สมาชิก

รอยฝันตะวันเดือด

ตอนที่ 11

อัลบั้ม: แนะนำละครเรื่อง "รอยฝันตะวันเดือด"

หีบไม้โบราณที่วางอยู่ตรงหน้ามายูมิ เป็นหีบเก่าแก่ที่สวยงามดูมีค่ามาก ริวบอกเธอว่า ต้องการให้เธอรู้ที่เก็บเอกสารสำคัญ เผื่อวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับตน มายูมิแทรกทันควัน

“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ชีวิตของฉันเป็นของคุณและโอะนิซึกะ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นแน่นอนค่ะ” มายูมิย่อตัวลงสวมกอดริว เขากอดตอบด้วยรู้สึกอบอุ่นใจ

คืนนั้น พยาบาลเข็นรถอาคิโกะมาตามทางหลังจากพาไปตรวจคลื่นหัวใจ แล้วบอกผลแก่เธอว่า เป็นปกติดี หมอมายูมิสั่งยาบำรุงไว้ให้ อาคิโกะโพล่งขึ้น อยากทานผลไม้แล้วใช้พยาบาลไปซื้อที่หน้าโรงพยาบาลให้ พยาบาลยืนนิ่งงงๆที่จู่ๆมาสั่ง อาคิโกะเสียงเข้ม

“ฉันเป็นคนไข้วีไอพีของผู้อำนวยการ เธอน่าจะรู้ว่าควรจะดูแลฉันยังไง”

พยาบาลจึงบอกว่าจะพาเธอกลับห้องแล้วไปสั่งแม่บ้านให้ อาคิโกะตวาดว่าต้องการเดี๋ยวนี้ พยาบาลหน้าตึงไม่พอใจแต่ไม่กล้าขัด จึงบอกให้รอตรงนี้สักครู่ก่อนจะเดินไป อาคิโกะมองตามด้วยความสะใจที่วางอำนาจได้ ทันใด...ยูจิโผล่มาเข็นรถอาคิโกะออกไป เธอหันมองสีหน้าตกใจ ยูจิเข็นเข้ามาในห้องเก็บของ ต่อว่าทันที ว่าให้มาสืบข่าวไม่ใช่มานอนเล่น

อาคิโกะโวยว่าตนแจ้งอาการป่วยของโคจิไปแล้ว ยูจิตวาดยังไม่พอ และตนมีงานอื่นให้ทำอีก อาคิโกะมองด้วยสีหน้าสงสัยหวั่นใจ

วันต่อมา มายูมิเดินออกจากห้องผ่าตัด สั่งงานพยาบาลให้ดูแลคนไข้ต่อ แล้วถามถึงอาการอาคิโกะ พยาบาลรายงานว่าเธอไม่บ่นว่าเวียนศีรษะอีก ขณะเดียวกัน อาคิโกะแอบเข้ามาในห้องพักฟื้นฮารุ เธอถูกยูจิบังคับให้ฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือฮารุ โดยจะให้ลูกน้องเปิดทางให้เธอเข้าอย่างง่ายดาย อาคิโกะไม่อยากช่วยเขาฆ่าใคร แต่พอถูกยูจิขู่

“ถ้าเธอไม่ทำ ฉันจะแฉความสัมพันธ์ระหว่างเราให้รู้กันทั่วทุกสื่อ อนาคตในวงการบันเทิงของเธอจะดับวูบ ไอ้ริวก็จะไม่มองเธออีกต่อไป”

อาคิโกะด่าสารเลว เงื้อมือจะตบ แต่ถูกยูจิล็อกตัวไว้ได้...สุดท้ายอาคิโกะจำต้องทำตามคำสั่งของยูจิด้วยความเจ็บแค้น เธอตัดสินใจฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือฮารุ ร่างเขากระตุก เธอตกใจวิ่งไปหลบนอกระเบียง

มายูมิมาที่ห้องฮารุ แปลกใจที่ตำรวจหน้าห้องหายไปหมด พลันได้ยินเสียงสัญญาณชีพจรดังขึ้น จึงปราดเข้ามาในห้องตรวจอาการฮารุอย่างเร่งด่วน รูม่านตาขยาย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ มายูมิรีบกดปุ่มเรียกพยาบาล ไม่นานพยาบาลวิ่งกรูเข้ามา...อาจารย์ฮาร่าบอกผลตรวจเลือดฮารุมีสารอีพิเนปพรินปะปน ทำให้หัวใจเต้นแรง ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดที่ผิวหนังและอวัยวะภายในบีบตัวจนเกิดอาการช็อก โชคดีที่ช่วยไว้ทัน มายูมิยิ่งแปลกใจ เกิดขึ้นได้อย่างไร

“นั่นคือคำตอบที่ผมต้องการจากคุณ...มีรายงานว่าคุณเป็นคนฉีดยาเข้าเส้นให้คนไข้เป็นคนสุดท้าย ท่านมาซารุจะเอาผิดกับทางโรงพยาบาลที่ปล่อยให้พยานคดีสำคัญตกอยู่ในอันตราย”

“ตำรวจที่เฝ้าหน้าห้องก็ละเลยหน้าที่เหมือนกัน” มายูมิแย้ง

“โอะนิซึกะมีคดีขัดแย้งกับมิอุระ...คุณคือผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังจับตามอง”

มายูมิโต้ว่าตนไม่ได้เป็นคนวางยาฮารุ อาจารย์ฮาร่าหนักใจที่ต้องบอกเธอว่า มติกรรมการของโรงพยาบาลมีความเห็นให้พักงานเธอชั่วคราว เพื่อกันเธอให้ห่างจากฮารุ จะได้ไม่มีปัญหากับตำรวจ มายูมิอึ้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

ในห้องพักแพทย์ มายูมินั่งครุ่นคิดเหม่อลอย อาคิโกะสวมชุดปกติเดินเข้ามา ในมือถือตะกร้าเล็กๆใส่ผ้าเช็ดหน้าสีขาวยื่นให้ สีหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตร มายูมิแปลกใจถามเธออาการดีขึ้นแล้วหรือ อาคิโกะตอบว่าดีขึ้นมาก กำลังจะกลับบ้าน พอดีรู้เรื่องจากพยาบาลเห็นใจเธอมากจึงเอาผ้าอุ่นๆแต้มกลิ่นสมุนไพรมาให้ซับหน้า สมุนไพรหอมๆ
จะช่วยให้ผ่อนคลาย

มายูมิมองอย่างไม่ค่อยเชื่อในความหวังดี อาคิโกะตีหน้าซื่อ “วันนี้คุณเจอเรื่องเครียดมาเยอะ เช็ดหน้าให้สดชื่นหน่อยสิ...ฉันไม่ใช่นางร้ายแอบซ่อนเข็มไว้ทิ่มมือนางเอกหรอกค่ะ”

มายูมิค่อยยื่นมือไปหยิบผ้าเช็ดหน้า ทันใดก็ถูกเข็มตำมือปล่อยผ้าทิ้ง เห็นเข็มกลัดรูปผีเสื้อที่คืนให้อาคิโกะไปแล้วโผล่ออกมา นิ้วมายูมิมีเลือดซึม มายูมิถามต้องการอะไรกันแน่

สีหน้าอาคิโกะเปลี่ยนเป็นดูเหมือนคนโรคจิตนิดๆ กล่าวเยาะ “ผีเสื้อเป็นองครักษ์ของดอกไม้ที่สร้างความสวยงามให้ธรรมชาติ ผีเสื้อสวยบางตัว วงจรชีวิตสั้น อยู่ได้ไม่นานก็ตาย”

“คุณพยายามเข้าใกล้ฉัน เพื่อหาทางแกล้งฉัน”

“สิ่งที่เธอได้รับจากริว จะไม่มีวันยั่งยืน”

“เรื่องของฉันกับริวจะเป็นยังไง มีแต่เราเท่านั้นที่รู้”

“เดิมพันครั้งนี้ด้วยหัวใจ ฉันจะทำทุกอย่างให้ริวเป็นผู้ชายของฉัน” อาคิโกะประกาศสงครามซึ่งๆหน้า เผยตัวตนที่แท้จริงก่อนจะหันหลังกลับออกไป ยิ้มอย่างมีเลศนัย
มายูมิมองตามเครียดๆ...ไทชิเดินตามหามายูมิทั่ว นานะตั้งข้อสังเกต ธรรมดาเวลามายูมิเครียด ชอบไปที่สวนสาธารณะหลังโรงพยาบาล ให้เขาลองตามไปดู ไทชิก้มหัวขอบคุณ

มายูมิยืนปล่อยอารมณ์เครียดๆอยู่ในสวนสาธารณะ พลันรู้สึกวิงเวียนจึงหันจะเดินกลับ แต่พอเดินได้สามสี่ก้าวก็เซ ยูจิปราดเข้าประคอง เธอปรือตามอง ยูจิแสร้งทำชวนคุยว่าตนมาขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีของโอะนิซึกะ มายูมิไม่ทันตอบก็หมดสติคอพับคออ่อนลง ยูจิยิ้มเจ้าเล่ห์อุ้มมายูมิเดินไป อาคิโกะแอบมองอยู่ข้างพุ่มไม้อย่างสะใจ เธอเป็นคนบอกยูจิ

...ยาสลบที่เข็มกลัดจะทำให้มายูมิหมดสติทั้งคืน คุณคงรู้ว่าควรทำอย่างไรกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก มายูมิเป็นของผู้กอง ริวก็จะเป็นของฉัน...พลันเสียงไทชิเรียกมายูมิ อาคิโกะรีบหลบ

ooooooo

ในบ้านโอะนิซึกะ ริวเฝ้าดูแลโคจิ อาการเขาดีขึ้นมาก โคจิอยากบอกความจริงแก่ริว พยายามจะพูด ริวเห็นอาการก็ปรามอย่าเพิ่งพูดตอนนี้ เดี๋ยวจะเครียด แต่โคจิก็พยายามออกเสียงเอ่ยชื่อยู...จิ ออกมาอย่างยากลำบาก ริวรีบถามหมายถึงผู้กองยูจิหรือ โคจิพยักหน้าก่อนจะพูดอีก

ยิง...ริวปะติดปะต่อคำ “ยูจิยิงหรือ...” โคจิพยักหน้าเลื่อนมือมาเปิดแผล ริวตกใจมาก...

ยูจิอุ้มมายูมิมาวางในห้องอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เขามองเธอด้วยความรักและหลงใหล ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเธอออกทีละเม็ด จู่ๆชะงัก นึกถึงรอยยิ้มแสนหวานของเธอแล้วคิดได้

“รักแท้...ต้องรักด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่การฝืนใจ ผมจะรอวันที่คุณมอบความรักให้ผมด้วยหัวใจ...” ยูจิยกมือมายูมิขึ้นจุมพิตอย่างทะนุถนอม

ขณะเดียวกัน ริวโมโหมากเมื่อรู้จากไทชิว่ามายูมิหายตัวไป สั่งพลิกแผ่นดินหาเธอให้เจอ ไม่ทันไรคัตสึเข้ามารายงานด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่ามายูมิกลับมาแล้ว...เซกิรีบเข็นรถริวออกไปหามายูมิ กลับเห็นยูจิอุ้มเธออยู่สีหน้าเหมือนเย้ยอยู่ในที

“ผมเจอคุณมายูมิสลบอยู่ เลยพากลับมาส่ง...คนพิการไม่สามารถปกป้องใครได้ ผมเลยขอรับอาสาทำหน้าที่นั้นแทน”

ริวสบตาไทชิ เขารีบเข้าไปรับตัวมายูมิอย่างรู้หน้าที่แล้วพาออกไป ริวหันมาบอกยูจิ

“รอยยิ้มปกปิดความชั่วไม่ได้ มาถึงตอนนี้แล้ว จะใส่หน้ากากเป็นคนดีอีกทำไม...เมื่อไหร่จะได้ตัวคนร้ายที่ลอบยิงอาโคจิ”

ยูจิคลายความตกใจที่คิดว่าริวรู้ความจริง ตอบว่ากำลังรวบรวมหลักฐาน ริวสวน หลักฐานจะไม่จำเป็น ถ้าคนชั่วยอมรับความจริงด้วยตัวเอง ยูจิชะงักกับคำพูดกำกวมของริว

“ไม่นึกว่าผู้รักษากฎหมายอย่างผู้กองยูจิจะร่วมมือกับมิซาว่าอย่างไร้เกียรติ”

“เกียรติยศมันก็แค่คำสวยหรู ที่พวกขี้แพ้เอาไว้พูดหลอกตัวเอง ชีวิตจริงคือการอยู่รอด”

“ฉันจะกระชากหน้ากากชั่วของแกออกมาให้ชาวเมืองรับรู้”

“ฮึๆ แค่ลุกขึ้นมาช่วยผู้หญิงของตัวเองยังทำไม่ได้ จะมีปัญญาทำอะไร มายูมิเป็นคนที่น่าทะนุถนอม เสียดาย...ที่ต้องอยู่กับสามีพิการรอวันตาย”

“พูดอย่างนี้...แกทำอะไรมายูมิ!”

ยูจิก้าวมาจ้องหน้าใกล้ๆ “ไม่ต้องกังวลใจ ถึงว่าที่คู่หมั้นแกจะหายไปกับฉันทั้งวัน แต่สุภาพบุรุษไม่มีวันทำร้ายผู้หญิงที่ตัวเองรัก หมอมายูมิมีค่าเกินกว่าจะถูกย่ำยีให้เจ็บช้ำน้ำใจ...ฉันจะเป็นคนทำลายโอะนิซึกะให้ล่มสลาย เหยียบขยี้ริว โอะนิซึกะให้สูญสิ้นทุกอย่างในชีวิต ไม่เหลือแม้แต่คนรัก หมอมายูมิของแกก็ต้องตกเป็นของฉันด้วยความเต็มใจ”

ริวจ้องหน้ายูจิด้วยความเจ็บแค้น ยูจิยิ้มเยาะก่อนจะหันเดินกลับไปอย่างสะใจ ริวกำมือแน่นแค้นใจมาก... อายะโกะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มายูมิแล้วนั่งเฝ้า จนริวเข้ามาบอกว่าตนอยากดูแลเธอเอง อายะโกะจึงถอยออกไป ริวกระชับผ้าห่มให้มายูมิ กระซิบเบาๆ

“คิมิ...ขอให้ฝันร้ายของคุณกลายเป็นฝันดี ผมจะอยู่ข้างๆ คอยดูแลคุณ” ริวจุมพิตที่หน้าผากอย่างรักใคร่ห่วงใย

รุ่งเช้า มายูมิตื่นขึ้นมางงๆ มองรอบห้องก่อนจะเห็นว่าริวนอนกอดตนอยู่ พอขยับตัว ริวจึงตื่นด้วย เขากล่าวอรุณสวัสดิ์ มายูมิรีบถามตนกลับมาที่นี่ได้อย่างไร ริวตอบว่า ยูจิพามา

มายูมินึกทบทวน “ครั้งสุดท้ายที่จำได้ ฉันเจอผู้กองยูจิแล้วก็...ตื่นมาเจอคุณ”

ริวอ้างว่าเธออาจเป็นลมเพราะเครียดที่ถูกพักงาน มายูมิยืนยันว่าไม่ได้เป็นลม แล้วนึกย้อนไปอีก จำได้ว่าอาคิโกะเอาผ้าเช็ดหน้าห่อเข็มกลัดมาให้ แถมย้ำว่าเดิมพันนี้ด้วยหัวใจ เธอจะทำทุกอย่างให้ริวเป็นผู้ชายของเธอ...

มายูมิมั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่อยากให้ริว ไม่สบายใจ จึงไม่บอกว่าเป็นฝีมืออาคิโกะ เปรยออกมาว่า โชคดีที่ยูจิมาเจอ ริวสวนทันที

“โชคดีที่มันยอมพาคุณมาส่งโดยปลอดภัยมากกว่า” น้ำเสียงริวแค้นเคือง

มายูมิสงสัยเกิดอะไรขึ้น ริวกล่าวว่า “ผู้กองยูจิเป็นคนยิงอาโคจิ” ...มายูมิตกใจ!

ooooooo

อาคิโกะมาต่อว่ายูจิ เหยื่อวิ่งมาถึงปาก แต่กลับปล่อยไปง่ายๆ รู้ว่าใจเสาะจะไม่ช่วยแต่แรก ยูจิตวาดกลับให้หุบปาก หญิงสาวสวนกักขฬะ ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ยูจิตอกกลับ

“สุภาพบุรุษเขาเอาไว้ใช้กับสุภาพสตรีที่คู่ควร...แต่เธอไม่ใช่ ผู้หญิงสวยแต่เปลือกอย่างเธอ ไม่มีอะไรเทียบกับมายูมิได้ มายูมิมีค่ามากกว่าเธอหลายเท่า” ยูจิกระชากอาคิโกะเหวี่ยงกระเด็นก่อนจะเดินไป

อาคิโกะล้มอยู่กับพื้น กำมือแน่นแววตาเจ็บปวดแค้นใจ เคียดแค้นมายูมิอย่างมาก...กลับที่พักนั่งดื่มไวน์ดับอารมณ์ แค้นใจจนบีบแก้วแตกคามือ เข่นเขี้ยว จะต้องทำให้มายูมิไม่เหลือค่าในสายตาของริวอีกต่อไป

ในขณะที่ทาคาโอะสะใจ ดีใจที่แย่งซื้อที่ดินจากคนที่เคยเจรจากับโอะนิซึกะมาก่อนได้ เขายืนหน้ารูปริกิและซาโตชิ ยืนผงาดบอกให้รู้ว่า ลูกนอกคอกอย่างตน สามารถเหยียบย่ำโอะนิซึกะได้ โดยที่พ่อกับพี่ไม่เคยทำได้...ทาคาโอะคิดถึงอดีตวัยเด็กที่เจ็บปวด ที่ริกิแสดงออกแจ่มแจ้งว่ารักซาโตชิและไอโกะอย่างมาก ด่าว่าขับไล่ตนซึ่งเป็นลูกเมียน้อยตลอดเวลา

“พ่อไม่เคยรัก ไม่เคยสนใจผม แต่วันนี้...ลูกนอกสายตาอย่างผม ทำได้เหนือกว่าซาโตชิลูกรักของพ่อทุกอย่าง” ทาคาโอะหัวเราะในคออย่างสาแก่ใจ

บ่ายวันเดียวกัน ฮิโระเห็นตำรวจลูกน้องกำลังเอาแฟ้มเอกสารเก็บเข้าตู้อย่างรีบร้อน จึงหยิบมาดู เห็นเป็นเอกสารระบุว่าจับตัวคนของมิซาว่าที่ต้องสงสัยคดีลอบทำร้ายโอะนิซึกะได้แล้ว แต่ทำไมไม่ส่งฟ้อง หรือตั้งใจจะยื้อให้ผู้ต้องสงสัยรอดคดี...ลูกน้องอึกอักทำอะไรไม่ถูก

มาซารุก้าวเข้ามาดึงแฟ้มกลับคืน “ไม่ใช่หน้าที่ที่รองฮิโระต้องรู้...อยากเปลี่ยนที่ทำงานไปอยู่ไกลกว่านี้งั้นหรือ”

“คนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ และรักษาคำปฏิญาณอันมีเกียรติ ทำงานเพื่อประชาชนที่ไหนก็ได้”

“ใจซื่อมือสะอาด สมกับเป็นมือขวาของท่านโอะซะมุ ไม่กลัวจะมีชะตากรรมเหมือนเจ้านายเหรอครับ” เคนกล่าวเยาะ

ฮิโระโต้ จะช้าหรือเร็วทุกคนต้องตาย ขึ้นอยู่กับว่าจะตายอย่างมีเกียรติหรือตายอย่างไร้ศักดิ์ศรี มาซารุจ้องฮิโระทำนองฝากไว้ก่อน แล้วเดินจากไป เคนรีบเดินตามถามมาซารุจะให้ตนจัดการฮิโระเลยไหม มาซารุปรามด้วยสายตาอำมหิตให้รองานคืบหน้ามากกว่านี้ก่อน มันตายแน่

ฮิโระรีบมาที่บ้านโอะนิซึกะ มองโคจิที่นอนรักษาตัวอย่างรู้สึกผิด ถ้าวันนั้นตนไม่รีบกลับ คงช่วยเขาได้ โคจิพยายามเปล่งเสียง “อย่า...โทษ...ตัว...เอง...”

“ไม่นึกเลยว่าผู้กองยูจิจะเดินตามเส้นทางชั่วเหมือนพ่อ”

ริวปะติดปะต่อเรื่องราว “ทาคาโอะมีมาซารุคอยหนุนหลัง มาซารุเป็นน้องเมียลับๆของยามาโมโต้...ไอ้ยามาโมโต้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดแน่”

ฮิโระบ่นว่าคนพวกนี้ทำงานเป็นขบวนการ ถ้าจะเล่นงานต้องมีหลักฐานมัดตัวให้ดิ้นไม่หลุด ริวเครียดที่ยามาโมโต้อยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพียงเพื่อจะครอบครองเมืองนี้

“...มีวิธีไหนจัดการคนชั่วอย่างมันได้บ้าง”

โคจิกล่าวช้าๆว่า “สติ...มีสติที่จะจัดการคนชั่วและอย่าประมาท”

ริวหันมาก้มหัวยอมรับ “ขอบคุณอาโคจิที่เตือนสติ ตอนนี้เรายังไม่มีทางเล่นงานพวกยามาโมโต้ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับพวกมัน จะได้ไม่พลาดอีก”

โคจิกับฮิโระพยักหน้าเห็นด้วย...

ooooooo

ในไนต์คลับมิซาว่า ทาคาโอะผายมือเชิญยามาโมโต้ มาซารุและเคนไปที่ห้องวีไอพี มาซารุกวาดตามองสาวสวยแล้วถามหาจุนโกะ นาบุสบตาทาคาโอะก่อนจะบอกว่า เธอลาป่วย มาซารุกราดเกรี้ยว “แกรู้ว่าฉันจะมาที่นี่ แต่ให้จุนโกะหยุดงานงั้นเหรอ”

ยามาโมโต้ปรามว่าสาวสวยมีมากมาย เปลี่ยนคนบ้างก็ได้ แต่มาซารุยังขู่ทาคาโอะ ถ้าคืนนี้ตนไม่เจอจุนโกะ ไนต์คลับนี้อาจถูกสั่งปิดไม่มีกำหนด ทาคาโอะไม่พอใจแต่ต้องทำตามหันไปสั่งนาบุตามตัวจุนโกะมา...

ไม่นาน จุนโกะซึ่งยังมีบาดแผลที่แก้มจากคมมีดของ

ทาคาโอะ เดินตามนาบุมาอย่างหวาดระแวง เอ่ยถาม ถ้ามาซารุถามถึงแผลที่หน้า จะให้ตอบว่าอย่างไร

“ก็ตอบให้มันดูดีหน่อย...เดินเร็วๆสิ” นาบุดันให้รีบเดิน

พอมาซารุเชยคางจุนโกะขึ้นมาเห็นบาดแผลบนหน้า จุนโกะโกหกว่า โดนกรรไกรตัดผม มาซารุเตือนให้ระวังของมีคม จุนโกะตัดบทจะจัดเครื่องดื่มให้ทุกคน มาซารุมองเธออย่างหื่นกระหาย ขณะที่ยามาโมโต้มีสาวสวยขนาบสองข้างคอยเอาใจ ก่อนจะหันมาประกาศ

“โอะนิซึกะกับมิอุระกำลังแย่ ไม่มีใครมาขวางทางเราได้ ถ้าจะคิดทำอะไรก็น่าจะเริ่มกันได้แล้ว...เราจะเริ่มสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ”

“คราวนี้เยอะกว่าทุกครั้งเหรอครับ” ทาคาโอะ รู้ความหมายนัยที่แฝงอยู่

“ท่านยามาโมโต้กำลังจะประกาศอำนาจให้คนทั้งเมืองได้รับรู้ใช่ไหม” มาซารุถาม

จุนโกะยกเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ทุกคนอย่างนอบน้อม ทำทีไม่สนใจแต่พยายามตีความหมายคำสนทนาของกลุ่มนี้ ทาคาโอะกับนาบุชำเลืองมองจุนโกะอย่างจับผิด เธอหลบสายตาทำทีเอาอกเอาใจมาซารุกลบเกลื่อน...จุนโกะคิดหาทางส่งข่าวให้ริว แต่จะพ้นสายตาทาคาโอะกับนาบุได้อย่างไร มาซารุนัวเนียซุกไซ้อยู่กับซอกคอเธอ พร่ำพูด

“เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ด้วยยังไงก็ไม่เคยอิ่ม...”

จุนโกะคิดบางอย่างได้ ใช้นิ้วไล้คางเขาเรื่อยลงต่ำ กระซิบถาม “ถ้าอย่างนั้น วันนี้ท่านอิ่มแล้วรึยังคะ”

มาซารุตาวาวหื่นๆ กอดรัดจุนโกะโต้ว่าเธอท้าคนผิดแล้ว จุนโกะยิ้มยั่วอย่างสมใจ...พอถึงเวลาทุกคนกลับ

จุนโกะเดินตามมาซารุไปที่รถ นาบุกระชากแขนเธอไว้ มาซารุหันมามองอย่างเคืองๆ ถามมีปัญหาหรือ นาบุสบตาทาคาโอะ จุนโกะทำทีมองทาคาโอะเชิงอ้อนวอนอย่าปล่อยตนออกไปเพื่อไม่ให้สงสัย ทาคาโอะไม่กล้าขัดใจมาซารุ จึงเปิดประตูรถให้ทั้งสองขึ้น โค้งคำนับและอวยพรมาซารุให้มีความสุขมากๆ มาซารุยิ้มเยาะนึกว่าจะมีปัญหา

ขณะเดียวกัน ริวรู้ความคืบหน้าของมาซารุว่าอยู่ไนต์คลับมิซาว่า สงสัยจะต้องวางแผนร้ายแน่ ไทชิรายงานว่าได้ส่งคนเข้าไปสืบแต่พวกมันป้องกันแน่นหนา ริวครุ่นคิด

“เรายังมีคนที่อาจจะเป็นคนของเราที่นั่น....”

คัตสึกับเซกิรู้ทันทีว่าเป็นจุนโกะ ริวเชื่อว่ามองผู้หญิงคนนี้ไม่ผิด ไทชิท้วง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จุนโกะจะรอดสายตาทาคาโอะมาส่งข่าวเราได้ ดีไม่ดีอาจจะไม่รอด

ระหว่างนั้น จุนโกะนั่งรถออกมากับมาซารุ ฝืนใจให้เขาซุกไซ้อย่างหื่นกระหายทั้งที่ในใจขยะแขยง คิดหาทางจะส่งข่าวริวอย่างไร ทันใดก็คิดได้ แกล้งร้องโอดโอยตัวงอว่าปวดท้องรุนแรงให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล มาซารุหงุดหงิดแต่ก็กลัวเธอเป็นอะไรไป จึงส่งที่โรงพยาบาลแล้วกลับไปเกรงเป็นข่าว

นาบุรายงานทาคาโอะว่า มาซารุโทร.มาบอกให้ไปดูแลจุนโกะที่โรงพยาบาลเอง ทาคาโอะฉุกคิดไม่ไว้ใจจุนโกะ สั่งนาบุรีบไปเอาตัวกลับมา

พอจุนโกะรู้ว่ามาซารุกลับไป ก็บอกพยาบาลว่าตนไม่เป็นอะไรแล้ว ขอใช้โทรศัพท์ พยาบาลชี้ไปมุมตึก จุนโกะหยิบนามบัตรออกมาเดินรี่ไปที่โทรศัพท์สาธารณะ มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง...อีกมุมหนึ่ง นาบุกับสมุนเดินมา จุนโกะกำลังรอสาย พอทางบ้านโอะนิซึกะรับสายก็ขอพูดกับโซเรียว ทางปลายสายให้รอสักครู่...มายูมิ เดินมา ฟุมิโกะรายงานว่าจุนโกะโทร.มา มายูมิเอะใจรีบไปพาริวมา แต่พอริวรับสาย ไม่มีเสียงตอบจากจุนโกะอีก

ริวเครียด คัตสึรีบถามว่าจุนโกะโทร.มาทำไม มายูมิสงสัยมีอะไรกันแน่ ไม่ทันที่ริวจะตอบ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ริวรีบรับสาย แต่กลายเป็นนานะโทร.เข้ามา ริวจึง ส่งสายให้มายูมิ

มายูมิรับสาย “ว่าไงนานะ...นานะไม่ได้โทร.หาฉัน แต่เขาจะคุยกับคุณ เรื่องผู้หญิงที่ชื่อจุนโกะ” มายูมิส่งสายกลับให้ริว

ทั้งริว ไทชิ คัตสึและเซกิแปลกใจว่านานะรู้จักจุนโกะได้อย่างไร...นานะคุยโทรศัพท์กับริว ว่าจุนโกะมาขอให้ช่วยอ่านโน้ตนี้ให้ริวฟัง บอกว่าสำคัญมากถึงขนาดยอมเสี่ยงแลกด้วยชีวิต

หลังจากที่ริวฟังนานะแล้วก็เครียดเล่าต่อมายูมิ “จุนโกะบอกว่า ยามาโมโต้กำลังจะขนของลอตใหญ่เข้ามาทางคลังสินค้าด้านตะวันตก มูลค่าของสินค้าสูงมากถึงขนาดซื้อทุกอย่างได้ในเมืองนี้ พวกมันต้องการมีอิทธิพลเหนือบารมีที่ถูกต้องอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”

มายูมิรู้ว่าริวเครียดมาก พลันไทชิเข้ามารายงานสีหน้าไม่ค่อยดีว่า “โรงพยาบาลแจ้งด่วนเข้ามา ท่านมาซาโตะ เกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง หัวใจหยุดเต้นกะทันหันครับ”

ทั้งมายูมิและริวตกใจ มายูมิจับแขนให้กำลังใจ ริวมองดาบซามูไรที่วางอยู่เบื้องหน้า แววตาเครียดก่อนจะเอ่ย “ฮาราคีรี...มาจากคำว่า เซปปูกุ หมายถึงการคว้านท้องด้วยมีดสั้นจนตาย”

มายูมิใจหาย ริวย้ำ...ซามูไรคือนักรบผู้ห้าวหาญของแผ่นดิน การทำฮาราคีรีถือเป็นความกล้าหาญสูงสุด เพื่อสำนึกผิดต่อสิ่งที่ซามูไรเคยทำความอัปยศหรือทำความผิดร้ายแรงไว้...มายูมิรีบบอกว่า “อาการป่วยของคุณ ไม่ใช่เรื่องอัปยศ”

“ตระกูลโอะนิซึกะเป็นซามูไรปกป้องความถูกต้อง ทุกคนยอมตายเพื่อรักษาความยุติธรรม โซเรียวในแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่ตามอุดมการณ์จนมาถึงผม...

โอะนิซึกะต้องตกต่ำมากที่สุด แต่ผมทำได้แค่นั่งรถเข็น ฟังข่าวคนชั่วทำลายบ้านเมือง...”

มายูมิโผกอด กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มแข็งไม่อ่อนแอ “คุณไม่ได้นิ่งดูดาย เราแค่รอโอกาส ความอยุติธรรมไม่มี วันเอาชนะความถูกต้องไปได้ เชื่อฉันนะคะริว”

ริวจับขาตัวเองเหมือนตัดสินใจบางอย่าง มายูมิกอดถ่ายเทความรักและกำลังใจให้แก่เขา

ooooooo

กลางดึกเงียบสงัด คนของโอะนิซึกะเดินตรวจตราเวรยามรอบบ้านแข็งขัน เหมือนมีเงาคนผ่านไปแว่บๆ ผ่านทุกคนไปจนถึงหน้าห้องโคจิ มีคนเฝ้าอยู่สองคน ทันใด เสียงหนึ่งดังตุ้บ ทั้งสองกระชับปืน เดินไปตามเสียง ไม่ทันไรถูกไทชิล็อกตัวแล้วโวย

“อยู่ๆก็โผล่มา ระวังฉันจะซัดล้มทั้งยืน”

ลูกน้องรายงานว่าได้ยินเสียงบางอย่าง ไทชิเตือนให้รีบกลับไปเฝ้าหน้าห้องโคจิตามเดิม ระหว่างนั้นมีคนแอบเข้าไปในห้อง...โคจิรู้สึกมีเงาทาบบนตัว ลืมตาขึ้นมองอย่างตระหนก ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นยิ้มพราย

ในห้องนอน มายูมิสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย มองไปไม่เห็นริวก็ยิ่งตกใจเมื่อไม่มีเขานอนอยู่ข้างๆ นึกถึงการฮาราคีรีที่ริวพูดถึงแล้วใจหายวาบ...มายูมิรีบมาที่ห้องป้ายบรรพบุรุษ เห็นริวพยายามประคองตัวเดินอยู่ข้างรถเข็นก็รีบเข้าประคองถามมาทำอะไรตรงนี้ ริวตอบว่านอนไม่หลับเลยมาหัดยืน มายูมิยิ่งไม่สบายใจเพราะรู้ว่าริวพยายามจะไปสู้กับพวกยามาโมโต้ จึงชวนกลับห้อง แต่ริวปฏิเสธ สีหน้าเขาเครียดหงุดหงิด มายูมิชะงักน้อยใจ

“งั้นก็ตามใจคุณ...” มายูมิจะเดินไป ริวรู้สึกตัวว่าเครียดใส่เธอก็รีบคว้ามือเธอไว้

“ผมขอโทษที่เครียดเกินไป” มายูมิเสียงเย็นชาให้ปล่อย ริวรีบถาม “คุณเป็นอะไรรึเปล่า”

มายูมินึกถึงฝันร้ายแล้วใจเสีย แต่พยายามเข้มแข็งบอกเขาว่าไม่มีอะไร ริวไม่เชื่อปิดตนไม่ได้ หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของเขาก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่

“เมื่อกี้ฉันฝัน...ฝันว่าคุณออกไปสู้กับพวกมัน คุณล้มลง พวกมันรุมคุณอย่างไม่ปรานี เนื้อตัวคุณเต็มไปด้วยเลือด พวกมันกำลังจะรุมยิงคุณ อาโคจิเข้าไปปกป้องคุณไว้ แต่ทั้งคุณกับอาโคจิก็ไม่...” มายูมิพูดไม่ออกก้อนสะอื้นจุกคอ

ริวเข้าสวมกอดด้านหลัง “ผมยังอยู่ตรงนี้ อยู่กับคุณที่นี่ เราจะก้าวผ่านทุกๆปัญหาไปด้วยกัน คิมิของผม” ....มายูมิกอดกระชับมือของริวที่โอบรอบเอวตน

ooooooo

เช้าวันใหม่ ทาคาโอะและนาบุคุมลูกน้องขนลังสินค้าจากตู้โบกี้รถไฟ ขึ้นรถเทรเลอร์ขนาดใหญ่หลายคันที่จอดเรียงรายในคลังรถไฟ...มาซารุ ยูจิและเคนเข้ามาตรวจความเรียบร้อย มาซารุมั่นใจกับงานครั้งนี้มากว่าจะผ่านไปด้วยดี

เช้าวันเดียวกัน มายูมิตื่นมา เห็นใบหน้าริวนอน มองเธออยู่ สีหน้าเต็มไปด้วยความรัก

“โอะฮะโยโกะไซมัส อรุณสวัสดิ์ คิมิของผม”

“ฉันกลัวคุณจะ...”

“กลัวผมจะหายไปจัดการพวกมิซาว่า...ไม่ต้องห่วง ต่อให้ผมไปเล่นงานพวกมัน ผมก็จะอยู่ดูแลคุณไม่มีวันห่างจากคุณไปไหน แม้สักก้าวเดียว”

“ฉันจะไม่ทำตัวเป็นภาระ ฉันเลือกที่จะเป็นผู้หญิงของโอะนิซึกะโซเรียว ฉันพร้อมจะเข้มแข็ง ให้สมกับตำแหน่งผู้หญิงของซามูไร”

ริวกอดมายูมิด้วยความตื้นตัน ลูกน้องเคาะประตูรายงานว่า โคจิให้มาบอกว่างานกำลังจะเริ่มแล้ว มายูมิมองหน้าริวอย่างสงสัย งานอะไร ริวส่งยิ้ม...

เมื่อมายูมิกับริวมาถึงห้องพักโคจิ เขาให้คนเปิดวิทยุเตรียมให้ทั้งสองได้ฟังข่าว มายูมิยังงงข่าวอะไร โคจิตอบว่า วันนี้มีงานสำคัญ มายูมิหันไปถามริว จะบอกได้หรือยังข่าวอะไร

“คุณเคยได้ยินไหมมายูมิ...ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือชัยชนะที่ไม่ต้องใช้กำลัง ขอแค่เราใช้สมองกับจิตใจที่ดีงาม ความสำเร็จก็จะมาโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ...” สีหน้าริวมั่นใจ มุ่งมั่น

ด้านคลังรถไฟ มาซารุเดินตรวจท้ายคอนเทนเนอร์แต่ละคัน แล้วเร่งทาคาโอะให้ทำงานเร็วขึ้น ทาคาโอะหันมองอย่างไม่ค่อยพอใจที่เอาแต่ชี้นิ้ว แล้วย้อนถาม

“งานนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด มั่นใจนะว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่มาขวางระหว่างขนส่ง”

“ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้ใครใหญ่ที่สุด ทั้งสำนักงานไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่า มาซารุ โคบายาชิ อีกแล้ว” มาซารุโอ้อวดอย่างมั่นใจ

ทาคาโอะหมั่นไส้สั่งลูกน้องปิดหลังตู้คอนเทนเนอร์ “คนของผมมาอยู่ที่คลังสินค้านี่ทั้งหมด ท่านส่งคนไปดูความเคลื่อนไหวของโอะนิซึกะกับมิอุระบ้างไหม”

ยูจิเยาะ ไม่ต้องไปสนใจโอะนิซึกะ คนพิการอย่างริวไม่มีวันทำอะไรเราได้ มาซารุชี้หน้าทาคาโอะ กำชับอย่างเอาเรื่อง “ถ้าจะพลาดก็พลาดเพราะแกนั่นแหละไม่ใช่เรา ทำงานของแกไป ของลอตนี้สำคัญมากนะท่านยามาโมโต้ต้องการเงินสนับสนุนจำนวนมหาศาล เพื่อจะใช้ซื้ออิทธิพลเหนือบารมีของโอะนิซึกะที่มีต่อชาวเมือง”

“รู้...ไม่ต้องย้ำ” ทาคาโอะเสียงเข้ม

มาซารุสะบัดเสียง ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้ออกเดินทาง ตนจะรีบกลับไปสำนักงานเพื่อสั่งให้เปิดทางทุกด่าน ทาคาโอะมองตามหลังมาซารุอย่างไม่ค่อยชอบใจ...

ในขณะเดียวกัน ริวเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดีว่า “สมัยเด็กๆ อาโคจิเคยกล่าวถึงพฤติกรรมแห่งความวิบัติของมนุษย์ มีอะไรบ้างนะครับ...”

“หลงตัวเอง บ้าอำนาจ ทระนงตัวเองมากเกินไป...”

ริวเสริมต่อ “การประมาทคู่แข่ง หยิ่งยโส ลำพองใจ

...ถือเป็นพฤติกรรมแห่งความวิบัติอีกข้อหนึ่ง...สุภาษิตญี่ปุ่นบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ถ้าวิ่งก็จะสะดุด หากเร่งร้อนเกินไป มักจะผิดพลาด...แต่ถ้าจำเป็นต้องทำอะไรด้วยความเร่งรีบ ต้องมั่นใจว่าเราทำด้วยความรอบคอบอย่างที่สุด”

ระหว่างนั้น มาซารุนั่งรถส่วนตัวกลับ สั่งลูกน้องวิทยุบอกยามาโมโต้ว่าสินค้าทุกอย่างเรียบร้อย กำลังเดินทางไปจุดหมาย...ทาคาโอะปล่อยขบวนรถคอนเทนเนอร์ขับเรียงรายไปตามถนน คนขับทุกคันสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ภายในคอนเทนเนอร์ลูกน้องมิซาว่าที่เฝ้าลังสินค้า มีอาวุธครบมือ ตรงช่องแอร์มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา ทุกคนสูดควันล้มทั้งยืนทุกคัน คนขับรถคอนเทนเนอร์ทุกคัน เปิดผ้าปิดหน้าออกเป็นคนของโอะนิซึกะ ส่งสัญญาณมือหากันอย่างเท่ๆ

เสียงริวอธิบายต่อ “ถ้าใช้สมองในการวางแผนที่รัดกุม คนที่เดินไม่ได้แถมว่าที่ภรรยาไม่ยอมให้ห่างไปไหน ก็สามารถนั่งสั่งงานและรอความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย”...

ผ่านไปไม่นาน มาซารุนั่งทำงานในห้องอย่าง

มีความสุข ทันใดเคนเข้ามารายงานหน้าตาตื่นตระหนก...

มาซารุรีบออกมาที่หน้าสำนักงานตำรวจ ยูจิกับเคนตามออกมา แทบช็อกเมื่อเห็นรถคอนเทนเนอร์ทั้งหมดจอดเรียงอยู่ จำได้ว่าเป็นของพวกตน เคนรายงานว่ามีคนขับมาจอดที่นี่

ยูจิถามว่าใคร เคนตอบว่าไม่มีใครเห็นคนขับ แต่มีจดหมายระบุว่า มียาเสพติดอยู่ภายในตู้ทั้งหมด

มาซารุพยายามควบคุมสติ ถามมีคนตรวจภายในตู้หรือยัง เคนตอบว่ารอคำสั่งท่าน

มาซารุคิดหาทาง สั่งการ “เพื่อความมั่นใจอย่าเพิ่งทำอะไรทั้งนั้น รอให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาก่อน” ขาดคำก็มีคนยกลังออกมาวาง เขาตวาด “เอาของพวกนี้ออกมาทำไม”

“ผมสั่ง...” ฮิโระเดินออกมา “มีคนโทร.นัดให้นักข่าวมาทำข่าวการจับยาเสพติดครั้งใหญ่ เราคงต้องมีของกลางแสดงให้นักข่าวดู”

ทันใดนักข่าวกรูเข้ามาเป็นสิบๆคน มาซารุ ยูจิและเคนมองอย่างตกใจ นักข่าวรุมถาม

“ท่านคะ...มีผู้ประสงค์ดีแจ้งว่ามีการขนย้ายยาเสพติดเป็นพันๆกิโลเลยเหรอคะ”

“ใช่ของในรถคอนเทนเนอร์นี่รึเปล่าคะ...”

มาซารุพยายามตั้งสติ นิ่งสงบ มองของกลางด้วยแววตาเครียด

ooooooo

พองานล้มเหลวไม่เป็นท่า มาซารุมาเอาเรื่องทาคาโอะ พุ่งเข้าชกหน้าโทษเป็นความผิดพลาดของเขา ทาคาโอะโมโหตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ ว่าเตือนแล้วไม่ให้ประมาทริว ให้ส่งคนไปดูความเคลื่อนไหวของโอะนิซึกะ ถ้าทำอะไรรอบคอบคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ แล้วชี้หน้ายูจิ

“เพราะแกบ้าแต่ผู้หญิง ไม่ตั้งใจทำงาน วันๆคิดแต่จะเอาชนะใจเมียไอ้ริว...ไอ้ผู้กองขี้ยาชีวิตแกเคยทำอะไรสำเร็จบ้างไหมวะ นอกจากมั่วผู้หญิงกับติดยาน่ะ”

ยูจิโกรธพุ่งเข้าชกหน้าแต่ทาคาโอะหลบชกกลับ ยูจิล้มคว่ำ มาซารุได้ยินเรื่องลูกติดยาก็โกรธแต่พอเห็นทาคาโอะจะชกลูกซ้ำก็เข้าไปจับหมัดไว้แล้วเหวี่ยงออกอย่างแรง

“ถ้ามั่นใจว่าโอะนิซึกะเป็นคนทำก็ไปจัดการมันสิ ไม่ใช่มากัดกันเอง อย่างน้อยถ้าท่านยามาโมโต้ได้ตัวโอะนิซึกะโซเรียว พวกเราจะได้ปลอดภัยบ้าง”
ยูจิอาสาไปจัดการเอง มาซารุตวาดไม่ต้อง เพราะมีเรื่องต้องสะสางกัน...มาซารุลากยูจิกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ รื้อยาออกมาเททิ้งเหยียบขยี้ สั่งห้ามใช้อีกเด็ดขาดและให้เลิกยุ่งกับมายูมิ...ยูจิทั้งโกรธทั้งเครียด อาการกำเริบ จึงมาระบายอารมณ์กับอาคิโกะที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ

บ่ายวันนั้น ริวกำลังชมสวนอย่างสบายใจ ทันใด มีเสียงอึกทึกเหมือนคนในบ้านวิ่งกันวุ่นวาย มายูมิหน้าตื่นเข้ามาบอกว่า “คลังสินค้าทั้งสามแห่งของเราโทร.เข้ามาบอกว่าไฟไหม้ค่ะ”

“ไฟไหม้ทั้งสามแห่ง...เกิดขึ้นพร้อมๆกันเนี่ยนะ!” สีหน้าริวตกใจ

ไทชิเดินนำคัตสึและเซกิเข้ามารายงานว่า เป็นการวางเพลิง ตอนนี้ตำรวจคุมไฟไว้ได้แล้วสองแห่ง เหลือฝั่งตะวันออกที่ยังสกัดไฟกันอยู่ ริวสั่งให้ไปประสานงานกับตำรวจเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ไทชิเป็นห่วงความปลอดภัยริวกับมายูมิ ริวกำชับให้รีบไปและสั่งมายูมิโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราได้ส่งคนไปประสานงานแล้ว มายูมิเดินกลับเข้าบ้าน

ระหว่างนั้นทาคาโอะกับพวกแอบย่องเข้ามาในบ้านโอะนิซึกะ จัดการลูกน้องที่ยืนยามทีละคนจนหมด พอเห็นสบโอกาสที่ริวอยู่ตามลำพัง ก็เข้ามาถีบรถเข็นล้ม ริวกลิ้งลงกับพื้น

“ไหนวะ...โอะนิซึกะที่แสนฉลาด แค่แผนโง่ๆก็หลอกคนทั้งบ้านให้แห่ออกไปได้ เหลือแต่ผู้หญิงกับคนง่อยไว้” ริวพยายามยันตัวลุกขึ้น ทาคาโอะก้าวเข้าเหยียบมือริว “ถ้าตีงู ต้องตีให้ตาย ไม่อย่างนั้นมันก็แว้งกัดได้ ขนาดขาพิการมันยังใช้ปากสั่งงาน อย่างนี้คงต้องทำให้มันเป็นอัมพาตไปทั้งตัว” ทาคาโอะเตะเสยคางริว

นาบุถามจะทำอย่างไรกับนายหญิงของโอะนิซึกะ ทาคาโอะเยาะ จะปล่อยให้อยู่กับผัวพิการทำไม ให้ไปเอาตัวมา ริวร้องลั่นอย่าแตะต้องมายูมิ ทาคาโอะหัวเราะร่า อยากปกป้องผู้หญิงแต่ยังเอาตัวเองไม่รอด สั่งนาบุ

ไปลากมายูมิมา ริวเหลืออด ไม่ทันที่ทาคาโอะจะคาดคิด ริวกระโดดตัวลอยขึ้นถีบนาบุกระเด็น แล้วซัดลูกน้อง

มิซาว่าล้มลงในพริบตา ทาคาโอะตะลึง

“ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ไอ้ทาคาโอะ...” ริวพุ่งเข้าเตะต่อยทาคาโอะล้มคว่ำไม่เป็นท่า

มายูมิกำลังจะโทรศัพท์ ได้ยินเสียงต่อสู้ก็ตกใจรีบกลับออกไป...ริวต่อสู้อย่างปราดเปรียวจัดการทาคาโอะกับสมุน นาบุชักปืนออกมาจะยิงใส่ริว ไทชิ คัตสึและเซกิโผล่มา ปามีดใส่แขนนาบุปืนกระเด็น ริวยืดตัวย้อนคำพูดของทาคาโอะ

“ไหนล่ะ...มิซาว่าที่แสนฉลาด ฉันแค่แกล้งเชื่อแผนเผาโกดังโง่ๆเพื่อตลบหลังพวกแก แค่นี้ก็เสร็จฉันแล้ว...

แกล้งเป็นง่อย พวกแกก็หลงเชื่อ แห่กันมาตายถึงที่” มายูมิมาถึงได้ยินคำพูดของริวก็ตะลึง “เลือดซามูไร...แม้จะอยู่ในกายเพียงหยดเดียว ก็ควรรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีซามูไร” ริวดึงมีดจากแขนนาบุ โยนปักลงพื้นตรงหน้าทาคาโอะ “เลือกเอา ว่าจะตายอย่างหมารับใช้ หรือจะตายอย่างมีศักดิ์ศรี ฮาราคีรีชดใช้ความอัปยศที่ก่อไว้”

ทาคาโอะมองอย่างเคียดแค้น แอบล้วงปืนพกที่เหน็บมาจะยิงริว มายูมิเห็นร้องให้ระวังพร้อมวิ่งมาผลักร่างริวล้มลง กระสุนถากที่แขนมายูมิ ทาคาโอะกับนาบุฉวยโอกาสหนีไปได้ คัตสึจะตามแต่เซกิปรามไว้บอกว่าโซเรียววางแผนไว้หมดแล้ว...ไทชิเข้ามาช่วยริวกับมายูมิ ริวเห็นเลือดที่แขนมายูมิก็ตกใจอุ้มเธอไปโรงพยาบาล มายูมิมองริวที่แข็งแรงต่างจากเมื่อเช้า

ด้านทาคาโอะกับสมุน ขับรถหนีออกมาได้ไม่เท่าไหร่ ก็เจอด่านตำรวจฮิโระดักจับไว้ได้ มาถึงสำนักงานตำรวจ ฮิโระรวบรวมแฟ้มจะเข้าไปสอบปากคำทาคาโอะ กลับโดนเคนขวางแจ้งว่า มาซารุต้องการสอบปากคำเอง ฮิโระถอนใจไม่อาจทำอะไรได้

มาซารุโกรธมาก ตบหน้าทาคาโอะจนเลือดกบปาก ทาคาโอะสุดทนจู่โจมล็อกคอมาซารุไว้ พูดใส่หน้า “อยากให้จำไว้ เลือดมิซาว่าถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ปลายแถว แต่ถ้าคิดจะสู้ขึ้นมา แม้แต่ความตายก็ไม่กลัว” ทาคาโอะผลักมาซารุออกสบตาอย่างไม่เกรงกลัว

มาซารุโต้ให้เปิดประตูรอความตายจากยามาโมโต้ได้เลย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของเขา ทาคาโอะหัวเราะเยาะก่อนจะตอกกลับว่า ให้คิดดูดีๆคนที่รู้เรื่องขนยานอกจากพวกเราแล้ว ใครที่หิ้วผู้หญิงออกไป มาซารุนึกได้ว่ามีจุนโกะอีกคน ทาคาโอะเยาะหยันไม่ต้องเสียใจไป เพราะไม่ใช่เขาคนเดียวที่โง่เสียรู้เธอ ลูกชายเขาก็เสียรู้เธอเหมือนกัน พ่อลูกใช้บริการร่วมกันมานานปี น่าสมเพช...มาซารุตะลึงเมื่อรู้ความจริง

ooooooo

ระหว่างนั้น ยูจิซึ่งเพิ่งนอนกับอาคิโกะลุกขึ้นแต่งตัว อาคิโกะหน้าตาเนื้อตัวบอบช้ำด้วยความซาดิสต์ของเขา เธอทนไม่ไหวคิดเอามีดแทงแต่โดนยูจิล็อกแขนปัดไปโดนแจกันตกแตก ยูจิกดหน้าเธอลงหมายให้เศษกระเบื้องทิ่มหน้าเธอ อาคิโอะร้องขอจะไม่ทำอีก ยูจิผลักเธอออก

ยูจิเดินออกจากห้องอาคิโกะ เผอิญไดกิมาเห็นหลังเขาไวๆก็แปลกใจ พอเข้ามาหาอาคิโกะ ต้องตกใจเพราะอาคิโกะใช้เศษกระเบื้องปาดข้อมือฆ่าตัวตาย...

หน้าห้องฉุกเฉิน ริวรอมายูมิเข้าไปทำแผลอย่างกระวนกระวาย นานะเดินออกมาบอกว่า มายูมิขอพักอยู่โรงพยาบาล ริวแปลกใจไหนบอกไม่เป็นอะไรมาก นานะอึกอักตอบไม่ถูก ริวจึงเข้ามาหามายูมิในห้องทำงานของเธอ มายูมิอ้างอยากดูแลคนไข้ ริวแย้งว่าเธอโดนพักงานอยู่

“การโดนพักงานไม่สามารถหยุดความรับผิดชอบที่หมอมีต่อคนไข้ได้ คุณก็รู้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าฉันเห็นใครบาดเจ็บ ฉันจะเป็นห่วงและพยายามรักษาอย่างหมดใจ” มายูมิพูดกระทบ

ริวเริ่มเข้าใจว่ามายูมิโกรธที่เขาหลอกเรื่องเดินไม่ได้ จึงขอโทษ ตนอยากบอกแต่เพราะยูจิอยู่ใกล้เธอมากเกินไป มายูมิยิ่งโกรธเข้าใจว่าริวกลัวตนแพร่งพราย ริวปฏิเสธเกรงเธอไม่ปลอดภัยมากกว่า แต่มายูมิยังโกรธและน้อยใจไม่พร้อมจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น ริวจำต้องกลับไปก่อน

ริวมาฝากนานะดูแลมายูมิ และให้ไทชิอยู่คุ้มครองความปลอดภัย เพราะตนต้องไปจัดการอีกหลายเรื่อง...ทันใด ไทชิเห็นไดกิเดินอยู่จึงรีบตามไป ไดกิเข้าไปในห้องพักอาคิโกะ สภาพเธอหน้าตาบวมช้ำ ที่มือมีผ้าพันแผล มีสายน้ำเกลือระโยงระยาง อาคิโกะเพ้อร้องหวาดกลัว ไดกิเจ็บปวดกับสภาพของลูกสาว เธอลืมตามาเห็นพ่อก็ตกใจ ไดกิซักไซ้และดักคอว่ายูจิเป็นคนทำใช่ไหม อาคิโกะอึ้งน้ำตาไหลพราก

ไดกิเดินออกมานอกห้อง เจอไทชิยืนเครียด เขาจะไปเอาเรื่องยูจิ ไดกิห้ามไว้เพราะคนที่จะเดือดร้อนคืออาคิโกะ เธอรักอาชีพการแสดง แต่อนาคตคงต้องดับลง เสียชื่อเสียเกียรติจนไม่มีที่ยืนในสังคม ไทชิยืนเครียดเจ็บใจ...ไทชิเข้ามาดูแลอาคิโกะด้วยหัวใจที่แสนห่วง หมอกับพยาบาลเข้ามา อาคิโกะยังหลับอยู่ ไทชิจึงถามอาการจากหมอ หมอบอกว่าบาดแผลตามร่างกายไม่น่าห่วง ห่วงแต่เด็กในท้อง ไทชิตกใจ อาคิโกะซึ่งแกล้งหลับลุกพรวดขึ้นร้องไห้โฮ อาละวาดจนหมอต้องฉีดยาระงับประสาทให้ ไทชิยิ่งเจ็บปวดอยากไปฆ่ายูจิอย่างมาก

ยูจิกลับที่พักพร้อมยากระปุกใหม่ที่ซื้อมา ไม่ทันจะกิน มาซารุบุกเข้ามากระชากยาไปเททิ้ง ยูจิเกิดอาการเสี้ยนยา มาซารุกราดเกรี้ยว โกรธทั้งเรื่องที่ติดยาและเรื่องจุนโกะ แต่ไม่เปิดเผยให้ลูกรู้ว่าใช้ผู้หญิงคนเดียวกับลูก ได้แต่บอกว่าจุนโกะเป็นตัวการเอาความลับไปบอกโอะนิซึกะ

จัดการลูกเสร็จ มาซารุมาที่ห้องขังที่ทาคาโอะกับนาบุถูกขังอยู่ ทาคาโอะเห็นปืนพกในมือมาซารุก็เข้าใจว่าจะมากำจัดพยานที่จะซัดทอดถึงตัวเอง มาซารุเสียงกร้าว

“จำใส่หัวแกไว้...หมาอย่างแกอย่าริมาลองของกับราชสีห์อย่างฉัน”

“จะฆ่าก็ฆ่า อย่ามัวเล่นลิ้นอยู่ เสียเวลา” ทาคาโอะมองหน้ามาซารุอย่างไม่เกรงกลัว

มาซารุวางปืนลงที่โต๊ะหน้าห้องขังแล้วไขกุญแจห้องขัง “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านยามาโมโต้ยังเห็นว่ามีประโยชน์ แกหมดลมไปแล้วแน่ หาทางออกไปจากที่นี่เอง รอรับคำสั่งจากท่านยามาโมโต้ เราจะกำจัดโอะนิซึกะให้เร็วที่สุด” พูดจบทาคาโอะเดินไป

คำสั่งยามาโมโต้ให้ทาคาโอะไปจัดการจุนโกะ เธอรู้แกวรีบเก็บเสื้อผ้าหนีออกไปก่อน...ด้านอาคิโกะ ทนความอัปยศไม่ไหว คิดจะโดดตึกฆ่าตัวตาย เธอแอบออกมายืนที่ระเบียงทางเดิน

ooooooo

รอยฝันตะวันเดือด

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด