ตอนที่ 14
อัลบั้ม: ดาราวิดีโอ จับ "ตุ้ย-ขวัญ" ประกบกันอีกครั้ง ใน "ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท"
ชิดชบาไปเยี่ยมปฐวีที่เรือนจำตามคำแนะนำของตลับนาค แต่ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพ่อของเด็กในท้องเธอ แต่ต้องการจะไปดูสภาพของเขาว่าเป็นอย่างไร ทุกข์ทรมานเหมือนตอนที่เธอถูกคุมขังหรือไม่ เธอนั่งรออยู่ที่ห้องเยี่ยมญาติสักพัก เจ้าหน้าที่เรือนจำนำตัวปฐวีเข้ามา
“ฉันรู้ว่าคุณโสมสุภางค์ตายเพราะอะไร ฉันกำลังรอให้คุณคุกเข่าลงแล้วขอร้องให้ฉันพูดความจริง มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันเป็นการ...ฆ่า” ชิดชบามองเขาด้วยสายตาอาฆาต ปฐวีนิ่งไปอึดใจก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง คุณกับลูก” น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำเอาชิดชบาถึงกับอึ้ง
ครู่ต่อมา ชิดชบาออกจากเรือนจำตรงไปยังรถของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าชัยญากับถกลจับตาดูอยู่ ขณะเธอกำลังจะไขกุญแจรถ ธวัชพงษ์แย่งมันไปจากมือ ก่อนจะพยักพเยิดไปทางชัยญากับสมุนที่จอดรถซุ่มดูอยู่ แล้วอาสาขับรถให้เพื่อคุ้มครองเธอไปในตัว ชัยญากับถกลได้แต่มองตามเจ็บใจ...
เมื่อชัยยงค์รู้ข่าวชิดชบาไปเยี่ยมปฐวีถึงเรือนจำก็ร้อนใจมาก สั่งการให้ถกลบอกคนของเขาที่อยู่ในเรือนจำจัดการปฐวีให้เร็วที่สุด อย่าให้โอกาสได้แก้ต่างความผิด ชัยญาบ่นอุบ เรื่องนี้ชักจะไม่เป็นตามแผนการที่เราวางไว้ ชัยยงค์เองก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
“บ้านหลังนี้ไม่มีชื่อของโสมสุภางค์ เพราะโสมสุภางค์ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส คุณเถาว์เครือไม่รู้จะทำอย่างไร เลยย้ายกลับบ้านเดิม ตอนนี้เราทำได้แค่พยายามปกป้องตัวเอง อย่าให้ติดคุก”
“พ่อ ผมพอจะเห็นประโยชน์ที่เราจะได้จากเรื่องนี้ ดิสเครดิตของปฐวี พอเขาเป็นข่าวดัง เรื่องสร้างบ่อนพนันกลางเมืองก็ต้องยกเลิก และถ้าปฐวีเข้าคุกจริงๆ มันก็ปิดโอกาสที่เขาจะเข้าไปเล่นการเมือง”
ชัยยงค์พยักหน้าด้วยความพอใจ แม้แผนการที่วางไว้จะล่ม แต่อย่างน้อยก็ได้เล่นงานปฐวี...
คำสั่งตายไปถึงนักโทษหน้าเหี้ยมคนของถกลในเวลาอันรวดเร็ว เขารอจังหวะที่ผู้คุมพาปฐวีกลับมาแดนขัง เอาไม้แหลมที่เตรียมไว้เข้าไปยืนประจันหน้าอย่างท้าทาย ปฐวีมองตอบไม่เกรงกลัว
“ฉันรู้ว่าแกติดคดีฆ่าคนตาย แต่ฉันสาบานไว้ ถ้าเล็บฉันหักหรือผิวถลอกสักนิด คนที่อยู่นอกคุก คนที่รักแก คนที่แกรัก เดือดร้อนแน่ แกรู้นะว่าคนพวกนั้นเป็นใคร” คำขู่ของปฐวีทำให้นักโทษคนนั้นถึงกับหน้าถอดสี
ooooooo
ธวัชพงษ์พาชิดชบาไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เล่าถึงหลักฐานที่เขารวบรวมได้จากกล้องสอดแนมซึ่งติดตั้งไว้ภายในห้องพักของชัยยงค์ อาจทำให้ชิดชบาหลุดข้อสงสัยเรื่องโสมสุภางค์ แต่ยังไม่หลุดข้อกล่าวคดีฆ่าบุญถิ่น เขากับเฉวียงกำลังรวบรวมหลักฐานใหม่เพื่อยื่นต่อศาล
“ภาพกับเสียงในคลิป จะยืนยันสถานะของคุณนายเถาว์เครือว่าเป็นพวกเดียวกับพวกของนายชัยยงค์”
“ชัดเจนพอจะทำให้ศาลเชื่อได้ไหมว่าพวกมันวางแผนฆ่าบุญถิ่น”
หากหลักฐานยังไม่ชัดเจนพอ ธวัชพงษ์ยังมีปอนเป็นพยานอีกปากหนึ่งที่จะซัดทอดคนของชัยยงค์ แล้วถามเธอว่าไปเยี่ยมปฐวีทำไม เธอแค่อยากจะตอบแทนที่เขาเคยไปเยี่ยมเธอตอนที่ถูกคุมขัง ธวัชพงษ์ไม่เชื่อ คาดคั้นให้ชิดชบาบอกความจริง
“ก็ได้ ฉันมาแสดงตัวตนของคนที่ถือไพ่เหนือกว่าเขา เกมพนันเกมนี้มันเริ่มพลิก เขาเคยถือแต้มที่สูงกว่าพ่อ จนพ่อต้องเป็นฝ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ลูกของพ่อ ถือแต้มสูงสุด มันอยู่ที่ฉันจะให้ทางเลือกเขาว่าเขาจะตายแบบไหน” สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังของชิดชบา ทำให้ธวัชพงษ์แอบหวั่นใจแทนปฐวี...
ไม่ได้มีแต่นักโทษหน้าเหี้ยมเท่านั้นที่ถูกส่งมากำจัดปฐวี ยังมีนักโทษร่างยักษ์กล้ามใหญ่ราวกับก้ามปูอลาสก้าที่เป็นคนของถกล นักโทษคนอื่นๆต่างรู้งาน กรูเข้าล้อมกรอบทั้งสองคนเอาไว้กันไม่ให้ผู้คุมเห็น จากนั้น ทั้งคู่เปิดฉากต่อสู้กัน ปฐวีที่ตัวเล็กกว่าเหมือนจะเสียเปรียบ แต่กลับใช้วิชาป้องกันตัวจัดการนักโทษร่างยักษ์หมอบราบคาบ นักโทษคนอื่นๆจึงยอมศิโรราบให้เขาไปโดยปริยาย...
ขณะที่ปฐวีกลายเป็นขาใหญ่คนใหม่ของเรือนจำ ชัยญาโทร.หาอุราศรีที่เพิ่งจะเลิกงาน ทีแรกเธอลังเลที่จะรับสาย แต่พอเห็นอรุณณรงค์เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา เธอตัดสินใจรับสาย
“ค่ะ กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” พูดจบอุราศรีคว้ากระเป๋าถือออกจากห้อง อรุณณรงค์วิ่งตามจนทันกันที่ลานจอดรถ รั้งแขนเธอไว้ถามว่าจะไปไหน เธอโวยใส่จะมารั้งไว้ทำไม ชัยญาปรี่เข้ามาด้วยท่าทางยียวน
“ใช่ครับ คุณชายอรุณณรงค์ทำแบบนี้เสียภาพลักษณ์ของสุภาพบุรุษนะครับ กรุณาปล่อยคุณหญิงอุราศรี เพราะว่าวันนี้ผมขอนัดแบบเฉพาะกิจ ระหว่างผมกับคุณหญิงสองคน”
อรุณณรงค์อ้างสิทธิ์ในการเป็นคู่หมั้นของอุราศรีพร้อมกับยกมือเธอข้างที่สวมแหวนหมั้นให้ดูเพื่อยืนยันคำพูด ไม่อนุญาตให้เธอไปไหนกับชัยญาทั้งนั้น โดยเฉพาะไปผับหรือร้านเหล้าแบบที่มีบริการพิเศษผสมยานอนหลับในเหล้า แล้วดึงอุราศรีไปที่รถของเขา เพื่อพาไปส่งบ้านโดยไม่สนใจท่าทีที่ไม่พอใจของชัยญา
ooooooo
ในเมื่อโสมสุภางค์ตายจากกันไปแล้ว แพรวาจึงเก็บข้าวของกลับบ้านตัวเอง โดยไม่ลืมแวะลาชิดชบา และบอกว่าหมดหน้าที่ของตนแล้ว ส่วนเธอคงต้องอยู่ต่อไปถ้าคิดว่าเกมนี้ยังไม่จบ แล้วเตือนว่าความแค้นก็เหมือนไฟสุมอกเผาใจทุกวันทุกคืน และคนที่จะดับมันได้ก็มีแต่ตัวเธอเองเท่านั้น
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของคุณหมอ ฉันรู้ค่ะว่าฉันต้องการอะไร”
“ชิดชบา...ลูกล้างใจคุณไม่ได้เลยหรือ แกกำลังจะเกิดมาตอนที่คุณส่งพ่อของแกไปลงนรก”
ชิดชบาดักคอว่าแพรวาจะขอร้องตนเองให้การเป็นประโยชน์กับคดีของปฐวีเหมือนอย่างที่โสมสุภางค์ให้การว่าคดีของตนเป็นอุบัติเหตุใช่ไหม คุณหมอสาวก้าวมายืนประจันหน้า
“ขึ้นอยู่กับความจริงที่คุณกำมันไว้ ฉันมองตาคุณ ฉันเห็นแต่ความแค้น ไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่ความจริง” แพรวาคว้ากระเป๋าใส่เสื้อผ้าเดินจากไป ชิดชบามองตามถอนใจ แล้วหันไปดูรอบๆบ้านอันกว้างใหญ่
“ไม่ นี่คือเกม นี่เป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้บ้านหลังนี้กลับมาเป็นของฉัน มันเป็นโอกาสเดียว”...
แพรวาไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่แวะไปดูเถาว์เครือที่บ้านของฝ่ายหลัง เห็นกำลังคร่ำครวญหวนไห้ถึงการจากไปไม่มีวันกลับของลูกสาว เธอหันมาเจอคุณหมอสาวถึงกับสะดุ้ง รีบปาดน้ำตาทิ้ง ถามเสียงห้วนว่ามา ทำไม เธอเป็นห่วง รู้ว่าท่านอยู่คนเดียวก็เลยแวะมาดู
“ไม่ต้องมาให้ฉันสังเวชตัวเอง เพราะฉันจะมีชีวิตใหม่”
“คุณแม่จะมีชีวิตใหม่กับผู้ชายที่มีเบื้องหลังสารเลวคนนั้นน่ะหรือคะ นี่ใช่ไหมคะที่ทำให้คุณแม่ทะเลาะกับโสมสุภางค์วันนั้น” คำพูดแทงใจดำทำให้เถาว์เครือไม่พอใจ สั่งห้ามเธอพูดถึงเรื่องนี้อีก แพรวาแนะให้ท่านพูดความจริงต่อศาล ไม่อย่างนั้นจะต้องแบกมันไปตลอดชีวิต เถาว์เครือฟิวส์ขาดชี้หน้าตวาดลั่น
“ออกไป...ฉันบอกให้ออกไป”
ทันทีที่แพรวาลับสายตา เถาว์เครือร่ำไห้เรียกหาชัยยงค์ให้ช่วยตนด้วยอย่างคนอับจนหนทาง
ooooooo
ชัยยงค์เล่นงานถกลยกใหญ่ที่คนของเขาจัดการปฐวีไม่สำเร็จอย่างที่คุยเอาไว้ ชัยญาขอร้องพ่ออย่าเพิ่งโมโห คนอย่างปฐวีถ้าฆ่าได้ง่ายๆ ป่านนี้คงตายไปนานแล้ว ไม่อยู่มาจนมีกำลังบีบชิดชงค์ให้ฆ่าตัวตายได้
“มันไม่ได้หนังหนาไปกว่าแรดหรอก รีบฆ่าปิดปากซะ ถ้ามันออกจากคุกเมื่อไหร่ พวกเราทั้งหมดรวมทั้งคุณนายเถาว์เครือจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ในคุกแทน” ชัยยงค์หันไปชี้หน้าถกล “คดีบุญถิ่น แก่ก็ทำชุ่ยจนเด็กหนีไปอยู่ในความคุ้มครองของศาลแล้ว ฉันมองไม่เห็นเงาหัวของแกเลยนะถกล...เฮ้ย ทำไมแอร์มันร้อนยังงี้วะ”
“แอร์เสียมั้งครับนาย”
ชัยยงค์ด่าถกลเสร็จ พาลชี้หน้าด่าชัยญาว่าอย่าเสียเวลากับผู้หญิงคนนั้น หาทางส่งคนเข้าไปเก็บปฐวีจะดีกว่า ตอนนี้เถาว์เครือย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว สิ่งที่เราเคยหวังเหลือแต่ซากล้วนๆ ยิ่งบ่นก็ยิ่งร้อนมองไปที่เครื่องปรับอากาศซึ่งธวัชพงษ์ซ่อนกล้องสอดแนมเอาไว้อย่างอารมณ์เสีย
“แอร์เสียหรือ เรียกช่างแอร์มาซ่อมสิวะ”
ธวัชพงษ์ซึ่งกำลังดูภาพจากกล้องสอดแนมที่อยู่ในห้องของชัยยงค์ผ่านทางมือถือตัวเองเห็นท่าไม่ดี รีบยัดมือถือใส่กางเกง แล้วถอดเสื้อคลุมช่างออก เตรียมจะหนี ชัยญาและถกลเดินออกจากลิฟต์เห็นเขาพอดี จำได้ว่าเป็นนักข่าว ชัยญาเอะใจ หรือว่าแอร์เสียเพราะฝีมือไอ้หมอนี่ สั่งถกลจับตัวมาให้ได้ ธวัชพงษ์เผ่นแน่บไปยังอาคารจอดรถ โดยมีทั้งคู่ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ แต่เขาไวทายาดหนีรอดไปได้...
ทางฝ่ายชิดชบาเข้ามาในห้องงานปั้นด้วยความสับสน สำนึกผิดถูกต่อสู้กันภายในใจอย่างรุนแรง เพราะรู้ดีว่าปฐวีไม่ได้ฆ่าโสมสุภางค์ ตลับนาคเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง เพราะได้ข่าวมาว่าคดีของเธอมีแนวโน้มดีขึ้น ยังเหลือแค่คดีของบุญถิ่นเท่านั้น ชิดชบาคงต้องฝากความหวังไว้กับหลักฐานที่ธวัชพงษ์กำลังหาอยู่
“หนูเป็นหนี้บุญคุณธวัชพงษ์ ถึงโลกใบนี้จะบัดซบยังไง โลกก็ยังมีเพื่อนอย่างธวัชพงษ์ หนูถึงบอกคุณป้าไงคะว่า หนูฝากความหวังไว้กับเขา”...
ด้านธวัชพงษ์ไม่รู้จะไปไหน จึงหนีไปกบดานที่อพาร์ตเมนต์ของแพรวาพร้อมด้วยรอยถลอกที่หน้าอกจากการหนีการไล่ล่าของชัยญากับสมุน เจ้าของห้องพักเปิดประตูเข้ามาเห็นเขายืนเปลือยอกซับเลือดอยู่ในห้องน้ำ ถึงกับอุทานด้วยความตกใจ...
แค่ไม่กี่วัน ปฐวีกลายเป็นคนที่นักโทษคนอื่นให้ความยำเกรง และเป็นที่สนใจ ทุกคนต่างมานั่งล้อมวงฟังเขาเล่าเรื่องราวในอดีตสมัยที่เขายังอายุไม่ถึงยี่สิบปี มีเงินติดกระเป๋าอยู่ไม่กี่บาทตอนที่ไปมาเก๊า เขาโชคดีได้ทำงานในบ่อนกาสิโน เห็นอะไรมากมายที่นั่น เช่นเห็นคนรวยแล้วก็จนในพริบตา คนที่ผีพนันเข้าสิงชีวิตจะถูกทำลาย คนพวกนี้ขายได้ไม่เว้นแม้แต่ลูกและเมียที่ตนเองรักที่สุด
“หลายปีในบ่อนกาสิโน ทำให้ฉันรู้ว่า บ่อนพนันคือที่ที่ชั่วร้ายที่สุดของมนุษย์”
ooooooo
แพรวายื่นแก้วกาแฟให้ธวัชพงษ์ซึ่งนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ก่อนจะไล่ให้ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย เขาแกล้งบอกว่าตนเองไม่ถือ เธอแว้ดใส่ทันทีว่าเธอถือ ชายหนุ่มขอโทษเธอด้วยที่แอบเข้ามาในห้องพักของเธอโดยพลการ เพราะไม่รู้จะหนีไปไหน ขืนกลับไปห้องเช่าตัวเอง พวกนั้นต้องตามไปฆ่าเขาแน่ๆ
“คุณก็เลยมาที่นี่ ใช้กุญแจปีศาจไขเข้ามาในห้องของฉัน”
“ผมก็ไม่ได้รบกวนอะไรคุณหมอนี่ครับ ขอแค่อาบน้ำ ทำแผล ผมกลัวบาดทะยัก ผมได้หลักฐานมาเพียบ มากพอจะกล่าวหานายชัยยงค์กับพวกเรื่องฆ่าบุญถิ่น แต่ต้องโยงคุณนายเถาว์เครือเข้าไปด้วย ผมจะเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ในที่ที่ปลอดภัย ก่อนจะส่งให้ทนายเฉวียง”
“ก็...ก็ดี ไหนให้ฉันดูแผลของคุณหน่อย” แพรวาหยิบอุปกรณ์ทำแผลจากลิ้นชักแล้วล้างแผลให้ ธวัชพงษ์ซึ่งก้มมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนโดยเขาเองก็ไม่รู้ตัว...
ฝ่ายชัยยงค์ฉุนขาดที่ถกลปล่อยให้ธวัชพงษ์หนีรอดไป ตบเขาฉาดใหญ่จนเซถลา แล้วจะตามเข้าไปซ้ำ ชัยญาถลันเข้ามาห้ามเลยถูกตบไปด้วยถึงกับหน้าหัน ชัยยงค์ด่าซ้ำว่าไม่เอาไหน ใช้ให้ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่าง จะให้ทั้งคู่แก้ตัวอีกครั้ง รีบไปล่าตัวไอ้นักข่าวคนนั้นแล้วบีบเอาหลักฐานทั้งหมดมาให้ได้
“จากนั้น...แกรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร อย่าให้พลาดอีก เพราะหลักฐานจากกล้องนั่น มันโยงเราเข้าคุกได้ทุกนาที” สิ้นเสียงชัยยงค์ มีเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น ชัยญาเดินไปเปิดประตู เห็นเถาว์เครือยืนอยู่ถึงกับของขึ้นเพราะอารมณ์ค้างจากถูกพ่อเล่นงานเมื่อครู่ ผลุนผลันออกจากห้องโดยมีถกลตามติด เธองงว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ทันจะถามอะไรชัยยงค์ กลับถูกเขาปิดประตูใส่หน้า เถาว์เครือได้แต่ยืนตะลึง...
ขณะที่ความเครียดถาโถมเข้าใส่สองพ่อลูกจอมโฉด ตลับนาคเป็นห่วงหลานรักที่แทบจะไม่แตะต้องอาหารที่มีประโยชน์ กินแต่ของหมักของดอง จึงแนะให้ไปหาหมอ อย่าปล่อยไว้แบบนี้อีกเลย ยิ่งวันอาการแพ้ท้องยิ่งหนักข้อขึ้น ชิดชบาอ้างว่าไม่ได้เป็นอะไร
“ชิดชบา บอกว่าไม่เป็นอะไรๆมากี่ครั้งแล้วๆ
ดูสิอีบักอีโรยเหลือทน ไปหาหมอเถอะ เรื่องของหนูกับปฐวีเอาไว้ก่อน เรื่องลูกสำคัญกว่า นี่ถ้าปฐวีติดคุก หนู...”
“หนูก็คงจะรอดเพราะเป็นพยานสำคัญชี้ ความผิดเขา แต่คุณป้าอย่ากลัวไปเลยค่ะ การเอาคนเข้าคุก ไม่ใช่เรื่องง่าย แค่คำกล่าวหาของคุณนายเถาว์เครือ คงไม่มีน้ำหนัก เพราะว่า...” พูดยังไม่ทันจบ ธวัชพงษ์ โทร.เข้ามือถือของชิดชบาเสียก่อน
“ผมได้หลักฐานคดีฆ่าบุญถิ่นมาแล้ว ผมจะส่งให้ทนายเฉวียงชุดหนึ่ง แล้วเอาไปเก็บไว้ในเซฟธนาคารอีกชุดหนึ่ง นี่ผมกำลังจะไปธนาคาร ผมทิ้งรถไว้ที่อู่” ธวัชพงษ์กำลังลงจากสะพานลอยคนข้ามมุ่งหน้าไปยังศูนย์การค้าซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคาร ถกลขับรถมาตามถนนเห็นเขาพอดี สะกิดให้ชัยญาดู แล้วรีบเบนรถจอดข้างทางชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม ธวัชพงษ์เห็นทั้งคู่ก็ชะงัก บอกชิดชบาว่าแค่นี้ก่อน แล้วปิดมือถือวิ่งหนี ชัยญากับถกลจะยิงก็ไม่ถนัดเพราะผู้คนเดินกันขวักไขว่ จำต้องเก็บปืน ก่อนจะวิ่งตาม
ชิดชบาใจคอไม่ดีเพราะเสียงของธวัชพงษ์ตื่นๆ ชอบกล เกรงเขาจะเป็นอันตราย แต่ดวงยังไม่ถึงฆาต ธวัชพงษ์หนีรอดจากการไล่ล่าของชัยญาและถกลไปได้อีกครั้งหนึ่ง...
ขณะที่ธวัชพงษ์หลบหนีมาได้อย่างหวุดหวิด ทนายของปฐวีมาเข้าพบเพื่อเสนอทางออกเรื่องคดีให้ โดยให้เขาทำข้อตกลงกับชิดชบา ปฐวีส่ายหน้าหนักใจ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ
“คุณกับคุณชิดชบากำลังจะมีลูกด้วยกัน แล้วคุณชิดชบาก็เป็นพยานปากสำคัญที่ยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณได้ สังคมจะคิดอย่างไรก็ช่างเถอะ แต่ผมขอแนะนำให้คุณใช้วิธีนี้ อาจเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ศาลยกฟ้อง”
ปฐวีคิดไม่ตก ควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี...
ชิดชบานั่งไม่ติดเป็นห่วงความปลอดภัยของธวัชพงษ์ซึ่งเงียบหายไปตั้งแต่บ่ายยันค่ำยังไม่เห็นโทร.มาบอกข่าวคืบหน้า ตลับนาคได้แต่ภาวนาอย่าให้มีใครตายเพราะเรื่องนี้อีกเลย ชิดชบาเห็นด้วย ยิ่งเห็นธวัชพงษ์เอาตัวเข้าเสี่ยงอันตรายก็ยิ่งเป็นห่วง ตอนนี้ชัยยงค์เหมือนหมาจนตรอกที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง
“เขาคงจะไม่ยอมตายง่ายๆหรอก อาจจะหนีไปแล้ว นึกออกไหมว่าเขาจะหนีไปไหน”
“ไม่ค่ะ หนูนึกไม่ออกว่าเขาจะหนีไปไหน”...
ธวัชพงษ์ไปโผล่ที่แถวเจดีย์เก็บอัฐิพ่อกับแม่ของปฐวีเพื่อเอาคลิปหลักฐานไปซ่อน เจ้าอาวาสเห็นเงาคน ก้มๆเงยๆอยู่ตรงเจดีย์ท่ามกลางความมืด ออกมาส่องไฟฉายดู พอเห็นหน้าชัดๆจำเขาได้ ถามว่ามาทำอะไรแถวนี้ ธวัชพงษ์จำต้องมุสาว่ากำลังจะไปหาท่าน แต่หลงทิศเสียก่อน เจ้าอาวาสทักท้วง เคยมากุฏิของท่านแล้วทำไมยังหลงอีก แล้วนั่นเป็นเจดีย์เก็บอัฐิพ่อแม่ของปฐวีไม่ใช่หรือ ธวัชพงษ์ถึงกับทำหน้าไม่ถูก แก้ตัวว่าพอดีผ่านมาก็เลยแวะมาไหว้
“เที่ยงคืนยังงี้น่ะหรือ โยม”
ooooooo
อรุณณรงค์ไม่เปิดโอกาสให้ชัยญามาข้องแวะกับคู่หมั้นหมาดๆของตัวเอง รีบขับรถมารับเธอไปทำงานแต่เช้า เนื่องจากเมื่อวานเธอต้องจอดรถไว้ที่กระทรวงเพราะเขา ดังนั้นเขาจึงต้องรับผิดชอบพาเธอไปทำงานด้วย แล้วออกตัว ถึงเขาจะไม่ใช่นักแข่งรถ หรือนักกอล์ฟตัวฉกาจ แต่เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิง
“คุณชายรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คุณชายกำลังกล่าวหา เขาเป็นคนชนิดนั้น” อุราศรีเถียงแทนชัยญา
“ผมสืบประวัตินายชัยญา ถามคนนั้นคนนี้ว่าเป็นใครไปมายังไง ผมก็เลยไม่เสี่ยงให้เขาเข้าใกล้คู่หมั้น ผมไม่ใช่นักพนัน ผมไม่เอาชีวิตผมแลกกับคนชั่ว อยู่ห่างๆคนพวกนี้ไว้เราจะไม่เดือดร้อน...เชิญ”
อุราศรีขึ้นรถของอรุณณรงค์ด้วยท่าทีปั้นปึ่ง จากนั้น รถเคลื่อนออกไปช้าๆ สวนกับรถของชัยญาที่แล่นเข้ามา เขาเหลียวมองตามด้วยความขุ่นเคืองที่ถูกอรุณณรงค์มารับอุราศรีตัดหน้า รีบโทร.ตามถกลให้ไปเจอที่ลานจอดรถหน้าซุปเปอร์มาร์เกต มีเรื่องจะให้เขาทำ...
ทนายความของปฐวีร้อนใจมากที่ลูกความนิ่งเฉยไม่ทำตามคำแนะนำ จึงต้องกลับมาขอร้องเขาอีกครั้งให้คุยกับชิดชบา เพื่อประโยชน์ของเขาเอง ที่สำคัญเขากับเธอกำลังจะมีลูกด้วยกัน ปฐวีขอร้องอย่าดึงเด็กมาร่วมเกมนี้ด้วย นี่เป็นเรื่องระหว่างตนกับชิดชบา แล้ว นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้รับปากจะลองคุยกับเธอดู...
ฝ่ายชัยญามารอหน้าซุปเปอร์มาร์เกตอยู่นานสองนานไม่เห็นถกลแม้แต่เงา อารมณ์เริ่มบูด พอหันไปเห็น ระรินกับปีเตอร์นักธุรกิจจีนสามีใหม่เข็นรถเข็นใส่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านคุยกันกะหนุงกะหนิงรักใคร่ เขาถึงกับฟิวส์ขาดปรี่เข้าไปตบเธอล้มคว่ำ ปีเตอร์ช่วยต่อสู้ปกป้องระริน พลอยโดนเล่นงานสะบักสะบอม
“อย่า...อย่าทำอะไรปีเตอร์นะ หยุดนะ ตำรวจช่วยด้วย...ช่วยด้วย จับไอ้บ้านี่ที” ระรินร้องเอะอะ ชัยญาไม่สาแก่ใจจับหัวเขาโขกเสาอย่างแรงถึงกับทรุด ถกลรีบวิ่งมาดึงตัวเจ้านายออกจากที่เกิดเหตุ...
ฝ่ายปฐวีทำตามที่ทนายความแนะนำ เรียกชิดชบา มาพบที่เรือนจำเพื่อขอให้เธอพูดความจริงเกี่ยวกับคดีโสมสุภางค์
“แล้วฉันจะกลับไปคิดดูว่าการที่ฉันพูดความจริงกับการที่ฉันพูดโกหก ฉันจะได้ประโยชน์จากอะไรมากกว่ากัน ดูคุณไม่ผอมเลยนี่ สง่าราศียังจับครบ นี่แสดงว่าโฉลกของคุณอาจจะถูกกับคุก ทำใจได้ก็ดีแล้ว เพราะฉันคิดว่าคุณคงจะอยู่ในคุกอีก...ยาว” ชิดชบายิ้มหยัน ก่อนจะเดินจากไป ปฐวีมองตามสีหน้าเรียบเฉย
ชิดชบายังไม่ทันจะก้าวพ้นเรือนจำ ธวัชพงษ์โทร.มาหา เธอรีบรับสายด้วยความดีใจ...
ขณะที่ชิดชบาได้รับข่าวดี แต่ระรินกลับเจอข่าวร้าย ปีเตอร์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในคืนนั้น ระรินร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ หมายหัวจะเอาคืนชัยญาโทษฐานทำให้คนรักของตัวเองต้องตาย
ooooooo
ข่าวชัยญาฆ่าคนตายขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ อรุณณรงค์รีบเอาไปให้อุราศรีอ่านที่ห้องทำงาน จะได้เชื่อสักทีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ตอนนี้ระรินแจ้งความแล้วและให้การว่าสองพ่อลูกนักพนันเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าบุญถิ่น ชัยยงค์คงจะให้หาทางประกันตัวลูกชายออกมาสู้คดี อุราศรีแทบช็อก
“อยู่ห่างเขาไว้ เขาเป็นตัวอันตราย ระรินให้สัมภาษณ์ว่าเคยร่วมแก๊งกับพวกนี้ แต่ปลีกตัวเพราะต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้สามีถูกฆ่าตาย ชีวิตก็ไม่ปลอดภัย ระรินขอการคุ้มครองจากตำรวจ” อรุณณรงค์เห็นอุราศรีท่าทางหวาดกลัว วางมือบนมือเธอ ปลอบว่าไม่ต้องกลัว อีกไม่นานคนพวกนี้จะต้องเข้าไปอยู่ในคุก...
ณ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าภายในวัดซึ่งธวัชพงษ์มาซ่อนตัว ชิดชบาประหลาดใจมากเมื่อรู้จากธวัชพงษ์ว่าเด็กกำพร้าที่นี่อยู่ในการอุปการะของปฐวีซึ่งให้ทั้งทุนการศึกษา ออกค่าใช้จ่ายเรื่องอยู่เรื่องกิน ไม่เคยรับเงินบริจาคจากใครเพราะเขาอ้างว่ารับภาระทั้งหมดได้ เธอถึงกับออกปากไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้
“ผมก็ไม่อยากเชื่อ แต่ยิ่งรู้จักผู้ชายคนนี้ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จัก”...
ทันทีที่กลับถึงคอนโดฯที่พัก ชัยยงค์ด่าลูกชายไม่เลี้ยงที่ไปก่อเรื่องทั้งที่บอกให้เก็บเนื้อเก็บตัว ตนเองต้องใช้ทั้งเงินและทั้งหน้าตาเพื่อประกันตัวเขาออกมา ชัยยงค์เพิ่งสังเกตเห็นเถาว์เครือนั่งอยู่ที่โซฟาถึงกับชะงัก รีบไล่ชัยญากับถกลออกไปก่อน เถาว์เครือขอร้องชัยยงค์ทั้งน้ำตาคลอเบ้าอย่าไล่เธอไปไหนอีกเลย
“เอ่อ ผมขอโทษก็แล้วกันที่ทำกับคุณวันนั้น ผมกำลังหัวปั่น มันเหมือนอะไรๆเริ่มกลับมาสุมหัวผม”
“ฉันต้องการที่พึ่ง ไม่มีโสมสุภางค์แล้วฉันเหลือตัวคนเดียว โปรดเป็นที่พึ่งให้ฉันเถอะค่ะ ฉันทำลงไปทั้งหมดก็เพราะคุณ นี่ถ้าตำรวจรู้ว่าฉันผลักโสมสุภางค์ลงมาตาย ฉัน...”
“ก็อย่าให้รู้สิยอดรัก เพราะเมื่อไหร่ที่ตำรวจรู้ผมจะเข้าปิ้งไปด้วย คุณรู้นะว่า...ผมยอมไม่ได้” คำข่มขู่ในทีของชัยยงค์ทำให้เถาว์เครือหน้าตาตื่นด้วยความหวาดกลัว...
ทางด้านตลับนาคทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว ซักชิดชบาเป็นการใหญ่ว่าปฐวีเรียกไปพบเรื่องอะไร เธอหลบสายตาก่อนจะบอกว่าเขาแค่อยากให้เธอพูดความจริง ตลับนาคจ้องหลานสาวเขม็ง เธอไม่กล้าสู้สายตาเดินเลี่ยงขึ้นข้างบน ตลับนาคตามมาคาดคั้น แล้วความจริงมันคืออะไร เธอเห็นอะไรกันแน่
ชิดชบาไม่ยอมตอบคำถาม เดินหนีเข้าห้อง ตลับนาคตามมาซัก ตกลงคนที่ผลักโสมสุภางค์ตกบันไดไม่ใช่ปฐวีใช่ไหม เธออึกอัก ตลับนาครู้ทันทีว่าหลานสาวจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นปฐวี เตือนว่าการโยนคนบริสุทธิ์เข้าคุกเป็นบาป บ้านหลังนี้อาจตกเป็นของเธอเมื่อไม่มีปฐวี แต่ความหวังความสุขจะไม่มีวันกลับมาอีก ทุกครั้งที่เธอเห็นบันไดนั่น หรือแม้แต่ลูกของตัวเอง บาปจะตามหลอกหลอนเธอจนอยู่ไม่เป็นสุข
“ไม่ค่ะ มันจะไม่เกิดมา”
ตลับนาคตกใจ กระชากชิดชบาหันมาเผชิญหน้า ถามเสียงเข้มนี่คิดจะทำอะไร เธอไม่ตอบอะไรขอร้อง ให้ปล่อย เธออยากอยู่คนเดียว ตลับนาคไม่อยากเซ้าซี้ ตัดใจเดินออกจากห้อง ชิดชบาถอนใจ หนักใจ...
ขณะที่ชิดชบาคิดจะเอาเด็กออกเพื่อแก้แค้นปฐวี แพรวาแวะซื้อของชอบไปฝากเถาว์เครือ แต่กลับถูกไล่ตะเพิดไม่ให้มาที่บ้านนี้อีก ท่านไม่อยากยุ่งกับใครจนกว่าคดีจะจบ แพรวาออกตัว ไม่มาที่นี่เพื่อขอร้องให้ท่านเห็นแก่ปฐวีแต่มาเพราะเป็นห่วง เธอได้ข่าวว่าชัยญาเพิ่งได้ประกันตัวคดีฆ่าคนตาย
“ตำรวจคงจะรวบรวมหลักฐานแล้วรวบทั้งแก๊ง ถ้าคุณแม่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ก็อย่าไปพบเขาอีก”
เถาว์เครือไม่ยอมรับความหวังดี สั่งแพรวาอย่ามายุ่งกับชีวิตของตนอีก แล้วเดินหนีไปหน้าตาเฉย...
ชิดชบาตัดสินใจไปเยี่ยมปฐวีอีกครั้ง ไม่ได้มาเรื่องคดี แต่จะมาบอกว่ารู้เรื่องเด็กกำพร้าที่เขาอุปการะแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าซาตานอย่างเขาจะมีเมตตา เห็นชีวิตเด็กไร้บ้านเป็นของมีค่า ปฐวีไม่เคยเห็นเด็กเหล่านั้นเป็นสิ่งของ พวกแกมีชีวิตมีเลือดเนื้อและความรู้สึก เขาเป็นเด็กกำพร้า โตมาได้เพราะข้าววัด เพราะคำสอนของพระที่ให้รู้จักคำว่าให้ แล้วถามเธอว่าพ่อของเธอสอนอะไรบ้าง
“ถ้าไม่ได้สอนอะไรคุณเลยนอกจากประเคนเงินกับความสุข คุณกลับไปดูเด็กพวกนั้นว่ามีอะไรที่คุณขาดแต่เด็กมี” คำพูดแทงใจดำของปฐวี เล่นเอาชิดชบาใบ้รับประทาน
ooooooo
ชิดชบากลับที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเช้าวันรุ่งขึ้น เห็นธวัชพงษ์นั่งเล่นกีตาร์ท่ามกลางเด็กกำพร้าที่นั่งล้อมวงฟังเพลงกันอย่างสนุกสนาน น้องไหมเด็กกำพร้าหน้าตาน่ารักก็เป็นหนึ่งในนั้น
“เอาล่ะเด็กๆ บอกอารูปหล่อนิสัยดีมีเวลาให้คนนี้ ว่าเด็กๆอยากได้อะไรมากที่สุด”
เด็กคนอื่นๆต่างนิ่งคิด ขณะที่น้องไหมรีบยกมือตอบว่าอยากมีแม่ ชิดชบาสะเทือนใจมาก เผลอวางมือลงบน ท้องตัวเอง ธวัชพงษ์เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเธอ รีบชวนเธอกับเด็กๆไปกินไอศกรีมกะทิซึ่งปฐวีจะสั่งมาให้อาทิตย์ละครั้ง ชิดชบาอดแซวธวัชพงษ์ไม่ได้ว่าแอบมาหลบอยู่ที่นี่ระวังจะพาให้เด็กกับพระเดือดร้อน เขาคงหลบอยู่ที่นี่แค่พักหนึ่งจนกว่าชัยยงค์ ชัยญากับถกลจะถูกจับคดีฆ่าบุญถิ่น
“นายชัยญาเพิ่งได้ประกันตัวคดีฆ่าคนตายไป ฉันได้ยินมาว่าระรินจะให้การซัดทอดนายชัยยงค์ว่าเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมด เรื่องนี้จะโยงไปถึงคุณนายเถาว์เครือ หลักฐานที่ผมได้มามัดตัวจนแทบจะดิ้นไม่ได้ อยู่ที่คุณจะให้การยังไงเรื่องคุณปฐวี”
ชิดชบาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน การที่เห็นเด็กๆซึ่งอยู่ในอุปการะของปฐวี ทำให้เธอเริ่มลังเล...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ชัยญาเห็นท่าไม่ดี กลัวพ่อจะติดร่างแหไปด้วย แนะให้หนีออกนอกประเทศ ชัยยงค์ทำอย่างนั้นไม่ได้ ขืนหนีก็เข้าทางตำรวจ ตนยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่พึ่งบารมีได้ เขาไม่ต้องเป็นห่วง ถึงจะโดนจับก็ประกันตัวได้ จังหวะนั้นมีเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น ถกลเดินไปเปิดรับ ตำรวจกลุ่มใหญ่พร้อมด้วยหมายจับชัยยงค์กับพวกเข้ามาแสดงตัว ชัยญากับถกลทำท่าจะขัดขืน ชัยยงค์ต้องส่งสายตาปราม ทั้งคู่จึงสงบลงได้
“ยินดีครับสารวัตร ผมกับลูกพร้อมกับคนของผม ยินดีไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจ บริสุทธิ์ซะอย่าง ใครจะทำอะไรได้ คุณรู้ไหมคนที่ถูกกลั่นแกล้งน่ะ เขาต้องทำยังไง ร้องครับ ร้องดังๆ เสียงจะได้ไปถึงหูผู้ใหญ่” ชัยยงค์กวาดตามองตำรวจทุกนายอย่างไม่เกรงกลัว...
การจับกุมตัวชัยยงค์กับพวกเป็นข่าวฮอตประเด็น ร้อนของวัน หม่อมจรัสเรืองเห็นข่าวจากทีวี ไม่อยากจะเชื่อว่าสองพ่อลูกซึ่งท่าทางดีจะกลายเป็นคนร้ายไปได้ อรุณ– ณรงค์เตือนอย่าดูหนังสือแค่ปก บางคนหน้าตาท่าทางดี แต่ลวงโลกมีถมเถ ต้องขอบคุณตำรวจที่ถอดหน้ากากคนพวกนี้เผยให้เห็นธาตุแท้
“เอ่อ แล้วคุณเถาว์เครือล่ะ ก็มีข่าวว่าคุณเถาว์เครือกับนายชัยยงค์นี่มีอะไรๆกันนะ”
อรุณณรงค์มั่นใจ หากชัยยงค์ให้การซัดทอดเมื่อไหร่ เถาว์เครือคงเป็นรายต่อไปที่ถูกจับ...
เถาว์เครือดูข่าวนี้เช่นกัน เห็นชัยยงค์ถูกตำรวจจับ เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข กลัวติดร่างแหไปด้วย...
แพรวารีบโทร.แจ้งข่าวชัยยงค์ถูกจับฐานบงการฆ่าบุญถิ่นให้ธวัชพงษ์รับรู้ เขาไม่ได้ดูทีวีช่วงนี้เพราะมัวแต่ช่วยพระดูแลเด็กๆในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เลยตกข่าว แต่จะรีบกลับกรุงเทพฯพรุ่งนี้ แล้ววางสาย
“ธวัชพงษ์ๆ อีตาบ้า ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลย ฉันกำลังจะบอกว่านายชัยยงค์ขอยื่นประกันตัว”...
ปฐวีรับรู้ข่าวชัยยงค์กับพวกถูกจับจากทนายความของตัวเองด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ทนายความเกรงชัยยงค์จะได้ประกันตัวเพราะมีคนหนุนหลังดี ปฐวีสั่งให้เขาหาทางคัดค้านการประกันตัวให้ได้
ooooooo
นอกจากปฐวีจะให้ทนายความของตัวเองวิ่งเต้นคัดค้านการประกันตัวชัยยงค์กับพวกแล้ว ยังมีระรินกับยุวดีที่ยื่นคัดค้านเช่นกัน เถาว์เครือรู้ข่าวรีบมาดักรอสองสาวหน้าสถานีตำรวจ สั่งให้ถอนคำขอคัดค้านครั้งนี้ ระรินไม่ยอมทำตาม ซ้ำยังต่อว่าเธอที่ไปเข้าข้างชัยยงค์แทนที่จะเห็นแก่บุญถิ่นซึ่งเป็นคนของเธอที่ถูกฆ่าตาย
“ใจเย็นๆครับ อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ เดี๋ยวจะเสียรูปคดีนะครับ” เฉวียงต้องคอยดึงๆระรินไว้
“รูปคดีหรือ นี่พวกแกร่วมมือกันวางแผนกลั่นแกล้งคุณชัยยงค์ใช่ไหม แก...แกแล้วก็แกด้วยทนายเฉวียง รับคำสั่งของนายปฐวีมาจากในคุก ให้ทำลายชื่อเสียงของคุณชัยยงค์” เถาว์เครือชี้หน้ารายตัวอย่างเอาเรื่อง ไม่ว่าเธอจะทั้งขอร้องหรือข่มขู่อย่างไร ระรินและยุวดียืนกรานคำเดิมไม่ถอนคำขอคัดค้านการประกันตัว ก่อนจะพากันขึ้นไปบนสถานีตำรวจ เถาว์เครือหันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี...
ตั้งแต่ชิดชบาพ้นข้อกล่าวหา สมควรยังไม่มีโอกาสได้คุยเปิดใจกับเธอ วันนี้เขาเห็นเธอจะออกไปข้างนอก จึงเอารถมาจอดรอหน้าตัวตึก พอเธอเดินออกมา เขาเข้ามาบอกด้วยท่าทางนอบน้อม
“วันนี้ผมไม่ต้องเอาปิ่นโตที่คุณตลับนาคทำ ไปส่งคุณปฐวีที่เรือนจำ ให้ผมขับรถให้คุณชิดชบาเถอะครับ ผมเข้าใจคุณผิด ไม่รู้อะไรทำให้ผมคิดอย่างนั้น ผมน่าจะรู้ว่าคุณไม่ใช่คนใจร้าย คุณฆ่าคนไม่ได้”
“ไม่แน่หรอก ฉันอาจจะ...” ชิดชบาแตะที่ท้องตัวเองสีหน้าเปลี่ยนเป็นชิงชังเมื่อนึกถึงพ่อเด็กในท้อง...
แพรวาเลิกงานเดินมาที่รถเพื่อจะกลับบ้าน เจอธวัชพงษ์ยืนรออยู่ เผลอยิ้มดีใจที่เห็นเขาปลอดภัย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ ต่อว่าว่าหายไปไหนมา ไหนว่ามีหลักฐานมัดตัวชัยยงค์กับพวกคดีฆ่าบุญถิ่น ทำไมถึงไม่รีบเอาออกมาแฉ พวกนั้นกำลังจะได้ประกันตัวกันแล้ว เขากลับยิ้มร่าเริง เชื่อมั่นว่าพวกนั้นจะไม่ได้ประกันตัวออกมาเดินนอกห้องขังแน่ๆ เพราะหลักฐานสำคัญที่ทนายจะใช้ประกอบคำคัดค้านแน่นหนามาก
“หลักฐานที่คุณเสี่ยงตายไปหามาน่ะหรือ”
“ครับ...ข้อนี้คุณหมอต้องชมเชยผม ผมแบ่งออกเป็นสองชุด ชุดหนึ่งผมเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีใครนึกถึง อีกชุด ผมส่งไปที่ทนายเฉวียง” ธวัชพงษ์ยิ้มมั่นใจ...
ชิดชบามาที่บาร์ย่านพัฒน์พงษ์ เพื่อมาขอซื้อข้อมูลคลินิกทำแท้งจากสาวเต้นอะโกโก้ เมื่อได้ชื่อและสถานที่ตั้งของคลินิกมาแล้ว เธอกลับเครียดหนัก ความแค้นกับสัญชาตญาณความเป็นแม่ต่อสู้ในใจอย่างรุนแรง จนเธอต้องวิ่งไปอาเจียนจนแทบจะหมดเรี่ยวแรง
ooooooo
ทนายความของปฐวีรีบมาแจ้งข่าวเจ้านายที่การคัดค้านการประกันตัวชัยยงค์กับพวกไม่สำเร็จ
“แต่ทนายเฉวียงติดต่อผม เขามีหลักฐานใหม่ที่ระบุความผิดของนายชัยยงค์กับพวกชัดเจน ส่วนจะเป็นหลักฐานอะไรนั้น ผมยังไม่เห็น แต่นายชัยยงค์รับรู้แล้วล่ะครับว่าเราจะยื่นเพื่อประกอบการคัดค้านการประกันตัวเขา คุณเฉวียงช่วยคุณเต็มที่ เขามั่นใจว่าหลักฐานของเขามีน้ำหนักพอจะขังนายชัยยงค์ไว้ในคุก”
“ดี...ผมรอเขาอยู่” ปฐวีเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ แต่สีหน้าของเขากลับดูกังวล...
เป็นอย่างที่ปฐวีหวั่นใจ ตกค่ำ สำนักงานทนายความของเฉวียงถูกงัด คนร้ายขโมยคลิปหลักฐานที่เก็บไว้ในแฟ้มคดีบุญถิ่นไป ในเมื่อไม่มีหลักฐาน คำคัดค้านการประกันตัวชัยยงค์ก็เป็นอันล้มพับ
แม้ธวัชพงษ์จะมีคลิปหลักฐานอีกชุดหนึ่งสำรองไว้ แต่เขาไม่กล้าเสี่ยงเอาไปยื่นให้ตำรวจ เกรงคนร้ายจะขโมยไปอีก เขามีแผนจะปล่อยให้ชัยยงค์ได้ประกันตัวออกมาก่อน แล้วหาทางเอาตัวปฐวีออกจากเรือนจำ
แพรวางงจะมีหนทางไหนเอาเขาออกมาได้ ธวัชพงษ์จะใช้ฝันร้ายของปฐวีช่วยเขาออกจากเรือนจำ...
ชิดชบาเก็บเรื่องทำแท้งเอาไปฝันร้ายว่าตัวเองเข้าไปในคลินิกทำแท้งซึ่งสกปรกสุดๆ หมอเถื่อนสั่งให้เธอขึ้นเตียงที่มีขาหยั่งที่เต็มไปด้วยคราบเลือด เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมนอนบนเตียงด้วยสีหน้าหวาดกลัว หมอเถื่อนหยิบไม้แขวนเสื้อเปื้อนเลือดก้าวเข้ามาหา
ชิดชบากรีดร้องสุดเสียงเหมือนมีสื่อสัมผัสถึงกัน ปฐวีซึ่งกำลังหลับอยู่ในเรือนจำแผดเสียงร้องลั่นห้องขังไปด้วย สะดุ้งตื่นเหงื่อท่วมตัว นักโทษคนอื่นตกใจตื่น มองเขาด้วยความแปลกใจ ปฐวีใจคอไม่ดีนึกเป็นห่วงชิดชบาขึ้นมาทันที
ooooooo
ตลับนาครู้ข่าวชัยยงค์กับพวกได้ประกันตัว เตือนชิดชบาให้ระวังตัวไว้บ้าง บ้านนี้มีแต่สมควร คนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย แต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะต้องเอาปิ่นโตไปส่งเจ้านายของเขาทุกวัน
“คุณป้าอย่ากลัวไปเลยค่ะ พวกมันคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้เพราะรู้ว่าทุกคนจับตามองอยู่”
“นี่ถ้าคุณปฐวีเขาอยู่ ป้าคงไม่กลัวอย่างนี้หรอก”...
ทางด้านแพรวากับทนายความของปฐวีต่างร่วมมือกันใช้ความสามารถในทางวิชาชีพของตน กล่อมจนคณะนายตำรวจอนุญาตให้ปฐวีได้รับการประกันตัว
จากนั้นไม่นาน คำสั่งปล่อยตัวก็ส่งไปถึงเรือนจำ เจ้าหน้าที่ของที่นั่นเดินนำทนายความกับปฐวีมาส่งหน้าประตูทางออก เจอแพรวายืนรออยู่กับธวัชพงษ์ ปฐวีขอบคุณเธอมากสำหรับความช่วยเหลือ เธอรีบออกตัว ไม่ใช่เธอคนเดียว ทนายของเขากับธวัชพงษ์ก็ร่วมด้วยช่วยกัน ปฐวีหันมองอดีตนักข่าวหนุ่ม
“คุณนี่มันยุ่งจริงๆนะธวัชพงษ์ คุณทำเหมือนคุณกำความลับในชีวิตผมไว้ ระวังหลักฐานนั่นมันจะฆ่าคุณ” พูดจบ ปฐวีเดินไปขึ้นรถที่สมควรจอดรออยู่พร้อมกับทนายความ ธวัชพงษ์เห็นสีหน้าแพรวาไม่ค่อยสู้ดีนัก ถามว่าเป็นห่วงปฐวีจะสู้คดีอย่างไรหรือ เธอแว้ดใส่ทันที ไม่ได้เป็นห่วงปฐวี แต่เป็นห่วงเขาต่างหาก
“ห่วงผมหรือครับ...ใช่ ชีวิตผมน่าห่วง ผมก็ไม่รู้ว่าเสี่ยงทำไม พวกมันต้องตามมาลากคอผมไปฆ่า ทางเดียวที่จะรอด คือคุณหมอต้องแต่งงานกับผม” แม้คำพูดจะฟังเหมือนล้อเล่น แต่ธวัชพงษ์เอาจริง...
ขณะที่ปฐวีได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ชัยญายังไม่ละความพยายาม มาดักรออุราศรีตรงที่จอดรถภายในกระทรวงต่างประเทศ จะรับเธอไปดูแข่งรถ เธอปฏิเสธว่าไม่ไป แล้วขยับจะเดินหนี เขาคว้ามือเอาไว้ จะให้เธอไปด้วยให้ได้ ก่อนเธอจะเสียทีให้ชัยญา อรุณณรงค์มาช่วยไว้ทัน ชกเขาเต็มหน้าเลือดกำเดาไหล แล้วจูงมืออุราศรีไปขึ้นรถของตนเอง ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ชัยญาได้แต่มองตามเจ็บใจ...
ทันทีที่เจอหน้าตลับนาค ปฐวียกมือไหว้ขอบคุณสำหรับอาหารปิ่นโตที่เธอให้สมควรเอาไปส่งให้เขาที่เรือนจำทุกวัน เขาแบ่งให้นักโทษในนั้นกินด้วย เพราะพวกเขาไม่ได้ลิ้มรสอาหารอร่อยมานานแล้ว
“ขอต้อนรับการกลับบ้านค่ะ” ตลับนาคยิ้มให้ตามมารยาทก่อนจะเดินแยกไป...
อุราศรีเพิ่งตระหนักว่าเลือกคบคนผิด ถ้าคืนนั้นชิดชบาไม่ช่วยเอาไว้จากการถูกชัยญาวางยา ไม่รู้ป่านนี้ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร อรุณณรงค์จับมือเธอไว้ ปลอบว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว
“ท่านพ่อเคยสอนผมตั้งแต่เป็นเด็กว่าอย่าคบคนพาลเป็นมิตร ไม่อย่างนั้นชีวิตจะยุ่งครับ”...
เลยเวลามื้อค่ำนานแล้ว แต่ไม่เห็นชิดชบาลงมากินอะไร ปฐวีเป็นห่วง ตามไปหาที่ห้องงานปั้น เห็นเธอกำลังปั้นรูปเด็กน้อยอยู่ จำได้ว่าเป็นน้องไหมเด็กในความอุปการะของเขา แม่ของแกติดคุกฐานฆ่าคนตาย ตอนที่แม่ส่งตัวเด็กไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แกเพิ่งคลอดได้ไม่นาน แล้วเอื้อมมือแตะรูปปั้นสีหน้าเปี่ยมสุข
“คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่เด็กโหยหาที่สุดคืออะไร...แม่ อยากมีแม่ อยากให้แม่กอด พวกเขาต้องการแม่มากกว่าพ่อเพราะกอดของแม่คือกายทิพย์ แม่กับลูกมีกลิ่นของสัมผัส คุณกำลังจะเป็นแม่คน เรากำลังจะมีลูก คุณรู้ไหม ลูกปลุกตัวตนในชีวิตของผมขึ้นมา ผมรัก...” ปฐวียังไม่ทันพูดจบ ชิดชบาลุกพรวดขึ้นยืน
“เราไม่มีอะไร ไม่มีใคร คุณอาจจะได้เสรีภาพคืนเพราะฉันจะพูดความจริง แต่คุณต้องเสียเขาไปตลอดชีวิต” ว่าแล้ว เธอผลุนผลันออกไป ปฐวีสีหน้าตื่นตระหนก
เมื่อรู้ว่าชิดชบาคิดจะแก้แค้นเขาด้วยการทำแท้ง
ooooooo
ปฐวีอดเป็นห่วงไม่ได้ที่เห็นชิดชบานั่งเขี่ยอาหารไม่ยอมกิน เตือนว่าพรุ่งนี้เฉวียงจะมารับไปให้ปากคำ คงต้องใช้เวลาในห้องสอบสวนหลายชั่วโมง ดังนั้นเธอควรจะกินอาหารตุนไว้จะได้มีแรง
“ผมไม่ขอร้องให้คุณทำเพื่อผม...” ปฐวีพูดไม่ทันจบ ชิดชบาลุกหนีไปหน้าตาเฉย ในเวลาต่อมา เธอมาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า การมาครั้งนี้ของเธอทำให้ได้รู้ว่าที่แท้แล้วน้องไหมเป็นลูกของห้าวที่ตั้งท้องหลังจากถูกข่มขืน เธอคลอดแกในคุกแล้วเอามาฝากให้หลวงพ่อเลี้ยง น้องไหมไม่รู้ว่าแม่เป็นใคร
“ฉันพ้นโทษออกมาเมื่อวาน ยังทำอะไรกับตัวเองไม่ถูก ยังไม่มีกำลังรับลูกออกไปอยู่ด้วย คุณล่ะ ลูก...”
“ช่างเถอะ เขาไม่สำคัญไปกว่าน้องไหมหรอก”
“ชิดชบา ทำไมคุณพูดอย่างนั้น คุณมองดูเด็กพวกนี้สิ ถ้าโลกนี้ไม่มีเด็ก โลกจะเป็นอย่างไร”
ชิดชบามองไปยังเด็กๆที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะหันกลับมามองห้าวด้วยแววตาหม่นหมอง...
ฝ่ายเถาว์เครือแวะมาหาชัยยงค์หวังจะให้เป็นที่พักพิงทางใจ นอกจากจะบอกให้เธออยู่ห่างๆแล้ว เขายังปิดประตูใส่หน้าอย่างไม่ไยดีอีกด้วย สร้างความปวดร้าวใจให้เธอเป็นอย่างมาก...
เหมือนบาปกรรมที่ทำไว้จะตามสนอง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ธุรกิจของชัยยงค์มีอันเป็นไปต่างๆนานา ไม่สะดุดก็เจ๊ง แม้คลิปหลักฐานที่ธวัชพงษ์อัดไว้จะถูกทำลายไปแล้ว ชัยยงค์ก็ยังไม่แน่ใจว่าคดีจะออกหัวหรือก้อย ชัยญาตั้งข้อสังเกต หรือว่าธวัชพงษ์ยังมีหลักฐานเก็บไว้อีกหนึ่งชุด เพราะท่าทางทนายความทางโน้นดูจะมั่นใจมาก ถ้าเป็นอย่างนั้น เราต้องเก็บไอ้นักข่าวนั่นให้สิ้นซาก ชัยยงค์เห็นด้วยกับลูกชาย
“ใช่...บีบให้มันคายหลักฐานชุดนั้นออกมา แล้วยิงมันทิ้ง”
ooooooo










