เห็นเงียบๆแต่ฮอตไม่เบา สำหรับ ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย พระเอกหนุ่มสายฮาละครรักโรแมนติก-คอมเมดี้ “ซ่อนกลิ่น” ทางช่อง 3 ของผู้จัดฯ อุ๊-พัชนี พร้อมโคจรมาร่วมงานสาว พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ ครั้งแรกแอบทึ่ง! ความกินง่าย อยู่ง่าย ไม่ยึดติดคำว่า “พระเอก” ยิ่งโตยิ่งเข้าใจชีวิต ส่วนโลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูหวาน หลังคบหาดูใจมิชิมะริสะ แฟนสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น พร้อมปฏิเสธไม่ใช่คน “คลั่งรัก” ใน “คนดังนั่งคุย”

กับละครซ่อนกลิ่นเป็นยังไงบ้าง

“สนุกดีครับ คาแรกเตอร์เรื่องนี้ไม่ได้แปลกใหม่หรอก ผมเล่นละครค่อนข้างเยอะแล้ว ภาพรวมของละครเป็นละครผีแต่ไม่ใช่ละครผี เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ คนดูจะได้รับความสนุกไปเต็มๆ เด็กกับผู้ใหญ่ 40-50 อัปอยู่บ้านน่าจะได้ดู สนุกแน่นอน”

เล่นละครเรื่องนี้ได้ปลดปล่อยตัวเองขนาดไหน “ไม่มาก เพราะยังมีความเป็นพระเอกอยู่ คนที่ได้ปลดปล่อยน่าจะเป็นน้องพรีมมากกว่า ได้เล่นอะไรแหวกฉีกกว่าเดิม ปั้นมีตบมุกบ้าง เล่นกับ อ.จตุรงค์ บางทีอยากใส่มุกแต่ไม่ได้ มันจะเลยความเป็นพระเอกไปใครเจอปั้นตัวจริงจะรู้ว่าไม่มีความเป็นพระเอกหรอก ในละครติดหล่อๆ เก๊กหน่อยๆ”

...

เรื่องนี้อีกเรื่องพระเอกเต็มตัว ไปไหนคนแซวความเป็นพระเอกบ้างมั้ย “ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นพระเอก บางทีเราเป็นตัวรอง จริงๆบทนำ บทตามไม่ได้อยู่ในวิธีคิด แค่ทำงานของเรา”

คำว่าพระเอกนี้ไม่ได้กดดันการทำงานของปั้นใช่มั้ย “ผมว่าตอนนี้นักแสดงกดดันทุกเรื่องเลยนะ ละครออกมาลุ้นเรตติ้งจะขึ้นมั้ย เวลาทำงานแล้วเรตติ้งไม่ขึ้นก็เหมือนทำงานฟรี ไม่อยากกังวล เพราะว่าอะไรจะเกิดก็เกิด บางทีละครดีก็ไม่ได้หมายความว่าคนดูจะชอบ บางทีละครเราทำเฉยๆแต่กลับประสบความสำเร็จ เราเดาใจแฟนละครไม่ถูกจริงๆ เราแค่ดูว่าเราทำแล้วสนุกนะ ตัดออกมามันโอเค เราชอบ”

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

ร่วมงานกับพรีมก็แกล้งน้องเพลินเลยสิ

“ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์และสนุกมากที่ได้ร่วมงานกับพรีม เขาเป็นเด็กน่ารักคนนึง หลังจากได้รู้จักเขาในการทำงาน เดิมทีเราไม่เคยทำงานโคจรมาเจอกัน ไม่ได้สนิทกัน ผมคิดเด็กคนนี้คงคุยด้วยยาก หนึ่งนางเอก สงสัยคงโดนสปอยล์เยอะ ต้องสวย แต่พอเจอตัวจริงไม่ใช่ เป็นเด็กสตรอง สู้ชีวิตดูแลพ่อแม่ ดูแลน้องชาย ทำงานตั้งแต่เด็ก ที่ผมประทับใจน้องเป็นคนทำงานง่าย กินง่าย ติดดิน อดทน ไม่บ่นไม่เรื่องมาก ซึ่งหลายๆปัจจัยหาข้อดีมารวมในตัวนางเอกคนนึงค่อนข้างยาก แล้วมันอยู่ที่เขา ผมบอกว่าเรื่องนี้ถ้าละครคนดูชอบ คนจะรักน้องพรีมมากขึ้น”

กับความโก๊ะกังของพรีมล่ะเป็นยังไงบ้าง “จะเป็นคนที่...จะบอกว่าไม่ห่วงสวยแต่ก็มีมุมห่วงสวยอยู่นะ ก่อนหน้าพรีมจะเล่นละครเป็นนางเอกเป็นคุณหนูมาตลอด แต่เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นคนกะเปิ๊บกะป๊าบ ตอนแรกเล่นไม่ค่อยปล่อย พอปล่อยก็เยอะไปไม่มีความพอดี แต่พอเล่นดีขึ้น บอกพรีมตลอดเวลาพรีมหัวเราะเป็นตัวเอง เวลาเผลอเล่นกับพี่ เล่นมุกกับพี่ โวยวายแบบที่พรีมเป็น โคตรน่ารักเลย ธรรม ชาติของเขาน่ารักแต่ยังไม่รู้ตัวเองว่าเวลาการทำงานไม่ต้องประดิษฐ์อะไรมาก ผสมกันยาก ให้มี ความเป็นธรรมชาติ แต่การแสดงก็ต้องประดิษฐ์นิดๆ เพราะไม่ใช่ตัวเราทั้งหมด ผสมให้พอดีๆ เขาทำได้ดีขึ้น”

กับละครเรื่องนี้ได้เรียนรู้หรือได้ทำอะไรใหม่ๆ ขนาดไหน

“ทุกครั้งในการทำงานของปั้นในเรื่องใหม่ๆ เราได้เจอนักแสดงใหม่ๆ เป็นการท้าทายทุกครั้ง พอเจอน้องพรีม ผมน่ะเป็นคนที่ผมอาจจะโชคดีที่ร่วมงานกับหลายๆคนได้ง่าย ผมอาจจะเป็นคนที่อย่างน้อยเขาไม่คุยกับผม ผมจะเป็นฝ่ายคุยกับเขาก่อน เราจะได้รู้ว่าเขาโอเคกับเรามั้ย เขาเปิดใจที่จะทำงานกับเรามั้ย คนที่ทำงานมานานเรื่องบทละครดีๆ ไม่ได้ฉีกถึงกับยากอะไรขนาดนั้น แต่การทำงานร่วมกับคนใหม่ๆ มากกว่า ในสิ่งที่เราจะต้องปรับทุกๆครั้ง และทุกๆเรื่อง เมื่อเราทำงานกับเขาได้เข้าขากัน ยิ่งดันให้ผลงานของเรามันดีขึ้นไปอีก ผมพยายามค่อยๆ ไม่ได้พยายามทำ พอค่อยๆทำเพื่อให้เขาสบายใจเวลาอยู่กับเรา ทำให้เขาเห็นเราเป็นพี่ชายให้ได้มากที่สุด เขาจะกล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าเล่นเชื่อใจเราและฟังเราบ้าง”

ช่วงนี้จะเห็นหน้าปั้น 5 วันรวดเลย ทั้งสร้อยสะบันงาและซ่อนกลิ่น มาแน่นมาก

“มาแน่นแล้วก็หายไปเลย คือทำงานมาหลายปีแต่อยู่หน้าจอ 2 เดือนจบ มองมุมที่ดีแฟนๆจะได้เห็นผมสองคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ในสร้อยสะบันงาก็จะเป็นอีกคาแรกเตอร์นึง ในซ่อนกลิ่นก็เป็นอีกคาแรกเตอร์ ถือว่าเป็นการสร้างความสุขให้คนดู 2 เรื่องในช่วงต้นปี แล้วก็จะหายไปตีกอล์ฟยาวๆ (หัวเราะ)”

งานละครของปั้นก็ยังชุกๆไม่ใช่เหรอ

“ตอนนี้ก็มีถ่ายละคร พรหมลิขิตกับสายลับลิปกลอส มีรายการยูทูบ จริงๆไม่มีอะไรมากมาย รายการเกมโชว์ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ไปออกเลย คือผมไปจริงจังเรื่องกีฬากอล์ฟด้วย รู้สึกว่าเกมโชว์ตอนนี้ผมยังไม่อยากไป แค่รู้สึกเราอยากทำงาน ถ่ายละครและทำไลฟ์สไตล์ของเรา เล่นกีฬาของเรา ไม่ได้อยากไปออกรายการเท่าไหร่ ตอนนี้อยู่แบบนี้มันนิ่งๆ และสบายใจดี พอไปรายการเยอะๆ บางทีมีโน่นนี่ ไม่ค่อยอะไร อยากจะอยู่นิ่งๆ”

กิจกรรมแน่นอยู่นะ “ใช่ครับ หลักๆผมพยายามเป็นเทิร์นโปรกอล์ฟด้วยแหละ ตอนนี้ได้สปอนเซอร์ไปแข่ง ทำได้อยากยึดเป็นงานหลักของเรา”

เป็นเพราะระยะหลังๆหันมาทำยูทูบช่องแชนแนลหรือเปล่า “ไม่ครับ เป็นแชนแนลของพิชญ์ กาไชย ผมเป็นเพื่อนมันก็เลยไปทำรายการกับมันเท่านั้นเอง ผมไม่ได้มีแชนแนลของเราเอง ถ้าผมมีคอนเซปต์อะไรจะไปบอกเขาในช่องของเขา มันก็ง่ายดีสำหรับผม ไม่ต้องไปแบกรับคอร์สที่ต้องมีพนักงาน”

อนาคตมีโอกาสเปิดเป็นช่องของตัวเองมั้ย “หลังๆปั้นค่อนข้างอยู่ตัว ไม่ได้มีเงินเยอะนะ เคยคิดทำรายการยูทูบ ถ้าเกิดทำจริงๆอยากทำเบื้องหลังเป็นฝ่ายผลิตมากกว่าเอาตัวเองไปทำ ไปขายตัวเอง เพราะหลังๆ เจออะไรมาเยอะเลยกลายเป็นคนไม่อยากมานั่งบอกเล่าว่าเราจะไปที่ไหน ใช้ชีวิตยังไง เราอยากอยู่ในมุมของเรามากกว่า”

จากกรณีโดนบูลลี่ โดนดราม่าด้วยหรือเปล่า ทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไป

“มันมีก็ผลบ้างแต่ไม่ทั้งหมด เรื่องนั้นผมเข้าใจมันแล้ว ทุกอย่างผ่านมาหลายปี แต่มีกระแสตามมาอยู่บ้าง คนเข้าใจผิดเข้าใจถูกผมไม่ได้ซีเรียสในโลกโซเชียลค่อนข้างหลากหลายแต่สิ่งที่ผมทำได้ ผมทำงานในสิ่งที่ผมเจอสื่อ ผมต้องโปรโมตละคร ผมทำหน้าที่ของผม วันนี้กลับบ้านผมนอนพัก เล่นกีฬา เรื่องข่าวคนโน้นคนนี้ผมแทบไม่เสพ ไม่อ่านเลย ผมทำหน้าที่ของผมเท่านั้น เป็นคนที่ดี เป็นลูกที่ดี เป็นนักแสดงที่ดี เป็นนักกอล์ฟที่ดี อยู่แค่นี้จริงๆ”

ความรักก็ดี๊ดี แลดูโลกกลายเป็นสีชมพูไปหมดแล้ว

“ก็ดีครับ”

เห็นชอบลงคลิปแกล้งแฟนตลอดๆ “ก็ปกตินะ แต่ปั้นไม่ได้ลงเยอะหรอก ลงให้เห็นบ้างตามประสาคนคบหากัน ลงรูปคู่ ลงสตอรีไม่ถึงกับลงทุกวัน เวลาเห็น ก็นั่นแหละไม่ได้หวานหรอก แค่เราไม่ได้ลงเรื่องทุกข์ๆ ให้คนอื่นเขาเห็น”

รักครั้งนี้ปั้นเปิดตัวมากกว่าทุกครั้งหรือเปล่า “ที่จริงมีหลายปัจจัย ปั้นทำงานในวงการ จีบคนในวงการข้อแม้มันเยอะ บางทีไม่ใช่ข้อแม้จาก
ตัวเราแต่เป็นข้อแม้จากสังคม ข้อแม้จากผู้จัดการ จากครอบครัว จากคนรอบข้าง บางทีเขาไม่ได้ตั้งข้อแม้มาหรอกแต่เรากลัวไปเอง คนจะมานั่งสัมภาษณ์อะไรหรือเปล่า ก็เลยเงียบไป พอโตๆมา บอกเลยปั้นเลือกใคร ปั้นจะคุยกับใครเขาต้องรู้ว่าธรรมชาติของเราเป็นยังไง ต้องอยู่กับเรายังไง คือเขาคบเราแน่นะ เขาต้องมาอยู่ในสปอตไลต์ด้วย ถึงแม้ว่าเราไม่อยากบอกคนทั้งโลกเรามีแฟนแล้วนะ แต่ว่ามันเป็นแพตเทิร์น ถามเรื่องละคร เรื่องแฟน อัปเดตชีวิต เราอัปเดตตามสิ่งที่สมควรจำเป็น ถ้าไม่ตอบก็ดูไม่น่ารักอีก ฉะนั้นบอกเท่าที่บอกได้ ปั้นไม่ได้ปิดอะไรและคนที่เราคบเขาก็เข้าใจ ปั้นใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป เวลาไปไหน ไปเที่ยวกันเราก็ลงรูป ผมใช้ชีวิตปกติมากๆ ไม่ได้มีอะไรมากมายกว่าคนอื่น ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ ทุกอย่างปกติ”

อายุต่างกัน 13 ปี โดนแซวโดนเด็กหลอกหรือหลอกเด็ก

“ไม่รู้อยู่ในสตอรีไหนแต่ว่ารวมๆแล้วอยู่ด้วยแล้วมีความสุข (ฮิ้ววววว)”

วัยต่างกันมีปัญหาบ้างมั้ย “อายุไม่ใช่หลักสำคัญในการคบหากัน น้องเขาเป็นผู้ใหญ่ บางครั้งเขาก็สอนเรา ฉะนั้นเป็นเรื่องของ ต่างคนผลัดกันนำ ผลัดกันตามมากกว่า ไม่ใช่ ว่าเราอายุ 35 แล้วจะรู้ไปทุกอย่าง อะไรที่เขาทำผิดหรือไม่เข้าใจ หรืออะไรที่เขายังไม่เคยผ่านเจอ ผมก็อธิบายตามประสบการณ์ที่ผมเคยเจอ เป็นตัวเลือกให้เขาระวังมากกว่าไม่ใช่ให้เชื่อ”

คบกันปีนึงมีเรื่องทะเลาะ งอนกันบ้างมั้ย “มีครับ เรื่องทะเลาะมีบ้างแต่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นเรื่องปกติแต่จะเป็นเรื่องติ๊งต๊องมากกว่า คนเราคบกันจะแคร์เรื่องความซื่อสัตย์ พอไม่มีเรื่องนั้นก็จะมีเรื่องนี้ ไม่ตีเรื่องนี้ ตีเรื่องเล็กๆน้อยๆ เหมือนลิ้นกับฟัน อยู่ด้วยกันก็ต้องมีการกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องปกติ”

มองอนาคตชีวิตครอบครัว แต่งงาน มีแว้บๆขึ้นมาในสมองบ้างมั้ย “อนาคต ณ วันนี้ปั้นไม่ได้มองไกลเลยนะ จะเป็นความรัก ครอบครัว เรื่องการใช้ชีวิตพยายามเซฟทุกอย่าง ทุกวันนี้เซฟวันต่อวัน รู้ว่าวันนี้ทำอะไร พรุ่งนี้ไม่รู้จริงๆ ตอบไม่ได้อนาคตจะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ไม่สามารถตอบได้ แต่ถามว่าทุกคนก็ตั้งใจให้มันดี อยากให้มันดีแต่ตอบไม่ได้เรื่องอนาคต”

ดูๆทัศนคติมุมมองชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ

“ก็ 35 แล้วให้มันเปลี่ยนบ้างก็ดี (หัวเราะ) พอมันเปลี่ยนไม่ใช่ทุกข์ขึ้น น่าจะเข้าใจมากขึ้น ถามว่าวันที่ผม...ที่ตัดเรื่องระบายโซเชียลจะไม่ทำ วันนี้ฉันเป็นยังไง เหนื่อยแค่ไหนไม่ทำ ทุกวันนี้จะลงไลฟ์สไตล์ของเราไป ลงอะไรแบบนั้นไป สุดท้ายไม่มีใครช่วยเราแก้ปัญหา เราต้องแก้ด้วยตัวเอง เราลงไปคนอื่นมาปั่นให้ความคิดเห็นกลายเป็นทุกข์มากขึ้นไปอีก ฉะนั้นไม่ลงไม่ฟ้องใคร ไม่อะไรใคร สุดท้ายเราแก้ปัญหาของเราเองดีกว่า”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน