ตอนที่ 11
อัลบั้ม: สน ยุกต์ ประกบ แพทริเซีย กู๊ด ละครสนุกใน "มาลีเริงระบำ"
ทองทาลงจากรถมาส่งหนูมาลี ทั้งสองยืนอยู่ห่างๆกันไม่ทำอะไรรุ่มร่าม โรสพยายามมองว่าทองทาจะจูบลาลูกสาวตนหรือเปล่า บอยกับแคที่ซึ่งเบียดเสียดกันแอบดู ต่างบอกว่าทองทาไม่แตะมือหนูมาลีเลยด้วยซ้ำ ไม่ทันไร เกิดเสียงร้องเพราะเหยียบเท้ากัน ทองทาหันมองงงๆ
เช้าวันใหม่ ทองทากำลังจะถ่ายแบบปก ทีมงานมุงดูหน้าจอคอม เขาคิดว่าดูแบบที่ถ่ายไปแล้ว แต่พอโยทะกาเดินมา ทีมงานรีบกดเปลี่ยนภาพ โยทะกาขอดู ทุกคนหลีกทางให้อย่างนอบน้อม เธอกดดูภาพทองทาไปเรื่อย แล้วสังเกตเห็นบางอย่างจึงกดดู เป็นหน้าเฟซบุ๊กของจ๋า โพสต์รูปกอดกับเมืองแมนริมทะเลแบบตั้งใจโชว์ โยทะกาหน้าซีดมือไม้สั่น ทนไม่ไหวลุกเดินออกไป ทองทาแปลกใจเดินมาดูพอเห็นภาพในคอมก็พอเข้าใจ เดินตามโยทะกาออกไป
เห็นโยทะกานั่งร้องไห้อยู่ ทองทาเข้ามาถามว่านั่นคือผู้หญิงคนใหม่ของพ่อหรือ เธอพยักหน้าบอกว่าเป็นเลขาคนสนิทของตนเอง ทองทาแค้นใจแทน
“ไม่เกรงใจกันเลยสินะ แล้วภาพหลุดออกมาได้ยังไง”
“รูปจากเฟซบุ๊กผู้หญิงคนนั้น เขาจงใจปล่อยภาพออกมาให้เพื่อนๆเขา ส่วนใหญ่ก็คนในสถานีนี่แหละ” ทองทาเข้าใจแล้วว่าแสดงความเป็นเจ้าของ โยทะกาเศร้าลง “เมื่อก่อนคุณเมืองแมนเชื่อพี่มาตลอด ไม่ยุ่งกับคนงาน ไม่ยุ่งกับศิลปินของบริษัท แต่เขาเหมือนยิ่งแก่ยิ่งหิว ยิ่งเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขึ้น โดยไม่ยั้งคิดว่า ผู้หญิงพวกนั้นจะมาจากไหน”
“เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น ไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไงทั้งนั้น”
“นี่เป็นสิ่งที่พี่เกลียดที่สุด การเป็นตัวตลกในบริษัทของตัวเอง”
จู่ๆเบลก็เดินเข้ามาถากถางด้วยวาจาและสายตาเชือดเฉือน “เมื่อก่อนแม่ของเบลก็โดน...คุณยายเล่าว่าคุณพ่อไปคบกับนางงามเป็นข่าวไปทั้งประเทศ เพราะนางงามคนนั้นยังอยู่ในตำแหน่ง กำลังดังสุดๆคุณแม่คงรู้สึกเหมือนคุณเวลานี้ เป็นตัวตลกของคนทั้งประเทศ”
โยทะกาน้ำตาตกบอกว่าตอนนั้นตนไม่รู้ว่าเมืองแมนมีเมียมีลูกแล้ว เบลโต้ว่ายายตามบอกตลอด โยทะกาเจ็บปวดใจมากเพราะตอนนั้นเธอพยายามเลิกแล้ว เบลตะโกนใส่หน้า
“แต่ก็เลิกไม่ได้...ทุกครั้งที่คุณเจ็บ นึกถึงแม่ของพี่ทองทาที่เป็นบ้า นึกถึงแม่ฉันที่กินยาตาย นึกเอาไว้ ผู้หญิงที่แย่งของคนอื่น สักวันก็จะถูกแย่งไปนี่คือกรรมสนอง!”
โยทะกาสะอื้นอย่างเจ็บปวด หันมองเห็นลูกน้องยืนมอง ก็ยิ่งละอาย ทองทาลากเบลออกไปบอกให้หยุดพูดได้แล้ว โยทะกาทนความอับอายไม่ไหวรีบวิ่งไปจากตรงนั้น...ทองทาต่อว่าเบลพูดแบบนี้แล้วจะได้อะไรขึ้นมา เบลว่าเป็นการเตือนสติว่าการตายของแม่ตนต้องมีค่า เบลยังบอกทองทาว่า บุณฑริกย้ำเตือนว่าพ่อไม่เคยรักใครจริง เขาใช้ประโยชน์จากลูกเมีย เราต้องใช้ประโยชน์จากเขาบ้าง ตนต้องเป็นที่หนึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์และทองทาต้องเป็นผู้บริหาร ต้องยึดสถานีเอาไว้ก่อนที่เมียใหม่ลูกใหม่ของพ่อจะมายึดเอาไป
“บ้าสิ ผลประโยชน์อะไรกัน เธอโตแล้ว หัดคิดเองบ้าง ไม่ต้องไปเชื่อยายทั้งหมดหรอก หัดเห็นใจสงสารคนอื่นบ้าง” ทองทาไม่อยากเชื่อว่าเบลจะคิดแบบนี้เอง
แต่เบลยืนกรานว่าเชื่อยาย และเตือนทองทาว่า ไม่มีใครรักพวกเรา พวกเราต้องรักตัวเอง เรามีกันสองคนพี่น้อง อย่าทรยศกัน ทองทาอึ้งที่เบลไม่มีความรักให้พ่อและใครๆแม้สักนิด
ooooooo
โรสนั่งมองเอกสารหนี้สินอย่างกลัดกลุ้ม บอยมาบอกว่าข้างบ้านโทร.มาว่านังกะทกรกเจ้าหนี้ โกรธจะพังร้านเข้าไปยึดทรัพย์สิน ถ้ายังไม่มีดอกเบี้ยให้ โรสเจ็บใจยังหาคนเช่าร้านต่อไม่ได้ ตัดสินใจจะกู้ธนาคารเอาเงินมาเปิดร้านดำเนินการเองอีกสักหน
ในขณะที่หนูมาลีมาทำความสะอาดบ้านทองทาเหมือนที่เคย ทองทาตื่นมาเจอ หญิงสาวรีบขอโทษที่ทำให้ตื่น แต่เขากลับดีใจและมองเธอเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน สายตาทองทาหยาดเยิ้มมองทรวดทรงองค์เอวของหนูมาลีอย่างผู้ชายมองผู้หญิง เขาพยายามควบคุมสติไม่ให้หนูมาลีหวาดกลัว แต่ก็อดที่จะบอกรักเธอไม่ได้ หนูมาลีก็ยอมรับว่ารักเขาเช่นกัน
หนูมาลีจัดบ้านเรียบร้อยก็ตบมือดีใจที่บ้านกลับมาสวยงามเหมือนเดิม ทองทาอดมองเธอด้วยความรักเปี่ยมล้นไม่ได้ รู้สึกทุกอย่างในตัวเธอช่างอ่อนนุ่มสวยงาม เผลอดึงเธอเข้ามากอด หนูมาลีเรียกเตือนสติ เขาสะดุ้งปล่อยเธอ “ขอโทษนะ หนูเป็นผู้หญิง พี่เป็นผู้ชาย เพราะความรักคือการให้เกียรติ พี่จะระมัดระวังมากขึ้น ท่องไว้ๆ”
พลันอธิเข้ามาในเครื่องแบบตำรวจ สีหน้าเขาดูเครียด อธิเป็นห่วงการะเกดที่เขาไม่สามารถดึงเธอกลับมาให้รักเสียงเพลงเหมือนก่อนได้ ทองทาพลอยเป็นห่วงไปด้วย หนูมาลีรู้ว่าการะเกดฝังใจกับคำพูดของวานิชตอนที่โดนข่มขืน พออธิกับทองทารู้ คิดหาวิธีช่วย
ในวันนั้น ทองทาเข้าห้องอัด เขาลองปรึกษาแซนดี้ “ครูมีวิธีแก้ไขคนที่ไม่ยอมร้องเพลงไหมครับ...คือมีคน คนหนึ่งเขารักการร้องเพลงเหมือนพวกเรา แต่แล้ววันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นเขาถูกทำร้ายทางจิตใจอย่างแรง เขาไม่ยอมร้องเพลงอีกเลย”
แซนดี้รู้สึกสงสาร ทองทาบอกว่าคนนั้นเป็นลูกศิษย์ ตน ตนทิ้งเขาไม่ได้ต้องหาวิธีให้เขากลับมาร้องเพลง แซนดี้บอกว่า “สิ่งที่สนับสนุนดนตรีคือความรัก...ให้ความรักสร้างดนตรี และให้ดนตรีสร้างความรัก เขาถึงบอกว่า สุนทรียะสร้างคนได้ ถึงได้มีวิชาดนตรีบำบัดไง”
“ผมเคยสอนให้เขารักตัวเอง รักคนอื่น”
“กับคนป่วย เราต้องเอาความรักของคนอื่นมาเยียวยา ต้องใช้ความรักของคนอื่นมาให้กำลังใจเขาทำให้เขาร้องเพลงอีกครั้ง”...ทองทาครุ่นคิดก่อนจะยิ้มพอนึกออก
ทองทาเสร็จงานตอนตีสอง เขาดุ่ยไปที่บ้านแคที่ทันที ปลุกทุกคนในบ้านตื่นมาฟังแผนการของเขาที่จะช่วยการะเกด ตอนแรกทุกคนโกรธที่มาปลุกกลางดึก แต่พอรู้ว่าเป็นเรื่องช่วยการะเกดก็ให้ความร่วมมือ ยอมกลับไปเปิดร้าน
ooooooo
รุ่งเช้า อธิลางานไปรับการะเกดที่บ้านนอก อ้างว่าโรสขอความช่วยเหลือ แต่เธอไม่เปิดมือถือ ตนจึงต้องมาหาถึงที่ อธิอ้างบุญคุณ “ตอนเกดลำบาก พี่โรสถึงกับยกร้านให้ซูซี่เพื่อหาเงินมาช่วยเกด ตอนนี้ถ้าพี่เขาขอความช่วยเหลือ เกดคงยินดีช่วยเขาใช่ไหม”
การะเกดยินดีช่วย อธิแอบยิ้มดีใจ...ด้านโรสกับหนูมาลีช่วยกันมาทำความสะอาดร้าน บอยไปรับสมศรีกับบุญมาจากต่างจังหวัด ให้มาทำครัวอย่างเดิม ทั้งสองดีใจเพราะกลับไปอยู่บ้านก็เบื่อ คันมือคันไม้อยากทำอาหารเหมือนเดิม
การะเกดมาถึง โรสกับหนูมาลีเข้าสวมกอด โรสบอกจุดประสงค์ว่า มีแฟนคลับการะเกดจ่ายเงินให้ตนจัดคอนเสิร์ตในร้าน เจาะจงให้เธอเป็นคนร้องเพลง ตนต้องการเงินมาปรับปรุงร้าน หนูมาลีช่วยพูดว่าโรสเสนอให้ตนร้องแต่เขาไม่เอา บอยทำเป็นสงสัยว่าใครกัน การะเกดหน้าตื่นไม่มั่นใจว่าตัวเองจะร้องเพลงได้อีก
สมศรีร้องเพลงไปจัดข้าวของในครัวไป หนูมาลีแซวว่าวันนี้ได้กินอาหารอร่อยแน่เพราะแม่ครัวมีความสุข บุญมาเห็นด้วยเพราะตัวเขาก็อยากกลับมาให้โรสทำร้านอีกครั้ง...หน้าร้าน มีรถปิกอัพเข้ามาจอด แคที่ให้คนยกเครื่องดนตรีที่สตูดิโอมาชุดใหญ่ บอกว่าลูกค้าฝากไว้
บอยถามว่าขอยืมมาหรือ แคที่ส่ายหน้า เขาจึงถามซื้อเลยหรือ แคที่ก็ส่ายหน้าอีกก่อนจะโพล่งออกมาว่า...
ขโมยมา ฉะนั้นช่วยกันระมัดระวังอย่าให้แตกหัก การะเกดหวั่นใจเห็นอธิขับรถเข้ามา ก็รีบวิ่งไปหาบอกว่าตนเกรงจะร้องเพลงไม่ได้ ทองทาลงจากรถอธิ
“พี่อยู่นี่แล้ว ครูเธออยู่นี่ เธอต้องร้องเพลงได้ เชื่อครูของเธอสิ ใครที่ทำให้เธอเข้ารอบ พี่จะทำให้เธอเป็นนักร้องอีกครั้งเชื่อพี่”...การะเกดมองสายตาทองทาที่ให้ความเชื่อมั่น
เหนื่อยจากการช่วยจัดร้าน ทองทานั่งพัก หนูมาลีเอาน้ำมาให้ เขารับจากมือเธอตาเชื่อม โรสกระแอมดักคอ ทองทาออกตัว “นี่ดู นิ้วหัวแม่โป้งยันนิ้วก้อย ไม่มีแม้แต่นิ้วเดียวที่แตะถึงกันเลย ขี้เล็บยังไม่มีกระเด็นถึงกันนี่ดู...ดูนี่”
โรสยักไหล่ หนูมาลีขำๆ ทันใดโยทะกาเดินเข้ามา โรสตกใจสบตาเธอ หนูมาลีกระซิบถามทองทาชวนมาหรือ เขาส่ายหน้า โยทะกาเอ่ยขึ้นว่า ผ่านมาแถวนี้ จำได้ว่าเป็นร้านหนูมาลีจึงแวะมา โรสกลบเกลื่อนเชื้อเชิญให้นั่ง ชวนทานข้าวด้วยกัน หนูมาลีรีบบอกว่าทองทาก็แวะมาทานข้าวเหมือนกัน โยทะกายิ้มอย่างยินดี
“เธอสองคนคบกัน พี่รู้ตั้งนานแล้ว ทองทาเขาบอกเป็นนัยๆบ่อยๆ...ดีจริงๆ คนที่ดูแลหนูคือทองทา ดีมากๆที่เป็นทองทา”
ทองทายิ้มเขินๆ โรสเข้าใจความรู้สึกโยทะกาว่าคงอยากเจอลูกและทองทาไม่รู้เบื้องลึก...ทองทาไปดึงการะเกดให้มาเตรียมตัว ส่งเพลงที่เลือกไว้ให้เธอซ้อมร้อง เป็นเพลงเก่าที่เธอใช้ตอนประกวด การะเกดอึ้ง
ไม่อยากร้องอีก ทองทาดักคอ
“เกดร้องไม่ได้ ยิ่งร้องไม่ได้ยิ่งต้องร้อง สิ่งที่เราทำไม่ได้ถ้าเราทิ้งไว้ พอมันเยอะขึ้นเรื่อยๆเราจะกลายเป็นคนล้มเหลว ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่เรื่องทำไม่ได้” การะเกดน้ำตาปริ่ม ทองทาเน้นย้ำ “ร้องเพลงเป็นความสุขสำหรับคนอย่างเกด ถ้าเกดกลับมาร้องเพลงไม่ได้ เกดจะกลายเป็นคนที่อ่อนแอและไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต”
การะเกดคิดตาม ทองทาถามถึงกฎข้อที่หนึ่ง การะเกดตอบว่า...ความรัก เขาพยักหน้า “ใช่...ความรัก สิ่งที่ทำให้เกดร้องเพลงไม่ได้ทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก”
การะเกดพึมพำ ความเกลียด...เกลียดคนที่ทำร้ายตน ทองทาให้ขยายคำว่าความรักให้มากกว่าความเกลียด ต้องรักตัวเอง รักเสียงเพลงและร้องมันออกมา สายตาเธอมีความหวังขึ้น
ขณะที่หนูมาลีทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ โยทะกาเข้ามาช่วยหยิบจับอย่างคล่องแคล่ว หนูมาลีตกใจไม่คิดว่าเธอทำได้ โยทะกายิ้มๆบอกว่าตนไม่ใช่ลูกคุณหนูอย่างที่เธอคิด สมัยเรียนตนก็ล้างจานในร้านอาหารไม่ต่างจากเด็กเสิร์ฟอย่างเธอ หนูมาลีทึ่งดูโยทะกาทำงานคล่องแคล่ว
“ได้ยินว่าวันนี้เป็นแค่ปาร์ตี้ ไม่ได้คิดจะกลับมาเปิดร้านหรอกหรือ” โยทะกาถาม
“เดี๋ยวคุณอยู่ทานข้าวกับเรา คุณก็จะเข้าใจเองค่ะ เราทุกคนกำลังช่วยการะเกด”
จังหวะนั้น หนูมาลีปัดฝุ่นจากชั้นปลิวเข้าหน้าไอแค่กๆ โยทะการีบเอาทิชชูช่วยเช็ดหน้าให้อย่างห่วงใย หนูมาลีจับมือเธอไว้ “ขอบคุณนะคะ คุณใจดีจัง ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯไฮโซคนอื่น อย่าว่าแต่จับเนื้อจับตัวเลย แทบไม่มองหน้าเราด้วยซ้ำ”
โยทะกาน้ำตาคลอเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสแก้มลูกด้วยมือทั้งสองข้าง “ฉันไม่ได้ทำกับทุกคน เฉพาะหนู เฉพาะหนูคนเดียว”...โรสแอบมองอยู่ห่างๆด้วยความเห็นใจ
แคที่หอบกระเป๋าเครื่องสำอางมาแต่งหน้าให้การะเกด ท่าทางการะเกดยังไม่มั่นใจตัวเองว่าจะร้องเพลงได้ แคที่กระตุ้นเมื่อก่อนยังร้องได้ ทั้งเวลาอาบน้ำ ล้างจาน ร้องตลอดเวลา แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าร้องเพลงยากได้อย่างไร การะเกดถอนใจน้ำตาปริ่ม
ขณะที่โยทะกาจัดดอกไม้ใส่แจกัน โรสเห็นไม่มีใครจึงเข้ามาคุยแบบห่างๆ หญิงสาวถามเขาโกรธหรือเปล่าที่ตนมา โรสตอบว่าตอนแรกไม่ค่อยพอใจแต่ดูๆไปเธอคงมีเหตุผล โยทะกายอมรับว่าช่วงนี้รู้สึกเหมือนชีวิตตัวเองตกอยู่ในความมืด โรสถามมีปัญหากับสามีหรือ
โยทะกาพยักหน้า “ฉันต้องการแสงสว่างจากใครสักคน แล้วทุกคนที่เป็นแสงสว่างของฉัน ทองทา หนูมาลี หรือแม้แต่เธอก็อยู่ที่นี่ ฉันก็เลยมา”
โรสพอเข้าใจว่าเธอมีความทุกข์ จึงเปรยว่า ชีวิตไม่มีคำว่าง่าย แล้วชี้ไปที่ดอกไม้รู้ว่าเธอชอบ ขอให้เธอเข้มแข็งและสวยงามเหมือนดอกไม้พวกนี้ โยทะกาหยิบดอกไม้มาทัดหู รู้สึกได้กำลังใจจากโรส ทำให้สบายใจขึ้น... ด้านทองทากำลังทานเนื้อจิ้มแจ่วที่หนูมาลีเอามาให้
เขาอดใจไม่ได้ที่จะจับมือเธอ ทันใด มีเสียงกระแอมของโรสดังขึ้น ทั้งสองสะดุ้งถอยห่างออกจากกัน
“อุ๊ย แหวกเป็นทางเชียว...กลับมาคบกันเนี่ยหวานฉ่ำสินะ วางแผนจะไปถึงไหนกันล่ะ พระจันทร์ ดาวเสาร์ ดาวพลูโต จะไปถึงไหนดี” โรสแขวะ
ทองทาโอดโอยตนไม่บังอาจ โรสว่าเตือนไว้เพราะหนูมาลียังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังเป็นสิทธิ์ของตน หนูมาลีแก้ตัวแทนว่าทองทาระวังตัว ไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทางแน่ โรสทำเสียง
“หรา...ของแบบนี้ไม่มีใครตั้งใจมาก่อนหรอกเว้ย ถึงเวลามันจะคัน มันจะออกอาการร้อนๆหนาวๆ ฮอร์โมนธรรมชาติมันจะพุ่ง มันจะเรียกร้อง จริงป่ะ...พักนี้เป็นป่ะ” โรสเอาไหล่กระแทกไหล่ทองทาเชิงถาม เขาส่ายหน้า โรสตัดบท “เอาว่าเป็นเมื่อไหร่ มาหาพี่ พี่จัดการให้”
ทองทาร้องหยึย...เอามือกุมเป้า โรสแว้ด ไม่ได้จะจัดการแบบนั้น แค่อยากให้ไว้ใจเพราะตนสนับสนุนเขา ทองทายิ้มแหะๆ...อธิไปรับแม่และน้องชายการะเกดมาที่ร้าน พาเข้าไปหาในห้องแต่งตัว เขาถึงกับตะลึงเมื่อเห็นการะเกดกลับมาสวยอีกครั้ง แม่บอกลูกสาวว่า อธิให้มาดูลูกขึ้นเวทีร้องเพลงเป็นดาราในคืนนี้ การะเกดยิ้มแห้งๆบอกแม่ว่าแค่ร้องในร้านอาหารเท่านั้น แล้วนึกได้ถามอธิว่า ใครเป็นแฟนคลับที่จ้าง ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย พามาดูเก้าอี้ที่จัดพิเศษไว้หน้าเวที สำหรับแขกคนสำคัญจะได้นั่งตรงนั้น อธิจูงการะเกดออกมายืนหน้าเวที เธอเริ่มสั่น คำพูดของวานิชผุดขึ้นในหัว อธิอยากลบความทรงจำนั้นให้เธอ จึงเตือนสติ
“จำเรื่องพลังแฝงได้ไหม มองไปข้างหน้า คนชั่ว คนเดียว เทียบไม่ได้กับคนที่รักหนูตรงนั้น ทุกๆคนมาที่นี่เพื่อหนู”
การะเกดมองออกไปเห็นแม่ น้อง โรส โยทะกา ทองทา หนูมาลีและทุกคนนั่งรอ จึงถามว่าตนต้องร้องเพลงให้แขกคนสำคัญไม่ใช่หรือ ทองทาหยิบกระจกเดินมาส่องหน้าการะเกด
“แขกคนสำคัญคือนี่ ตัวของการะเกดเอง...กฎข้อที่หนึ่งคือ รักตัวเอง รักคนอื่น...”
อธิเสริม “ความเกลียด โกรธ กลัว ให้ความรักของทุกคนในที่นี้ช่วยเยียวยาได้ไหม มีชีวิตต่อไปข้างหน้าเพื่อพวกเขา เดินออกมาจากตรงนั้นเสียทีเถอะ”
การะเกดมองหน้าโรส มองแม่และทุกๆคน พยายามข่มใจไม่นึกถึงอดีตอันเลวร้าย ร้องเพลงออกมาอย่างไพเราะ แคที่เอามือปิดปากซาบซึ้งกินใจ ทองทา อธิและหนูมาลีปลาบปลื้ม โรสมองภาพบนเวทีแล้วเปรยออกมาว่า เวทีแบบนี้ที่เป็นภาพความฝันของตน บอยเตือนว่า บางทีความฝันมันสวนทางกับความจริง เราจะไม่มีรายได้มาใช้หนี้ ต้องหนีไปหลบบ้านแคที่อีก แต่โรสกลับบอกว่าตนจะไม่หนี จะทำร้านแบบในฝันอีกครั้ง
รุ่งเช้า โรสเรียกประชุมบอกทุกคนว่าจะเอาโปรเจกต์ร้านไปขอกู้ธนาคาร แคที่แย้งว่า ทำเลร้านแบบนี้ไม่ให้กู้แน่ แต่หนูมาลีก็ดีใจที่โรสคิดจะทำร้านอาหารที่มีดนตรีไม่มีผู้หญิงนั่งดริ๊งก์อีก การะเกดแอบดีใจที่สามารถร้องเพลงอย่างมีความสุขได้ สมศรีเองก็พร้อมจะกลับมาร้องเพลงอีก สุดท้าย แคที่ตัดสินใจลงทุนให้โรสเอง ทุกคนปรบมือดีใจ...
บ่ายวันนั้น หนูมาลีมาหาทองทาที่สตูดิโอ ยินดีกับเขาที่ยอดดาวน์โหลดซิงเกิลใหม่สูง ทองทามีความสุขที่ได้ใกล้ชิดหนูมาลี บ่นเสียดายไม่ค่อยมีเวลาให้เพราะตารางงานแน่น หนูมาลีจึงบอกว่า ตนไม่เป็นซุปตาร์ก็ได้ขอเป็นผู้ดูแลซุปตาร์อย่างเขาแทน ทองทาห้าม
อย่าทิ้งความฝัน หนูมาลีรู้จากข่าวว่าตนอกตัญญู ทำให้คะแนนลดลง ทองทาให้ตั้งใจทำจนรอบสุดท้าย...ด้านเบล ยังคงวางแผนที่จะกำจัดคู่แข่งคนต่อๆไป และหวังจะทำคะแนนด้วยการออกซิงเกิลกับทองทา
ooooooo
วันต่อมา หนูมาลีมาทำงานบ้านให้ทองทาตอนเขาออกไปทำงานแล้ว เพราะโรสสอนเรื่องฮอร์โมนวัยรุ่น เมื่อวาน จู่ๆโรสก็ถามว่ารู้จักวิธีป้องกันหรือเปล่า หนูมาลีเขินบอกที่โรงเรียนสอนแล้ว โรสจึงบอกว่างั้นจะสอนวิธีทำให้ทองทารักนานๆแบบหัวปักหัวปํา
หนูมาลีทึ่งเพราะเท่าที่รู้พ่อมีแฟนแค่สองคนทำไมเชี่ยวชาญ ต่างจากแคที่ที่มีแฟนมาหลายคนแต่อกหักตลอดชีวิต บอยเข้ามาสำทับว่าเขารักโรสมากอีกต่างหาก โรสหอมแก้มบอยขอบใจ แต่ขอคุยกับลูกสาวสองคน บอยเดินหัวเราะออกไป โรสหันมาเริ่มอธิบาย
“เรื่องฉันกับแฟนฉัน มันคือความเข้าใจ แต่สำหรับลูกผู้หญิงอย่างแก มันไม่เหมือนกัน” โรสล้วงกระเป๋ากางเกง กำมือออกมาถาม อยากดูไหม หนูมาลีอยากดูแต่โรสเดินหนีไม่ให้ดู ยิ่งทำให้เธออยาก เสนอเงินแลกเปลี่ยนจากร้อยบาทไปจนถึงหนึ่งพันบาท แต่โรสก็บ่ายเบี่ยง
หนูมาลีเริ่มเหนื่อยนั่งครวญครางอยากดู โรสยอมแพ้ยื่นมือที่กำ “ของที่ปกปิดไว้ ยิ่งปิดยิ่งซ่อนยิ่งอยากรู้ อยากดู ยิ่งเขาไม่ให้ดูยิ่งอยากดู แกยอมจ่ายเงินทั้งหมดที่มีเพื่อให้ได้ดู ถูกไหม”
หนูมาลีพยักหน้า โรสแบมือว่างเปล่าไม่มีอะไร แล้วชี้แจงว่า “ของในนี้...ฉันกำลังพูดถึงสิ่งมีค่าทั้งหลาย ในตัวของผู้หญิง คิดดูสิ ฉันพูดถึงของที่ปกปิดไว้ อะไรกันแน่ ที่ผู้ชายทั้งหลายมันอยากดูที่สุด” หนูมาลีคิดตาม โรสเน้นย้ำ “ของที่ไม่ได้เห็นไม่ได้สัมผัส ราคาก็มีแต่สูงขึ้น สูงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป คราวนี้รู้หรือยัง ถ้าแกอยากให้ทองทารักมากขึ้นทุกๆวัน แกต้องทำยังไง”
หนูมาลียิ้มอายๆรับว่าเข้าใจ...เพราะเหตุนี้ หนูมาลีจึงมาทำงานบ้านทองทาเวลาที่เขาไม่อยู่ ทองทาโทร.มาบ่นทำไมไม่ให้มาตอนที่ตนอยู่บ้าน หนูมาลียิ้มอายๆไม่กล้าเล่า
เผอิญเบลแวะมาหาทองทาที่บ้าน คิดว่าคนที่ทำอะไรขลุกขลักๆในห้องนอนเป็นทองทา จึงดักจ๊ะเอ๋ แต่พอเข้าไปกอดเห็นว่าเป็นหนูมาลีก็ทำท่าขยะแขยง โวยวายว่ามาให้ท่าทองทาถึงที่
“เฮ้อ แบบที่พี่โรสบอกเลย ใครๆดูถูกเรา” หนูมาลีถอนใจ
เบลไม่พอใจเสนอเงินเป็นค่าจ้างให้เลิกยุ่งกับทองทา และลาออกจากการแข่งขัน นีน่ากับยาหยีดูแคลนว่าคงอยากได้เงิน แต่พอหนูมาลีบอกว่า ต้องการทั้งหมดที่เบลมี เบลแว้ด ยกมือขึ้นจะตบ หนูมาลีหลับตาปี๋ เบลชะงักหดมือกลับ ยาหยีถามทำไมไม่ตบ เบลบอกว่า
“ตบก็เจ็บมือ แถมไม่นานก็หาย...กรีดหน้ามันดีกว่า ทำให้มันอายคนจนขึ้นเวทีไม่ได้”
ทั้งนีน่าและยาหยีตกใจ ไม่คิดว่าเบลจะโหดขนาดนี้ หนูมาลีหน้าตื่นเห็นเบลหยิบมีดย่างสามขุมเข้ามา และสั่งเพื่อนทั้งสองจับตัวเธอไว้ เบลเข่นเขี้ยว “การแข่งครั้งนี้คือชีวิตของฉัน ฉันต้องชนะเท่านั้น ถ้าไม่เอาเงินเธอก็จะได้แผลเป็นที่หน้าแทน คิดดูนะ หน้าสวยๆมีรอยบากสักสองสามรอย พี่ทองทาก็ไม่สน ประกวดต่อก็ไม่มีใครเลือก”
“เธอมันบ้าไปแล้ว แค่การแข่งขันเป็นซุปเปอร์สตาร์เนี่ยนะ”
“เพื่อการเป็นที่หนึ่งต่างหาก ความรู้สึกแบบนี้ที่ฉันต้องการ ฉันต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันและต้องเป็นที่หนึ่งในใจพี่ชายของฉัน แต่แกขวางทางอยู่ทั้งสองอย่าง แกต้องโดน”
นีน่าจับหนูมาลีไว้แต่ชักลังเลถามยาหยีว่า ถ้าตำรวจจับจะจับแต่คนที่กรีดหรือจับเราด้วย เบลเอ็ด “อีนีน่า! พูดมากนัก จับดีๆ”
เบลเงื้อมีดจะกรีด แต่มีมือมาจับรั้งไว้ พอหันมองต้องตกใจที่เป็นทองทา เขาดึงมีดออกและผลักเบลกระเด็นไปอย่างโกรธๆ บอกนีน่ากับยาหยี “เธอสองคนร่วมทำผิด เธอไม่รอดหรอก แต่ยังดีนะรู้จักแยกแยะดีชั่ว เธอสองคนยังดีกว่าผู้หญิงร้ายกาจคนนี้” ทองทาเข้าปลอบหนูมาลี โชคดีที่วันนี้ยกเลิกกองถ่าย ตนจึงกลับบ้าน แล้วหันมาดุเบล “กล้าทำเรื่องชั่วๆเพราะถือว่ามีเงินใช่ไหม ลองอีกครั้งสิ พี่จะลากเธอเข้าคุกด้วยตัวพี่เอง”
“พี่ทองทา! พี่เป็นพี่หนูนะ พี่ไปเข้าข้างคนอื่นได้ยังไง”
“พี่ดีกับเธอเพราะสงสารเธอ เมื่อก่อนเธอเป็นแค่เด็กสาวเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้เธอหมกมุ่นกับเป้าหมายของตัวเองจนไร้มนุษยธรรม คนแบบนี้แหละที่พี่เกลียด...คนแบบพ่อ”
“พี่คลั่งนังเด็กเสิร์ฟคนนี้เข้าไปได้ยังไง จะแตะตัวมันหนูยังไม่กล้า”
“เชื่อเถอะ ถึงตอนนี้คนที่พี่ไม่กล้าแตะตัวเพราะกลัวสกปรกก็คือเธอ ไม่ใช่หนูมาลี...ออกไปได้แล้ว เราจบกันแค่นี้ ออกไป...ออกไปให้หมด” ทองทาตวาดไล่ทั้งสามคน
เบลแค้นใจที่ทองทาปกป้องหนูมาลี สะบัดหน้าออกไป นีน่ากับยาหยีวิ่งตาม...หนูมาลีโผกอด ทองทาเล่าว่าแม่ของเบลฆ่าตัวตายประชดพ่อ ยายของเบลจึงสอนแต่เรื่องความเกลียดและผลประโยชน์ให้เบลคอยช่วงชิง เบลไม่รู้จักความรัก รู้จักแต่ความเกลียด...หนูมาลีชักไม่สนุกกับการประกวดอีกแล้ว ทองทาปลอบบทเพลงสะอาดเสมอ คนต่างหากที่อยากเด่นจนทำตัวสกปรก
ooooooo
โรสมักจะมีอาการเวียนหัว อาเจียนหนักขึ้น บอยขอให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไป ซื้อยากินเองมาตลอด โดยให้เหตุผลว่า ตนไม่ได้กลัวหมอแต่กลัวเสียเงิน ถ้าคนมีลูกจะรู้สึกเหมือนตน
วันต่อมา หนูมาลีทำความสะอาดบ้านให้โรส จัดของให้เข้าที่เข้าทาง ปากก็บ่นว่าโรสไม่สบายไม่รู้จักไปหาหมอ ไม่รักตัวเองเสียบ้าง อีกหน่อยตนเรียนจบก็ช่วยหาเงินใช้หนี้ได้ พลันหนูมาลีเจอกล่องไม้ใบหนึ่งจะเปิดดู โรสปรี่มาแย่งเอาไปห้ามไม่ให้ยุ่ง หนูมาลียิ่งอยากรู้หาว่าคงเก็บโฉนดที่ดินไว้ โรสบอกว่าเป็นของสำคัญที่สุดในชีวิตเขา หนูมาลีจึงหันมาปัดฝุ่นบนโต๊ะทำงานเห็น กระดาษแผ่นหนึ่งเป็นเนื้อเพลง อ่านดูรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับตนจึงถามว่าแต่งให้ตนใช่ไหม โรสพยักหน้าหงึกๆ ปัดไม่ให้ยุ่ง หนูมาลีดีใจโผกอดหอมแก้ม โรสอึ้งรู้สึกมีความสุข
“เก็บเข้าที่ดีๆเลย ฉันจะออกไปข้างนอกละ งานเยอะแยะ”
หนูมาลีดึงกระดาษกลับมาบอกว่าขอ แล้ววิ่งหนีไป...หนูมาลีมาหาทองทาที่ห้องอัด ขอร้องให้เขาทำเพลงที่โรสแต่งออกมาให้ตนได้ใช้ร้องวันประกวด ทองทารับปากก่อนจะลุกไปทำงานต่อ ช่างแต่งหน้าอ่านข่าวบันเทิงแล้วสะกิดถามหนูมาลี เห็นข่าวทิมมี่ทำผู้หญิงท้องหรือยัง
“ทิมมี่น่ะเหรอคะ! อุ๊ย มีข่าวโกมินทร์ด้วย” หนูมาลี ตกใจเห็นอีกข่าว รีบอ่านเนื้อหา
โกมินทร์โดนข่าวว่าปลอมวุฒิปริญญาตรี ความจริงเรียนไม่จบ หนูมาลีใจหายมีข่าววันเดียวสองคน...ไม่ทันไร เบลโทร.เข้ามาหาหนูมาลี บอกให้รู้ว่าเป็นฝีมือตน ตอนนี้คะแนนโหวตของตนขึ้นมาเป็นลำดับสองแล้ว คะแนนหนูมาลียังรั้งท้าย
“คุณจ้างสื่อทำลายคนอื่น คุณมันขี้โกง” หนูมาลีต่อว่า
เบลหัวเราะเยาะให้รอดูข่าวเธอเองด้วย ทันใด ช่างทำผมวิ่งมาบอกให้หนูมาลีไปดูที่หน้าสถานี มีกลุ่มสมาคมกตเวทิตา มาถือป้ายต่อต้านเด็กอกตัญญู ให้ไล่หนูมาลีออก โยทะกาเดินรี่เข้ามาหา “อยู่นี่เอง ให้คนตามหาทั่วสถานี...อย่าไปสนใจ เรื่องพวกนี้ สถานีเราจัดการได้ มาเถอะ รถรออยู่ข้างหลังจะพาเธอออกไป ฉันบอกทองทาแล้วว่าเธอต้องกลับก่อน”
หนูมาลีรีบเดินตามโยทะกาออกไป เบลกับเพื่อนนั่งดูข่าวด้วยความสะใจ นีน่าเกรงเมืองแมนรู้จะโกรธ เบลบอกว่าทุกคนเป็นเพื่อนยาย ไม่มีใครรู้จัก พรุ่งนี้ข่าวออก จะส่งคนไปที่ร้านเพื่อเก็บภาพหนูมาลีกับพ่อ แค่นี้หนูมาลีก็ตกรอบหน้านี้แน่
ในคืนนั้น ทองทาฝันว่าหนูมาลีดื้อ มาทำงานที่บ้านตอนเขายังนอนอยู่ในห้อง โรสโทร.ตามก็ไม่ยอมกลับ ตัดสายโรสทิ้งแล้วเข้ามาหาเขาในห้องนอน นั่งข้างเตียง โน้มหน้ามาหอมแก้ม ชมว่าเขาทั้งหล่อ ทั้งเท่ จะไม่เชื่อพ่ออีกแล้ว ทองทารู้สึกตัวทำปากยื่นรอรับจุมพิตจากเธอ
แต่ความเป็นจริง อธิมาหาเข้ามานั่งข้างเตียง เห็นท่าทางทองทาก็ตกใจ “เฮ้ย! ออกไป๊ ไอ้บ้า เข้ามา อีกกูต่อยนะ...” อธิเงื้อหมัด ทองทาลืมตามาเจอร้องลั่น อธิโวย “ไอ้นี่เล่นไม่ซื่อ เพื่อนจะเล่นเพื่อนซะแล้ว ตกลงแกเป็นเกย์ใช่ไหม เอาจริงใช่ไหมจะได้จัด...”
ทองทารีบบอกว่าตนฝันแล้วถามว่าหนูมาลีไม่ได้มาที่นี่หรือ อธิส่ายหน้า ทองทาลุกขึ้นมองไปรอบห้อง ถอนใจไม่มีจริงๆ อธิแหย่ ฝันลามกจะฟ้องโรส ทองทายิ้มแหยๆ
ooooooo
ทองทาตัดสินใจมาปรึกษาโรสที่ร้าน “ผมว่าผมมีปัญหา ฟังแล้วอย่าเพิ่งด่านะ ผมยังไม่ทำอะไรหนูมาลี แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้แหะๆ เรื่องฮอร์โมนที่พี่ถามเมื่อคราวที่แล้ว ผมเป็นจริงๆ”
“อ๋อ...อาการคันตรงนั้นน่ะเหรอ...ไหนดูเด๊ะ คันมาก ไหม” โรสก้มมองเป้าทองทา
ทองทารีบกุมเป้าหันหนี “นี่ๆออกไปเลย อย่าล้อผมได้ไหมเนี่ย พี่นี่ต้องเป็นพ่อตาที่น่ากลัวที่สุดในโลก กลัวถูกตีหัวก็กลัว กลัวถูกลักหลับก็กลัว สรุปกลัวทั้งขึ้นทั้งล่อง” โรสหัวเราะร่า ดึงทองทาไปหาที่คุยเลิกแหย่
หนูมาลีเห็นสองคนลับๆล่อๆจึงเข้ามาแอบฟัง ทองทาปรึกษาโรส เมื่อก่อนตนไม่มีแฟนเพราะมุ่งมั่นกับการเรียน ซ้อมเต้น จนเหนื่อยทุกวัน โรสแย็บ ตอนนี้สมองว่าง ฟุ้งซ่าน พลังงานเหลือ ฮอร์โมนพุ่ง ทองทาพยักหน้ายอมรับ
“ก็แฟนน่ารัก สวยโคตรๆมันก็เลยยาก”
“เรื่องตัณหาราคะ เราต้องบอกตัวเอง เรื่องโทษ ของมัน...โทษมันก็คือ...” โยทะกาโผล่มาตอบแทนว่า ท้องไม่พร้อม....ทั้งโรสและทองทาตกใจ
หนูมาลีกำลังยิ้มกริ่มที่ทองทารักตน ต้องแปลกใจเมื่อเห็นโยทะกาเข้ามา โยทะกาออกตัวว่าเอาอุปกรณ์ประกอบฉากที่สถานีไม่ใช้แล้วมาให้ เพราะเห็นสภาพยังดี เอาไว้ตกแต่งร้าน...โรสพูดติดตลก ของฟรีไม่ปฏิเสธ
อยู่แล้ว ทองทาแทรก ตนอยากฟังเรื่องท้องไม่พร้อม หนูมาลีเดินเข้ามาสำทับ ตนก็อยากฟัง โรสสะดุ้งรีบปัดบอกเป็นเรื่องของทองทา แต่โยทะกาแย้ง
“ให้เขาฟังเถอะ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงต้องฟัง ทีวีอินเตอร์เน็ตบอกว่าเรื่องพวกนี้น่าสนุกสำหรับผู้ชาย เป็นเรื่องพาฝันสำหรับผู้หญิง สื่อต่างๆชวนเราฝันถึงการมีใครสักคน แต่แค่ไม่กี่นาทีที่มีความสุข มันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดชีวิต เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเรา”
“เพราะตั้งท้องใช่ไหมคะ” หนูมาลีแทรกถาม โยทะกาพยักหน้า
“สำหรับผู้ชาย คำว่าลูกผู้ชายคือความรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ที่สำคัญคือเสียสละและอดกลั้น ผู้หญิงทุกคนหวังฝากชีวิตกับผู้ชาย ชีวิตของคนที่เรารักทั้งชีวิต เราต้องเป็นผู้นำเขา เป็นที่พึ่งของเขา ไม่ใช่ทำลายเขา” โรสเสริม
“สำหรับผู้หญิง ไม่มีอนาคตไม่มีฝัน ไม่มีอิสรภาพ สิบๆปีหมดไปกับการเลี้ยงลูก หรือถ้าทำแท้ง ทิ้งลูกนั่นยิ่งเลวร้ายกว่า เพราะเราจะอยู่กับฝันร้ายทุกคืน ไม่มีเลยที่หลับไปพร้อมกับความสุขสงบ ไม่มีสักคืน” โยทะกามองหนูมาลีน้ำตาคลอ
โรสย้ำ ผู้ชายก็ไม่ต่างกัน ฝันร้ายได้เหมือนกัน แต่ถ้าเรารู้จักอดทนรอ ผลไม้ที่มีแค่ลูกเดียว กินตอนห่าม กับกินตอนสุก รสชาติมันต่างกันลิบ รักคนที่ถูกในเวลาที่ถูก ผลของมันจะมีแต่ความสุข...ทองทาคิดตาม รักคนที่ถูกในเวลาที่ถูก มันถึงจะกลายเป็นความสุข ชีวิตหนูมาลียังต้องทำอะไรอีกหลายอย่างตนรอได้ ทองทากุมมือหนูมาลีซึ้งๆ เธอยิ้มขอบคุณ...บอยยืนมองปลื้มรำพึงพ่อแม่อบรมลูกดูเป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยม บุญมาถามใครพ่อใครแม่ บอยชะงักกลบเกลื่อนเดินไปขนของ หนูมาลีชวนโยทะกาอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน เธอปลื้มปีติ
หนูมาลีขอปรึกษาโยทะกาบ้าง “คำว่าพ่อกับพี่มันต่างกันจริงๆใช่ไหมคะ”
โยทะการีบถามว่าเครียดเรื่องข่าวใช่ไหม หนูมาลีบอกว่าโรสไม่ติดใจอะไรที่เรียกพี่ แต่คนอื่นว่ามากขึ้น ตนจึงกลับมาคิดใหม่ โยทะกาให้แง่คิด “คำว่าพ่อและแม่ เหมือนความฝันของคนทั้งโลก ใครๆก็อยากได้ยิน เพราะมันหมายถึงความรักและความสำเร็จที่ยิ่งกว่าความรัก และความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต”
หนูมาลีครุ่นคิด “บางทีคงถึงเวลาจัดการบางอย่าง แล้ว ไอ้เรื่องพ่อเรื่องพี่เนี่ย คงถึงเวลา”
สีหน้าโยทะกาเหมือนจะร้องไห้ รำพันว่าตอนที่ตนอายุเท่าหนูมาลี ต้องสู้ชีวิตจนมีทุกอย่างแต่ก็มารู้ว่า เงินและเกียรติยศที่หามา ซื้อความรักไม่ได้ ตนหมดโอกาสนั้นแล้ว หนูมาลีเข้าสวมกอดปลอบให้มาเป็นครอบครัวเดียวกับตนก็ได้ โยทะการ้องไห้โฮออกมากอดหนูมาลีแน่น เพราะมันอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ได้กอดลูก “อ้อมกอด ของหนู...แค่นี้ฉันก็ตายตาหลับแล้ว”
หนูมาลีทำหน้างงๆ โรสเดินผ่านมาเห็น รู้สึกเห็นใจโยทะกามากจนคิดจะบอกความจริง...พอมีโอกาสเห็นโยทะกาเดินไปล้างมือหน้าห้องน้ำ จึงตามไปถามคุยอะไรกับหนูมาลี โยทะกาน้ำตาปริ่ม “เขาห่วงความรู้สึกเธอ ก็เลยปรึกษา เขารักเธอมาก ฉันเป็นแม่แต่ทิ้งเขาลงคอ ฉันสู้เธอไม่ได้เลย คนอย่างเธอมีความเป็นแม่เต็มเปี่ยมยิ่งกว่าผู้หญิงหลายคน”
โรสติงว่าผอมไปมากน่าจะหาความสุขใส่ตัว โยทะกา ย้อนถามความสุขอยู่ตรงไหน โรสจึงคิดจะบอกความจริงหนูมาลี ตอนนี้เขาโตขึ้นมาก ความคิดอาจจะเปลี่ยนไป สีหน้าโยทะกามีความหวังขึ้น...แต่พอโรสมาเลียบเคียงถามหนูมาลียังเกลียดแม่อยู่ไหม หนูมาลีตอบอย่างไม่ลังเล
“นับวันยิ่งเกลียด ขนาดตอนเด็กหนูยังไม่ต้องการเขา แล้วตอนนี้หนูโตแล้ว หนูเห็นชีวิตเยอะกว่าเมื่อก่อน พี่มองไปรอบๆสิ มีพ่อแม่กี่คนที่ใจร้ายทิ้งลูกตัวเอง เขาต้องเป็นคนที่ใจร้ายที่สุดเลยแหละ”...โยทะกาแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง เอามือปิดปากร้องไห้โฮทันที โรสมองอย่างสงสาร
วันเปิดร้าน ทองทาถือต้นไม้มามอบให้ โยทะกานำกระเช้ามาให้ โรสสบตาเธออย่างเห็นใจ แคที่ในชุดอลังการดาวล้านดวงเข้ามาเป็นพิธีกร โรสติงเด่นกว่านักร้องที่จัดไว้คือ สมศรี บุญมาและการะเกด จากนั้นก็เป็นแขกในร้านที่อยากร้องเพลง แคที่แอบยิ้มกับบอยอย่างมีแผน
ooooooo










