ตอนที่ 11
เพราะมีเวลาเพียงสามวันในการทำงานใหญ่ที่ซับซ้อนโจจึงขอให้วนิษาขับรถกลับไปเองเพราะตนมีเวลาน้อยวนิษาทำหน้างอนๆบ่นว่าใจร้าย
“วินาทีเดียวที่เสียไปตอนนี้อาจจะหมายถึงความสุขทั้งหมดในชีวิตของผม”
“เข้าใจแล้วคุณไปเถอะ” วนิษาบอกแต่พอเขา
จะไปก็เรียกไว้ “โจ...โชคดีนะหาความจริงมาพิสูจน์กับฉันให้ได้”
โจพยักหน้ายิ้มให้อย่างมั่นใจแล้วต่างแยกกันไปคนละทาง
กลับถึงบ้านโจรื้อแฟ้มและทุกข่าวที่ตัดไว้เกี่ยวกับกรณีนี้ปริ๊นต์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เอาเอกสารทั้งหมดมาลำดับและติดไว้ที่ฝาผนังเต็มไปหมดทั้งห้อง
วนิษากลับถึงคอนโดก็ภาวนา “โจ...ขอให้คุณทำให้สำเร็จนะ...เพื่อเราสองคน...”
ooooooo
ปลายฝนชวนป๋องไปช่วยหาซื้อข้าวของที่เตรียมจะไปเที่ยวเสม็ดกับเอ็มป๋องพยายามที่จะพูดให้เธอเปลี่ยนใจ
แต่เมื่อเปลี่ยนใจปลายฝนไม่ได้ป๋องไปหาวนิษาที่บ่อนหมายให้เธอช่วยยับยั้งแต่เพราะความไม่กล้าและประหม่าป๋องพูดวกวนจนสุดท้ายถามตรงๆว่าวนิษาไม่ว่าอะไรหรือปลายฝนจะไปเสม็ดกับผู้ชายสองต่อสองไม่กลัวมีเรื่องไม่ดีหรือ
“ไม่หรอกฉันรู้จักเอ็มท่าทางเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี่” ป๋องพยายามจะสื่อความหมายว่ากลัวเอ็มล่วงเกินปลายฝนแต่ไม่กล้าพูดตรงๆเลียบเคียงก็พูดไม่รู้เรื่องวนิษาตัดบทว่า “เอ็มรู้จักฉันเขารู้ดีว่าถ้าทำอะไรไม่ดีกับปลายฝนล่ะก็เขาจะเจออะไรจากฉันแต่ที่สำคัญที่สุดฉันรู้จักปลายฝนฉันรู้ว่าฉันไว้ใจเขาได้”
สุดท้ายป๋องก็พูดอะไรไม่ออกตัดสินใจกลับไปขอความช่วยเหลือจากโจตีโพยตีพายว่า
“แม่เลี้ยงยังไงก็เป็นแค่แม่เลี้ยงไม่มีวันรักปลายฝนเหมือนลูกสาวตัวเองหรอกพี่โจ...พี่ช่วยผมหน่อยเถอะไปจัดการไอ้พี่เอ็มทีเถอะครับ” โจบอกว่าเอ็มไม่ได้ทำอะไรผิดป๋องถามอย่างผิดหวังว้าวุ่นมากว่า “แล้วพี่โจจะปล่อยให้ปลายฝนเสียคนอย่างนั้นเหรอเกิดเขาท้องขึ้นมาจะทำยังไง”
“เขาท้องแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“พี่ก็รู้ว่าผมชอบเขา...ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยเหรอ”
โจที่กำลังเครียดกับการหาหลักฐานการตายของสามีทั้งสามของวนิษาหมดความอดทนหันตวาด
“จะกวนใจอะไรนักหนาวะแหกตาดูกำลังยุ่งอยู่โว้ยถ้าแกชอบเขาแกก็บอกเขาสิถ้าแกไม่อยากให้เขาไปเสม็ดแกก็บอกเขาสิจะไปบอกวนิษาทำไมมาบอกฉันทำไมหา!”
ป๋องกลัวว่าถ้าบอกปลายฝนแล้วถูกย้อนว่ามันเรื่องของตัวเองตนก็เสียหมาซิโจไล่ตะเพิดว่าถ้ากลัวเสียหมาก็ตัดใจเสียอย่ามาทำพิรี้พิไรเห็นแล้วอยากเตะถามว่าจะเอายังไงตัดใจได้ไหมป๋องตอบเสียงอ่อยว่าไม่ได้เพราะตนชอบเขามาก
โจหงุดหงิดจับป๋องลากไปที่ประตูป๋องมือคว้าป่ายปะทำให้กระดาษที่โจปิดไว้ข้างฝาหลุดมาแผ่นหนึ่งโจถีบป๋องออกนอกบ้านไปตะโกน “รำคาญโว้ย” แล้วปิดประตูเลยพอหันกลับมาเห็นกระดาษแผ่นนั้นร่วงที่พื้นหยิบขึ้นดูแล้วฉุกคิด
“เสี่ยเพ้ง...”
ooooooo
โจนัดปฐมขึ้นไปพบกันที่ดาดฟ้าบ่อนในคืนนี้เลยปฐมถามว่ามีเรื่องสำคัญอะไรหรือถึงนัดเจอกันกลางดึกอย่างนี้
โจยื่นรูปเสี่ยป๊อกในชุดเจ้าบ่าวกำลังรับกล่องอะไรสักอย่างดูดีมีราคาจากเสี่ยเพ้งดวงตาปฐมมีแววเจ็บปวดวูบหนึ่งแล้วรีบปรับความรู้สึกบอกว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานที่เสี่ยเพ้งเอามาให้ตั่วเฮียโจบอกว่าดูเหมือนยาจีนถามว่าก่อนตายตั่วเฮียกินยานี้หรือเปล่า
ปฐมบอกว่าตนไม่รู้ของขวัญแต่งงานได้มาเป็นโกดังทำไมเขาจึงมาสนใจแต่กล่องนี้โจจึงเอารูปถ่ายอีกใบให้ดูเป็นรูปถ่ายในห้องนอนที่มุมหนึ่งในรูปมีของขวัญกล่องนั้นและเปิดฝาแล้วด้วยโจถามว่าเห็นไหมว่ากล่องถูกเปิดปฐมไม่ตอบโจดึงรูปกลับเดินออกไปบอกปฐมว่าจะไปถามคนที่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่พอปฐมรู้ว่าโจจะไปหาเสี่ยเพ้งก็ท้วงติงว่ามันอันตราย
“ผมไม่สนหรอกครับเรื่องนั้นผมต้องรีบเคลียร์คดีนี้ให้ได้ภายในสามวัน” โจเดินไปไม่สนใจคำทักท้วงของปฐม
เมื่อโจไปแล้วปฐมเข้าไปในห้องทำงานจุดธูปหนึ่งดอกปักที่กระถางหน้ารูปของเสี่ยป๊อกรินน้ำชาสองจอกวางไว้หน้ารูปจอกหนึ่งและดื่มเองจอกหนึ่งบอกกล่าวแก่รูปของเสี่ยป๊อกว่า
“ตั่วเฮียในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจนได้ตั่วเฮียไม่ต้องห่วงผมจะรักษาเกียรติยศของตั่วเฮียไว้ด้วยชีวิตของผม...
แล้วเราอาจจะได้เจอกันเร็วขึ้น” พูดจบปฐมคว่ำจอกไว้ตรงหน้ารูปเสี่ยป๊อก
ooooooo
โจกลับบ้านจัดกระเป๋าเตรียมลุยเห็นป๋องกำลังจัดกระเป๋าเหมือนกันแต่จัดแล้วนั่งเหม่อโจถามว่าปลายฝนจะไปเสม็ดเมื่อไรป๋องบอกว่าตีสี่
“โอกาสสุดท้ายแล้วนะแกไม่ต้องไปกับฉันก็ได้” ป๋องได้สติขอโทษโจยืนยันว่าตนจะไม่ฟุ้งซ่านอีกแล้วตนจะไปกับเขาโจสั่งเสียงหนักว่า “แกไม่ต้องไป”
ป๋องบอกว่าตนไม่อาจทิ้งให้โจไปคนเดียวได้ตนจะไปด้วยโจย้ำเตือนว่า
“เชื่อฉันเถอะถ้าแกไปกับฉันแกอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
“แต่ถ้าผมไม่ไปกับพี่ผมอาจจะเสียพี่ไปตลอดชีวิตเหมือนกัน”
“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่าไปทำสิ่งที่แกควรจะทำเถอะถ้าแกยังเห็นฉันเป็นพี่...เชื่อฉัน” ป๋องชะงักไม่อาจขัดขืนได้โจย้ำ “คราวนี้อย่าพลาดอีกล่ะ”
ป๋องขี่มอเตอร์ไซค์ไปซุ่มดูที่หน้าคอนโดวนิษาเห็นปลายฝนนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ป๋องลังเลไม่รู้จะทำอย่างไรดีซุ่มดูอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเอ็มขับรถหรูมาจอดหน้าคอนโดลงไปหาปลายฝนเห็นท่าทีปลายฝนรีๆรอๆเอ็มถามว่านัดใครไว้หรือเปล่าปลายฝนบอกว่าเปล่าแต่ก็ยังรีรอจนเอ็มช่วยถือกระเป๋าพาไปขึ้นรถป๋องได้แต่มองเศร้าพึมพำ...
“ปลายฝน...เธอจะไปกับไอ้พี่เอ็มจริงๆเหรอเนี่ย”
ooooooo
ปฐมไปหาโจในคืนนี้เลยเขาออกไปปรากฏตัวขณะโจกำลังจะขึ้นรถออกไปปฐมถามว่าลูกน้องเขาล่ะโจบอกว่าไม่ว่างตนจะไปคนเดียวปฐมจึงขอไปด้วยชี้แจงว่า
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการตายของตั่วเฮียเกี่ยวข้องกับตั่วเจ๊ผมจะไปช่วยคุณเอง”
“ยินดีครับ” โจยิ้มแย้มแล้วพากันขึ้นรถออกไปปฐมนั่งข้างโจเขาแอบมองกรรไกรขาเดียวที่ซ่อนอยู่ในมือ
เมื่อไปถึงบ้านเสี่ยเพ้งทั้งสองปีนเข้าไปในบ้านอย่างคล่องแคล่วว่องไวทันใดนั้นมีลูกน้องเสี่ยเพ้งเดินยามผ่านมาถูกปฐมย่องไปด้านหลังยื่นมือกดเส้นตรงบ่าจึ๊กลูกน้องเสี่ยเพ้งชะงักอ่อนระทวยลงไปกองกับพื้นโจตามออกมาเห็นเอ่ยทึ่ง
“ว่างๆสอนผมบ้างนะครับ” ปฐมแค่ยิ้มๆแต่พอไปถึงประตูโจใช้กุญแจผีเขี่ยๆไม่กี่ทีประตูก็เปิดออกปฐมมองอึ้งยกแม่โป้งให้โจอย่างยอมรับ
เมื่อไปถึงห้องที่คาดว่าเป็นห้องนอนของเสี่ยเพ้งโจใช้กุญแจผีไขอยู่นานก็ไม่ออกบอกปฐมว่าท่าทางอันนี้จะยากระหว่างนั้นปฐมเอากรรไกรขาเดียวออกมาจะจ้วงแทงโจพอดีโจชะงักเพราะเห็นเงาบางอย่างสะท้อนจากแป้นลูกปิดโจหันไปฉายไฟดูที่ตู้โชว์เห็นกล่องแบบเดียวกับที่เสี่ยเพ้งให้เสี่ยป๊อกโจบอกปฐมว่า
“กล่องแบบเดียวกันเลยเราเอากล่องนั้นกลับไปก็ได้จะได้ไม่ต้องเสี่ยงดีไหม” ปฐมเห็นด้วยเมื่อโจไปหยิบกล่องใบนั้นใส่กระเป๋าปฐมก็เก็บกรรไกรขาเดียวอย่างโล่งอก
แต่ขณะทั้งสองกำลังจะหลบออกไปนั่นเองก็เห็นตี๋อ้วนเดินออกจากห้องท่าทางลับๆล่อๆในมือตี๋อ้วนถือกล่องซีดีแอบย่องไปที่คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่กลางบ้านโจกับปฐมย่องผ่านข้างหลังตี๋อ้วนไปพลันเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังลั่นบ้านตี๋อ้วนตกใจโจกับปฐมตกใจยิ่งกว่ารีบคลานหาที่หลบปฐมหยิบกรรไกรขาเดียวออกมาเตรียมพร้อมทันที
ครู่เดียวเสี่ยเพ้งก็ออกจากห้องโวยวายว่า “นี่กล้าลองดีกับอั๊วเหรอ” โจกับปฐมมองหน้ากันแบบสู้ตายแต่พอได้ยินเสี่ยเพ้งพูดประโยคต่อไปจึงรู้ว่าที่แท้เสี่ยเพ้ง
เอาทีวีมาตั้งกลางห้องเพื่อไม่ให้ตี๋อ้วนเล่นเกมไม่เป็น
เวลาและติดตั้งสัญญาณกันขโมยไว้ดักจับตี๋อ้วนที่แอบมาเล่นเกมกลางดึก!
โจกับปฐมโล่งใจหาทางหลบออกไปกำลังจะถึงห้องน้ำประตูห้องก็เปิดผลัวะลูกน้องสองคนถือปืนเข้ามาเสี่ยเพ้งบอกว่าไม่มีอะไรลูกตนแอบเล่นคอมเท่านั้นลูกน้องถามว่าแล้วสองคนนั้นล่ะเสี่ยเพ้งจะเดินมาดูโจกับปฐมก็พุ่งเข้าเล่นงานลูกน้องเสี่ยทั้งสองล้มคว่ำ
“ไอ้ปฐม...” เสี่ยเพ้งเห็นปฐมก็รีบกลับมาอุ้มตี๋อ้วนเข้าห้องพลางตะโกนโวยวายลั่น “มีคนร้ายโว้ย...มีคนร้าย!” ลูกน้องเสี่ยเพ้งวิ่งกรูกันเข้ามาโจจึงพาปฐมวิ่งขึ้นไปที่ห้องเสี่ยเพ้งเสี่ยเห็นก็โวยวาย “เฮ้ย! ห้ามเข้าไปนะโว้ย!!”
ทั้งสองวิ่งเข้าไปในห้องนอนเสี่ยเพ้งกระโดดขึ้นเตียงจะพุ่งไปทางหน้าต่างรู้สึกเหมือนเหยียบอะไรหยุ่นๆนุ่มๆพลันเสียงเมียเสี่ยเพ้งก็โวยวายขึ้นว่า “ไอ้เพ้งระวังหน่อยสิโว้ยอั๊วนอนอยู่นะ” โจดัดเสียงขอโทษ เมียเสี่ยไม่ยอมต้องให้หอมแก้มโจกลั้นหายใจเข้าไปหอม โดนเมียเสี่ยกอดไว้พร่ำพรรณนาความคิดถึงเสี่ยและกอดจูบอย่างโหยหา
ทันใดนั้นเสี่ยเพ้งวิ่งเข้ามาเห็นตวาดถาม “แม่ไอ้ตี๋ลื้อจูบมันทำไมวะ” เมียเสี่ยจึงลืมตาดูพอรู้ว่าไม่ใช่ผัวก็โวยวายโจผละออกแต่ยังอุตส่าห์ถามเสี่ยว่าทำไมเมียคุณอ้วนฉุอย่างนี้เลยถูกเมียเสี่ยด่า “ปากเก๋าเจ้ง”
ปฐมอาศัยจังหวะชุลมุนนั้นเปิดหน้าต่างสำเร็จเร่งโจให้หนีแล้วทั้งสองก็กระโดดหน้าต่างหนีไปเสี่ยวิ่งมาโผล่ดูตะโกนสั่งลูกน้อง “รีบตามมันไป!”
ooooooo
ลูกน้องเสี่ยเพ้งสองคนวิ่งตามไปคนหนึ่งตัวเล็กผอมกะหร่องอีกคนอ้วนเตี้ยโจกับปฐมวิ่งขึ้นไปบนกองวัสดุที่ไม่ใช้ปีนขึ้นกำแพง
โจถูกคนผอมกะหร่องคว้าขาไว้โจถีบทีเดียวมันก็ร่วงปฐมถูกคนอ้วนคว้าขาเขาถีบอย่างไรมันก็ไม่ร่วงสุดท้ายปฐมร่วงลงมาตามแรงกระชากของมันโจกระโดดข้ามกำแพงไปแล้วจึงรู้ว่าปฐมหนีไม่รอด!
ปฐมถูกลูกน้องเสี่ยเพ้งลากไปเค้นถามว่าเข้ามา
ในบ้านตนทำไมต้องการอะไรปฐมถูกทำร้ายจนฟุบไปก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรเสี่ยเพ้งใช้วิธีเก่ากับคนเก่าๆอย่างปฐมคือตัดอวัยวะทีละส่วนจนกว่าจะยอมสารภาพนับแต่จมูกหูนิ้วจนสุดท้ายจะตอนให้ตายไปทีละนิด... ทีละนิด...
เสี่ยเพ้งหยิบกรรไกรขาเดียวขึ้นมาจะลงมือเองพลันก็ชะงักเมื่อโจตะโกนขึ้น
“เดี๋ยว!” แล้วโจก็เดินแหวกลูกน้องเสี่ยเพ้งเข้าไปปฐมถามว่ากลับมาทำไม “ผมขอโทษผมหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวไม่ได้” ถูกปฐมด่าไอ้โง่กลับมาแบบนี้ก็เท่ากับตายทั้งสองคน “ก็อาจจะเป็นไปได้แต่เราก็อาจจะรอดทั้งคู่ก็ได้”
“ตกลงถ้าลื้อบอกว่าลื้อเข้ามาทำไมอั๊วจะปล่อยให้รอดทั้งสองคน” เสี่ยเพ้งอ่อยล่อปฐมตะโกนไม่ให้โจพูดแต่โจก็พูดแทรกขึ้นว่าตนเข้ามาขโมยของเป็นของแบบเดียวกับที่เสี่ยเพ้งให้เสี่ยป๊อกตอนแต่งงานตนไม่อยากได้ของแต่อยากรู้ว่ามันคืออะไรเท่านั้น “ลื้อไม่ต้องรู้เอาเป็นว่าอั๊วได้คำตอบแล้วว่าพวกลื้อมาทำอะไรอั๊วสบายใจแล้วทีนี้พวกลื้อก็ตายได้แล้ว”
เสี่ยเพ้งสับปลับพอถูกโจทวงสัญญาว่าจะปล่อยเสี่ยพูดหน้าตาเฉยว่าปล่อยศัตรูไปก็โง่สิแล้วสั่งฆ่ามัน!
โจต่อรองว่าเสี่ยอยากรู้เรื่องของตั่วเจ๊ไหมเสี่ยเพ้งหูผึ่งถามว่าลื้อชื่ออะไรพอโจบอกว่าชื่อโจเสี่ยถามว่าจะทรยศตั่วเจ๊หรือโจบอกว่าถ้าตนไม่ทำแบบนั้นก็ต้องตายเสี่ยเพ้งหัวเราะชอบใจ...
“ถูกต้องอั๊วชอบคนแบบลื้อว่ะไอ้คนซื่อสัตย์
แบบปฐมน่ะอั๊วเหม็นเบื่อแล้วก็ขยะแขยงมากลื้อนี่ถูกใจอั๊วจริงๆมาเป็นลูกน้องอั๊วไหม” โจรีบคุกเข่าคำนับเรียกเสี่ยเพ้งว่าเจ้านายทันทีเสี่ยระเบิดหัวเราะสะใจหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาหยิบเงินปึกหนึ่งโยนให้โจ “เอ้า...เงินรับขวัญโว้ย”
“ขอบคุณครับ” โจรับเงินคารวะเสี่ยอีกครั้งพลันก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดจู่ๆท้องฟ้าก็มีเมฆฝนดำมืดลมพัดกระโชกแสงแดดส่องลงจากเมฆที่เปิดเป็นช่อง
เล็กๆเข้าตาเสี่ยเพ้งพอดีเสี่ยยกมือที่ถือกรรไกรขาเดียวขึ้นบังแสง
พริบตานั้นฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่กรรไกรในมือเสี่ยเสี่ยตัวดำเกรียมควันขึ้นเสี่ยเพ้งถลึงตามองโจ
“อั๊วนึกออกแล้วลื้อ...โจ...โจตัวซวย!” สิ้นเสียงเสี่ยก็ล้มตึงโจลุกโผเผไปหาปฐมส่วนลูกน้องเสี่ยยังช็อกอยู่โจประคองปฐมออกไปลูกน้องเสี่ยได้สติจะตามโจตะโกนบอก
“รีบปั๊มหัวใจนายแกสิวะเผื่อจะช่วยเขาทัน” พวกนั้นพากันหันกลับไปรุมปั๊มหัวใจเสี่ยปล่อยโจประคองปฐมหนีไปสบายๆ
ooooooo
เมื่อพากันกลับมาถึงบ่อนโจพาปฐมขึ้นไปทำแผลที่ดาดฟ้าปฐมถามทึ่งว่าโจรู้ได้ยังไงว่าจะมีฟ้าผ่าลงมา
โจบอกว่าตนไม่รู้ปฐมดักคอว่าถ้าไม่มีฟ้าผ่าลงมาหมายความว่าโจก็จะยอมเป็นลูกน้องเสี่ยเพ้งจริงๆหรือ
“ไม่มีทางแต่ผมไม่มีอาวุธอะไรอีกนอกจากลองวัดดวงตัวเองดูอยากรู้ว่าไอ้ฉายาห่วยๆแบบโจตัวซวยเนี่ยถึงเวลามันจะศักดิ์สิทธิ์จริงรึเปล่า” โจพูดเรื่อยๆ
อย่างไม่ถือเป็นเรื่องจริงจังแต่ปฐมพูดอย่างทึ่งว่ามันเฮี้ยนจนตนขนลุกเพราะทันทีที่เขารับเป็นลูกน้องเสี่ยเพ้ง ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมาเลยโจบอกว่า “ผมพยายามปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอดชีวิตแต่ยิ่งนานวันก็ยิ่งเป็นเรื่องจริงมากขึ้นเรื่อยๆ”
ปฐมพูดออกตัวว่าตนไม่มีความรู้เรื่องนี้แต่ก็ต้องขอบคุณโจที่ย้อนกลับมาช่วยตนโจบอกว่าเขาตกอยู่ในอันตรายเพราะตนยังไงตนก็ต้องช่วยปฐมจึงบอกความจริงว่าที่ตน ตามมาไม่ได้ตั้งใจช่วยเขาแต่ตามมาเพื่อปกป้องความลับและตนก็เกือบจะฆ่าเขาที่บ้านเสี่ยเพ้งด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องการให้เขารู้ความจริงว่าตั่วเฮียตายเพราะอะไร
“ความจริง??” โจมองหน้าปฐมงงๆปฐมถอนใจพูดอย่างไม่สบายใจว่า “จริงๆแล้วผมไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังผมอยากให้มันตายไปพร้อมกับตัวผม” โจเห็นเขาลำบากใจจึงบอกว่าถ้าไม่เกี่ยวกับตนไม่ต้องเล่าก็ได้ “เกี่ยวสิคุณอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าตั่วเฮียตายยังไง”
“ครับ”
“ผมเป็นคนฆ่าตั่วเฮียเอง” ปฐมโพล่งออกไปโจช็อก มองปฐมอึ้ง
ooooooo
ปฐมเล่าเหตุการณ์ในคืนแต่งงานของเสี่ยป๊อกว่าตนเป็นคนรับกล่องของขวัญจากเสี่ยเพ้งเองเสี่ยกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างแล้วหัวเราะชอบใจ
ที่มุมเงียบ...เสี่ยป๊อกบ่นกับปฐมว่าคืนนี้เหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขดีไม่เคยคิดเลยว่าอายุปูนนี้แล้วจะมีวาสนาได้แต่งงานกับหว่าหวาที่ทั้งฉลาดเก่งและสวยคนที่อิจฉาตนที่สุดก็คงไม่พ้นเสี่ยเพ้งถามว่าเสี่ยเพ้งเอาของขวัญอะไรมาให้หรือปฐมบอกว่าเอายาโด๊ปจากเมืองจีนมาให้รับรองกินเข้าไปแล้วคึกทั้งคืน
“ปฐมงั้นลื้อช่วยเอายาของมันไปไว้ในห้องอั๊วหน่อยอั๊วอยากให้หว่าหวามีความสุขในคืนพิเศษนี้”
เมื่อปฐมเอายาไปให้เสี่ยป๊อกถามว่าเขาให้กินกี่เม็ดปฐมบอกว่าสามเม็ดแต่เสี่ยอยากให้หว่าหวาอัศจรรย์ในความสุขบอกว่าตนกินสามสิบสามเม็ดดีกว่าจะได้ปึ๋งปั๋งทั้งคืนปฐมเชียร์ด้วยความปรารถนาดีเพราะเชื่อว่ายาสมุนไพรคงไม่มีอันตรายอะไร
“ใช่ๆลื้อพูดถูกถ้าบ่มิไก๊ขึ้นมาอายหว่าหวาตายชัก”
คืนนี้เมื่อเข้าหอและเสี่ยป๊อกขอจูบหว่าหวาให้ชื่นใจแต่ไม่ทันจูบเสี่ยป๊อกก็เอามือกุมหน้าอกล้มลงกับพื้นวนิษาตกใจร้องจนปฐมพังประตูเข้าไปเสี่ยป๊อกพูดเสียงแผ่วกับปฐมก่อนหมดลมว่า...
“เรื่องนี้ลื้อห้ามบอกใครนะ”
เล่าให้โจฟังแล้วปฐมพูดอย่างรู้สึกผิดมากว่า
“ถ้าคืนนั้นผมไม่พูดอย่างนั้นถ้าผมบอกให้ ตั่วเฮียกินแค่สามเม็ดตั่วเฮียคงไม่ตายคุณเคยถามผมว่าทำไมผมจงรักภักดีต่อตั่วเจ๊คำตอบคือผมรู้สึกผิดที่ฆ่าตัวเฮียผมต้องชดใช้ความผิดของผมด้วยการจงรักภักดีต่อเมียของตั่วเฮีย”
“ตั่วเจ๊รู้เรื่องนี้ไหม” โจถามปฐมส่ายหน้าโจตำหนิว่า “คุณใจดำมากคุณปล่อยให้ตั่วเจ๊เป็นทุกข์รู้สึกผิดมาตลอดเวลาว่าตัวเธอเป็นต้นเหตุการตายของตั่วเฮียจนเกือบจะไปบวชอยู่แล้ว”
ปฐมบอกว่าตนพยายามทำลายงานบวชอยู่เหมือนกันแต่ไม่สำเร็จยืนยันกับโจว่า... “ผมรับปากตั่วเฮียแล้วว่าจะไม่บอกใครตั่วเฮียคงละอายใจที่ตายเพราะยาโด๊ปนั่นเขาต้องการปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของเขา”
“ทำไมคุณเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง”
“เพราะคุณช่วยชีวิตผม” ปฐมกับโจต่างยิ้มนิดๆให้กัน
ooooooo
เมื่อวนิษารู้เรื่องโจกับปฐมบุกไปบ้านเสี่ยเพ้งเธอตำหนิทั้งสองอย่างรุนแรงที่ทำอะไรไม่บอกกล่าวกันก่อนเพราะทั้งสองเป็นคนของตนทำอะไรไปตนต้องรับผิดชอบไม่อย่างนั้นสองแก๊งมีหวังต้องตีกันแน่
วนิษาไปเยี่ยมเสี่ยเพ้งที่โรงพยาบาล เสี่ยนอนมีผ้าพันแผลเต็มตัว มีแต่นัยน์ตาเท่านั้นที่กลอกไปมาได้วนิษาจึงต้องคุยกับเมียเสี่ยเพ้งแทนวนิษายอมรับว่าคนของตนทำก็ถือว่าตนต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยถามเมียเสี่ยเพ้งว่าต้องการให้ตนรับผิดชอบอะไรบ้างเมียเสี่ยเพ้งบอกว่าไม่จำเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนทำให้เกิดฟ้าผ่าบอกวนิษาว่า
“เฮียเพ้งบอกฉันกับลูกก่อนจะหมดสติว่าไม่ต้องโทษใครไม่ต้องแก้แค้นนี่เป็นเรื่องธรรมดาของวงการนี้ ทำใจรับให้ได้” วนิษาจึงขอให้เสี่ยเพ้งหายเร็วๆ
โจตัดสินใจเล่าสาเหตุการตายของเสี่ยป๊อกให้วนิษาฟังขอร้องเธออย่าโกรธปฐมที่ปิดเรื่องนี้เป็น
ความลับตลอดมา วนิษาบอกว่าตนต้องขอบใจปฐมด้วยซ้ำที่ปิดเรื่องนี้ไว้เพราะตนก็ไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบถึงคนอื่นซึ่งเธอหมายถึงปลายฝนโจรับปากว่าตนก็จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเช่นกัน
“แต่ฉันก็ยังมีเรื่องคาใจอยู่นะโจคุณพิสูจน์ได้แล้วว่าตั่วเฮียตายไม่ใช่เพราะดวงกินผัวของฉันแต่คุณพิสูจน์ได้ด้วยการใช้ดวงตัวซวยของคุณจัดการกับเสี่ยเพ้งมันขัดแย้งกันในตัวเองนะโจตกลงดวงอาถรรพณ์มันมีจริงหรือไม่มี”
“ผมก็สับสนมากแต่ผมไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เพราะมันยังไม่จบยังเหลือเรื่องของคุณชายแจ้กับคุณกริชอีกไว้เคลียร์สองคดีนี้ให้เสร็จก่อนผมถึงจะมาคิดเรื่องที่
คุณพูดอย่างจริงจัง” วนิษาขอบคุณเขามากโจย้ำว่า “คุณก็รู้ว่าผมทำเพื่ออะไร”
“ฉันรู้ฉันถึงขอบคุณขอบคุณจากหัวใจของฉัน”
โจจับมือวนิษาบีบเบาๆอย่างมีความรู้สึกเดียวกัน...
ooooooo
ระหว่างนั่งรถไปด้วยกันเอ็มถามดักคอว่าที่ยอมไปกับตนสองคนแบบนี้เพราะคิดว่าจะไม่ได้ไปกันสองคนใช่ไหม? คิดว่าบอกป๋องแล้วป๋องจะไปด้วยใช่ไหม?
ปลายฝนยอมรับว่าที่ชวนป๋องไปด้วยเพราะเห็นเขานิสัยดีไปด้วยคงจะสนุกเอ็มเลยเผาป๋องให้ฟังว่า
“พี่จะบอกให้ผู้ชายน่ะถ้าชอบผู้หญิงคนไหนจริงๆก็จะปกป้องผู้หญิงคนนั้นถ้าเงียบๆเฉยๆแปลว่าไม่ได้ชอบจริงหรอกหรือไม่อย่างนั้นก็เป็นพวกไอ้แหยขี้ขลาดตาขาวผู้ชายแบบนั้นอย่าไปสนใจน่ะดีแล้ว”
เอ็มพูดไม่ทันจบดีป๋องก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาปาดหน้ารถเก๋งบังคับให้หยุดเอ็มลงไปถามว่าทำแบบนี้หมายความว่ายังไงป๋องไม่คุยด้วยแต่เดินไปหาปลายฝนบอกว่าไม่ให้เธอไปปลายฝนถามว่าเขามีสิทธิ์อะไรป๋องพูดซื่อๆจากใจจริงว่า
“ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันมีสิทธิ์อะไรรู้แต่ว่าถ้าฉันไม่ห้ามเธอฉันจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
เอ็มไล่ป๋องหลีกไปแล้วชวนปลายฝนขึ้นรถป๋องบอกว่าถ้าอยากไปก็ต้องขับชนตนแล้วไปยืนขวางหน้ารถปลายฝนเลยขอขับเองเธอถอยหลังแล้วขับพรืดพุ่งไปข้างหน้าเฉี่ยวป๋องไปป๋องมองตามตะโกนอย่างเจ็บปวด “ปลายฝน...”
ในที่สุดความจริงใจจริงจังจนยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องปลายฝนของป๋องทำให้ปลายฝนสะเทือนใจจนยกเลิกไปเสม็ดกับเอ็มและซ้อนมอเตอร์ไซค์ของป๋องกลับมาด้วยกันอย่างร่าเริง
ooooooo
โจกลับถึงบ้านเจอป๋องนั่งรออยู่ป๋องมองสำรวจถามว่าเป็นอย่างไรบ้างไม่ฟกช้ำดำเขียวสักเท่าไหร่เลยนี่โจบอกว่ารอดตายอย่างฉิวเฉียด
ป๋องถามว่าได้เรื่องไหมโจตอบอย่างพอใจว่าคุ้มตนรู้แล้วว่าใครฆ่าเสี่ยป๊อกระหว่างนั้นป๋องพยายามจะส่งสัญญาณบอกอะไรสักอย่างแต่โจไม่ทันสังเกตจนกระทั่งเสียงปลายฝนเดินออกจากหลังบ้านถามว่า
“ใครฆ่าพ่อหนูคะ”
โจตกใจปลายฝนรุกหนักถามว่าใครฆ่าพ่อตนโจพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วบอกให้ป๋องไปส่งปลายฝนที่คอนโดเสียแต่ปลายฝนไม่หลงกลพรวดไปยืนขวางหน้าถามเสียงเข้ม “ใครฆ่าพ่อหนู!”
โจจำต้องเล่าความจริงให้ฟังปลายฝนฟังแล้วหาว่าพ่อตนตายเพราะบ้ากามโด๊ปยาเข้าไปจนหัวใจวายตายโจพยายามบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบ้ากามอะไรทั้งนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของคนปลายฝนไม่ฟังเอาแต่โทษว่าป๊าบ้ากามแล้วยังโทษว่าวนิษาเป็นคนทำให้พ่อตนเป็นแบบนี้
ปลายฝนรับไม่ได้กับการตายของเสี่ยป๊อกแบบนี้เธอใส่รองเท้าแตะออกไปทันทีโจรีบตามแต่เพราะรองเท้าผ้าใบที่มีอยู่ต้องผูกเชือกรองเท้าไม่ทันใจเขาเลยวิ่งเท้าเปล่าตามปลายฝนไปปลายฝนวิ่งไปตามถนนโจก็วิ่งตามจนเมื่อเธอวิ่งเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างโจที่วิ่งเท้าเปล่าถูกวัสดุก่อสร้างทิ่มแทงจนเลือดไหลแต่เขาก็กัดฟันทนปลายฝนวิ่งขึ้นชั้นบนหันมาท้าว่าถ้าตามขึ้นมาได้ก็จะคุยด้วยโจกัดฟันเดินย่ำเศษกระจกบนพื้นถูกบาดเจ็บปวดแทบถอดใจแต่ก็กัดฟันขึ้นไปจนได้
“ฉันขึ้นมาได้แล้วทำตามสัญญาด้วยนะ” โจทวงคำสัญญาปลายฝนรักษาคำพูดยอมฟังโจพูด...
ooooooo










