สมาชิก

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน

ตอนที่ 8

อัลบั้ม: ละครเรื่อง "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน"

ในทุ่งดอกดาวเรืองสีเหลืองอร่ามกว้างสุดลูกหูลูกตา ทาเคชิกับแพรวดาวเดินจูงมือชื่นชมท้องทุ่งอย่างมีความสุข ทาเคชิกล่าว ในที่สุดตนก็มีชีวิตสงบสุขอยู่กับคนที่ตนรัก แพรวดาวตอบว่าตนก็ดีใจที่มีเขาอยู่เคียงข้าง ต่างเรียกกันว่าที่รัก ทันใดเสียงอิจิโร่เรียก...ทาเคชิ

ทาเคชิตกใจหันมองหา ไม่ปรากฏร่างพ่อแต่อย่างใด เขาหันกลับมา แพรวดาวหายตัวไป เสียงอิจิโร่ร้องไห้เขาช่วย ทาเคชิหันกลับไปอีกที เห็นร่างพ่อชุ่มโชกไปด้วยเลือด สีหน้าแสดงออกถึงความทรมานอย่างมาก

“แกต้องเป็นโซเรียว...แกต้องสืบทอดหน้าที่ปกป้องเมืองนี้จากอันธพาลชั่ว”

ทาเคชิตกใจขยับเข้าหา ร่างอิจิโร่รางเลือน กลายเป็นแพรวดาวร่ำไห้ “อย่าทิ้งฉันนะคะ...”

“แกจะทิ้งหน้าที่เพื่อผู้หญิงคนเดียวไม่ได้นะทาเคชิ”

“ฉันรักคุณ...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

“คุ้มครองเมืองนี้ ด้วยเกียรติของโอะนิซึกะ”

ทาเคชิสับสนอย่างมาก ร่างและเสียงเปลี่ยนไปมาระหว่างพ่อกับคนรัก ทำให้เขาปวดหัวร้องลั่นออกมา...ร่างที่นอนอยู่บนเตียงในห้องคนไข้กระตุกเฮือก แพรวดาวฟุบหลับอยู่ข้างเตียงสะดุ้งตื่น ดีใจคิดว่าเขาฟื้น เธอลูบไล้เนื้อตัวเขาอย่างตื่นเต้น

“ฉันอยู่ตรงนี้ค่ะทาเคชิ...ฉันรู้ว่าคุณได้ยินเสียงฉัน คุณแค่นอนหลับ ลืมตาสิคะทาเคชิ ตื่นขึ้นมามองฉัน...คุณสัญญาจะดูแลฉัน แล้วทำไมถึงทิ้งฉันไว้คนเดียว” แพรวดาวเห็นเขานอนนิ่งชักใจเสีย “กลับมานะทาเคชิ กลับมาหาคิมิ...ที่รักของคุณนะคะ” เธอฟุบหน้าปล่อยโฮกอดทาเคชิ

ขณะเดียวกัน คนร้ายที่หนีไปได้ถูกเก็บ นำศพมาทิ้งไว้ที่คลังรถไฟโอะนิซึกะ ตำรวจแจ้งให้ริวกับกลุ่มสามทหารเสือมาดู ทั้งสี่คนแปลกใจที่สภาพศพถูกยิง

แสกหน้าและเผาศพอำพราง ทำเหมือนคราวพบศพโกะโร่กับซุจิที่วางระเบิดฆ่าอิจิโร่ สร้างสถานการณ์ให้เหมือนโอะนิซึกะหักหลังกันเอง โอะซะมุขอให้ริวเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

“กฎหมายช้าเกินไป เมืองนี้ถึงต้องพึ่งวิถีนักรบซามูไรจัดการอิทธิพลชั่ว เพื่อความสงบสุขและความถูกต้อง” ริวแย้ง

“ถ้าทุกคนไม่เคารพกฎหมาย แล้วจะมีกฎหมายไว้เพื่ออะไร สังคมจะอยู่ร่วมกันยังไง”

โคจิเห็นโอะซะมุกับริวเริ่มไม่ยอมกัน จึงแทรกขึ้น “ท่านโอะซะมุต้องการหลักฐานอะไรบ้าง พวกเรายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่”

ริวชะงักมองโคจิอย่างไม่พอใจ โคจิมองตอบด้วยแววตาสุขุมลุ่มลึก ริวจึงยอมเงียบลง โอะซะมุขอสอบปากคำทุกคนในโอะนิซึกะรวมทั้งริว...หลังจากตำรวจกลับไป ริวตบตู้รถไฟด้วยความหงุดหงิด มาซาโตะและคาซูมะช่วยกันเตือนสติให้เชื่อถือตำรวจ โกรธไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น โคจิให้แง่คิด การพยายามมองหาอะไรจากความมืด อาจทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลย ริวโต้ต้องรอจนกว่าโอะนิซึกะไม่เหลือใคร...โคจิว่าไม่นาน ตนสังหรณ์ใจคนร้ายใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที

พอริกิรู้เรื่อง ด่าว่าซาโตชิทำอะไรโง่ๆ ตำรวจต้องรู้ว่าเป็นการจัดฉาก “แกเป็นลูกชายโอคะมิซัง หวังจะให้สืบทอดตำแหน่งโซเรียวต่อจากฉัน แต่แกไม่เคยทำให้ภูมิใจ สร้างปัญหาให้ฉันตลอด...ถ้าแกยังทำตัวไม่ได้เรื่องแบบนี้ แผนที่มิซาว่าจะยิ่งใหญ่เหนือโอะนิซึกะจะไม่มีวันสำเร็จ”

ซาโตชิโกรธ “ในเมื่อผมมันแย่มากในสายตาพ่อ ก็ยกตำแหน่งโซเรียวให้ลูกชายที่เกิดจากโอคุซัง เมียรองของพ่อไปเลยสิ”

“ไอ้ซาโตชิ!” ริกิตบหน้าลูกชายกลัวไอโกะได้ยินเรื่องนี้ เผอิญไอโกะเดินมาถามมีอะไร

ไอโกะมองพ่อกับพี่ท่าทางเอาเรื่อง ด้วยรู้เรื่องที่ทาเคชิโดนยิงแล้วไม่มีใครบอก ตนจะไปเยี่ยม ซาโตชิ

ปรามจะไปให้เขาไล่กลับอายคนทั้งเมือง ไอโกะร้องกรี๊ดหาว่าซาโตชิอิจฉาที่ทาเคชิเก่งกว่าอยากให้เขาตาย...ริกิอ่อนใจเอ็ดให้เลิกทะเลาะกัน แล้วบอกลูกสาวอย่างใจเย็นว่า คนของโอะนิซึกะไม่ให้คนนอกเข้าเยี่ยม ไอโกะโวยว่าตนไม่ใช่คนนอก ริกิเสียงเข้มรอไปพร้อมกัน

จากนั้นริกิสั่งจูโร่ให้เฝ้าดูซาโตชิกับไอโกะไม่ให้ออกจากบ้านเกรงไปก่อเรื่องอีก ความใจร้อนของทั้งคู่คือจุดอ่อน...ริกิมองภาพถ่ายอิจิโร่ สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นรอเวลาชำระ

ooooooo

แพรวดาวเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทาเคชิ เธอหวีผมให้เขาไปพูดคุยเหมือนเขาฟื้นแล้ว เธอให้คัตซึหารูปดอกซากุระมาวางไว้ บอกเขาให้ฟื้นขึ้นมา “ซากุระจะร่วงพร้อมกันหมดทั้งต้นเป็นสัญลักษณ์ของเลือดนักรบ ฤดูร้อนปีหน้าเราจะไปยืนดูดอกซากุระร่วงทั้งต้นด้วยกันนะคะ”

พูดจบแพรวดาวก็ทรุดนั่งอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก น้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บปวด พร่ำบอกให้ทาเคชิฟื้นขึ้นมา ตนรอเขาทุกลมหายใจ ที่สุดก็ปล่อยโฮออกมากอดร่างเขาสะอื้นฮัก ริวกับมายูมิยืนมองอยู่หน้าห้อง ทั้งสองคนเศร้าใจไม่แพ้กัน มายูมิทนดูไม่ไหวเดินกลับไป ริวเดินตาม

มายูมิน้ำตาคลอด้วยรู้สึกสงสารแพรวดาวแต่ไม่รู้จะปลอบอย่างไร ริวปลอบใจ “แค่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยกำลังใจ ก็ทำให้คนอ่อนแรงลุกขึ้นได้แล้ว”

“มีบางคน ต้องการรวบรวมความเข้มแข็งกลับคืนมาด้วยตัวเอง”

“โอคุซังเป็นอย่างที่คุณคิดหรือ”

มายูมิเห็นว่าแพรวดาวผ่านเรื่องร้ายมาหลายครั้งจากการช่วยเหลือของโซเรียว เธอคงเข้มแข็งขึ้นและจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยตัวเอง ริวถามอะไรทำให้มั่นใจอย่างนั้น มายูมิตอบว่า

“ความรัก...” ริวสบตามายูมิราวตกอยู่ในภวังค์ “ความรักที่พี่เซโกะมีต่อโซเรียว จะปลุกหัวใจคนรักให้ตื่นและฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง”

“ถ้าผมนอนไม่ได้สติเหมือนโซเรียว คุณจะดูแลผมเหมือนโอคุซังไหม” ริวเห็นมายูมิอ้ำอึ้งก็ชักสับสนหัวใจตัวเอง จึงขำกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ “ป่านนี้ว่าที่พ่อตาคงคิดว่าผมฉุดลูกสาวไปแยกอะไหล่ขายแล้ว รีบกลับบ้านก่อนผมจะโดนแพ่นกบาลเถอะ” ริวหัวเราะเดินนำไป

“ตาบ้า...คนนะไม่ใช่เครื่องจักร” มายูมิค้อนขวับเดินตาม สักพักสีหน้าสลดลง

มายูมินั่งนิ่งไม่พูดจามาในรถ จนริวแปลกใจถามเป็นอะไร เธอจึงถามกลับ เขาแน่ใจหรือว่าจะแต่งงานกับตน ริวอยากตอบจากใจจริงแต่ปากแข็ง “ผมต้องรักษาสัญญาของโอะนิซึกะ ต้องรักษาเกียรติที่คุณลุงอิจิโร่ให้ไว้กับพ่อคุณ”

“หมายความว่า การแต่งงานของเราจะเกิดขึ้นเพราะสัญญา” เห็นริวอ้ำอึ้ง “ถ้าวันนั้นมาถึงจริง เราคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” มายูมิเสียงเครือเดินลงจากรถ

ริวมองตามหลังอย่างสับสนกับความรู้สึกตัวเอง...

เข้ามาในบ้าน ฮิโระถามมายูมิถึงอาการของทาเคชิ เธอตอบว่ายังไม่ฟื้นแล้วรีบขอตัววิ่งขึ้นห้องไป เพราะเกรงจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขึ้นมาถึงบนห้อง มายูมิมองไปนอกหน้าต่าง ไม่เห็นรถของริวแล้ว เธอรำพึง

“จนมาถึงวันนี้ ฉันยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณเลย ริว...คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่”

ริวขยับรถมาจอดข้างรั้วบ้าน นั่งสับสนความรู้สึกตัวเองอยู่นานกว่าจะเคลื่อนรถกลับไป

ooooooo

เคนอิจิสะใจเมื่อยามะมารายงานว่าทาเคชิกลายเป็นเจ้าชายนิทรา พลันชินอิจิเข้ามาแจ้งว่า จับตัวผู้หญิงที่หนีออกไปจากซ่องได้คนหนึ่ง อีกคนหนีไปได้ เคนอิจิโกรธปราดเข้ากระชากคอเสื้อชินอิจิ ชกหน้าล้มคว่ำ ด่าว่าต่อหน้าลูกน้อง สร้างความเก็บกดแก่ชินอิจิอย่างมาก

ชินอิจิเจ็บแค้นมานั่งดื่มในร้านซูชิเล็กๆอย่างหงุดหงิด โคจิโผล่มานั่งร่วมโต๊ะ เห็นหน้าตาเขาบวมช้ำ ก็เปรยว่าแค่อยากแลกทัศนคติ “นายที่ดีกับนายเลวๆต่างกันตรงหัวใจที่เปี่ยมเมตตา เกียรติที่ลูกน้องโอะนิซึกะได้รับ...มาจากผู้นำที่มีคุณธรรม” พูดจบโคจิวางเงินบอกมื้อนี้ตนเลี้ยง

ชินอิจิมองเงินอย่างไม่เข้าใจว่าโคจิต้องการอะไรกันแน่...โคจิกลับมารายงานให้ริวฟังว่าชินอิจิกำลังเจ็บแค้นกับการกระทำของเจ้านาย แต่ไม่ยอมปริปากใดๆ สมเป็นมือดีของเคนอิจิ...ริวเห็นว่าความเจ็บแค้นของชินอิจิที่มีต่อเคนอิจิจะมีประโยชน์กับเราในอนาคต...

ทาโร่เข้ามาในห้องคนไข้ เห็นแพรวดาวฟุบหลับกุมมือทาเคชิอยู่ข้างเตียงก็สะเทือนใจเข้าไปห่มผ้าให้เธอ แพรวดาวละเมอเรียกหาทาเคชิให้กลับมาหาตน น้ำตาเธอไหลริน ทาโร่ยิ่งปวดใจ แต่ไม่ลืมคำสาบานต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษว่าจะไม่ทรยศหักหลังโซเรียว จึงคิดทำบางอย่าง

คืนนั้น ไอโกะจะออกมาเยี่ยมทาเคชิ แต่ถูกจูโร่กับลูกน้องขวาง เธออาละวาดยกใหญ่ ซาโตชิมาเจอแปลกใจเมื่อรู้ว่าเป็นคำสั่งริกิห้ามตนกับไอโกะออกจากบ้าน...ริกิยอมรับว่าเป็นคนสั่งเพราะไม่ต้องการให้ทั้งสองออกไปก่อเรื่อง เป็นการป้องกันไว้ก่อน จนกว่าทาเคชิจะฟื้น

กลางดึก แพรวดาวตื่นขึ้นมาเห็นดอกดาวเรืองวางทับกระดาษโน้ตบนเตียง ก็แปลกใจหยิบมาอ่าน “ดอกดาวเรือง...เจ้าสาวของพระอาทิตย์ เปรียบดังแสงสว่างที่ปลุกแสงแห่งตะวัน” แพรวดาวทวนคำ...แสงสว่างที่ปลุกแสงแห่งตะวัน...แล้วเหลือบมองทาเคชิซึ่งยังนอนนิ่ง เธออดนึกถึงคำกลอนที่เขาเขียนใส่กระดาษแอบสอดในหนังสือให้ไม่ได้

“คืนเดือนแรมแซมดาวเพียงพราวพร่าง หนึ่งกระจ่างกลางใจให้ใฝ่ฝัน บนทางรักนักรบแห่งตะวัน สว่างจันทร์ส่องใจในคืนเพ็ญ”

แพรวดาวน้ำตาคลอรำพัน “ทาเคชิ...นักรบแห่งตะวัน ดาวเรือง...แสงสว่างที่ปลุกแสงแห่งตะวัน....ฉันเป็นเจ้าสาวของพระอาทิตย์!” หญิงสาวนึกได้เอาดอกดาวเรืองใส่มือทาเคชิ กุมมือเขาแล้วท่องกลอนของเขาอีกครั้ง ที่จำได้ขึ้นใจ พยายามย้ำเพื่อปลุกเขาขึ้นมา “ได้ยินฉันไหมคะทาเคชิ...เห็นแสงดาวที่กำลังนำทางคุณกลับมาไหม ฉันคือแสงสว่างกลางใจคุณ...ตามเสียงหัวใจคุณกลับมาสิคะ ได้ยินฉันไหม อะนะตะ ตื่นขึ้นมาหาคิมิที่รักของคุณสิคะ ฉันขอสั่งให้คุณฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้...ฟื้นขึ้นมาสิคะ อะนะตะ...ฟื้นสิคะ” แพรวดาวร้องไห้โฮกอดร่างทาเคชิ

น้ำตาหญิงสาวหยดลงบนอกคนรัก...เธอร้องไห้จนผล็อยหลับไป ในขณะที่ทาโร่กำลังรดน้ำพรวนดินแปลงดอกดาวเรือง แม้จะน้ำตาคลอแต่รู้สึกภูมิใจที่ทำให้คนที่ตัวรักมีความสุข

ooooooo

รุ่งเช้า ใบหน้าทาเคชิกระสับกระส่ายคล้ายกำลังจะรู้สึกตัว เขาพึมพำเรียกเซโกะ...แพรวดาวสะดุ้งตื่น ไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า พอได้ยินเขาเรียกคิมิอีกครั้ง แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น เธอน้ำตารื้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ โผกอดละล่ำละลัก “ทาเคชิฟื้นแล้ว...ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆ”

ทาโร่เปิดประตูเข้ามาเห็นแพรวดาวกับทาเคชิกอดกันก็พลอยดีใจ ถอยกลับออกมาเศร้าๆ ทาเคชิขยับตัวขึ้นนั่งพิงแต่ยังกอดแพรวดาวแนบอก ทั้งสองมองดอกดาวเรืองในมือ เขาบอกเธอ

“ผมได้ยินเสียงคุณ เซโกะ คุณนำทางผมกลับมา...ผมอยากเห็นคุณยิ้ม อยากเห็นคุณหัวเราะ แต่ผมกลับทำให้คุณร้องไห้” ทาเคชิมองดวงตาบวมช้ำของแพรวดาวด้วยความเสียใจ

“ฉันเต็มใจค่ะ ถ้าน้ำตาของฉันทำให้คุณฟื้น”

“คิมิที่รักของผม” ทาเคชิลูบไล้แก้มนวลของหญิงสาว ประทับจูบลงบนหน้าผากเธออย่างทะนุถนอม แพรวดาวหลับตาพริ้ม รับรู้ความรู้สึกอบอุ่นผ่านรอยจูบนั้น

ริวเปิดประตูผางเข้ามา ตามด้วยโคจิและทาโร่ แพรวดาวผละออกจากอกทาเคชิเขินๆ ริวแซว “โอ๊ะโอ๋... พอฟื้นปั๊บ ก็แสวงหาแรงใจเลยเหรอ...ในที่สุด โซเรียวของฉันก็ฟื้นซะที” ทาเคชิถลึงตาดุที่เข้ามาขัดจังหวะ ริวยิ้มทะเล้น “ก็กลิ่นความรักมันหอมหวนไปทั่วโรงพยาบาลจนน่าหมั่นไส้ ฉันต้องรีบมาก่อนมดขึ้น”

แพรวดาววางดอกดาวเรืองบนโต๊ะหัวเตียง ทาโร่แอบดีใจ โคจิเห็นสายตาลูกชายนึกรู้...ทาเคชิถามได้ตัวคนร้ายไหม ริวตอบว่าตายแล้ว ตำรวจกำลังชันสูตรศพเก็บหลักฐาน ทาเคชิเปรยคงไม่เหลืออะไรอีกตามเคย ริวว่าถ้าสืบรู้ว่าเป็นฝีมือซะโต้อีก งานนี้นองเลือด ฆ่ากันทั้งเมืองแน่ แพรวดาวไม่อยากฟังเรื่องฆ่าฟันกันจึงขอตัวไปเดินเล่นข้างนอก ทาเคชิสั่งทาโร่คอยดูแลคุ้มครองเธอ โคจิชำเลืองมองทาโร่อย่างไม่สบายใจ

แพรวดาวมาเดินเล่นในสวนโรงพยาบาล บ่นกับทาโร่ว่าไม่อยากฟังเรื่องฆ่าล้างแค้นกันเลย ทาโร่เตือนว่า ก้าวเข้ามาแล้วต้องอยู่กับมันให้ได้ หญิงสาวแย้งว่าตนอยู่อีกไม่นาน ทุกอย่างก็จะจบลง ทาโร่งงแพรวดาวพูดเป็น นัยๆ...เมื่อต้องมาอยู่ในที่ไม่ใช่ของเรา ในที่สุดเราก็ต้องไป

บนห้อง หมอเข้ามาดูอาการทาเคชิ บอกว่าแผลเริ่มแห้งต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อ ควรพักฟื้นอีกสองสามวันค่อยกลับ ริวรับคำ หมอกับพยาบาลเดินออก ไอโกะสวนพรวดเข้ามากอดทาเคชิ

“เป็นไงบ้างคะ เจ็บมากไหม ไอโกะเป็นห่วงคุณมากแต่ริวสั่งห้ามคนนอกเยี่ยม ไอโกะไม่ใช่คนนอกสำหรับทาเคชินะคะ”

ทาเคชิเหวอ ริกิกับซาโตชิตามเข้ามา ทาเคชิ ริวและโคจิก้มหัวเคารพ ริกิกล่าวโชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ริวโพล่งขึ้น ถ้าต้องตายเพราะมือปืนกระจอก คงเสียชื่อโอะนิซึกะโซเรียว ซาโตชิตาวาว กัดฟันมองด้วยความเจ็บใจที่จัดการไม่สำเร็จ ทำทีถามรู้หรือยังเป็นคนของใคร ทาเคชิตอบว่าอีกไม่นานก็รู้ ไอโกะขอมาอยู่ดูแลทาเคชิ เขารีบปัดอย่าลำบากตนมีคนดูแลแล้ว

“ใจคอจะไม่แบ่งเวลาให้ว่าที่คู่หมั้นบ้างรึไง” ริกิดักคอ ทำให้ทาเคชิพูดไม่ออก

แพรวดาวกับทาโร่กำลังกลับเข้าไปหาทาเคชิ

ไอโกะมาดักไล่ให้กลับไปตนจะเป็นคนอยู่ดูแลทาเคชิเอง แพรวดาวข่มความกลัว ตอบว่าคนที่สั่งโอคุซังได้มีเพียงโซเรียวคนเดียวเท่านั้น ไอโกะปรี๊ด “งั้นก็รีบขึ้นไปถามทาเคชิ จะได้หน้าหงายกลับมา...ผู้หญิงอย่างแกมันก็แค่ดอกไม้ริมทาง เขาเบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้ง ไม่มีทางเผยอขึ้นมาเทียบฉันได้หรอก”

แพรวดาวจะขึ้นไปถามทาเคชิที่รัก ถ้าเขาให้ตนกลับ ตนก็จะกลับ ไอโกะโวยไม่ให้เรียกทาเคชิว่าที่รัก แพรวดาว โต้ “ฉันขัดคำสั่งทาเคชิไม่ได้หรอกค่ะ เวลาอยู่ด้วยกันเขาให้ฉันเรียกอะนะตะ ส่วนเขาก็เรียกฉันว่าคิมิที่รักตลอดเวลา”

“นังสารเลว” ไอโกะเงื้อมือจะตบด้วยความโกรธ ทาโร่ปรี่เข้าคว้ามือไว้ ไอโกะโวยวายด่าสารพัด ถ้าตนขึ้นเป็นโอะคะมิซังเมื่อไหร่จะไล่เขาออก ทาโร่ว่าไม่จำเป็นเพราะวันที่เธอได้เป็นตนจะลาออกเอง ทาโร่บอกให้แพรวดาวขึ้นไปหาทาเคชิ ไอโกะแค้นร้องกรี๊ดๆ

พอเข้ามาในห้อง เจอริกิกับซาโตชิ แพรวดาวก้มหัวแสดงความเคารพ ริกิบอกให้กลับไปก่อนจะมีเรื่องกับไอโกะ ทาเคชิออกตัวแทนว่าโอคุซังของตนไม่เคยก่อเรื่องกับใคร ซาโตชิเสียงกร้าว หวังว่าโอะนิซึกะจะรักษาคำพูด โคจิเข้ามาไกล่เกลี่ยขอให้แพรวดาวดูแลทาเคชิจนกว่าไอโกะจะกลับมา ริกิกับซาโตชิจำต้องเดินตามโคจิออกไปอย่างเคืองๆ

ทาเคชิอธิบายความจำเป็นที่ต้องให้ไอโกะอยู่แทน เขาดึงแพรวดาวมากอดอย่างอาลัยอาวรณ์ กระซิบข้างหูเธอว่า “ใครจะอยู่ที่นี่ก็ไม่สำคัญ เพราะหัวใจของผมอยู่กับคุณเสมอ...คิมิ”

“ค่ะอะนะตะ” แพรวดาวสบตาทาเคชิ อย่างเชื่อมั่น ในตัวเขา

ooooooo

พอเคนอิจิรู้ว่าทาเคชิฟื้นก็โมโหอาละวาดใส่ลูกน้อง ชินอิจิลอบมองอย่างไม่ชอบใจ...ในขณะที่แพรวดาวกลับมาอยู่บ้าน ก็แย่งอายะโกะทำงานบ้านเพราะไม่อยากว่างให้คิดถึงทาเคชิ ริวเห็นแล้วบ่น ถ้ารักแล้วเป็นทุกข์ ทำไมทุกคนยังโหยหาความรักไม่สิ้นสุด

“มองรักต่างมุม สุขและทุกข์ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน” ทาโร่ออกความเห็น

ริวมองทาโร่สงสัยกำลังมีความรัก ทาโร่รีบแก้ตัวว่าอ่านเจอในหนังสือ ริวเปรยสงสารทาเคชิ คงคิดถึงคนรักน่าดู ไม่รู้จะช่วยอย่างไร

ด้านทาเคชิเบื่อหน่ายการเอาอกเอาใจของไอโกะ เหลือทน จนต้องออกปากว่าถ้าตนอยากได้อะไรจะขอเอง ไอโกะไม่ละความพยายาม ไปเอารถเข็นมาให้ชวนออกไปสูดอากาศในสวน ทาเคชิหน่ายใจไม่อยากขัดใจอีก เรียกหาคัตสึกับเซกิมาเข็นแทน แต่ไอโกะไม่ยอม เธอชี้ชวนคุยพลันเห็นผีเสื้อเกาะพุ่มไม้ก็ตื่นเต้น เขาประชดไม่เคยเห็นหรือ เธอกลับบอกว่า

“ไม่เคยลืม...ความทรงจำเกี่ยวกับผีเสื้อ ก็คือความทรงจำวัยเด็กของไอโกะกับทาเคชิ”

ทาเคชิขมวดคิ้วนึกถึงอดีตวัยเด็กที่เห็นไอโกะสะดุดตอล้มร้องไห้ เขาเข้าไปถามเจ็บตรงไหน เธอตอบว่าเจ็บใจที่จับผีเสื้อไม่ได้ เขาจึงบอกว่าผีเสื้อเป็นแมลงรักอิสระ ยิ่งไล่ตามยิ่งบินหนี แล้วเขาก็เดินเข้าไปในแปลงดอกไม้ ยื่นมือออกไปนิ่งๆ ไม่นานผีเสื้อก็บินมาเกาะ ไอโกะมองทึ่ง

เสียงไอโกะพูดขึ้นว่า “เคยได้ยินคนเปรียบเปรยว่า ความรักเหมือนผีเสื้อ ยิ่งไล่ตามก็ยิ่งบินหนี หยุดเมื่อไหร่มันก็จะมาหาเราเอง” ทาเคชิรู้สึกตัวหันมองเห็นเธอยิ้มหวาน จึงแก้ไขใหม่

“รักก็คือรัก...คือความรู้สึกที่คนหนึ่งมีให้อีกคน ไม่ใช่คำเปรียบเปรยจากจินตนาการของคนอื่น”

“ความรู้สึกที่ไอโกะมีให้ทาเคชิ ก็เรียกว่ารักได้ใช่ไหม...แม่เสีย ไอโกะก็มีแต่พ่อกับพี่ซาโตชิคอยให้ความรักและตามใจทุกอย่าง ไอโกะชินกับการได้รับความรัก จนมาเจอทาเคชิจึงรู้ว่าการรักใครสักคนมันเป็นยังไง ถึงเราสองคนจะถูกหมั้นหมายเพราะคำสัญญา แต่ความรู้สึกที่ไอโกะมีต่อทาเคชิ เกิดจากหัวใจของไอโกะเอง” ไอโกะกุมมือทาเคชิแววตาเว้าวอน “ไอโกะอาจจะเอาแต่ใจ งานบ้านงานเรือนก็ไม่ได้เรื่อง แต่ไอโกะก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อทาเคชิ”

สีหน้าไอโกะมุ่งมั่นจนทาเคชิรู้สึกสงสาร...ด้านซาโตชิเป็นห่วงน้อง จึงอดถามริกิไม่ได้ว่า ไม่กลัวไอโกะจะต้องร้องไห้กลับมาอีกหรือ ริกิกลับบอกว่าให้น้องได้มีโอกาสดูแลคนรักและตำหนิให้หัดใช้สมองเสียบ้าง ทาเคชิยอมให้ไอโกะอยู่แทนโอคุซังก็เท่ากับเราถือไพ่เหนือกว่า...

แพรวดาวเดินมาที่แปลงดอกดาวเรือง เห็นทาโร่ กำลังพรวนดินรดน้ำ เธอจึงยื่นกระดาษโน้ตให้ เขาเหวอ “คุณเป็นบอดี้การ์ดติดตามฉันมาตลอดเวลา ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเป็นลายมือคุณ” ทาโร่กล่าวขอโทษ “ไม่ใช่ค่ะ ...ฉันมาขอบคุณที่ช่วยเตือนสติให้ฉันใช้ความรักปลุกทาเคชิขึ้นมา”

ทาโร่ใจชื้นรีบบอกว่า เห็นเธอกับโซเรียวมีความสุข สมาชิกทุกคนก็ยินดี แพรวดาวย้อนถามว่าทาเคชิให้เขาดูแลแปลงดอกดาวเรืองหรือ เขาอึกอักก่อนจะพยักหน้ายิ้มรับ...เย็นวันนั้นพอทาโร่เข้าบ้าน โคจิเตือนว่ากำลังหาเรื่องใส่ตัว ทาโร่โต้ว่าตนมีความสุข โคจิตอกกลับ

“แผลในใจมีแต่เจ้าของหัวใจที่รู้”

“พ่อไม่ต้องห่วง ผมไม่มีสิทธิ์คิดถึงใจตัวเอง เพราะเลือดและลมหายใจของผมมอบให้โอะนิซึกะไปหมดแล้ว”...โคจิฟังคำตอบลูกชายแต่อดหนักใจไม่ได้

ooooooo

ในค่ำคืนนั้น ทั้งแพรวดาวและทาเคชิต่างคิดถึงกัน ไอโกะรู้สึกน้อยใจที่ทำอะไรให้ก็ดูทาเคชิจะรำคาญจึงได้แต่นั่งมองเขาเฉยๆ

รุ่งเช้า ทาโร่เข้าครัวทำข้าวต้มหมูแบบที่เคยช่วยแพรวดาวทำที่บ้านป้ามาซาโกะ แล้วยกออกมาวางให้โคจิถ้วยหนึ่ง เกรงพ่อจะถามมากเพราะเป็นอาหารไทย จึงแกล้งโรยพริกไทยให้จามไม่หยุดแล้วยกอีกชามออกมาจากบ้าน เพื่อเอามาให้แพรวดาว เธอชมว่าเขาทำได้อร่อยกว่าที่เธอสอนเสียอีก ทาโร่ทำมาเผื่อไปเยี่ยมทาเคชิ แพรวดาวจึงไปโรงพยาบาลกับทาโร่แต่เช้า

ระหว่างนั้น ทาเคชิกำลังหงุดหงิดรำคาญไอโกะจนไม่ยอมทานอะไร ทั้งที่เธอให้คนซื้ออาหารโปรดของเขามามากมาย แต่พอแพรวดาวโผล่เข้ามา เขาก็ยิ้มแย้มดีใจ ไอโกะไม่พอใจไล่แพรวดาวให้กลับไป เธอบอกแค่เอาข้าวต้มหมูมาให้ ทาเคชิรีบบอกจะกินข้าวต้มหมู ทาโร่บอกว่าแพรวดาวตื่นแต่เช้ามาทำ เธอหันมอง เขาส่งสายตาให้เล่นไปตามน้ำ เธอจึงยิ้มๆ ไอโกะแย่งมา

“ให้ไอโกะป้อนนะคะ คุณพ่อสั่งให้ไอโกะดูแลทาเคชิในฐานะว่าที่คู่หมั้นและว่าที่เมียหลวง โอะคะมิซัง ของโอะนิซึกะ ถ้าไอโกะดูแลไม่ดีคุณพ่อจะตำหนิได้”

ทาเคชิเถียงไม่ออก สบตาแพรวดาวขอความเห็น เธอพยักหน้ายิ้มๆ ทาโร่รู้สึกสงสารเธออย่างมาก...พอแพรวดาวเข้ามาล้างมือในห้องน้ำ ไอโกะตามเข้ามาด่าว่า จับเธอมองกระจก

“เห็นความแตกต่างระหว่างผู้หญิงสองคนในกระจกไหม เรายืนเสมอกัน แต่ศักดิ์ศรีของฉันเหนือกว่าเธอทุกด้าน ทั้งชาติตระกูลและตำแหน่งเมียหลวงของทาเคชิ ฐานะเมียรองอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เทียบเท่าฉัน ความต่ำต้อยของเธอจะสืบทอดไปยังสายเลือดชั่วลูกหลาน...ไอโกะแปลว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของพระอาทิตย์ คู่ควรกับนักรบแห่งพระอาทิตย์มากกว่าเศษดาวกระจอกอย่างเธอ” ไอโกะยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะกลับออกไปจากห้องน้ำ แพรวดาวสลดใจ

กลับออกมา แพรวดาวจึงลากลับ ทาเคชิไม่อยากให้เธอไป เธออ้างว่าอยากให้เขาพักผ่อนมากๆและตนรับปากจะกลับไปช่วยงานอายะโกะ ไอโกะเยาะแม่บ้านก็ต้องคอยดูแลบ้าน ทาเคชิไม่พอใจ แพรวดาวเกรงเป็นเรื่องจึงรีบโค้งตัวลาออกมาทาโร่รีบถามว่าไอโกะพูดอะไรให้ไม่สบายใจ แพรวดาวไม่ตอบแต่กลับติงเรื่องที่เขาบอกทาเคชิว่าตนเป็นคนทำข้าวต้ม...ทาโร่บอกว่าคนป่วยจะมีกำลังใจขึ้น เธอขอบคุณและยอมรับว่ามีเขากับทาเคชิที่ดีกับตนมาตลอด ทาโร่ขอแค่รอยยิ้มของเธอ โลกนี้ก็งดงามที่สุดแล้ว

แพรวดาวกลับมาทำความสะอาดห้องให้หายคิดถึงทาเคชิ แล้วได้พบหนังสือที่ทาเคชิสอดรูปถ่ายเธอนั่งอ่านหนังสือใต้ต้นซากุระกับดอกซากุระแห้งไว้ แพรว-ดาว ชักเอะใจว่าเป็นดอกซากุระที่ริวขอไปจากตนหรือเปล่า จึงถือวิสาสะละลาบละล้วงเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานเขา ได้เห็นดาวกระดาษเต็มกล่องและภาพถ่ายตัวเองหลายอิริยาบถ น้ำตาเธอร่วงเผาะตื้นตันใจสุดๆ

“ทาเคชิ...คุณคือเจ้าของดาวกระดาษ”...

คืนนั้น ทาเคชินอนมองดอกดาวเรืองไม่พูดคุยกับไอโกะ เธอชักโมโหโวย “ฉันพยายามเรียนทุกอย่างที่เมียหลวงต้องทำ รักและเอาใจคุณสารพัด แต่คุณกลับทำท่ารังเกียจฉัน ไม่เคยมีใจให้ฉัน...ฉันด้อยกว่านังเซโกะตรงไหน คุณถึงได้รักหลงมันจนมองไม่เห็นความรักที่ฉันมีให้คุณ”

ทาเคชิบอกว่าเซโกะไม่เกี่ยว ไอโกะแว้ดว่าเธอแย่งหัวใจเขาไป ตนเกลียดเธอ

“ผมยอมรับว่าสนใจเซโกะ แต่เซโกะขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับเธอหลังงานแต่งลูกสาวท่านโอะซะมุ เราตกลงจะไม่เจอกันอีก จนเคนอิจิจับตัวเซโกะไป”

ไอโกะแทบช็อก เพราะตัวเองที่ทำให้ทาเคชิมาใกล้ชิดกับแพรวดาว จึงถามเขาเสียงแผ่วเบา “คุณเคยตั้งใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว...”

“ใช่...ถ้าเคนอิจิไม่จับตัวเซโกะไป แพรวดาวจะไม่มีวันมาเป็นโอคุซังของผม...ผมต้องปกป้องเซโกะเพื่อรับผิดชอบที่ทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย ทันทีที่เรียนจบเซโกะก็จะกลับเมืองไทย”

ไอโกะน้ำตาไหลริน ร้องไห้กับความโง่เขลาของตัวเอง “เพราะฉัน...ฉันทำตัวเอง...”

ทาเคชิถามเธอพูดอะไร ไอโกะร้องไห้โฮคว้ากระเป๋าวิ่งออกไปจากห้อง ทาเคชิงงมาก...ไอโกะแล่นมาต่อว่าเคนอิจิโวยวายด่าว่าเจ้าเล่ห์หลอกลวง เอาแพรวดาวล่อทาเคชิมาฆ่า หลอกให้ตนนอนด้วยแต่กลับคิดฆ่าทาเคชิ...เคนอิจิโกรธตบกลับ ตวาดว่าไม่มีสิทธิ์มาหือกับตน ว่าแล้วก็กระชากเธอมาปลุกปล้ำโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเธอ...เสร็จสรรพยังถากถาง

“จำไว้ ผมไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของคุณ...เรื่องทาเคชิถูกยิงไม่ใช่ฝีมือผม กลับไปถามพ่อคุณเอง”...ไอโกะในสภาพเสื้อผ้าขาดยับเยิน ตกใจร้องไห้เจ็บปวดกับความอัปยศนี้

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ทาเคชิดื้อดึงกลับบ้าน มาถึงก็ถามหาแพรวดาว อายะโกะทำทีอึกอัก เขาตกใจคิดว่าเธอไม่สบาย รีบวิ่งไปห้องนอน อายะโกะหันยิ้มๆกับริวทำนองเข้าแผน

พอเปิดประตูเข้ามาก็ตกตะลึง ที่เห็นในห้องมีดาวกระดาษห้อยอยู่เต็มไปหมด ปลายสายมีภาพถ่ายแพรวดาวในอิริยาบถต่างๆดูสวยงาม เขาเดินดูอึ้งๆ สักพัก แพรวดาวเดินออกมาพร้อมอ่านคำกลอนที่เขาเขียนให้ แต่เธอแต่งเพิ่ม

“คืนเดือนแรมแซมดาวเพียงพราวพร่าง หนึ่งกระจ่างกลางใจให้ใฝ่ฝันบนทางรักนักรบแห่งตะวัน สว่างจันทร์ส่องใจในคืนเพ็ญคืนเดือนแรมแซมดาวสกาวฟ้า หนึ่งดารากลางใจให้ห่วงหาแม้นทางรักนักรบไร้จันทรา ดาริกาพรายพร่างส่องทางใจ”

ทาเคชิตื่นเต้นเมื่อได้ยินกลอนของแพรวดาว เธอเข้ามาสบตา “ฉันเคยสงสัยมาตลอดว่าใครคือเจ้าของดาวกระดาษปริศนา...ใจหนึ่งคิดว่าเป็นคนอื่น แต่อีกใจก็ภาวนาขอให้เป็นคุณ”

ทาเคชิแปลกใจที่เธอรู้ แพรวดาวบอกว่า ตนรู้แล้วว่าเขาคนนี้หลงรักตนแค่ไหน ทาเคชิรีบบอกว่า “ผมรักคุณมากเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ ถึงจะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์เพราะคุณมีเจ้าของหัวใจแล้ว”

“ไม่มีใครรอฉันอยู่เมืองไทยนอกจากพ่อแม่และน้องชายฉัน ฉันเรียกคุณว่าอะนะตะเพราะฉันอยากเรียกคุณว่า...ที่รัก ไม่ใช่เพราะคุณสั่ง ฉันตั้งใจจะบอกความจริงว่าไม่เคยมีแฟนในคืนวันเกิด แต่คุณถูกยิงเสียก่อน ฉันรู้สึกผิดและละอายใจมาตลอดที่โกหกคุณ”

“ผมเฝ้าจีบคุณมาแรมเดือน แต่คุณก็ใจแข็งไม่ยอมรับรัก จนผมคิดว่าไม่มีวันเอาชนะผู้ชายคนนั้นได้”

“คุณไม่ต้องเอาชนะใคร เพราะคุณคือผู้ชายคนเดียวในหัวใจฉันค่ะอะนะตะ”

“ผมดีใจที่ได้ยินคำนี้จากปากคุณ...คิมิที่รัก” ทาเคชิดึงแพรวดาวมากอดด้วยความดีใจ เธอกอดตอบซบอกเขาอย่างยอมรับในความรัก...

ด้านไอโกะกลับบ้านนอนซม ริกิกลับจากทำงานบ่นกับซาโตชิว่าไนต์คลับเคนอิจิใกล้ปรับปรุงเสร็จ รายได้เราคงถดถอยจะประมาทไม่ได้ ซาโตชิเสนอหาสาวสวยหน้าใหม่เข้ามา ริกิมอบเป็นหน้าที่เขา แล้วหันมาถามสาวใช้ถึงไอโกะ พอรู้ว่ากลับมาเก็บตัวอยู่ในห้องก็ตามขึ้นไปดูด้วยความห่วงใย เปิดประตูเข้ามาเห็นลูกสาวนอนร้องไห้หน้าตาฟกช้ำก็เข้าใจว่าโดนทาเคชิทำร้ายมา เขาโกรธมากลากลูกสาวจะไปเล่นงานทาเคชิ ไอโกะร้องห้าม

“ยะ...อย่าค่ะ ไม่ใช่ทาเคชิ”

“มันเป็นใครบอกพ่อมาเดี๋ยวนี้!” ริกิตวาดลั่นจนไอโกะตัวสั่นงันงก

“ไอ้เคนอิจิ...มันข่มขืนหนู” ไอโกะพรั่งพรูความคับแค้นใจออกมา น้ำตาไหลพราก

ริกิแทบช็อก กอดไอโกะด้วยความเจ็บปวดที่ลูกโดนย่ำยี แววตาคั่งแค้นอำมหิตลุกวาว...

ooooooo

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด