็ต้องรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสายตากรุ้มกริ่มของทุกคนที่บ้านสวน เลยถึงบางอ้อ แล้วก็ต้องกลั้นขำแทบแย่ เมื่อได้ยินคำพูดของสาลิน
“ตอนนี้ฉันเป็นนางห้ามไปแล้วน่ะสิ นางห้ามสำหรับคนอื่น...มีไว้ให้อีตาคุณชายเล็กคนเดียว”
“ถ้าอีตาคุณชายเล็กรู้เข้านะ คงปลื้มตายเลย!”
ooooooo
งานเลี้ยงวันประสูติของเสด็จพระองค์หญิงกลายเป็นข่าวใหญ่ในวันต่อมา เพราะมีภาพข่าวของแวดวงคนสังคมชั้นสูงมาร่วมงานแฟนซีหน้ากากอย่างคับคั่ง แต่ที่ฮือฮาเป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้นภาพหลานชายคนโปรดยืนส่งตาหวานกับสาวนิรนามที่สวมหน้ากากแฟนซี
ภาพคุณชายรองกับผู้หญิงคนอื่น ทำให้คุณหญิงก้อยแทบคลั่ง จำได้ดีว่าหญิงสาวในภาพข่าวคือสาลิน และไม่รอช้าจะใส่ร้ายสองพี่น้องจากบ้านราชดำริให้แม่กับพี่สาวฟังว่าเป็นพวกแพศยา ชอบแย่งคนรักชาวบ้าน
หม่อมวาณีถึงกับอ้าปากค้าง ต่างจากคุณหญิงกลาง เหยียดยิ้มเย็น พร้อมกับยื่นภาพข่าวอีกหน้าให้ดู
“สุดยอดการแสดง งานวันประสูติเสด็จพระองค์หญิง มีการแสดงหลายชุด แต่ชุดใดก็ไม่เท่าการแสดงชิวหาพาเพลินของคุณชายดิเรกราชวิทย์กับคุณหญิงเทพีเพ็ญแสง”
พาดหัวฉาวนี้จะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้ และคุณหญิงก้อยก็รู้ดี รีบไปโทร.ด่าคอลัมนิสต์สาวเพื่อนสนิทเป็นชุด แต่วิรงรองก็แถเอาตัวรอดจนได้ จิตติณซึ่งไม่ได้ไปร่วมงาน แต่แวะมาหาเธอเหมือนเคย มองมาด้วยแววตารู้ทัน
“ตกลงคบกันยังไง ต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ ลับหลังแทงจนพรุน”
“หมั่นไส้จะตาย ให้ฉันไปงาน เดี๋ยวให้ฉันแต่งตัว เดี๋ยวให้แต่งหน้า เดี๋ยวให้หาชุด”
เลื่อมประภัสกับฉัตรอาชา สองสมุนสุดแสบพยักพเยิดเต็มที่ วิรงรองเลยทิ้งท้าย
“ฉันน่ะคอลัมนิสต์ดังนะยะ ไม่ใช่ไพร่หรือทาสในเรือนเบี้ยของใคร!”
และก็เพราะข่าวฉาวนี้ ทำให้อัศนีย์ชอบใจมาก เมื่อได้เจอต้นตอข่าวที่สปอร์ตคลับในบ่ายวันเดียวกัน ก็อดไม่ได้จะซักถามถึงเหตุการณ์จริง วิรงรองเล่าอย่างออกรสเต็มที่ จนเศรษฐีหนุ่มหล่อพ่อรวยอดสมเพชอดีตภรรยาหัวสูงไม่ได้ ที่ก่อเรื่องงามหน้าได้ทุกงาน
ถ้าข่าวฉาวของคุณหญิงก้อยทำให้อัศนีย์สะใจ ภาพข่าวสาลินยืนสบตากับคุณชายรองก็ทำให้เขาเครียดจัด จนวิรงรองสงสัย จิตติณเลยรับหน้าที่อธิบาย “นายสายฟ้าเขาไปติดพันแม่สาวบรรณารักษ์อยู่คนหนึ่ง คือยายสาลินนี่แหละ แล้วก็พบว่าเจ้าหม่อมกิตติก็มาเทียวรับเทียวส่งอยู่เหมือนกัน”
“แล้วยายหญิงก้อยรู้ว่าเธอจีบยายสาลินหรือเปล่า”
วิรงรองตั้งคำถามทันทีตามประสากระจอกข่าวสังคม อัศนีย์ไม่แคร์ที่จะเป็นข่าว ตอบอย่างมั่นใจ
“ไม่จำเป็นต้องบอก ตอนนี้ที่ฉันสนมีเรื่องเดียว...ทำยังไงก็ได้ให้ลินซี่เลิกสนใจคุณชาย แล้วหันมาหาฉัน”
“เธอไม่ต้องพยายามหรอกนะอาร์นี่ ยายสาลินคงไม่ได้เครซี่คุณชายรองสักเท่าไหร่หรอก นังเลื่อม นังฉัตร มันได้ยินเต็มสองหู เจ้าหล่อนบอกกับคุณชายรองว่าอยากให้คุณชายคืนดีกับหญิงก้อย ไม่อยากให้แต่งกับพี่สาวหล่อน”
ข่าววงในจากคอลัมนิสต์สาว ทำให้อัศนีย์ย่ามใจ และไม่รอช้าบุกหาสาลินถึงห้องสมุดเพื่อเชิญเธอไปกินมื้อเย็น บรรณารักษ์สาวบ้านสวนจะปฏิเสธ แต่เมื่อเขาอ้างว่ามีเรื่องคุณชายรองกับคุณหญิงก้อยมาบอก ก็เปลี่ยนใจรับคำทันที จิตริณีมองตามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง ตัดสินใจจะตามไป โดยควงไนเจลไปด้วย เพราะไม่อยากให้เขาหึง
เวลาเดียวกัน...วิรงรองกับจิตติณก็ไปยั่วยุคุณหญิงก้อย ให้ตามไปจับผิดอัศนีย์กับสาลินที่ร้านอาหาร ราชนิกุลสาวหัวสูงหมั่นไส้บรรณารักษ์สาวเป็นทุน เลยตอบรับโดยไม่ลังเล ตั้งใจแน่วแน่จะทำลายอีกฝ่ายให้ได้!
ooooooo
สาลินมีอาการอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เพราะนอกจากจะไม่ได้เรื่องของคุณชายรองกับคุณหญิงก้อยอย่างที่คิด ยังถูกตื๊อให้รับงานใหม่ ตำแหน่งหรูหราหัวหน้าประชาสัมพันธ์ในไนต์คลับหรู พร้อมเงินเดือนมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า อัศนีย์เองก็รู้ดี เมื่อเธอทำท่าจะปฏิเสธ เลยแกล้งดักคอ
“คุณไม่อยากไปทำงานที่ผมเสนอ หรือว่าคุณไม่กล้าไป เพราะกลัวว่าใครคนหนึ่งจะไม่พอใจ แต่ที่จริง... คุณชายกิตติคงไม่อยากให้คุณมาเกี่ยวข้องอะไรกับผม”
“แต่ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิฮะ เพราะถ้าวันไหนเขากลับมาคืนดีกับคุณหญิงก้อย คุณจะได้ไม่เสียใจ”
“ถ้าเขาคืนดีกันได้จริง ฉันก็โล่งใจ”
“ถ้าผมทำให้เขาคืนดีกันได้ล่ะ คุณต้องไปทำงานกับผมนะ”
ใช่ว่าสาลินจะไม่รู้เท่าทันความเจ้าเล่ห์ของอัศนีย์ แต่เมื่อคิดว่าคุ้มกับอิสรภาพของพี่สาวเลยยอมเสี่ยงรับปาก จิตริณีซึ่งแอบสังเกตการณ์ห่างๆ เห็นท่าทางกระหยิ่มยิ้มของอัศนีย์ ก็อดเป็นห่วงเพื่อนสาวไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจนัก เพราะไนเจลซึ่งเธอควงมาด้วย หัวเสียอย่างหนัก เพราะคิดว่าเธอตามมาเพราะหึงหวงอัศนีย์
กว่าอัศนีย์จะพาสาลินออกจากร้านอาหารก็อีกหลายอึดใจต่อมา จังหวะเดียวกันกับที่คุณหญิงก้อย วิรงรองและจิตติณมาถึง และจัดการแอบถ่ายภาพอัศนีย์กับสาลิน แบบจงใจให้เข้าใจผิดเต็มที่ แต่ที่เหล่าวายร้ายไม่รู้คือจิตริณีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และสังหรณ์ใจรุนแรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเพื่อนสาวบ้านสวน
สังหรณ์ของจิตริณีไม่เกินจริงเลย เพราะแผนคุณหญิงก้อยก็คือปล่อยภาพอัศนีย์กับสาลินบนหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมพาดหัวฉาวตามฉบับวิรงรอง โดยอาศัยความร่วมมือจากจรวย ซึ่งราชนิกุลสาวลงทุนโทร.ขอร้องด้วยตัวเอง
“จะมาไหว้วานอะไรรวยล่ะคะ คุณหญิงเพิ่งจูบประกบปากกับผัวรวยไปหยกๆเมื่อคืน”
“หยุดเพ้อเจ้อ หล่อนก็รู้อยู่ว่ามันคือความเข้าใจผิด ทั้งฉัน ทั้งผัว เอ๊ย...ทั้งคุณชายโต เราเมาทั้งคู่ เขาคิดว่าฉันคือเธอ แล้วฉันก็คิดว่าเขาคือคุณชายกิตติ”
“จะพยายามเชื่อก็ได้ เพราะลีลาการจูบดูดดื่มแบบนั้นน่ะ เขาทำกับรวยคนเดียวเท่านั้น”
คุณหญิงก้อยทำหน้าเหม็นเบื่อ ถ้าไม่ติดว่าต้องพึ่งอีกฝ่ายช่วยตีข่าวคงไม่คิดจะเสวนาด้วย
“ทำตามที่ฉันบอกนะ พรุ่งนี้แต่เช้าเลย”
“อุ๊ย...เรื่องยุแยงให้ผัวเมียแตกกัน รวยไม่ถนัดค่ะ แต่ถ้าคุณหญิงขอร้องขนาดนี้...รวยทำก็ได้ค่ะ”
แผนสกปรกของคุณหญิงก้อย ได้ผลตามคาด จรวยจัดแจงนำหนังสือพิมพ์ไปให้เหล่าคุณชายดูภาพฉาวแต่เช้า และก็ไม่ต้องรอนานเลย คุณชายรองหัวเสียมาก และพาลไปลงกับศุภร เมื่อเจอหน้ากันที่สปอร์ตคลับในบ่ายวันเดียวกัน
ศุภรทนรับอารมณ์ฉุนเฉียวของเพื่อนรักไม่ไหว โพล่งออกไปอย่างเหลืออด
“ก็แค่ภาพข่าวเอง เขาก็ไม่ได้ทำเสียหายอะไรนี่หว่า”
“แต่ก็ไม่ควรไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเพลย์บอยนั่น แล้วเห็นไหม ข้างหลังน่ะ มันผับบาร์ย่านโลกีย์ทั้งนั้น”
“อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย เดี๋ยวฉันสืบจากคุณจินนี่มาให้ เธอคงรู้อะไรดีๆและถูกต้องกว่าที่แกคิดแน่”
แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะไม่กี่อึดใจต่อมา คุณชายรองก็ต้องหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อดันเจอกับอัศนีย์ เศรษฐีหนุ่มหล่อพ่อรวย คู่ปรับและชายหนุ่มคนดังที่ตกเป็นข่าวฉาวกับสาลิน
อัศนีย์ตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ทำให้ตัดสินใจไปทักทาย ด้วยอยากยั่วประสาทเต็มที คุณชายรองไม่รอช้า ถามแบบตรงประเด็นว่าข่าวฉาวของอีกฝ่ายกับสาลิน เป็นเหตุบังเอิญหรือจงใจ
“เอ...ก็แค่รูป คำบรรยายแค่นี้ ทำไมต้องซีเรียสล่ะครับ”
“คุณเอารูปสาลินไปลงแบบนี้ มันเสียหายถึงตัวเธอ ครอบครัวของเธอ แถมคำบรรยายว่าตุ๊กตาหน้ารถ มันเหมาะสมแล้วหรือสำหรับผู้หญิงดีๆสักคน คุณควรเอาไปใช้กับผู้หญิงเสเพลระดับเดียวกับคุณมากกว่า”
“เฮ้...โอเวอร์มากไปหรือเปล่าคุณชาย ลินซี่ไปกับผมด้วยความสมัครใจ ไม่ได้บังคับอะไรเธอสักนิด”
“แล้วต้องพาไปย่านผับบาร์แบบนั้นด้วยหรือไง”
“แหม...ทำตัวเป็นผู้ปกครองดีจัง จะบอกให้เอาบุญนะ ต่อไปเธอจะลาออกจากห้องสมุดแล้วมาทำงานไนต์คลับแห่งใหม่ของผม ที่ผมพาเธอไปคุยก็เรื่องงานนี้นี่แหละ ผมจะให้เธอเป็นฝ่ายต้อนรับ เงินเดือนมากกว่าเดิมสิบเท่า”
“สาลินไม่ทำงานต่ำๆของนายหรอก”
“อย่าอึงไปคุณพ่อ ท่าทางเธอสนใจเสียด้วยสิ ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าลินซี่มาทำงานกับผม ผมจะเป็นคุณพ่อคนใหม่ของเธอแทน จะดูแลเธออย่างดีทีเดียว”
ถ้อยคำยียวนของอัศนีย์ ทำให้คุณชายรองแทบคลั่ง จะพุ่งไปต่อยให้หายแค้น ศุภรถลาไปห้าม และลากตัวกลับร้านเพื่อสงบสติอารมณ์แต่ก็ไม่ทำให้ราชนิกุลหนุ่มหายบ้า ฮึดฮัดคนเดียวด้วยความเป็นห่วงสาลิน
ooooooo
คุณชายรองไม่ใช่คนเดียวที่ประสาทเสียกับข่าวฉาวของอัศนีย์กับสาลิน แม้แต่เพื่อนร่วมงานอย่าง
บราลี ลลิตา ไนเจลและจิตริณี ก็อดเป็นห่วงบรรณารักษ์สาวบ้านสวนไม่ได้ ที่กลายเป็นคนดังแต่ในแง่ที่ไม่ดีเลย
และก็เพราะข่าวฉาวบ้าๆนี้ ทำให้เสด็จพระองค์หญิงเป็นเดือดเป็นร้อนมาก ตัดสินใจจะเรียกคุณสร้อยกับคุณสอางค์มาเจรจาเรื่องงานหมั้นระหว่างสาลินกับคุณชายเล็กเป็นการด่วน ศรีจิตรารู้เข้าก็สะเทือนใจมาก เมื่อได้เจอหน้าคุณชายเจ้าสำราญก็มีท่าทีอึดอัด จนเขาเริ่มเอะใจ
“นี่ผมคงไม่โดนประกาศิตจากเด็จป้านะฮะ”
“แล้วถ้าเสด็จฯทรงมีพระดำริล่ะคะ คุณชายจะทำยังไง”
“ก็ต้องตามขั้นตอนสิฮะ ทำความรู้จักกันก่อนว่าจะคบกันได้ไหม ไปด้วยกันได้ไหม ชอบกันหรือยัง แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ...ผมรักเขาหรือเปล่า แล้วเขารักผมตอบไหม”
“แล้วถ้ามันเป็นความรักข้างเดียวล่ะคะ”
“รักเขาข้างเดียว ผมก็จะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขาฮะ ถึงไม่สำเร็จ ถึงจะเจ็บปวดก็ไม่เป็นไร”
“ค่ะ...รักเขาข้างเดียวนี่มันเจ็บปวดเหลือเกิน”
ท่าทางเซื่องซึมของศรีจิตรา ทำให้คุณชายเล็กเริ่มเห็นด้วยกับสาลินเป็นครั้งแรกว่านักเล่านิทานสาวคงหลงรักพี่ชายคนรองอย่างจัง ความสงสารและเห็นใจถาโถม จนต้องขยับไปบีบมือปลอบใจ
“ว้า...คุณศรีคนเดิมหายไปไหนฮะ สาวสวยช่างฝัน เซเฮราซาดนักเล่านิทานหายไปไหน”
“เซเฮราซาดเล่านิทานเพื่อช่วยชีวิตตัวเองจากทัณฑ์ของสุลต่านต่างหากค่ะ”
“นั่นแหละฮะ คุณศรีต้องเข้มแข็งเหมือนกัน อย่าลืมสิฮะ คุณศรีคือเซเฮราซาดของผม”
“ยายสาบอกว่าจะแนะนำดิฉันให้รู้จักกับคุณพล คุณพลนี่เป็นยังไงบ้างคะ”
“ก็หล่อ...นิสัยดี น่ารักพอๆกับผมแหละฮะ แต่คุณศรีไม่ต้องไปรู้จักมันหรอก คุณศรีมีผมคนเดียวก็พอแล้ว”
ประโยคสุดท้ายทำให้ศรีจิตรายิ้มกว้าง ความรู้สึกอุ่นวาบในอกจนแทบอยากหยุดเวลา ไม่รู้เลยว่าจรวยผ่านมาเห็นและแอบได้ยินทุกอย่าง พร้อมกับคิดและเข้าใจเอาเองว่าคงมีเรื่องผิดฝาผิดตัวจริงๆ
ooooooo
แม้จะพยายามทำใจเย็นตลอดบ่าย แต่สุดท้ายคุณชายรองก็อดใจไม่ไหวรีบไปรับสาลินตอนเลิกงาน จะพาไปส่งบ้านสวน และอธิบายทุกอย่างให้คุณตากับคุณยายฟังด้วยตัวเอง
“คุณไม่ใช่ผู้ปกครองฉันเสียหน่อย ทำไมจะต้องไปคุยกับคุณตาคุณยายฉันด้วย”
“คงกลัวโดนดุล่ะสิ ป่านนี้คุณตาคุณยายคงอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไปแล้ว”
“ที่บ้านไม่ได้รับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นค่ะ นี่คุณ...ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ ฉันแค่ไปคุยธุระกับเขา”
“อ้อ...เธอคิดว่าการที่เธอพบปะสมาคมกับนายอัศนีย์น่ะ มันถูกต้องแล้วสินะ”
“ก็ไม่เห็นแปลกนี่คะ คนเราก็ต้องพบปะกันบ้างสิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อฉันกำลังจะไปทำงานกับเขา”
คุณชายรองโกรธมาก จอดรถข้างทางทันที แล้วหันไปเอาเรื่อง “เธอรู้จักเขาดีแล้วหรือ”
สาลินเห็นท่าทีแข็งกร้าวของเขา ก็อดกลัวไม่ได้ แต่ยังเชิดหน้า บอกว่าอัศนีย์เป็นคนใจดี กว้างขวาง
“คนดี คนใจกว้างขวางเขาวัดกันตรงไหนหรือ หรือว่าวัดตรงเป็นลูกชายมหาเศรษฐี มีกิจการระดับประเทศ หรือว่าวัดกันตรงเป็นหนุ่มสังคมมีข่าวลงหน้าซุบซิบได้ไม่เว้นแต่ละวัน”
“นี่คุณอย่ามาพูดเหมือนคุณเป็นยาจกเลย คุณไม่ชอบเขา คุณโกรธเขาก็เพราะว่าเขาเป็นสามีเก่าคุณหญิงก้อยมากกว่า ก็เลยพาลพาโลฉัน!”
สองหนุ่มสาวคู่กัดเถียงกันตลอดทางกลับบ้าน จนผ่านปั๊มของพุดซ้อน ก็ไม่ทันสังเกต คุณชายเล็ก
ในคราบพลช่างฟิต ซึ่งรับอาสาจากศรีจิตรามาดูอาการสาลิน เห็นสาวแสบบ้านสวนมากับพี่ชายก็เปลี่ยนใจไม่ไปหา พุดซ้อนกับชบาเลยเข้าใจเอาเองว่าช่างฟิตหนุ่มถอดใจแล้ว เพราะสู้บารมีคุณชายกิตติราชนรินทร์แห่งวังวุฒิเวสม์ไม่ได้
กว่าจะถึงบ้าน...สาลินก็แทบหมดแรงจะเถียงกับราชนิกุลหนุ่มขี้เก๊ก คุณชายรองก็หมดอารมณ์จะเอาชนะ แต่กลับอารมณ์เย็นลงอย่างน่าประหลาด เพียงแค่ได้ใช้เวลาอยู่กับเธอ
“นี่คุณตาคุณยายเธอรู้หรือยัง เรื่องเธอจะไปทำงานกับนายอัศนีย์”
“ยังหรอกค่ะ งานนั่นกว่าจะเริ่มก็อีกตั้งสามสี่เดือน... หรือคุณจะเข้าไปฟ้องคุณตาคุณยายฉันตอนนี้”
“ก็ขึ้นกับว่าเธอจะชวนฉันกินข้าวไหม”
สายตาวิบวับของเขา ทำให้หน้าเธอร้อนเห่ออีกครั้ง จนต้องโพล่งออกไปว่าไม่อยากให้คุณตาคุณยายเข้าใจผิด คุณชายรองนิ่วหน้า ไม่เข้าใจ “เข้าใจผิดเรื่องอะไร”
“ก็...เริ่มเข้าใจว่าคุณมาจีบฉันแทนพี่ศรีน่ะสิ”
“แล้วมันประหลาดนักหรือ”
“ประหลาดสิ น่าเกลียด ชาวบ้านจะได้นินทาตาย”
“เธอน่ะ...รู้จักระวังตัวกลัวคนนินทาด้วยหรือ”
“กลัวสิ ชาวบ้านแถวนี้น่ะ ตัวนินทาเลย”
ตัวนินทาของสาลิน แอบหลบไม่ไกลกันนั้น พุดซ้อนกับชบานั่นเอง สองแม่ลูกเริ่มใจไม่ดี กลัวถูกจับได้ แต่ไม่ขยับตัวไปไหน จนเมื่อคุณชายรองพาสาลินมาส่งถึงหน้าบ้าน แล้วจับมือกันไว้ ก็ถึงกับตาโต
สาลินมัวแต่อึ้ง ไม่ทันผิดสังเกตว่ามีคนแอบดู “แล้วมาจับมือฉันทำไม”
“อ้าว...ก็เธอไม่ชอบไหว้ฉัน ฉันก็จับมือลาแบบฝรั่งไง”
สาวแสบบ้านสวนหน้าแดงก่ำ ค่อยๆดึงมือออกแล้วผละเข้าบ้าน ทิ้งคุณชายรองให้มองตามด้วยความชอบใจ โดยไม่รู้เลยว่าพุดซ้อนกับชบาคอยจับจ้องตลอด หมายมาดปั้นมือในใจ...เรื่องนี้ต้องฉาวทั่วคุ้งน้ำเมืองนนท์แน่!
ooooooo
จิตริณีทนร้อนใจไม่ไหว ต้องหาทางนัดเจออัศนีย์เพื่อถามหาความจริง แล้วก็ต้องถอนใจเหนื่อยหน่าย เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคิด อัศนีย์กับคุณหญิงก้อยเอาคืนกัน โดยมีสาลินกับคุณชายรองเป็นหมากในเกม
อัศนีย์ไม่มีท่าทียี่หระ เผยความในใจให้เพื่อนเก่าจากนิวยอร์กรู้ว่าอยากคืนดีกับคุณหญิงก้อย ซึ่งจิตริณีก็ไม่คิดขวาง แถมช่วยคิดอีกต่างหากว่านอกจากเรื่องวุ่นวายในข่าวแล้ว สร้อยเพชรกับดอกไม้สวยๆก็คงช่วยได้เช่นกัน
ฝ่ายคุณหญิงก้อย...ไม่รู้ตัวว่าเป็นหมากตัวหนึ่งของอดีตสามี มัวกระหยิ่มใจที่แผนได้ผลดีเกินคาด
“ข่าวนี้คงทำให้คุณรองอยู่ไม่เป็นสุข และก็คงทำให้อัศนีย์อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนกัน คนหนึ่งอยู่ไม่เป็นสุขเพราะกลัวสูญเสีย อีกคนไม่เป็นสุขเพราะยิ่งอยากไขว่คว้าให้ได้มา”
คุณหญิงกลางเห็นท่าน้องสาวก็ถอนใจเหนื่อยหน่าย “แล้วหญิงล่ะจ๊ะ ข่าวนี้จะทำให้หญิงได้อะไร”
“หญิงก็ได้ความสะใจไงคะ”
“ความสะใจ...บางทีก็นำมาซึ่งความทุกข์ใจแสนสาหัสนะหญิง”
คำเตือนของพี่สาวไม่ได้ทำให้คุณหญิงก้อยยี่หระ ย่ามใจกว่าเดิมด้วยซ้ำ ว่าต้องได้ตัวคุณชายรองกลับมาแน่ๆ
เวลาเดียวกันที่ตำหนักเล็ก...คุณชายรองไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองจะเป็นหมากในเกมของใคร มัวยิ้มระรื่นที่ได้แหย่สาลิน คุณชายเล็กเห็นท่าพี่ชายก็แกล้งเย้า แถมบอกว่าเห็นอีกฝ่ายกับสาวแสบบ้านสวนเมื่อเย็นด้วย
“อ้อ...นี่ฉันไปตัดหน้านายสินะ ไง...ตั้งแต่รู้จักกัน งานวันประสูติ แกก็ตามไปเฝ้าเขา เช้าถึงเย็นถึงเลยหรือ”
“คนที่เช้าถึงเย็นถึงน่าจะเป็นพี่รองกับนายอัศนีย์มากกว่า ผมก็แค่จะไปถามเขาเรื่องข่าวนี่ แต่เห็นพี่ไปส่งเขา คงถามกันเรียบร้อย ตกลง...นายอัศนีย์มาจีบคุณสาหรือไงฮะ”
“สาลินบอกว่าเขามาชวนไปทำงานด้วย”
“งั้นก็ใช่เลย คนพวกนี้ชอบอ้างเอางาน เอาธุระมาบังหน้า เพื่อจะได้ไปรับไปส่งกัน”
คุณชายรองสะดุ้ง เพราะตัวเองก็ทำแบบนั้น แต่กระนั้น...ความสุขจากการต่อปากต่อคำกับสาลิน ก็ทำให้ความรู้สึกผิดเลือนหาย แถมเก็บเรื่องเธอไปคิดถึงตลอดคืนอีกต่างหาก เช่นเดียวกันกับสาลิน...เก็บเรื่องของคุณชายรองไปเพ้อจนเขียนนิยายได้เป็นเล่มๆ กลายเป็นชายในฝันของเธอโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้เรื่องระหว่างคุณชายรองกับสาลินจะจบด้วยดี แต่คุณชายเล็กก็คาใจบางอย่าง จนต้องบุกไปหาคุณหญิงกลางถึงวังรัชนีกุลในวันต่อมา เลยได้รู้ว่าภาพฉาวของอัศนีย์กับสาลินเป็นแผนการของคุณหญิงก้อย
“ฉันกะอยู่แล้วเชียว แล้วทำไมหญิงถึงทำอย่างนั้น”
“ก็หญิงก้อยถือว่าคุณสาเป็นศัตรูหัวใจยิ่งกว่า
คุณศรีซะอีก...หญิงก้อยว่าคุณรองติดพันคุณสามานานแล้วหรือ”
“โอ้โฮ...มีอะไรบ้างไหมที่เธอไม่รู้...ใช่แล้ว”
“แล้วเธอเองก็ชอบๆเขาอยู่เหมือนกัน แล้วยังไง ใครดีใครได้อย่างนั้นหรือ”
“ไม่ใช่...มันอยู่ที่เขารักใคร และใครรักเขาสุดหัวใจต่างหาก”
คุณหญิงก้อยไม่สะทกสะท้าน เมื่อพี่สาวเล่าว่าคุณชายเล็กรู้แผนการของเธอแล้ว แถมเย้ยหยันราชนิกุลหนุ่มเจ้าสำราญอีกต่างหาก ว่าเป็นพวกใจง่าย เพราะดันไปถือข้างสองสาวพี่น้องศัตรูหัวใจ
“ฮึ...เจ้าเสน่ห์เหลือเกินนะ ผู้ชายรุมหลงรักเป็นแถว คนพี่ก็คอยรับส่ง คนน้องก็เจ็บร้อนจนแร่มาที่นี่ ส่วนอัศนีย์ก็หลงมันหัวปักหัวปํา ป่านนี้นังนั่นคง
ตัวลอยที่แย่งคนของหญิงไปได้ เฮอะ...ที่แท้ก็ของเหลือเดนจากหญิงทั้งนั้น”
“แน่ใจหรือหญิง เพราะหญิงเองก็ยังอาลัยอาวรณ์ของเหลือเดนนั่นอยู่ไม่น้อยนะ”
คุณหญิงก้อยชักสีหน้า อยากกรี๊ดเต็มแก่ แต่ก็ยังพยายามข่มอารมณ์ไว้ เมื่อพี่สาวพูดถึงศรีจิตรา
“นังนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหญิงหรอกค่ะ เพราะวันๆก็ถูกเก็บตัวโง่งมอยู่แต่ในกะลา พอหญิงเตือนมันว่าน้องสาวกำลังแย่งคุณรองไปจากมัน ก็ได้แต่ร้องไห้กระซิกๆ ไม่มีปัญญาทำอะไร คอยดูเถอะ ถ้าวันไหนคุณรองคว้านังสาลินเข้าจริงๆ หญิงจะหัวเราะเยาะเด็จป้าให้สาแก่ใจเชียว หญิงไม่มีวันยอมแพ้นังสาลินหรอกค่ะ หญิงจะต้องชนะ!”
นอกจากข่าวฉาวกับอัศนีย์ สาลินยังเป็นข่าวใหญ่ทั่วคุ้งน้ำเมืองนนท์ เมื่อพุดซ้อนทำตามที่คิด คือเอาเรื่องเธอจับมือถือแขนกับคุณชายรองไปโพนทะนากลางวัด จนคุณตาคุณยายแทบกุมขมับ อยากจะเป็นบ้า แต่ก็ต้องพยายามสงบจิตสงบใจไว้ ไม่อยากตีตนก่อนไข้จนกว่าจะได้คุยกับหลานสาว
ผิดกับคุณสร้อย เห็นภาพข่าวฉาวของสาลินกับอัศนีย์แล้วเดือดจัด พาลไปลงกับอุ่นเรือน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว ต้องแล่นไปถามความจริงจากปากลูกสาวคนเล็กถึงบ้านสวน คุณตาคุณยายได้ฟังก็ลมแทบจับ เรื่องเก่ายังไม่ได้จัดการ ก็มีเรื่องใหม่แล้ว สาลินหน้าเสีย แต่ก็ยอมรับผิดทุกอย่างและเล่าความจริงให้ทุกคนฟังโดยไม่ปิดบัง
ooooooo










