ตอนที่ 16
อัลบั้ม: ละครเรื่อง "เพลงรักผาปืนแตก"
ที่อนามัย...สมานยืนอยู่ข้างเตียงหลวงพ่อสินโดยมีเดือน จ่า แสน และน้อยอยู่ใกล้ๆอย่างห่วงใยอาการของหลวงพ่อ
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับหลวงพ่อ อีกนิดเดียวเชนก็จะจุดระเบิดทำลายถ้ำทองทิ้งได้แล้ว แต่พวกมันกลับไหวตัวทันใช้ครูเป็นข้อต่อรอง” สมานเอ่ยปากอย่างรู้สึกผิด
“ถ้าความชั่วมันถูกหยุดได้ง่ายๆ นรกก็คงไม่มี แผ่นดินก็คงสงบสุข” หลวงพ่อพยายามยันตัวลุกขึ้น จ่าเป็นห่วงเข้าช่วยพยุงพร้อมกับบอกคนอื่นๆว่าอาการหลวงพ่อยังไม่ค่อยดี แต่หลวงพ่อแย้งว่าตนไหว แล้วพูดกับสมานต่อไป
“ที่โลกเราทุกวันนี้ยังมีความชั่ว ยังมีคนชั่วที่มุ่งมั่นทำแต่ความชั่วจนทำให้เรารู้สึกว่าทำไมคนชั่วยังลอยนวลยังเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ นั่นก็เพราะว่าความชั่วคือการทดสอบความดี เมื่อมีกิเลสก็ต้องมีธรรมะไว้ขัดเกลา ความดีจึงจะเกิด”
“ครับ...มารไม่มีบารมีไม่เกิด แต่สิ่งที่พวกมันกำลังทำกับทุกชีวิตในหมู่บ้านผาปืนแตกไม่ใช่แค่ความชั่ว ธรรมดานะครับหลวงพ่อ”
“ใช่ค่ะ พวกมันไล่ฆ่าพวกชาวบ้านที่เห็นว่าจะลุกขึ้นมาต่อต้าน ส่วนพวกชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็จะถูกพวกมันกวาดต้อนให้กลายเป็นทาส” พูดไปแล้วน้อยมีสีหน้ากังวล
“หายนะครั้งใหญ่กำลังมาเยือนทุกคนในผาปืนแตก ถ้าเราหยุดไม่ได้ก็เท่ากับว่า...” เดือนกลัวเกินกว่าจะกล่าวต่อไป
“หลวงพ่อรู้ว่าทุกคนกำลังกลัว แต่นี่แหละคือการทดสอบว่าเรายังเชื่อมั่นในความดีกันอยู่หรือเปล่า จงอย่ากลัวที่จะทำความดี เพราะยิ่งกลัวก็เท่ากับยอมแพ้ที่จะทำดี”
หลวงพ่อพูดได้แค่นั้นก็เริ่มมีอาการไอออกมาจนเลือดเปรอะมือ ทุกคนตกใจรีบให้หมอเดือนดูอาการท่านอีกครั้ง ปรากฏว่าท่านช้ำในจากการกระทบกระเทือนแต่เดือนดูแลได้เพราะยาที่มีอยู่ยังพอรักษา
“ถ้าพวกมันปิดตายหมู่บ้านไม่ให้ใครเข้าออก ยาก็จะหมดลงเรื่อยๆใช่ไหม”
เดือนสีหน้าไม่ค่อยดี สมานเริ่มกังวล ทันใดนั้นจิกกับยอดรีบร้อนมาบอกผู้กองว่าแย่แล้ว...พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สมานขอนิมนต์หลวงพ่อกลับไปวัดก่อนเพราะพวกนักเลงโตกำลังจะมาตรวจที่นี่
“แต่หลวงพ่อยังบาดเจ็บอยู่ แม้แต่พระที่บาดเจ็บมันก็จะไม่เว้นเหรอ”
“นังน้อย เอ็งก็รู้ว่าพวกมันเจอพวกเราแล้วจะเป็นยังไง ข้าว่าให้หลวงพ่อกลับไปอยู่ที่วัดนั่นแหละดีแล้ว ทางนี้พวกข้าจะได้อยู่รับมือ”
“แสนกับจ่าไม่ต้องอยู่หรอก ผมกับไอ้ยอดจะอยู่เล่นงานพวกมันเอ ง ฝากพาน้องสาวผมไปอยู่ที่วัดก่อน แล้วพวกผมจะตามไปสมทบ”
“แต่เดือนจะอยู่ช่วยพี่”
“เดือน...ตอนนี้กำลังเกิดหายนะขึ้นกับทุกคนในหมู่บ้าน จะต้องมีคนบาดเจ็บแห่ไปขอความช่วยเหลือที่วัดมากมาย เดือนควรทำหน้าที่ที่เดือนทำได้” ตบไหล่น้องสาวอย่างให้กำลังใจ “อย่าห่วงพี่เลย...เดี๋ยวไอ้เพลิงมันก็คงตามมาสมทบ รีบไปกันเถอะ” สมานบอกน้องสาวแล้วถอยออกไปสมทบกับยอดและจิก
ทั้งสามคนอาวุธครบมือ พากันเดินทางไปบ้านกำนันปราบ ซึ่งเวลานั้นเชนกับวัลภาซุ่มอยู่นอกบ้านเพื่อรอเนื้อทองส่งสัญญาณจะได้เข้าไปช่วยครูประสิทธิ์ แต่มันไม่ง่ายอย่างคิด แถมเนื้อทองเกือบโดนชาติจับได้จนทะเลาะกันยกใหญ่ แต่วัลภาไม่ละความพยายาม เธอช่วยเชนให้เข้าไปถึงห้องขังครูประสิทธิ์ด้วยการล่อหลอกลำดวนให้ไปคุยกันห่างๆ
“นี่วัลภา แม่เตือนแกเลยนะ สถานการณ์ตอนนี้แกอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า กลับมาอยู่กับแม่แล้วชีวิตแกจะปลอดภัย”
“ปลอดภัยจากพวกคนเลวน่ะเหรอแม่ แล้วทำไมแม่ไม่คิดสวนทางกันบ้างว่าในสถานการณ์แบบนี้มันถึงเวลาแล้วที่เราจะใช้ความดีสู้กับความเลว”
“สู้? แกโง่ตามผัวแกไปแล้วหรือเนี่ยวัลภา แกแหกตาดูบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาหลงรักไอ้จิ๊กกะโล่อย่างไอ้เชนจนไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร”
“เชนไม่ใช่ผู้ชายไม่เอาไหนนะแม่ เขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นนักสู้ที่เก่ง เป็นสามีที่ดี และเป็นวีรบุรุษที่จะเอาความสงบสุขคืนมาให้กับชาวบ้านผาปืนแตกทุกคน”
“โธ่เอ๊ยวัลภา นังลูกโง่ ตอนนี้พี่ปราบเขาหันมาร่วมมือกับพวกลายเสือ เขาเสริมเขี้ยวเล็บจนน่ากลัว เพราะเป้าหมายเขาในอนาคตมันยิ่งใหญ่กว่าที่จะต้องมารับมือกับไอ้กระจอกอย่างผัวแก”
“ก็ดีแล้วที่แม่บอกหนูแบบนี้ เพราะยิ่งเป้าหมายของผัวแม่ใหญ่โตมากแค่ไหน เวลาโดนคนตัวเล็กๆ
ขัดแข้งขัดขาจนล้มทิ่มหัวคะมำ”
“หุบปากนะวัลภา” ลำดวนตวาดพร้อมกับตบลูกสาวจนหน้าหัน!
วัลภาน้ำตาแทบร่วงทำท่าจะจากไป ลำดวนเลยขึ้นเสียงสั่งให้หยุด แต่วัลภาขัดขืนสะบัดแรงทำให้ลำดวนเซเกือบล้ม
“นี่แกคิดจะสู้แม่เหรอ ฉันเป็นแม่แกนะ”
“ถ้าหนูคิดจะสู้กับแม่จริงๆ ป่านนี้แม่เจ็บตัวไปนานแล้ว”
“นังวัลภา! กล้าพูดกับฉันแบบนี้ แสดงว่าแกไม่คิดว่าฉันเป็นแม่แกอีกแล้ว งั้นฉันก็จะไม่คิดว่าแกเป็นลูกอีกแล้วเหมือนกัน” ลำดวนเงื้อมือจะตบสั่งสอน แต่วัลยายื่นหน้าท้าทายจนอีกฝ่ายชะงัก
“เอาสิแม่ ลงมือกับฉันอีกเลย ฉันจะได้รู้ว่าแม่ฉันตายไปจากโลกนี้แล้ว และที่ยืนตรงหน้าฉันก็มีแต่ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว บูชาเงินเป็นพระเจ้า ทั้งๆที่มีตราบาปติดตัวแต่กลับไม่เคยสำนึกคิดจะทำความดีเพื่อลบตราบาปตัวเอง”
“แกพูดอะไรของแก ตราบาปอะไร”
แทนคำตอบ วัลภาดึงชายเสื้อด้านหลังขึ้นเผยให้เห็นรอยสักรูปผีเสื้อราตรีที่หลังของเธอ
“ผีเสื้อราตรี!!”
“ใช่...โสเภณีที่ถูกตีตราให้เป็นเพียงแค่วัตถุทางเพศของพวกผู้ชายเหมือนที่แม่มีไง”
“แกถูกตีตรานี้มาได้ยังไง” ลำดวนถามปากคอสั่น
“หนูเคยถูกพวกมันจับตัวไป แต่ก็โชคดีที่รอดมาได้ยังไม่ถูกบังคับให้ไปขายตัว แต่หนูก็ได้เห็นชีวิตของผู้หญิงอีกมากมายที่ถูกตีตรานี้ มันคือบาปที่พวกชั่วๆพยายามยัดเยียดให้ผู้หญิง หนูเลยตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำความดีทุกอย่าง จัดการกับพวกชั่วๆเพื่อลบรอยบาปบนตัวหนูให้ได้ แต่สำหรับแม่...แม่กลับปล่อยให้ตราบาปบนตัวแม่ตีค่าราคาให้ตัวเองเป็นผู้หญิงบาป มัวเมาแต่กิเลสตัณหาไม่รู้จักหยุด”
“หุบปาก!! แกไม่ต้องมาปากดีทำเป็นสั่งสอนฉัน เสียแรงที่ฉันเป็นห่วงแก แต่ในเมื่อแกกล้าด่าฉันขนาดนี้
ต่อไปนี้แกกับฉันก็ขาดกัน ไม่ต้องเหลือความเป็นแม่เป็นลูกกันอีก...อ้อ...แล้วจะบอกให้ด้วยนะว่าแกกับไอ้เชนผัวแกไม่ได้ฉลาดนักหรอก โง่ที่เดินมาหลงติดกับซะมากกว่า”
“แม่หมายความว่าไง”
ลำดวนยิ้มร้ายก่อนจะชะงักไปเมื่อถูกฟาดด้วยของแข็งที่หัวล้มลงแน่นิ่ง วัลภาตกใจเงยหน้าขึ้นจึงเห็นคนลงมือคือเนื้อทอง
“อย่าเพิ่งถามอะไรเลย เชนกับเพลิงกำลังตกอยู่ในอันตราย กำนันปราบหลอกใช้ให้ฉันล่อพวกเธอมาติดกับ”
เนื้อทองรวบรัดตัดความแล้วพากันลนลานออกไปทันที
ooooooo
เชนกับเพลิงต่อสู้กับไอ้ทอมร่างยักษ์และพวกฟ้าลั่น โดยไม่รู้ว่าเวลานี้กำนันปราบตัวแสบได้พาประสิทธิ์ไปจากบ้านแล้ว จุดหมายคือถ้ำทองขุมทรัพย์มหาศาล
คณะของกำนันตรวจดูรอบถ้ำพบว่าเชนเก็บระเบิดออกไปหมดแล้วตามที่บอกจริงๆ
“มันก็ต้องอย่างนั้นสิวะ เพราะถ้ามันยังดันทุรังอยากระเบิดถ้ำนี้ทิ้งก็เท่ากับมันตั้งใจอยากมือเปื้อนเลือดฆ่าพ่อตัวเอง จริงไหมครู”
“อย่าคิดว่าเอ็งเอาข้ามาเป็นตัวประกันแล้วไอ้เชนมันจะยอมหยุด”
“ฉันเห็นไอ้เชนมาตั้งแต่มันยังเป็นเด็ก ฉันรู้ว่าสันดานใจร้อนมันเป็นยังไง ฉันถึงใช้ให้เนื้อทองไปบอกมันว่าฉันขังแกเอาไว้ที่บ้าน เพื่อล่อให้มันบุกไปช่วยแกไง”
“ไอ้ปราบ!! นี่แก...” ประสิทธิ์โกรธแทบกระอัก
“ฮ่าๆๆๆ แล้วฉันก็คิดถูก เพราะป่านนี้ไอ้เชนมันคงหลงไปติดกับดักโดนไอ้ฟ้าลั่นสะสางบัญชีแค้นอยู่”
ประสิทธิ์เจ็บใจกัดฟันกรอด แล้วตัดสินใจกระแทกไหล่ใส่ลูกน้องกำนันที่คุมตัวอยู่ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในถ้ำ
กำนันชักปืนยิงไล่หลังหลายเปรี้ยง แต่ประสิทธิ์หายไปอย่างรวดเร็ว พวกลูกน้องรีบไล่ล่าแต่เข้ามากลับไม่พบอะไร
“มันอยู่ไหน” กำนันเปล่งเสียงฉุนเฉียว
“พวกผมตามมันมาติดๆแล้วนะครับนาย แต่ไม่รู้มันหายไปไหน ไวอย่างกับปรอท”
กำนันฉุนขาด กระชากคอเสื้อลูกน้องตะคอกใส่ “มันจะหนีไปได้ยังไง ถ้ำนี้มีทางออกทางเดียว ยกเว้นแต่มันจะซ่อนอยู่ในนี้”
“แต่ดูแล้วไม่มีที่น่าจะซ่อนตัวได้นะครับนาย”
“หาดีแล้วหรือไงถึงบอกไม่มี...ไป!! หามันให้เจอ” กำนันผลักลูกน้องให้ช่วยกันค้นหารอบๆบริเวณที่ยืนอยู่
พวกลูกน้องกระจายกันตรวจดูแต่ก็ไม่เจอ
“ถ้ำมันก็มีอยู่แค่นี้ แล้วมันจะหนีไปได้ยังไง” กำนันเริ่มครุ่นคิดสงสัยก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็น
คราบเลือดที่เปรอะก้อนหิน “เดี๋ยว...พวกเอ็งไม่ต้องหามันแล้ว”
กำนันเดินตามคราบเลือดไปที่ช่องหินซึ่งเชนกับวัลภาเคยมุดออกไปที่เหมืองทองคำ
“ไอ้แก่มันรู้จักเอาตัวรอดจริงๆ แสดงว่ามันรู้จักถ้ำทองนี่ดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้...มันหนีออกไปทางนี้ พวกเอ็งตามไปล่าตัวมันกลับมา”
ลูกน้องกุลีกุจอทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างว่องไว...ในเวลาเดียวกัน เชนกับวัลภาต่อสู้กับพวกลายเสืออยู่ที่บ้านกำนัน วัลภาเพิ่งรู้ว่าตนหลงกลพวกกำนันเข้าแล้ว เธอแค้นใจมากและหาทางสยบทอมด้วยการแทงเข็มฉีดยาพิษเข้าที่คอของมันอย่างแรง
ทอมสะดุ้งเฮือก แต่ก็หันมาตบหน้าวัลภาได้อย่างจัง เพลิงเข้ามาทันเวลาช่วยเล่นงานทอมแล้วพาเชนกับวัลภาหนีออกมา แต่ก็เจอฟ้าลั่นดักเล่นงานอีกจนได้
สองฝ่ายต่อสู้กันดุเดือด โดยเฉพาะศัตรูคู่แค้นระหว่างเชนกับฟ้าลั่นซัดกันทั้งมือเปล่าและอาวุธ แต่แล้วเพลิงก็ช่วยยิงสกัดฝ่ายตรงข้ามเพื่อเปิดทางให้เชนกับวัลภาหนีไป
พวกฟ้าลั่นเพลี่ยงพล้ำและตามกลุ่มของเชนไม่ทัน เพราะเนื้อทองเอารถคันหนึ่งมาให้พวกเขาขับหนีไป แต่ตัวเธอเองถูกลายเสือยิงไหล่ร่างทรุดฮวบ ฟ้าลั่นตั้งท่าจะตามเชนไปอีกแต่ลายเสือสั่งห้าม ยังไงมันก็หนีไม่รอด เพราะผาปืนแตกถูกปิดตายแล้ว
ทางด้านกำนันปราบกับลูกน้องที่ตามล่าตัวครูประสิทธิ์เข้ามาในเหมืองทองโบราณจนพบตัว สภาพร่างกายของเขาบอบช้ำมีบาดแผลจากการถูกซ้อม หน้าตาอิดโรยเรี่ยวแรงอ่อนลงเดินต่อไม่ไหว
“ไปต่อสิครู พยายามกระเสือกกระสนหนีตายไปให้รอด”
“ไอ้ปราบ...นี่แกตามฉันมาได้ยังไง”
“ก็ตามรอยเลือดของครูมานั่นแหละ”
ประสิทธิ์หน้าเสียที่พลาดท่าไม่ทันระวังเพราะมัวแต่คิดจะหนี
“แกมันแน่มากนะไอ้แก่ คิดจะใช้ความลับที่แกพยายามไม่ให้ใครรู้มาทำให้แกรอด แต่ก็อย่างว่า...เวลานี้พวกแกมันดวงซวย ทำอะไรก็ไม่ขึ้น แทนที่จะหนีพ้นก็ดันทำให้ข้าได้มาเจอที่นี่เข้า...เหมืองทองคำโบราณ...ฮ่าๆๆๆ อำนาจและบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทยกำลังเป็นของข้าแล้ว”
ประสิทธิ์เจ็บใจ รวบรวมกำลังปรี่เข้าใส่พยายามยื้อยุดแย่งก้อนหินทองคำจากมือกำนันแต่ไม่ได้ผล แถมยังโดนกำนันใช้ก้อนหินฟาดหัวจนแตกเลือดอาบ
“เวลานี้พวกแกทุกคนอยู่ใต้อิทธิพลของข้าเต็มรูปแบบแล้ว ผาปืนแตกทุกตารางนิ้วเป็นของข้า และข้าก็คือเจ้าชีวิตของพวกเอ็ง ถ้ายังอยากเห็นหน้าลูกชายอีก...อย่าห้าว”
กำนันเตะเข้าท้องประสิทธิ์จนจุกแน่นิ่งก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องพาตัวมันกลับเข้าหมู่บ้าน ส่วนที่เหลือให้ขนก้อนหินทองคำออกไปด้วย
ooooooo
คืนนี้บรรยากาศที่ศาลาวัดค่อนข้างชุลมุนวุ่นวายเพราะมีชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บพากันเข้ามาขอให้หมอเดือนช่วยรักษา หลายคนร้องเจ็บปวดครวญคราง โดยมีติ๋มกับจ่า น้อยและแสนช่วยดูแลเท่าที่จะช่วยได้
ผ่านไปสักพัก ยอดกับจิกพาสมานซึ่งถูกชาติแทงบาดเจ็บมาให้เดือนรักษา ส่วนวัลภากับเชนเข้าไปกราบหลวงพ่อที่กุฏิ เชนรู้สึกผิดที่ช่วยพ่อของตนไม่ได้แล้วยังทำลายถ้ำทองไม่ได้ด้วย
“ผมขอโทษครับหลวงพ่อ ผมหยุดความชั่วของพวกมันไม่ได้”
“เชน...ไม่มีใครโทษเธอ พวกเราทุกคนพยายามสู้แล้ว” วัลภาปลอบโยน
“แต่พ่อยังถูกจับตัวเอาไว้ แล้วพวกเราที่อยู่ที่นี่ก็ยังไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไร”
“เอ็งพูดเหมือนเอ็งกำลังกลัว”
“ผมเคยเป็นคนกล้า แต่เวลานี้ผมไม่รู้เหมือนกันครับหลวงพ่อ ผมอยากจะปกป้องทุกคนที่ผมรักเอาไว้ แต่ผมกลับไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะฝ่าวิกฤตินี้ไปได้”
“ถึงพ่อเอ็งจะเป็นครูเพลงแต่เขาก็เป็นนักสู้ หลายชั่วอายุคนแล้วที่ผาปืนแตกไม่เคยสงบสุข แต่พ่อเอ็งก็ไม่เคยท้อถอย เมื่อสู้ด้วยกำลังเพื่อให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็เลือกใช้เสียงเพลงเป็นอาวุธขึ้นต่อสู้ สมัยหนุ่มๆพ่อเอ็งพูดกับข้าเสมอ เสียงเพลงมันจะช่วยขับกล่อมทำให้คนในผาปืนแตกไม่หมดหวัง เพราะมันจะทำให้ทุกคนยังรู้สึกว่าในความทุกข์ก็ยังมีความสุขได้”
หลวงพ่อเริ่มไอถี่ขึ้นอีก วัลภาจึงให้เชนยุติการสนทนาเพื่อท่านจะได้พักผ่อน...
สมานนอนบนแคร่ใต้ถุนศาลาวัดในสภาพไม่รู้สึกตัว เดือนช่วยรักษาแผลที่ถูกแทงให้แล้วแต่ยังอดเป็นห่วงพี่ชายไม่ได้ เพราะชีพจรเขาเต้นเบาลงเรื่อยๆ ต้องให้เลือดก่อนเขาจะช็อก เพลิงมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับสมาน เขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
ขณะเดียวกันที่บ้านกำนันปราบ พวกลายเสืออยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนเจ็บใจที่ประมาทวัลภาเกินไปทำให้ทอมบาดเจ็บ
“ตอนนี้พวกมันไปรวมตัวกันที่วัด ฉันให้คนของฉันไปเฝ้าเอาไว้หมดแล้ว” ชาติรายงาน
“แล้วทำไมไม่ฆ่าพวกมันให้หมดซะตอนนี้เลย กำลังเสียเปรียบบาดเจ็บกันแบบนี้ เป่าดับง่ายๆไม่ต้องเปลืองกระสุน”
“ถึงเวลานี้จะฆ่าพวกมันไม่ใช่เรื่องยากแล้ว แต่หลังจากที่ฉันไปค้นพบไอ้นี่มา...ฉันก็มีความคิดใหม่มาแทน”
กำนันพูดจบก็โยนก้อนหินทองคำให้ลายเสือรับไปพิจารณา
“ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังถ้ำทองมันคือเหมืองทองโบราณที่พวกมันพยายามปกปิด ฉันไปเห็นกับตามาแล้ว ถ้าพวกเราจะเอาทองคำในเหมืองออกมา แรงงานคนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดถึงอันดับแรก”
“ตอนนี้พวกชาวบ้านที่คิดต่อต้านก็ถูกกำจัดไปจนหมด ถ้ายังไล่เก็บพวกมันอีกจะทำให้เราขาดแรงงานทาสไว้ใช้งานนะพ่อ”
“หมายความว่าจะไว้ชีวิตพวกมันเพื่อเอามาใช้เป็นทาสทำเหมือง? คนอย่างไอ้เชนมันคงยอมหรอก” ฟ้าลั่นยิ้มเยาะ ชาติเลยสวนทันควันว่า ยอมหรือไม่ยอมเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เอง
ด้านเนื้อทองที่ถูกยิงเฉี่ยวหัวไหล่และได้รับการเยียวยาจากน้ำค้างจนฟื้นขึ้นมา เธอหวาดกลัวชาติมาก ยิ่งได้ยินน้ำค้างพูดจายุยงเป่าหูเขาก็ยิ่งหวั่นหวาด กลัวเขาจะโมโหฟิวส์ขาดแล้วทำร้ายเธอเข้าอีก
“ถ้าพ่อไม่ขอให้ฉันไว้ชีวิตเธอ ป่านนี้เธอคงไม่ได้มานอนอยู่ในห้องนี้หรอก โน่น...ฉันจะส่งเธอไปให้ไอ้ฟ้าลั่น เห็นมันบอกว่าอยากรื้อฟื้นธุรกิจจับผู้หญิงในหมู่บ้านมาตีตราเป็นผีเสื้อราตรี”
“ผีเสื้อราตรี?”
“ก็โสเภณีที่ถูกตีตราไง...จำเอาไว้นะเนื้อทอง ถ้าคิดทรยศหักหลังฉันอีก ชีวิตเธอจะไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ค่าของความเป็นคน” ชาติขู่จริงจัง น้ำค้างได้ทีเข้าเกาะชาติโอบเอวจู๋จี๋พากันออกไป ทิ้งให้เนื้อทองเจ็บใจอยู่คนเดียว
ooooooo
หลังจากให้เลือดสมานเรียบร้อยแล้ว เพลิงกลับไปพักผ่อนที่กระท่อมหลังวัดตามคำแนะนำของจ่า เดือนเข้ามาในศาลาไม่เห็นเพลิง ซักถามจ่าก่อนจะตามเขาไปด้วยความเป็นห่วง
จ่าเห็นใจเพลิงและเดือนที่รักกันแต่โดนสมานกีดกัน จึงอยากให้ทั้งคู่มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เขาบอก เดือนว่าเพลิงอาการน่าเป็นห่วงเพราะเสียเลือดเยอะ เดือนรีบร้อนไปแต่ยังไม่ทันถึงกระท่อมก็เจอพวกไอ้เชิดลูกน้องของชาติดักฉุดจะทำมิดีมิร้ายเธอ เคราะห์ดีที่เพลิงได้ยินเสียงตามมาช่วยทันเวลา แต่เพราะคนของเชิดเยอะกว่าเพลิงจึงเสียเปรียบโดนพวกมันยำจนสะบักสะบอมอยู่ตรงนั้น ส่วนเดือนวิ่งหนีไปก่อนหน้านี้ตามคำสั่งของเพลิง
เดือนซ่อนตัวและคอยจับตามองพวกมันรุมทำร้ายเพลิง กระทั่งเห็นเขาถูกจับใส่โลงฝังลงหลุมจึงออกไปช่วยหลังจากพวกมันพากันกลับไปแล้ว เดือนพาร่างหมดสติของเพลิงกลับมาเยียวยาตามมีตามเกิดที่กระท่อม สภาพของเธอเปียกฝนและเลอะโคลนเต็มไปหมด
ด้านเชนที่อาศัยอยู่ในโบสถ์ เพราะที่ศาลาเต็มไปด้วยชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากฝีมือฟ้าลั่นและชาติที่แสดงอำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่และเข่นฆ่าคนที่แข็งข้อ
เชนยังเสียใจที่ไม่สามารถช่วยครูประสิทธิ์พ่อของตนจากเงื้อมมือคนชั่วมาได้ อีกทั้งพี่น้องผู้บริสุทธิ์ในผาปืนแตกก็ต้องมาเดือดร้อนล้มตายโดยไม่มีความผิด
เชนนั่งน้ำตาคลออยู่ต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ วัลภาวิ่งฝ่าสายฝนเข้ามาเห็น นึกรู้ว่าเขากำลังคิดมากและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เชน...อย่าทำอย่างนี้เลย เธอต้องเข้มแข็ง เธอต้องมีความหวังเอาไว้ เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้ไปทุกชีวิตในผาปืนแตกจะต้องยืนอยู่ได้ด้วยความหวัง”
“หวังอะไรเหรอ”
“หวังว่าความกล้าหาญของเธอจะช่วยกอบกู้พลิกฟื้นให้ผาปืนแตกกลับมาเป็นสวรรค์บนดินไง”
“ฉันทำไม่ได้หรอก เพราะแม้แต่พ่อของฉัน ฉันยังช่วยไว้ไม่ได้ ส่วนตัวฉันเองตอนนี้ก็เหมือนกับหมูในเล้าที่ หนีไปไหนไม่ได้ รอวันถูกพวกมันจับเชือด”
“ถ้าเธอคิดได้แค่นี้ จมปลักอยู่กับความพ่ายแพ้ ฉันก็เสียใจที่ฉันเลือกรักผู้ชายผิด วันพรุ่งนี้เราจะเป็นเถ้าถ่านหรือจะสร้างความหวังขึ้นมาใหม่มันอยู่ที่เธอแล้วนะเชน”
เชนนิ่งฟังวัลภาโดยไม่โต้แย้งใดๆอีกเลย
ooooooo
เช้าวันใหม่ ฟ้าลั่นเข้ามาเห็นน้ำค้างกับชาติฉอเลาะกันในบ้านโดยไม่เกรงใจเนื้อทองซึ่งเป็นเมียหลวง ฟ้าลั่นยอมรับว่าเมียทั้งสองคนของชาติสวยถูกใจตน จึงอยากจะปันมาสักคนหากชาติเบื่อคนใดคนหนึ่งแล้ว
ชาติได้ฟังก็มีน้ำโห ตวาดเสียงดังใส่อดีตคู่ปรับ “ไอ้ฟ้าลั่น ข้าอนุญาตให้เอ็งดูของสวยๆงามๆของข้าได้แค่ตา แต่ถ้าคิดจะทำอะไรมากกว่านั้นล่ะก็ เห็นทีต้องเปิดศึกกันอีกสักยก”
“เอ็งจะมาหวงอะไรนักหนาวะ มีเมียตั้งสองคน ถ้าคนหนึ่งเบื่อไม่คิดจะใช้อะไรแล้วก็แบ่งๆกันมั่งสิวะ ทีพ่อข้ากับพ่อเอ็งยังแบ่งเหมืองทองกันได้เลย”
“พี่ชาติจ๊ะ ไหนๆนังเนื้อทองมันก็ทรยศหักหลังให้พี่ต้องเจ็บใจแล้ว ฉันว่ายกมันให้หุ้นส่วนพี่ไปดีกว่า แล้วยกให้ฉันขึ้นมาเป็นเมียหลวงพี่แทนมัน...นะจ๊ะพี่ชาติ” น้ำค้างอ้อล้ออย่างหวังผล แต่ผิดหวังเพราะชาติไม่เล่นด้วย
“คนอย่างไอ้ชาติไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ยิ่งเรื่องผู้หญิง...ยิ่งไม่ชอบ” ชาติตอบห้วนๆ แล้วเดินกระแทกไหล่ฟ้าลั่นเข้าไปในบ้าน
ฟ้าลั่นสังเกตเห็นน้ำค้างหน้าตูมตึงเดินสะบัดสะบิ้งไปอีกทางก็ปิ๊งความคิดบางอย่าง ก้าวตามไปจับแขนเธอไว้ “เดี๋ยวสิน้ำค้างคนสวย ถ้าไอ้ชาติมันยังแทงกั๊กไม่ยกเธอเป็นเมียหลวง เธอก็น่าจะฟังข้อเสนอของฉันหน่อยนะ”
“ฉันไม่ใช่โสเภณีอย่างพวกผีเสื้อราตรีที่แกมีไว้ขายตัวนะ ไอ้ทุเรศ” น้ำค้างสะบัดมือหนีแล้วผลักเขาจนเซ แต่ฟ้าลั่นกลับยิ้มยียวน ตอบโต้อย่างเจ็บแสบ
“แต่เท่าที่ฉันถามๆจากพวกลูกน้องของกำนันปราบ พฤติกรรมของเธอก็ออกจะสำส่อนยั่วไปทั่ว มั่วกับใครก็ได้ถ้าทำให้เธอพอใจอย่างที่ต้องการ แบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากเหล่าผีเสื้อราตรีของฉันเท่าไหร่หรอก”
“ไอ้ฟ้าลั่น!!” น้ำค้างจะตบหน้าแต่ฟ้าลั่นจับข้อมือเธอไว้หมับ “ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย”
“ฟังฉันก่อนสิน้ำค้าง ถ้าเธอยังไม่พร้อมมามั่วกับฉันอีกคนเพราะยังเกรงใจไอ้ชาติอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ฟังข้อเสนอเรื่องงานที่ฉันอยากให้เธอช่วยฉันก่อน”
“งานอะไร”
“ธุรกิจผีเสื้อราตรีของฉันไง ตั้งแต่ฉันเข้ามาที่ผาปืนแตก ฉันเห็นสาวๆที่นี่หน้าตาดีก็หลายคน ไหนๆเธอก็ช่วยให้พวกฉันเก็บกวาดพวกผู้ชายที่คิดต่อต้านจนกลัวหัวหดหมดแล้ว ไม่สนใจจะช่วยหาสาวๆมาเป็นผีเสื้อราตรีให้ฉันบ้างเลยเหรอ”
น้ำค้างชะงักไปอย่างลังเล ฟ้าลั่นมองออกรีบยั่วยุต่อไปว่า
“เป็นไง...ฟังแล้วน่าสนใจเลยใช่ไหมล่ะ รายได้จากธุรกิจนี้งามอย่าบอกใครเลย ถ้าสนใจก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ” จบคำก็ยักคิ้วให้แล้วหอมหลังมือเธอหนึ่งฟอดก่อนเดินยิ้มเรี่ยราดจากไป...
ooooooo
ทอมพักรักษาตัวอยู่ในบ้านกำนันปราบ หลังโดนวัลภาใช้เข็มยาพิษแทงเข้าที่คอจนอาการย่ำแย่ ลายเสือเป็นห่วงสหายของตน เข้ามาถามไอ้คมที่เฝ้าทอมอยู่แทบจะตลอดเวลา
“อาการไอ้ทอมเป็นยังไงบ้าง”
“มันโดนวัลภาใช้ยาพิษที่แรงที่สุดของมันเองเล่นงานเข้าไป คราวนี้อาการมันไม่น่าไว้ใจเลยครับนาย”
ทอมนอนนิ่งไม่ไหวติงบนเตียง ลายเสือเข้ามาเรียกสติแต่ทอมยังไม่รู้สึกตัว มีเพียงลมหายใจที่ได้ยินอย่างแผ่วเบา
“ถ้าเราต้องเสียมันไปก็คงน่าเสียดายนะครับนาย”
“ที่มันได้ชื่อว่าเป็นปิศาจอสรพิษ เพราะแม้แต่อาวุธชีวภาพสารพิษที่คร่าชีวิตคนตายเป็นเบือในสงครามยังทำอะไรมันไม่ได้ ครั้งนี้มันก็ต้องรอดเหมือนกัน”
“หมายความว่าต้องให้เวลามันพักฟื้นเหรอครับ”
“อืม...คนอย่างไอ้ทอมเป็นพวกหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ยิ่งมันโดนพิษเข้าร่างกายมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น”
“งั้นถ้ามันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง บางทีมันอาจจะเป็นยิ่งกว่าปิศาจอสรพิษตัวเดิม”
ลายเสือยิ้มบางๆแทนคำตอบ...ส่วนอีกห้องที่กำนันกักขังครูประสิทธิ์ไว้ เนื้อทองนำอาหารเข้ามาให้ครูหลังจากได้ยินพวกกำนันพูดกันว่าครูไม่ยอมแตะอาหารอะไรเลยตั้งแต่ถูกจับตัวมา
“เธอล่ะ เนื้อทอง...เป็นยังไงบ้าง ได้ยินพวกมันคุยกันว่าไอ้ปราบจับได้ว่าเธอหักหลังพวกมัน”
“จ้ะครู ฉันพยายามช่วยเชนให้หนีรอดออกไปได้ ก็เลยถูกพวกมันจับได้แล้วก็...” เธอมองแขนตัวเองที่มีร่องรอยถูกยิง “ดวงฉันยังแข็งจ้ะครู เจ็บนิดหน่อยแต่อย่างน้อยก็ช่วยรักษาชีวิตเชนเอาไว้ได้”
“โธ่...เนื้อทอง แล้วนี่พวกมันปล่อยให้เธอเข้ามาได้ยังไง”
“ฉันขอเข้ามาเองจ้ะครู ฉันเอาอาหารเข้ามาให้ครูกิน”
“สถานการณ์ของผาปืนแตกเป็นแบบนี้ ครูกินอะไรไม่ลงหรอกเนื้อทอง”
“แต่ถ้าครูไม่กินอะไรเลย ครูจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนสู้ต่อล่ะ”
“สู้...เนื้อทองรู้ไหมว่าพวกมันวางแผนอะไรกัน”
“พวกมันปิดตายผาปืนแตกเพื่อจับชาวบ้านไปเป็นแรงงานทาสทำเหมืองทองคำจ้ะครู”
“ใช่...ทีนี้แหละผาปืนแตกจะกลายเป็นนรกบนดินจริงๆ และก็เป็นนรกขุมที่น่ากลัวสำหรับคนเป็น”
“ครูก็พูดให้มันน่ากลัวเกินไป มันไม่ใช่นรกอะไรขนาดนั้นหรอก” กำนันส่งเสียงมาก่อนตัว ทำเอาทั้งคู่ชะงัก “เนื้อทอง ฉันให้เธอมาดูแลเรื่องอาหารการกินให้ครู แล้วทำไมถึงไม่จัดการให้เรียบร้อย”
“ข้ายอมอดตายดีกว่าต้องกระเดือกข้าวของพวกเอ็ง...ไอ้สารเลว”
“ยังปากดีอีกนะครู งั้นก็ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว” กำนันปัดจานข้าวในมือเนื้อทองกระเด็นหกเลอะเทอะ
“พ่อกำนัน...ฉันขอร้อง”
“พอได้แล้วเนื้อทอง หมดหน้าที่ของเธอแล้ว กลับไปอยู่เงียบๆ...ไป!!” กำนันขึ้นเสียง...ลูกน้องเข้ามาจับเนื้อทองอย่างรู้หน้าที่
พอลูกสะใภ้คล้อยหลัง กำนันก็เข้ามาจับหน้าประสิทธิ์บีบคางอย่างแรง
“ได้เวลาที่แกต้องไปทำหน้าที่ผู้นำชาวบ้าน ไปทำความเข้าใจกับพวกมันว่าถึงเวลาแล้วที่พวกมันต้องรู้ตัวว่าหน้าที่พลเมืองของผาปืนแตกคืออะไร”
ประสิทธิ์ไม่พอใจ จ้องมันเขม็งแววตาเกรี้ยวกราดไม่ยอม แต่กำนันกลับไม่ยี่หระ หัวเราะหึๆในลำคออย่าง เหนือกว่า
ooooooo
เชนอดรนทนไม่ไหวหลังเห็นชาวบ้านบาดเจ็บต้องมารักษาตัวกันที่ศาลาวัดตามมีตามเกิด เขาออกจากโบสถ์ไปยังอู่ร้างโดยไม่บอกวัลภา แล้วเว้าวอนน้าจิกขอใช้มอเตอร์ไซค์ที่ติดปืนกลเอาไปต่อสู้กับพวกกำนันเพื่อช่วยพ่อของตนออกมาให้ได้ พร้อมกับถล่มพวกวายร้ายให้ราบเป็นหน้ากลอง
จิกทัดทานเพราะเป็นห่วง เกรงว่าลำพังเชนคนเดียวจะไม่สำเร็จ แต่ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงเชนก็ไม่เปลี่ยนใจลุยเดี่ยวออกไปได้ครู่เดียววัลภาก็มาปรากฏตัวคาดคั้นน้าจิกเป็นการใหญ่
ที่กระท่อมหลังวัด เพลิงรู้สึกตัวแต่ไม่พบหมอเดือน เขารีบออกมาตามหาเธอด้วยความเป็นห่วง เห็นเธอเก็บผ้าอยู่หลังกระท่อมค่อยโล่งใจ
เดือนซักเสื้อผ้าของตัวเองตากไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเอาเสื้อของเพลิงมาใส่ เช้าขึ้นจึงออกมาเก็บเอากลับเข้าไปเปลี่ยน แต่แล้วเพลิงก็พูดให้เธอเสียใจ ย้ำเรื่องความรักของเราที่จบลงแล้ว...เหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาช่วยเธอก็เพราะหน้าที่ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคนรักกัน หญิงสาวเสียใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว บอกเขาว่าเธอเข้าใจแล้ว เมื่อคืนนี้ที่เธอดูแลเขาก็คือหน้าที่ของหมอคนหนึ่งที่ช่วยดูแลคนเจ็บเท่านั้น
เพลิงนิ่งอึ้ง รู้ตัวว่าทำให้เธอผิดหวังและเสียใจ แต่ไม่คิดรั้งเธอไว้ ทั้งที่เห็นเธอเดินลิ่วจากไปทั้งน้ำตา...
ที่ศาลาวัด สมานฟื้นขึ้นมาและทราบจากจ่าว่าเพลิงช่วยชีวิตเขาด้วยการให้เลือด สมานซาบซึ้งและรู้สึกดีกับเพลิงมากขึ้น แต่เรื่องจะให้เพลิงลงเอยกับเดือนยังไม่ได้อยู่ในสมองของเขาเลย
วันเดียวกันนี้ที่ตลาด น้ำค้างฉุดกระชากลากพ่อสำรวยให้เดินตามเธอมารวมกลุ่มกับพวกชาวบ้านที่พากันผูกแขนข้างหนึ่งด้วยผ้าสีดำแสดงสัญลักษณ์เป็นพวกเดียวกับกำนันปราบ
“นี่นังน้ำค้าง เลิกฉุดแขนลากข้าซะทีเถอะ ข้าไม่ได้อยากจะมาทำอะไรทุเรศๆแบบนี้นะเว้ย”
“พ่อจะพูดหาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนอีกทำไม ฉันอุตส่าห์หาทางช่วยให้พ่อไม่ต้องโดนกวาดล้างไปเหมือนคนอื่นๆนะ”
“ก็ข้าไม่เห็นด้วยกับที่พวกมันทำนี่หว่า มีอย่างที่ไหน ไล่ฆ่าคนบริสุทธิ์เป็นผักเป็นปลา ทำเหมือนกฎหมายเป็นแค่เศษกระดาษ”
“เอ๊ะพ่อนี่...เลิกพล่ามได้แล้ว เดี๋ยวใครได้ยินเข้าคราวนี้ฉันไม่ช่วยแล้วนะ”
“เอ็งไม่ต้องช่วยข้าหรอก ปล่อยให้ข้าตายไปนั่นแหละ”
“ถ้าพ่ออยากตายนักก็แกะผ้าดำที่ผูกแขนอยู่ออกเลย พวกนั้นจะได้รู้ว่าควรยิงใครทิ้ง”
“เอ็งอย่าท้าข้า”
“ไม่ได้ท้า แต่ขี้เกียจพูดให้เปลืองน้ำลาย เอาเลย ไม่กล้าใช่มั้ย งั้นฉันช่วยแกะ”
น้ำค้างทำท่าจะช่วยแกะผ้าแถบดำที่ผูกแขนพ่อ ทันใดนั้นเสียงชาวบ้านโห่ร้องต้อนรับคณะของกำนันปราบที่มาพร้อมลายเสือและลูกๆ รวมทั้งสมุนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่สำคัญเขาพาครูประสิทธิ์มาด้วยในสภาพถูกมัดมือ หน้าตาบอบช้ำร่างกายอิดโรย
“ดูเอาไว้เป็นตัวอย่างนะทุกคน ถ้าคิดจะอยู่ในผาปืนแตกต่อไป ก็มีทางเลือกให้สองทาง จะเป็นพวกเดียวกับข้าหรือจะเป็นขี้ข้าก็เลือกเอา”
สิ้นคำกล่าวของชาติ ชาวบ้านขว้างปาผักผลไม้ใส่ครูประสิทธิ์ไม่ยั้งมือ น้ำค้างแอบกระซิบเตือนพ่อให้ดูไว้และอย่าทำปากเก่ง ต้องรู้จักตามน้ำเอาตัวรอด ไม่งั้นจะโดนทำร้ายอย่างครู...สำรวยพูดไม่ออก ได้แต่มองประสิทธิ์อย่างเวทนาสงสาร
ทันใดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดกัน ก่อนที่เชนในคราบของโจรไอ้เสือจะห้อมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังกลุ่มกำนันปราบ เชนร้องบอกให้ประสิทธิ์หนีไป ตนจะถ่วงเวลาให้เอง
ขณะที่การต่อสู้ระหว่างโจรไอ้เสือกับพวกกำนันปราบเริ่มต้น ยอดวิ่งกระหืดกระหอบไปบอกเพลิงที่วัด เป็นเวลาที่วัลภาได้รับคำตอบชัดเจนจากน้าจิกแล้วว่าเชนไปทำอะไรที่ไหน?
ooooooo
ชาติกระหยิ่มยิ้มย่องที่เห็นโจรไอ้เสือมาเดี่ยว มันขับรถจี๊ปไล่บี้มอเตอร์ไซค์ของเชนอย่างบ้าระห่ำ พร้อมกับยิงปืนใส่ไม่ยั้ง แต่เชนบิดหนีฉวัดเฉวียนหลบวิถีกระสุนได้ตลอด ชาติเลยงัดอาร์พีจีประทับบนบ่า เล็งแล้วยิงออกไปทันที
ตู้ม!! เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว แต่อาร์พีจีลูกแรกพลาดเป้า...เชนบิดมอเตอร์์ไซค์หนีต่อไป แต่สุดท้ายก็จนมุมที่หน้าผาสูงชัน ไอ้เชิดขับรถจี๊ปไล่บี้มาจอด ชาตินั่งข้างๆ แสยะยิ้มแล้วบรรจุกระสุนอาร์พีจีอีกนัดก่อนก้าวลงมายืนด้วยท่าทีมาดมั่น
“ในที่สุดก็หมดทางหนีแล้วใช่มั้ยไอ้เสือ”
เชนนิ่งงัน สองมือกำแน่น แววตาแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้
“หนีอีกสิวะไอ้เสือ ความผยองของเอ็งมันมาไกลสุดก็ได้เท่านี้”
“ถึงนี่จะเป็นทางตัน เป็นทางเลือกตายสุดท้ายที่ข้าต้องเลือก แต่ก็อย่าคิดว่าความตายจะทำให้ไอ้เสือกลัว”
“ปากดีไปเถอะวะไอ้เสือ ถึงเวลาที่ข้านับถึงสามเมื่อไหร่ โอกาสที่เอ็งจะกลายเป็นเสือร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตข้าก็หมดลงเมื่อนั้น”
“พี่ชาติให้โอกาสเอ็งแล้วนะเว้ย รีบๆคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตซะไอ้เสือ”
ขาดคำไอ้เชิด...ชาติเริ่มนับหนึ่ง ตามด้วยสอง...แล้วตั้งคำถามเยาะหยัน
“ว่าไงไอ้เสือ เวลานี้เอ็งคงอยากคิดติดปีกให้ตัวเองแล้วใช่มั้ย”
“ไอ้ชาติ!!” เชนตะโกน
“หึๆๆ เห็นมั้ยไอ้เชิด สุดท้ายจอมโจรไอ้เสือที่หยิ่งผยอง พอเจอทางตันมันก็เป็นได้แค่เสือร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตข้าจนได้”
“ข้าไม่คิดจะร้องขอชีวิตจากเอ็งหรอก แต่ข้าจะให้จำคำพูดของข้าไว้ให้ดี...ความพ่ายแพ้ที่ไม่มีน้ำตาคือการรอเวลาเรียนรู้เพื่อกลับมาชนะ” พูดขาดคำ เชน ชักปืนเขี้ยวไอ้เสือออกมาเตรียมพร้อม
“งั้นเอ็งก็ไปเรียนรู้วิธีหาทางชนะพวกข้าในนรกเถอะ ไอ้เสือ”
ชาติแตะไกปืนอาร์พีจี ลูกปืนพุ่งเข้าหาจอมโจรไอ้เสืออย่างเร็ว...เสียงระเบิดดังตู้มสะเทือนเลื่อนลั่น วัลภาอยู่กับน้าจิก เธอหันขวับไปทางต้นเสียง เห็นกลุ่มควันจากระเบิดพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้ามาจากหน้าผา
วัลภารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตะโกนสุดเสียง “เชน!!” แล้วจะวิ่งออกไปแต่จิกคว้ามือเธอรั้งไว้
“อย่าวัลภา...ทำตามที่ไอ้เชนบอก...ฟังน้าก่อนนะ”
“ไม่...น้าอย่ามาห้ามฉัน ฉันไม่ยอมให้เชนเสี่ยงตายแบบนี้แน่”
“แต่ไอ้เชนมันตัดสินใจแล้ว”
“แต่มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้”
“สถานการณ์ตอนนี้มันไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้หรอกวัลภา ถ้าเอ็งรักไอ้เชน เอ็งก็ต้องเชื่อมั่นในตัวมัน”
“แล้วถ้าเขาพลาดล่ะน้า...ฉันต้องเสียเชนไปใช่ไหม...ใช่ไหมน้า”
“น้ารู้ว่าแผนการของไอ้เชนครั้งนี้มันเสี่ยง แต่น้าก็มั่นใจในตัวมัน เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะคำพูดหนึ่งที่มันพูดกับน้าและมันก็ฝากให้น้าพูดกับวัลภาด้วยเหมือนกัน”
“คำพูดอะไร”
“ความพ่ายแพ้ที่ไม่มีน้ำตาคือการรอเวลาเรียนรู้เพื่อกลับมาชนะ”
วัลภานิ่งไป น้ำตานองหน้า ขาแข้งอ่อนแทบหมดแรงยืน...เฝ้ามองไปยังกลุ่มควันที่ลอยคลุ้ง หลังจากระเบิด ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ของเชนพังยับเยินเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ล้อไปทาง ปืนกลที่ติดหน้ารถหลุดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
“ฮ่าๆๆๆ เท่านี้ก็เรียบร้อย สิ้นชื่อเอ็งซะทีนะจอมโจรไอ้เสือ” ชาติหัวเราะกึกก้องลำพองใจเป็นที่สุด
“สะใจเป็นบ้าเลยพี่ชาติ แม้แต่เศษซากศพของมันก็ไม่เหลือ”
“โดนไปขนาดนั้นมันจะไปเหลือสักชิ้นได้ยังไง เนื้อคนนะเว้ย ไม่ใช่เนื้อเหล็ก ฮ่าๆๆๆ”
“แต่ก็ยังเหลือนางสิงห์อีกคนนะพี่”
“ผัวมันตายไม่เหลือซากแบบนี้ ถ้ามันอยากมาแก้แค้นให้ผัวมันก็ขอให้มาเถอะ ข้าอยากลองขี่เสือตัวเมียดูท่าทางจะมันส์ถูกใจ”
ชาติมันมือมันเขี้ยว เดินกลับมาขึ้นรถพร้อมกับไอ้เชิดแล้วขับออกไป ทิ้งสภาพเศษซากล้อรถไอ้เสือคำรามที่ยังหมุนติ้วอยู่ท่ามกลางกลุ่มควันที่คละคลุ้งและปริศนาว่า...จอมโจรไอ้เสือสิ้นชื่อแล้วจริงหรือ?
ooooooo










