สมาชิก

มาลีเริงระบำ

ตอนที่ 14

อัลบั้ม: สน ยุกต์ ประกบ แพทริเซีย กู๊ด ละครสนุกใน "มาลีเริงระบำ"

ไม่ว่าเบลจะหาจุดอ่อนของคู่แข่งขันมาตีข่าว ก็กลับเป็นผลดีให้คนนั้น ไม่ว่าเรื่องทิมมี่ ก็เคลียร์กับอดีตภรรยาได้ เรื่องหนูมาลีก็กลายเป็นการโปรโมตร้านให้รุ่งเรืองขึ้น เบลไม่ยอมแพ้ จ้างคนไปทำลายความเชื่อถือด้วยการเอะอะโวยวายว่ามีแมลงสาบในอาหารที่ร้านโรส

ทุกคนในร้านกำลังตกใจ โรสกับหนูมาลีช่วยชี้แจงลูกค้าว่าไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ทันไรเบลกับพวกเดินเข้ามาเยาะ เดี๋ยวลูกค้าต้องแฉลงอินเตอร์เน็ต ร้านนี้มีปัญหาแน่...โรสโกรธจะเล่นงานเบล หนูมาลีรั้งไว้แล้วถามเบลต้องการอะไร เบลให้ถอนตัวจากการประกวด หนูมาลีตัดสินใจตกลงทันที นีน่ากับยาหยีแปลกใจทำไมง่ายนัก

“ถ้าฉันลาออก แมลงสาบเมื่อกี้ จบไหม” หนูมาลีถาม

“จบ ถ้าประกาศอย่างเป็นทางการให้เราอัดคลิป” เบลบอกความต้องการ

หนูมาลีตกลง พาทั้งสามมานั่งเพื่ออัดคลิป...เผอิญ ทองทามาที่ร้าน โรสรีบเล่าเรื่องให้ฟัง หนูมาลีกำลังอัดคลิปประกาศว่าตนยินดีลาออกจากการแข่งขัน ทองทาเดินเข้ามาขัดว่าลาออกไม่ได้ เบลเยาะไม่ทันการณ์แล้ว ทองทาต่อว่าเบลมีคะแนนสูงอยู่แล้วจะต้องกลัวอะไร

“ก็หนูไม่ไว้ใจ ร้านบ้านี่ลงข่าวทุกวัน คนเห็นใจสองพ่อลูกมีมากขึ้นทุกที”

“โฮ้ย อีนรกส่งมาเกิด อี...” โรสแว้ดใส่

หนูมาลีปรามแล้วยอมรับว่าตนอยากลาออกเพราะไม่อยากขึ้นเวทีของคนคนนั้น พวกเบลงงหมายถึงใคร เบลต่อว่าทองทา “เบลเป็นน้องพี่นะ ถ้าเบลชนะ เบลจะเป็นดาราเป็นนักร้องในสถานีที่เป็นสมบัติของเรา ประโยชน์จะอยู่ที่พี่กับหนู พี่จะไปสนใจนังเด็กเสิร์ฟคนนั้นทำไม”

“งั้นฟังให้ดีนะ ฟังให้ชัดๆ เธอไม่ใช่น้องพี่อีกแล้ว นับจากวันนี้ เราขาดกัน”

เบลร้องกรี๊ดไม่คิดว่าพี่จะตัดขาด โรสหัวเราะเยาะ เบลยิ่งแค้นใจ สั่งนีน่าเอาคลิปไปให้ที่สถานีออกอากาศ แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าจะเอาอะไรออกอากาศต้องให้โยทะกาอนุมัติก่อน แต่วันนี้เธอไม่มาทำงาน พอดีเมืองแมนเดินเข้ามาถามมีเรื่องอะไร พอรู้เรื่องก็เรียกเบลมาบอกว่า ตนไม่อนุญาตให้เอาคลิปนั้นออกอากาศ เบลโวยวาย

“เบลต้องการชนะ และยัยนั่นเป็นตัวเก็ง พ่อต้องเอามันออก”

“พอกันทีนะเบล เลิกโกงเสียที รอบสุดท้ายนี้ แค่ตั้งใจร้องเพลงแล้วปล่อยให้การแข่งขันเป็นไปอย่างขาวสะอาด นี่เป็นคำสั่ง” เมืองแมนเสียงเข้มเด็ดขาด

เบลงงกับท่าทีของพ่อ...เมืองแมนมาสั่งจ๋าหาที่อยู่ร้านของหนูมาลี จ๋าถามจะไปทำไม เขาเสียงเข้มทันที “อนุญาตให้เป็นเมีย ไม่ได้อนุญาตให้เป็นแม่ ไปหามา”

จ๋าสะดุ้งรับคำน้ำตาคลอ รู้ว่าเมืองแมนเริ่มสนใจหนูมาลี

ooooooo

ระหว่างที่ทองทาอยู่ในห้องอัดเสียง เขาครุ่นคิดแต่เรื่องหนูมาลี จนต้องปรึกษาแซนดี้ว่ามีวิธีพูดกับหนูมาลีบ้างไหม จู่ๆเธอก็หมดไฟลาออกจากการแข่งขัน แซนดี้จึงไปหาที่ร้านโรส

ทั้งแคที่และโรสตื่นเต้นกันใหญ่ “อ๊าย! คุณแซนดี้...ดีว่าคนดังยุคเรายังเป็นสาว”

แซนดี้ยิ้มเขินๆ แคที่ค้นเทปเก่าๆมาวางให้ดูว่าตนเป็นแฟนพันธุ์แท้ ถึงขนาดแต่งหน้าแต่งตัวตามแบบเธอ หนูมาลีเดินมาสวัสดีงงๆ แซนดี้เปิดประเด็นที่มาทันที

“เสาร์นี้ทั้งสี่คนจะขึ้นคอนเสิร์ต จะมีรางวัลที่หนึ่งสองสามและรางวัลชมเชย ครูอยากฟังเหตุผล ทำไมถึงอยากลาออก”

หนูมาลีหน้าเครียด ยอมคุยกับแซนดี้และทองทา “หนูมีเหตุผลบางอย่างเรื่องคุณ...เอ้อ อย่าพูดถึงมันดีกว่าเอาเป็นว่าหนูแข่งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ความอยากที่จะชนะมันหายไปหมด”

แซนดี้ดักคอกลัวแพ้หรือ หนูมาลีย้อนถาม ทุกคนเห็นแล้วว่าเบลใช้วิธีสกปรก เธอเป็นใครอย่างไรก็ต้องชนะ แซนดี้จึงถามว่าที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพื่อการเป็นผู้ชนะหรือ

“แล้วมันไม่ใช่หรือคะ เอาชนะใจลูกค้า เอาชนะใจเจ้านาย เอาชนะใจคนดู ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ ใครอยากเป็นผู้แพ้บ้าง”

“คิดแบบนั้นคงเหนื่อยน่าดู ชีวิตจะสนุกตรงไหนกัน”

“คุณหมายความว่าไงคะ”

“เรามีชีวิตทุกวันนี้เพื่อนาทีที่ยิ่งใหญ่ต่างหาก” เห็นสีหน้าสงสัย จึงขยายความ “ก็แล้วแต่ ชนะประกวด รับปริญญา รับเงินเดือน ยืนบนหน้าผาที่ปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก อะไรก็ได้”

หนูมาลีตระหนัก...แล้วแต่ แต่ละคนแต่ละช่วงชีวิต แซนดี้พยักหน้าชี้ไปบนเวทีมีลูกค้าร้องเพลงได้ดีกว่าคนที่มาแข่งขัน แซนดี้บอกหนูมาลี “เพราะอะไรรู้ไหม เขากำลังมีนาทีที่ยิ่งใหญ่ ได้เป็นซุปตาร์ต่อหน้าเพื่อนและญาติของเขา บางทีแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...ชีวิตไม่ต้องชนะตลอดเวลา แต่ขอให้ได้เข้าร่วม ได้เป็นส่วนหนึ่งของนาทีที่ยิ่งใหญ่ ก็พอแล้ว”

ในคืนนั้น แซนดี้ขึ้นร้องเพลงนาทีที่ยิ่งใหญ่บนเวที โรส แคที่และแขกในร้านฟังอย่างปลาบปลื้ม ทองทาเข้ามาโค้ง ชวนหนูมาลีออกไปเต้นรำ เขากระซิบบอกเธอ

“ก่อนเจอหนูมาลี พี่กำลังเบื่อชีวิต พี่ประสบความสำเร็จทุกอย่างแล้ว พี่แทบไม่รู้เลยว่า พี่จะตื่นขึ้นมาทุกวันเพื่ออะไร...แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว นาทีที่ยิ่งใหญ่ของพี่ คือคนที่อยู่ตรงหน้านี่แหละ อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตนะหนูมาลี” ทองทามองอย่างซาบซึ้ง “ตอนนั้นพี่ไม่เคยเห็นภาพตัวเองเป็นครูสอนใครเลย แต่พอนานไป พี่รู้สึกสนุกและอยากแต่จะหาวิธีทำให้ลูกศิษย์ชนะ”

“ถ้าหนูเลิกพี่คงเสียใจ...” หนูมาลีใจอ่อนลง

ทองทาพยักหน้า “ปลูกต้นไม้เหมือนปลูกสร้างคน นาทีที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ดูแลต้นไม้ อยู่ที่ดูลูกศิษย์ของเราเติบโต รับปากพี่นะ...ไปแข่งรอบสุดท้าย อย่าลาออก ไปแข่งเพื่อพี่”

หนูมาลีจำนนต่อเหตุผล พยักหน้ายิ้มๆ แม้จะหวั่นใจว่าป่านนี้คลิปที่ร้านคงแพร่ไปทั่ว แต่ทองทาบอกว่าตนไม่เห็นคลิปนั้น หนูมาลีแปลกใจ...ในขณะที่เบลกับบุณฑริกบุกไปไล่จ๋าออกจากคอนโดเมืองแมน จ๋าร่ำไห้รำพันว่าเมืองแมนไม่มาหาตนสองอาทิตย์แล้ว เขาไปติดผู้หญิงใหม่ เบลสะใจ ไม่มีประโยชน์ต้องยุ่งกับจ๋าอีก บุณฑริกอยากรู้เมืองแมนไปติดผู้หญิงที่ไหน จ๋าโพล่งออกมาว่า...หนูมาลี เบลตาลุกเป็นไฟ กำมือแน่นด้วยความเดือดดาล

ooooooo

ในวันนั้น หนูมาลีตกใจเมื่อเห็นเมืองแมนมาที่ร้าน เขาทำทีว่าชอบคอนเซปต์ร้านจึงแวะมาดู และอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงลาออก หนูมาลีกำลังบอกว่าตอนนี้ไม่แล้ว แต่เขาพูดขึ้นก่อน

“ฉันไม่อนุญาต ฉันเป็นคนสั่งหยุดเผยแพร่คลิปนั้น เรื่องเบล ฉันสั่งให้หยุดทุกอย่างแล้ว ถ้าเธอกลัวแพ้ เธอไม่ต้องกลัว การแข่งขันจะต้องขาวสะอาด เธอเตรียมตัวร้องเพลงให้คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายได้เลย...อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ฉันหางานให้เธอเป็นนางเอกเอ็มวี”

หนูมาลีแปลกใจ เมืองแมนอ้างว่ารับเธอเป็นเด็กในสังกัดแล้ว ถามดีใจไหม...หนูมาลีคิดว่าคนชนะการประกวดเท่านั้นที่ได้เข้าสังกัด เขาส่งสายตาเจ้าชู้แตะมือเธอ หนูมาลีไม่ทันคิด

“เธอสวยน่ารัก มีพรสวรรค์ ฉันจะสนับสนุนเธอ” หนูมาลีดึงมือออก เมืองแมนส่งนามบัตรให้ “พรุ่งนี้ไปที่สถานีนะ เริ่มถ่ายเอ็มวีเก้าโมง แล้วนี่เบอร์ส่วนตัวของฉัน เก็บเอาไว้สิ”

หนูมาลียิ้มแหยๆรับเอาไว้....ที่มุมหนึ่ง เบลยืนมองอย่างเคียดแค้น กลับมาปรึกษานีน่ากับยาหยี เบลเข่นเขี้ยว “นังหนูมาลี แกขวางตำแหน่งที่หนึ่งของฉัน แกแย่งพี่ทองทา แกยังคิดจะมาแย่งพ่อของฉันอีก...คราวนี้แกต้องตาย”

ทั้งนีน่าและยาหยีสยองกับความโหดร้ายของเบลที่มากขึ้นทุกวัน...ขณะเดียวกัน โยทะกานั่งเศร้าเจ่าจุกอยู่ในห้องนอน สายตาเหม่อลอยไม่ได้มองทีวีที่เปิดไว้เหมือนคนอมทุกข์ ทองทาเดินเข้ามาปิดทีวี บอกให้เธอลุกขึ้นแต่งตัวไปทำงานหรือไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่นั่งอยู่แบบนี้

“พี่ไม่ได้ทานยาแล้ว อย่ากลัวเลย”

“ลดยาแล้ว หลักลอยอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานพี่ก็จะกลับไปติดใหม่ หรือไม่ก็ติดอย่างอื่น”

โยทะกาเถียงไม่ออก ขอร้องขออยู่คนเดียว แต่ทองทาไม่ยอมดึงเธอออกไปด้วยกัน เขาพาเธอมาเยี่ยมช้องนางที่โรงพยาบาลโรคจิต ให้เห็นสภาพแม่ของเขา โยทะกาหน้าเจื่อน

“แม่เป็นผู้หญิงคนแรกที่พ่อแต่งงานด้วย พ่อชอบคนอายุน้อยๆเพราะรู้สึกได้ครอบครอง แม่ก็เป็นอย่างนั้น ยอมหยุดชีวิตและความฝันทั้งหมดเพื่อเขาคนเดียว”

“เหมือนกับฉัน ทิ้งชีวิตให้เขาทั้งหมด”

“ไม่นานพ่อก็เบื่อไปคบกับแม่ของเบล”

“เขาสอนเราให้ยึดเหนี่ยวแต่เขาพอเขาทรยศโลกของเราทั้งใบก็...พังลง” โยทะกาน้ำตาซึม

ขณะที่ทองทาเล่าเรื่องของตัวเองกับแม่ เบลเองก็นั่งมองรูปถ่ายครอบครัวด้วยความแค้นที่พ่อทำให้แม่ต้องฆ่าตัวตาย...ทองทาเล่าให้โยทะกาฟังว่า พอแม่ช้องนางรู้ว่าแม่เบลท้อง แม่ก็พาเขาหนีไปต่างประเทศ แม่เบลอ่อนแอกว่า เพราะทันทีที่พ่อมีคนใหม่ เธอก็กินยาประชดรัก

“ความผิดอีกอย่างในชีวิตของฉัน คือร่วมมือกับเมืองแมนทำลายชีวิตคุณบัวบุษบา” น้ำตาโยทะกาปริ่มอย่างรู้สึกผิดมาตลอด

เช่นเดียวกับเบลที่คั่งแค้นตลอดมาว่าพ่อไม่เคยรักแม่และตน ไม่เคยรักใครเลยแล้วทำไมตนต้องรักพ่อ เบลเอาปากกาขีดบนรูปตรงหน้าเมืองแมนอย่างเกลียดชัง...

ในขณะที่ทองทาบอกโยทะกาว่า เธอกำลังจะเป็นอย่างบัวบุษบาและแม่ของเขา แม่เริ่มจากการกินยา จากนั้นก็เหล้า บางครั้งทั้งยาและเหล้า จนมันทำลายสมอง โยทะกาแปลกใจเท่าที่รู้ช้องนางหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ทำไมยังลืมความเศร้าไม่ได้ ทองทาสลดลง

“เอาออกไปจากชีวิต ออกไปจากสายตา แต่ไม่ได้เอาออกไปจากใจ ต่อให้หนีไปที่ไหน ต่อให้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ พี่ก็จะเป็นเหมือนแม่ คือไม่เคยลืมเขาเลย”

โยทะกาคิดตาม ทันใดช้องนางหันมาเห็น โวยวายหาว่าเมืองแมนพาผู้หญิงใหม่มาเยาะ พยาบาลอธิบายว่าไม่ใช่ นั่นคือทองทา โยทะกาสะท้อนใจที่ช้องนางยังไม่ลืมเมืองแมนจริงๆ...

โยทะกายอมรับกับทองทาว่า “เธอพูดในสิ่งที่ทำยากที่สุด...เอาเขาออกไปจากใจ”

“ตอนเด็ก อยู่กับคนซึมเศร้าอย่างแม่ ไม่ใช่ง่าย ผมทุ่มเทความสนใจไปที่การเรียนเต้น เรียนศิลปะทุกอย่าง ถ้าพี่ถามว่าผมประสบความสำเร็จได้ยังไง ก็ต้องตอบว่า เพราะผมไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวเลย ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ผมมีแต่การเรียนเท่านั้น”

“เธออยากให้พี่หาอะไรยึดเหนี่ยวงั้นหรือ...พี่ไม่มีแล้ว เธอก็รู้ว่า พี่ไม่มีลูกอีกต่อไปแล้ว”

“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ หนูมาลีแค่ขอเวลาทำใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพี่ต้องตัดใจจากเขาคนนั้นให้ได้ก่อน พี่พร้อมหรือยัง...ตัดใจซะแล้วเดินไปข้างหน้า ทำให้ผมเห็นให้ได้นะครับ”

โยทะกาคิดหนัก...ส่วนเบลกลับมีความคิดเลวร้ายต่อพ่อของตัวเอง เธอซื้อเบอร์มือถือจากสาวใช้ในบ้าน มาใช้ส่งข้อความหาเมืองแมน ทำทีเป็นหนูมาลีติดต่อหาเขา พร่ำว่าประทับใจในตัวเขามาก เมืองแมนหลงดีใจส่งข้อความตอบ “หนูมาลีของฉันฉลาดใช้ได้ ฉันจะพาหนูไปถึงสวรรค์ เอ๊ยถึงฝันเอง”...เบลอ่านแล้วยิ้มอย่างสะใจ ตั้งใจล้างแค้นพ่อตัวเอง

ooooooo

เช้าวันใหม่ โรสมีอาการปวดท้อง อาเจียนอย่างทรมาน หนูมาลีเข้ามาจะบอกว่าตนต้องไปสถานีถ่ายเอ็มวี โรสพยายามทำตัวปกติ ย้อนถามยอมไปที่นั่นแล้วหรือ

“แค่ทำงานหาเงิน ถ้าเจอผู้หญิงคนนั้น หนูมาลีจะหนีไม่คุยด้วย”

โรสถอนใจบ่นว่าหัวดื้อ หนูมาลีขอให้เขาไปหาหมอ แต่โรสกลับบอกว่าอยู่กับเธอเท่านั้นทำให้หายป่วย หนูมาลีสวน “เพี้ยนละ อยู่กับหมอต่างหากถึงหาย...ไปหาหมอดีกว่าไหมพ่อ”

“ไว้แกมีลูก แกจะเข้าใจ ไม่มียาอะไรทำให้เราหายป่วยเท่ากับความรัก”

หนูมาลีรู้มุกร้องฮิ้ว...พร้อมกับโรสและยกมือตีกันทั้งสองหัวเราะรับมุกกันอย่างรู้ใจ โรสดึงลูกสาวเข้ามากอดบอกว่า วันนี้จะเหวี่ยงคนที่แต่งหน้าแต่งตัวให้ลูกเสร่อๆไปติดข้างฝาเลย...

เช้าวันเดียวกัน โยทะกาเอาเอกสารการหย่ามาให้เมืองแมนเซ็น โดยไม่ขอรับสินสมรสเลย แต่กลับทำให้เมืองแมนโกรธถึงขั้นตบตีเธอ และชี้หน้าว่าเธอเป็นสมบัติของเขา หญิงสาวเลือดกบปาก สาวใช้ตกใจวิ่งมาช่วยประคองไม่เคยเห็นเจ้านายทำร้ายกันอย่างนี้

เมื่อรู้ว่างานหด พิสมัยจึงหาตารางเรียนเต้นมาให้ซีโร่เพื่อพัฒนาตัวเอง แต่เขากลับไม่สนใจ ต้องการแต่จะสร้างข่าวให้แรงกว่าเดิม ขอให้พิสมัยช่วยเช็กคิวหนูมาลี พิสมัยหน่ายใจ

ระหว่างที่หนูมาลีแต่งหน้าทำผม ทองทามาถึง ดีใจมากเมื่อรู้ว่าหนูมาลีเป็นคนมาเล่นมิวสิกวีดิโอเพลงของเขา ถามใครเป็นคนติดต่อมา เธอบอกว่าเมืองแมน เขายิ่งแปลกใจ

“หนูเจอเขาโดยบังเอิญ ท่าทางเขาโกรธเรื่องคุณเบล เขายังบอกอีกนะว่าจะไม่ให้มีการโกงในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ”

“เขาเนี่ยนะ!” หนูมาลีถามทำไม “เขาไม่เคยทำงานในรายละเอียดแบบนี้ หรือว่าเพราะพี่โยไม่ยอมมาทำงาน พี่โยอยากลาออกน่ะ”...หนูมาลีเมินหน้าหนีเมื่อได้ยินชื่อโยทะกา

ทองทาถ่ายเอ็มวีกับหนูมาลีในชุดแต่งงาน ดูเหมือนเข้าพิธีแต่งงานจริงๆ โรสนั่งมองอย่างปลาบปลื้ม สตาฟฟ์ชวนไปทานข้าว เขาตอบว่าปวดท้องไม่ทานดีกว่า สตาฟฟ์จะหายาให้ โรสกลับปฏิเสธบอกว่า ชีวิตตนอยู่ที่ลูก ไม่ใช่ที่ท้อง สตาฟฟ์อมยิ้มกับความรักของพ่อ ไม่ทันไรพิสมัยพาซีโร่มาแอบดูหนูมาลีกับทองทาที่กำลังโพสท่าสวยงาม ซีโร่เข่นเขี้ยวหาวิธีเข้าใกล้หนูมาลี

พอหมดคิวหนูมาลี เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ซีโร่โผล่เข้ามากอด หนูมาลีตกใจเพราะอยู่ในสภาพเสื้อผ้าน้อยชิ้น พิสมัยแอบถ่ายรูป หนูมาลีขอแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน

“ทำไมไล่พี่แบบนี้ล่ะ พี่ไม่ใช่หรือ คนที่หนูเคยฝันถึง วันนี้พี่อยู่ตรงหน้านี่แล้ว พี่พร้อมจะเป็นผู้ชายในชีวิตจริงของหนูมาลีแล้วไง” ซีโร่ปล้ำจะหอมแก้ม หนูมาลีร้องลั่นให้คนช่วย

โรสได้ยินรีบเปิดประตูแต่มันล็อกข้างใน จึงกระแทกประตูสองสามครั้งเปิดเข้ามาได้ เห็นพิสมัยถ่ายรูปก็โวยวาย ทำบ้าอะไรกัน แล้วลากคอซีโร่ออกจากตัวหนูมาลี ซีโร่ร้องลั่นว่าไม่ได้ทำอะไรแค่จะถ่ายรูป มีพิสมัยอยู่ด้วย โรสโมโหต่อยหน้าซีโร่เต็มๆ “บ้าทำข่าวนักใช่ไหม”

ว่าแล้วก็กระชากมือถือพิสมัยมาปาทิ้ง กระทืบจนแหลก หนูมาลีโวย “พี่เป็นบ้าไปแล้ว หนูน่าจะเชื่อพ่อ พี่เป็นแค่ภาพมายาที่ทีมงานสร้างให้ แล้วหนูนี่แหละที่มาสร้างจินตนาการต่อ อยากเป็นข่าวนักใช่ไหมได้...

หนูจะทำให้ภาพมายาของพี่สมบูรณ์แบบเลยล่ะ” หนูมาลีเดินออกจากห้องแต่งตัว ตะโกนลั่นไม่กลัวใคร “นักข่าว นักข่าวอยู่ไหน มานี่เร็วมีข่าวใหญ่...พี่ซีโร่ลวนลามหนู พี่ซีโร่ก็แค่ศิลปินหลอกลวง นักข่าวอยู่ไหน มาทำข่าวนี่เร็ว”

นักข่าวกรูเข้าสัมภาษณ์ ซีโร่หน้าซีดอยู่กับพิสมัย แซนดี้และสตาฟฟ์ยืนมองห่างๆทำอะไรไม่ถูก ทองทาวิ่งมาถามเกิดอะไรขึ้น ซีโร่กำลังปฏิเสธนักข่าวพัลวัน อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด หนูมาลีเสียงเข้มดังชัดว่า มือถือของพิสมัยและพ่อของตนจะเป็นพยานให้เขาโกหกต่อไปไม่ได้ โรสเสียงกร้าว “ไอ้ชั่ว ถ้าฉันไม่อยู่ ลูกฉันจะเป็นยังไง”

ซีโร่พลั้งปากว่าไม่ได้ทำอะไรหนูมาลี แค่ต้องการสร้างข่าว พิสมัยตีแขนพูดออกไปทำไม ซีโร่หัวเราะกลบเกลื่อนว่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น นักข่าวรุมถามกันหนักขึ้น พิสมัยช่วยแก้ต่าง แต่ไม่เป็นผล โรสยิ้มสะใจชี้หน้าว่าซีโร่กับพิสมัยเป็นภัยสังคม ทองทาแค้นใจจะเข้าเอาเรื่องซีโร่ แซนดี้รั้งไว้ แค่นี้ซีโร่ก็หมดอนาคตแล้ว จบแล้วซุปเปอร์สตาร์ซีซั่นหนึ่งที่ตนสร้างมา

เสร็จจากการให้ข่าว ทองทาเกรงพรุ่งนี้เป็นข่าวใหญ่แน่ หนูมาลีไม่แคร์อยากสั่งสอนให้หลาบจำ โรสเห็นด้วย พลันอาการปวดท้องกำเริบ เป็นลมหมดสติ หนูมาลีกับทองทาตกใจพาส่งโรงพยาบาล...บอยตามมาสมทบ ทำให้ทั้งสามได้รู้จากหมอถึงอาการป่วยของโรส หนูมาลีร้องไห้โฮ โรสฟื้นขึ้นมางงๆ บอยเข้าต่อว่า “มะเร็งขั้นสุดท้าย อยู่ได้ไม่ถึงปี ทำไมไม่บอกผม”

โรสอึ้ง ทองทาบอก หมอว่าเขาไม่ยอมรักษาเพราะต้องการเก็บเงินให้ลูกเรียน หนูมาลีร่ำไห้ “พ่อเคยว่าหนูหัวดื้อหัวแข็ง พ่อรู้หรือยังว่าหนูเอามาจากใคร”

“พ่อโอเค พ่ออยู่มาได้ตั้งหลายปี พ่อทนได้”

“ไม่ พ่อคิดผิดแล้ว พ่อไม่รู้หรอกว่าพ่อสำคัญกับเราแค่ไหน หนูกับพี่บอยเราจะอยู่ยังไง พ่อใจร้าย ใจร้ายที่สุด ปล่อยมันไว้ยังงี้ได้ไงตั้งหลายปี...พ่อเป็นทุกอย่างของหนู หนูจะอยู่ยังไง”

ooooooo

วันต่อมา ซีโร่ถูกสถานีประกาศไม่ร่วมงานด้วยอีก แซนดี้สอนว่า การเป็นซุปเปอร์สตาร์ไม่ใช่มีความสามารถอย่างเดียว ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆด้วย ซีโร่ร่ำไห้ขอโทษ แซนดี้ให้ขอโทษประชาชน แล้วค่อยกลับมาทำงานด้วยกัน แต่คงทำได้แค่เบื้องหลัง ซีโร่จ๋อยสนิท

บ่ายวันนั้น ทองทาแวะมาหาโยทะกา เห็นใบหน้าเธอฟกช้ำก็แค้นใจจะเอาเรื่องเมืองแมน โยทะกาปราม เขาจึงบอกเรื่องอาการป่วยของโรส เธอช็อก “เขาเป็นคนบอกหนูมาลีเรื่องพี่เพราะเขาต้องการให้พี่อยู่ดูแลลูกแทนเขา...นี่ไงที่ทองทาบอกพี่ หาเป้าหมายในชีวิต พี่เจอแล้ว”

ระหว่างนั้นเบลยังส่งข้อความในนามหนูมาลีหาเมืองแมนอย่างหวานแหวว อยากพบอยากเจอ ทำให้เมืองแมนสั่งจ๋าย้ายออกจากคอนโดด่วน จ๋าได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น

เมื่อทุกคนในร้านรู้เรื่องโรสก็นั่งตาแดงน้ำตาซึมกันเป็นแถว แคที่ปล่อยโฮตลอดเวลา การะเกดเดินนำอธิเข้ามาหน้าตาตื่นทั้งคู่ โรสขอร้องให้ทุกคนทำตัวปกติ แคที่โวย

“ทำไม่ได้โว้ย ไม่ใช่พระอิฐพระปูน”

สมศรีกับบุญมาติงโรสที่ไม่คิดถึงจิตใจพวกเขา ดูถูกน้ำใจพวกเขาเกินไป แคที่โพล่งขึ้น “แกก็รู้ ฉันเคยแอบรักแก ถึงวันนี้ก็ยังรักอยู่ ค่าเคมีบำบัดอะไรนั่น มันจะสักกี่ตังค์”

โยทะกาเดินเข้ามาวางนามบัตรหมอ ทองทาเดินตามมา “นี่ชื่อหมอที่ทำเคมีบำบัดเก่งที่สุด ค่าใช้จ่ายฉันออกเอง” โรสให้ไปทำรวยที่อื่น ไม่ต้องการให้หนูมาลีเป็นหนี้ต่อ โยทะกาสวน “ฉันเป็นแม่หนูมาลี ฉันไม่ยอมให้เขาเป็นหนี้หรอก”

ทุกคนในร้านตาโพลง ตะลึงเมื่อได้ยินโยทะกาบอกว่าโรสเลี้ยงลูกมาจนโต ให้ตนได้ทำหน้าที่บ้าง เป็นครั้งแรกที่หนูมาลีอ่อนลงน้ำตาไหลกุมมือพ่อเชิงขอร้อง ทุกคนช่วยกันขอร้องให้โรสไปทำเคมีบำบัด โรสสบตา ทุกคนก่อนจะยอมไป ทองทาพาโรสไปขึ้นรถ หนูมาลีขยับคุยกับโยทะกาอึกอักๆ เธอจึงบอกว่า “ไม่ต้องฝืนพูดในสิ่งที่ไม่อยากพูด ไม่อยากเรียก ไม่อยากเจอหน้าก็ไม่ต้องฝืน เราจะอยู่กันแบบนี้ ฉันทำใจได้แล้ว”

“หนู...ฝากพ่อด้วย พ่อไม่มีวันรับเงินใคร เงินพี่แคที่ เงินที่ร้าน เขาจะไม่ยอมแตะ เขาจะยอมรับเงินจากคุณคนเดียว”...โยทะกาพยักหน้ายิ้ม หนูมาลียิ้มบางๆรับสัมพันธ์อันดี

จากเรื่องโรส ทำให้การะเกดรู้ว่าชีวิตคนเราสั้น จะรักจะชอบใครไม่ควรรอช้า ตัดสินใจขึ้นร้องเพลงบนเวทีเป็นการบอกรักอธิ แต่เขาไม่เข้าใจ ชงโคอึดอัดใจตบหน้าผากอธิผัวะ เขาร้องลั่นถามตบทำไม ชงโคถอนใจ “นี่ไง ถึงต้องมีคนปากหมาอย่างฉัน เพราะมีคนโง่อย่างพี่นี่ไง ผู้หญิงเขาร้องเพลงบอกรัก ส่งสายตาจนจะถลนออกมานอกเบ้าแล้วยังไม่รู้เรื่องอีก ฮ่วย...”

อธิตาโพลงวิ่งขึ้นไปบนเวที คุกเข่ากุมมือขอบคุณที่รับรักตน ชงโครู้สึกมีความสุขไปด้วย ระหว่างที่โรสอยู่โรงพยาบาล พยายามโทร.หาบอยแต่เขาไม่ยอมรับสาย ทองทาต้องพาโรสกลับบ้านเอง พอมาถึงหน้าร้าน เห็นนักข่าวยืนคุยกับบอยอยู่ บอยบอกพวกเขาว่าโรสไม่สบายขอนัดสัมภาษณ์ใหม่ แต่โรสกลับเดินเข้ามาประกาศว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ต้องการให้สัมภาษณ์เรื่องร้านจะได้เป็นที่รู้จักมากๆในขณะที่ตัวเองยังมีแรง นักข่าวตกตะลึง บอยยิ่งเครียดและเศร้าเสียใจ

ข่าวโรสแพร่สะพัดทำให้คะแนนสงสารหนูมาลีเพิ่มสูง เบลไม่พอใจคิดแผนร้าย...โรสพยายามง้อบอย บอยต่อว่า “เขาบอกว่าเกย์ไม่มีรักแท้ แต่เราสองคนพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามี เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลามาสิบปี ไม่เคยนอกใจ ไม่เคยแม้แต่มองคนอื่น”

โรสตื้นตันใจถึงกับขอบคุณ ตนมีหนูมาลีเป็นนางฟ้าและมีบอยเป็นเทวดาในชีวิต บอยติงไม่ได้อยากเป็นเทวดา อยากเป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตคู่กัน ดูแลกันไปตลอดชีวิต แต่โรสไม่ลังเลเลยที่จะทิ้งกันไป...โรสกอดบอยบอกให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ บอยยิ่งโกรธผลักไสจากอ้อมกอด

“พี่ไปรักษาตัวแล้ว ทำให้แล้ว พี่จะพยายามสู้อย่าทะเลาะกันอีกเลยนะ พี่ทนไม่ได้เวลาบอยโกรธพี่ มันแย่ยิ่งกว่าป่วย ยิ่งกว่าตาย อย่าโกรธกันเลยนะๆ” โรสร้องไห้ บอยใจอ่อนยวบ

“อย่าตายนะ ต้องสู้นะรู้ไหม อย่ายอมตายง่ายๆอีก เพื่อผมนะ ต้องสู้เพื่อผม” บอยขอร้อง

หนูมาลีทึ่งกับคะแนนที่สูงขึ้น นี่เองคือนาทีที่ยิ่งใหญ่ แต่จิตใจมันห่อเหี่ยวเกินกว่าจะร้องเพลง โรสถือกล่องที่หนูมาลีเคยจะเปิดดูออกมาวาง ส่งกุญแจให้ มันเป็นจดหมายตลอดสิบปีที่หนูมาลีส่งมา เขาตอบไม่ถูก เลยแต่งเป็นเพลงขึ้นมา หนูมาลีซาบซึ้ง ตั้งใจจะร้องเพลงของโรสในวันประกวดครั้งสุดท้ายนี้ ทองทายิ้มให้กำลังใจพร้อมจะเทรนให้สุดชีวิต

ooooooo

มาลีเริงระบำ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด