สมาชิก

คู่วุ่นลุ้นแผนรัก

ตอนที่ 12

อัลบั้ม: "วิน ธาวิน" ประกบ "ขวัญ อุษามณี" ใน "คู่วุ่นลุ้นแผนรัก"



ขณะเดินมาส่งนทีที่หน้าเรือนเล็ก ขอจันทร์ขอบคุณเขามากที่ช่วยพูดให้พ่อของเธอสบายใจ เขาไม่ได้พูดแค่ให้สาโรจน์สบายใจแต่เขารู้สึกกับตะวันฉายเหมือนเป็นน้องชายจริงๆ เธอมีสีหน้าไม่สบายใจ ขึ้นมาทันที

“ฉันขอบคุณที่คุณทีช่วยตะวันนะคะ แต่ฉันไม่อยากให้คุณที...”

“ผมรู้ว่าคุณยังรักพี่ศิลาอยู่ แต่ผมจะทำให้คุณลืมพี่ศิลาแล้วมารักผมให้ได้” คำพูดของนทียิ่งทำให้ขอจันทร์เป็นกังวลใจหนักขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ...

ที่ห้องพักฟื้นคนไข้ เชนที่นอนพักรักษาตัวอยู่ถึงกับอารมณ์บูดเมื่อรู้จากพรรคพวกว่าตะวันฉายได้รับการประกันออกจากห้องขังไปเรียบร้อย จังหวะนั้น ครรชิตเดินหน้าเครียดเข้ามากับณิชรันย์ ไม่พูดพร่ำทำเพลง

ตบหลานชายผัวะ เพื่อนๆของเชนเห็นท่าไม่ดีพากัน

สลายตัวแทบไม่ทัน ครรชิตด่าเชนซ้ำ

“คราวที่แล้วถูกสั่งพักการเรียน คราวนี้ก็โดนแทง ถ้าทำตัวดีๆมันยากมาก ออกมาเป็นโจรเลยไหม”

ณิชรันย์ต้องเข้ามากันครรชิตไว้ ก่อนจะถามเชนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก หมอให้รอดูแผลอีกสองสามวันก่อน เธอทักท้วงถูกแทงอย่างนี้ไม่เป็นอะไรได้อย่างไร แล้วตำรวจจับคู่กรณีได้หรือเปล่า เชนอึกอักไม่กล้าบอกครรชิตว่าคู่กรณีเป็นคนเดิมที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน...

ทันทีที่ตะวันฉายกลับถึงบ้านเชตวัตร สาโรจน์กับขอจันทร์พาไปกราบขอบคุณน้ำทิพย์กับศิลาที่ช่วยเป็นธุระเรื่องประกันตัวเขาให้และถือโอกาสนี้ขอโทษท่าน ทั้งสองด้วยที่ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด เดือนวารีแก้ต่างให้ตะวันฉายว่าไม่ได้เป็นคนผิด พวกนั้นต่างหากที่มา หาเรื่องพวกเราก่อน น้ำทิพย์หนักใจแทน ต่อให้เราไม่ได้เป็นคนผิด แต่เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆเพราะคนที่โดนแทงเป็นหลานของครรชิต

“ถึงครรชิตจะมีเส้นสายใหญ่โต แต่ผมเชื่อว่า คงไม่ใหญ่ไปกว่าความยุติธรรมหรอกครับคุณแม่”

“ไป งั้นก็แยกย้ายกันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้ว อ้อ...ตะวัน ขอบใจที่ช่วยดูแลยัยวานะ”

ตะวันฉายดีใจที่น้ำทิพย์ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ขอจันทร์กำลังจะประคองสาโรจน์ให้ลุกขึ้น น้ำทิพย์เรียกให้เธออยู่ก่อนอ้างมีธุระจะคุยด้วย แล้วเดินนำออกไป ศิลามองตามอยากรู้ว่าแม่เรียกขอจันทร์ไปคุยเรื่องอะไร...

ขอจันทร์คิดว่าน้ำทิพย์จะต่อว่าเรื่องตะวันฉาย แต่ผิดคาดท่านเรียกมาพูดเรื่องที่ศิลาหลอกเธอไปติดเกาะ ท่านเข้าใจดีว่าเธอเสียใจเกินกว่าจะให้อภัยเขาได้ แต่ท่านอยากขอร้องเธอเรื่องหนึ่ง ท่านไม่อยากเห็นพี่น้องต้องทะเลาะกันเพราะเธอ ขอจันทร์ไม่เข้าใจ น้ำทิพย์ต้องการอะไรกันแน่

“ฉันยอมให้เธอกลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้เพราะศิลารักเธอ แต่เมื่อไหร่ที่ลูกๆของฉันต้องแตกแยกเพราะเธอ ฉันก็พร้อมที่จะปกป้องลูกๆฉันเหมือนกัน” น้ำทิพย์เสียงกร้าว ขอจันทร์อยากจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด แต่กลัวพ่อกับน้องจะเดือดร้อน จึงได้แต่นิ่งเงียบ

ooooooo

ระหว่างที่ขอจันทร์กลับไปยังเรือนเล็ก ศิลามาดักหน้าไว้ อยากรู้ว่าแม่ของเขาเรียกเธอไปพบเรื่องอะไร เธอไม่ขอตอบ เพราะยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้ นทีเข้ามาเห็นท่าทางของพี่ชายก็ไม่พอใจ ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน เธอเกรงทั้งคู่จะทะเลาะกันโกหกว่าไม่มีอะไร แค่จะถามหานทีเท่านั้น เขานิ่วหน้าแปลกใจ

“กระเป๋าของฉันในรถคุณทีไงคะ ยังไงคงต้อง รบกวนคุณทีแล้วล่ะค่ะ”

“เออใช่ ผมลืมไปสนิทเลย” นทีเดินออกไปกับขอจันทร์อย่างสนิทสนม ศิลาได้แต่มองตามหงุดหงิด...

สาโรจน์อดชมตะวันฉายไม่ได้ที่ช่วยดูแลเดือนวารีจนตัวเองต้องถูกจับเข้าห้องขัง เขาออกตัวถ้าไม่มีเขา เธอก็คงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ เดือนวารีแอบได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน ปลื้มใจที่ตะวันฉายเป็นห่วง

“เท่าที่ฉันเห็น คุณวาเขาก็ดูเหมือนไม่ได้จะโทษว่าเป็นความผิดของแกนะ” สาโรจน์ตบไหล่ลูกชายอย่างให้กำลังใจ แล้วหยิบขวดยาหม่องน้ำส่งให้ “ยังไงช่วงนี้ก็ระวังตัวหน่อยล่ะ ทายานี่ซะด้วยเดี๋ยวใครเห็นจะบอกว่าแกเป็นลูกตุ๊กแกไม่ใช่ลูกฉัน”...

ด้านขอจันทร์ไม่ยอมกลับไปอยู่บนตึกใหญ่ ขอให้นทีช่วยยกกระเป๋าใส่เสื้อผ้ามาให้ที่เรือนเล็ก อ้างอยากอยู่ดูแลพ่อ สาโรจน์บอกให้เธอกลับไปอยู่กับศิลาไม่ต้องเป็นห่วง ตนมีตะวันฉายคอยดูแลอยู่แล้ว เธอทักท้วงไม่เคยเห็นน้องชายอยู่กับพ่อตอนเกิดเรื่องสักที

“ถ้าคุณอึดอัดที่ต้องเจอพี่ศิลา อยากออกไปอยู่ข้างนอกไหมล่ะ เช่าบ้าน คอนโดหรืออะไรก็บอกผมได้นะ ผมพร้อมที่จะช่วยคุณเสมอ”

“ขอบคุณที่คุณทีหวังดีกับฉันนะคะ แต่ถ้าคุณทีอยากให้ฉันอยู่ในบ้านนี้ได้จริงๆคุณทีต้องหยุดแค่นี้นะคะ”

สาโรจน์มองขอจันทร์สลับกับนทีอย่างสงสัย ชายหนุ่มไม่อยากเซ้าซี้ ขอตัวไปก่อน สาโรจน์รอจนเขาลับสายตา หันมาถามลูกสาวที่พูดเมื่อครู่นี้หมายความว่าอย่างไร ขอจันทร์ไม่อยากทำให้พ่อไม่สบายใจโกหกว่าไม่มีอะไร แล้วเดินเลี่ยงเข้าเรือนเล็ก สาโรจน์มองตามลูกด้วยความเป็นห่วง...

อีกมุมหนึ่งที่สวนหลังบ้าน ตะวันฉายนั่งถอดเสื้อพยายามทายาหม่องตามตุ่มแดงๆบริเวณหลังตัวเองที่โดนยุงในห้องขังกัดอย่างทุลักทุเลเพราะเอื้อมไม่ถึง เดือนวารีเข้ามาอาสาจะช่วยทายาให้ เขากลัวใครมาเห็นจะทำให้เธอเสียหายเปล่าๆ เธอสั่งให้เขาหยุดพูด ไม่อย่างนั้นจะเอายาหม่องป้ายปากเขาแทน

“ดีนะที่พี่ศิลาสั่งให้นายดูแลฉัน ไม่อย่างนั้นนายคงวิ่งหนีไปแล้ว”

ตะวันฉายอยากจะบอกใจแทบขาดที่ช่วยเหลือเธอไม่ใช่เพราะศิลาสั่งแต่เป็นเพราะรักเธอต่างหาก แต่ไม่กล้าพูดกลับบอกว่าที่เขาช่วยเพราะเธอเป็นคนที่รุจน์รัก เดือนวารีโมโหเอายาหม่องป้ายปากเขาแล้วเดินหนี...

รักสามเส้าระหว่างขอจันทร์ ศิลาและนทีไม่มีทีท่าจะจบง่ายๆ สองพี่น้องมีปากเสียงกัน ไม่มีใครยอมเสียขอจันทร์ให้ใคร นทีประกาศจะเอาความรักที่ตัวเองมีต่อเธอชนะใจเธอให้ได้

ooooooo

ศิลาลงมาเดินเล่นในสวน เห็นหมวกของสาโรจน์ไหวๆอยู่หลังพุ่มไม้กำลังรดน้ำ ร้องทักทำไมไม่นอนพัก ออกมาโดนแดดร้อนๆแบบนี้เดี๋ยวพานเป็นลมไปอีก แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นขอจันทร์ก้าวออกมาจากพุ่มไม้

“เจอเธอก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องอยากถาม”

ขอจันทร์ไม่มีอะไรจะคุยด้วย เดินหนีไปรดน้ำต้นไม้ทางอื่น ศิลาเดินตาม ขอร้องให้ฟังเขาพูดก่อนเธอหันมาฉีดน้ำสกัดไม่มาฉีดให้เขาเข้าใกล้ เขาก็เลยเหยียบสายยางไว้ทำให้น้ำไม่ไหล ขอจันทร์ตกใจถอยหนีแต่ยังคงหันปลายสายยางไปที่เขา ศิลาเผลอก้าวเท้าเข้าไปหาเธอทำให้เท้าหลุดพ้นจากสายยาง น้ำพุ่งใส่เขาเต็มหน้าจนตัวเปียก เขาเข้าไปแย่งสายยางจากมือเธอแล้วฉีดน้ำใส่จนเธอเปียกไปทั้งตัวเหมือนกัน เธอพยายามแย่งคืน ศิลายิ่งสนุกฉีดน้ำใส่ไม่หยุด นทีเดินมาจากอีกมุมหนึ่งเห็นทั้งคู่ตัวเปียกโชกก็เสียงเขียวใส่ทำอะไรกันอยู่

“เปล่านี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเมียฉัน”

“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”

“ถ้าอย่างนั้นผมว่าพี่ไม่ต้องพูดอะไรดีกว่าเพราะขืนพี่พูดออกมาแล้วมันเป็นเรื่องโกหกอีกผมว่าพี่จะแย่กว่านี้นะครับ ขอจันทร์ ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่แล้วไม่สบายใจ คุณอยากไปทำงานที่บริษัทกับผมไหม”

ศิลาคัดค้าน สาโรจน์อาการหนักอย่างนี้ ขืนขอจันทร์ทิ้งพ่อไปช่วยงานนทีก็อาจจะกลายเป็นลูกอกตัญญูได้ แม้ขอจันทร์เห็นด้วยกับเขาแต่ไม่วายมองค้อน ก่อนจะบอกนทีว่าวันนี้คงต้องอยู่ดูแลพ่อไว้วันหลังก็แล้วกัน

“ไม่เป็นไรครับ เอาที่คุณสบายใจแล้วกันแล้วผมจะรีบกลับนะครับ...รีบเปลี่ยนเสื้อผ้านะเดี๋ยวจะไม่สบาย” นทีไม่วายหยอดคำหวานให้ขอจันทร์ก่อนจะเดินจากไป ครู่ต่อมา ศิลาเดินตัวเปียกขึ้นมาบนห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดลิ้นชักจะเก็บนาฬิกาเจอแหวนของขอจันทร์ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ รีบโทร.หาบุญนำ

“วันนี้ผมไม่ค่อยสบาย คงไม่ได้เข้าบริษัทนะครับ ยังไงผมฝากดูแลที่นั่นด้วย ขอบคุณมากครับ”...

ในเวลาเดียวกัน ที่บริษัทเชตวัตรกรุ๊ป ลีน่าเห็นครรชิตหงุดหงิดที่ตัวแทนของมิสเตอร์ทีไม่ยอมเจรจาด้วย ยืนยันจะคุยกับศิลาเท่านั้น ปลอบให้ใจเย็นๆในเมื่อทางนั้นอยากคุยกับพวกเชตวัตร ก็ปล่อยให้คุยก็สิ้นเรื่อง

“เธอพูดอะไรของเธอ เธอก็รู้ว่าไอ้ศิลากับไอ้มิสเตอร์ทีมันเป็นพวกเดียวกัน”

“ฉันไม่ได้บอกว่าเป็นพี่ศิลานี่ คนตระกูลเชตวัตรมีพี่ศิลาคนเดียวซะที่ไหน” ลีน่ายิ้มเจ้าเล่ห์...

ฝ่ายนทีอยากจะเอาหน้ากับขอจันทร์ จึงขอร้องครรชิตอย่าเอาเรื่องตะวันฉายที่แทงหลานชายของเขา เข้าทางเขาพอดี หากไม่อยากให้เขาเอาเรื่อง นทีต้องช่วยตอบอีเมลจากตัวแทนของมิสเตอร์ทีเป็นการตอบแทน เสร็จจากทำธุระให้ครรชิต นทีแวะไปที่ห้องทำงานของศิลาถึงได้รู้จากบุญนำว่าพี่ชายตัวเองไม่ได้มาทำงาน โทร.มาบอกว่าไม่ค่อยสบาย นทีงงเมื่อเช้าเจอกันก็ยังเห็นปกติดีอยู่

ooooooo

ศิลาทำปลาเผากับนำน้ำมะพร้าวมาให้สาโรจน์กับขอจันทร์กิน เธอรู้ว่าเขาต้องการจะง้อก็เลยไม่ยอมแตะต้อง แถมยังบอกหน้าตาเฉยว่าพ่อของเธอไม่ชอบกิน สาโรจน์ที่กำลังตักปลากินอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับหยุดกึก

“เอ่อ แต่พ่อว่ามันก็อร่อยดีเหมือนกันนะ มากินด้วยกันสิจันทร์”

“พ่อจะกินก็กินไป” ขอจันทร์พูดจบเดินงอนออกไป ศิลารีบตามไปง้อ แต่เธอยืนกรานไม่ยอมให้อภัยและจะไม่กลับไปรักเขาอีก ศิลาอ้อนวอนให้เราสองคนกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ขอจันทร์ฝืนใจตัวเองสุดฤทธิ์

“อย่าดีกว่าค่ะ เพราะที่ผ่านมาฉันเสียเวลากับคุณมามากพอแล้ว”

พลันมีเสียงนทีดังขึ้นจากด้านหลังก่อนที่ตัวจะเดินเข้ามา “พี่ไม่เข้าใจที่ขอจันทร์พูดหรือไง”

“แกไม่ต้องมายุ่ง นี่มันเรื่องครอบครัวฉัน” ศิลาชักสีหน้าไม่พอใจ

“เลิกคิดว่าจันทร์เป็นของพี่สักทีได้ไหม แม้ว่าทางนิตินัยพี่จะเป็นสามีที่ถูกต้องของจันทร์ แต่โดยพฤตินัย เธอไม่ได้รักพี่แล้ว” นทีจ้องหน้าศิลาเขม็ง ขอจันทร์ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่น้องทะเลาะกันก็เลยเดินหนี ศิลาจะตามแต่นทีขวางไว้ ก่อนจะเป็นฝ่ายตามเธอเสียเอง ศิลาได้แต่ยืนมองเจ็บใจ ฝ่ายนทีวิ่งตามมาเรียกขอจันทร์ให้หยุดคุยกันก่อน เธอหันขวับมามอง พร้อมกับขอโทษเขาด้วย ตอนนี้อยากอยู่คนเดียวแล้วขยับจะไป

“แต่ทีมีเรื่องสำคัญจะบอกเกี่ยวกับตะวันฉาย” คำพูดของเขาทำให้ขอจันทร์ถึงกับหยุดกึก...

หลังจากใช้เส้นสายทางตำรวจให้ช่วยเปลี่ยนคดีเป็นแค่เรื่องอุบัติเหตุไม่ใช่เหตุทะเลาะวิวาท ครรชิตตรงไปหาเชนที่โรงพยาบาลสั่งให้เปลี่ยนคำให้การกับตำรวจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกัน เขาไม่ยอมทำตาม แถมโวยวายว่าตะวันฉายเป็นแค่ลูกคนใช้ ครรชิตน่าจะเล่นงานให้เจ็บกว่าที่เขาเจ็บถึงจะถูก ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลแบบนี้ ครรชิตโกรธที่เขากล้าหือ กดแผลถูกแทงของเขาถึงกับร้องลั่น

“อย่าสะเออะมาขึ้นเสียงกับฉัน แกกับฉันมันเทียบกันไม่ได้” ด่าเสร็จ ครรชิตผละจากไป เชนเจ็บใจมาก ในเมื่อเขาไม่จัดการตะวันฉายให้ ตนก็จะทำเอง แล้วโทร.สั่งให้เพื่อนหาปืนให้หนึ่งกระบอก...

ฝ่ายขอจันทร์รีบมาบอกข่าวดีให้น้องชายรู้ว่าเชนไม่เอาเรื่องเขาแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ไม่ต้องเป็นห่วง นทีจะให้ทนายช่วยแก้ต่างให้ จากนี้ไปขอให้เขาตั้งใจเรียนหนังสือให้จบ พ่อจะได้มีกำลังใจ ตะวันฉายมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เธอทักว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาตัดสินใจเล่าเรื่องที่รุจน์ยืมเงินค่าเทอมของเขาไปใช้ก่อน ขอจันทร์รับปากจะคุยกับพ่อให้เอง เขาร้องห้ามเสียงหลง เงินค่าเทอมที่เขาให้เพื่อนยืมก็เป็นเงินของพ่อ

“อ้าว ไม่ใช่เงินของคุณศิลาเหรอ”

ตะวันฉายส่ายหน้า พ่อคิดว่าคุณศิลากำลังแย่ก็เลยไม่อยากรบกวน ขอจันทร์ถอนใจหนักใจ เพราะเงินของตัวเองก็แทบจะไม่มีเหลือ เขาขอให้เธอช่วยหยิบยืมใครก่อนได้ไหม ถ้าเขาจ่ายเงินค่าเทอมไม่ทัน ต้องหมดสิทธิ์สอบแน่ๆ

ooooooo

เช้านี้ศิลาแกล้งป่วยอีกวันหนึ่งเพื่อจะอยู่ง้อขอจันทร์ แต่กลับเห็นเธอกับนทีเดินมาจากเรือนเล็กด้วยกัน ฝ่ายหลังเห็นพี่ชายก็ร้องทัก ไหนว่าไม่สบายทำไมมายืนตากแดด

“ฉันดีขึ้นแล้ว แล้วนี่แกจะพาเมียฉันไปไหน”

“ผมเห็นว่าอดีตพี่สะใภ้ของผมอยู่แต่บ้านอุดอู้แบบนี้มันน่าเบื่อ ผมเลยชวนไปทำงานด้วยกัน...ไปเถอะครับ สายแล้ว” นทีพาขอจันทร์ออกไป ทิ้งให้ศิลายืนเซ็งที่แผนง้อภรรยาพังไม่เป็นท่า...

คนรับใช้ของณิชรันย์แปลกใจมากที่เจ้านายสาวไม่ยอมแตะข้าวปลาอาหารเอาแต่กินผลไม้เปรี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เธอถึงกับร้องทักไม่เข็ดฟันบ้างหรือ กินเหมือนกับคนแพ้ท้องไม่ผิดเพี้ยน

“บ้า ใครท้อง พักนี้พี่ชิตน่ะสิเห็นรันไม่สบายให้รันกินแต่อาหารจืดๆน่าเบื่อจะตาย แล้วพี่ชิตล่ะ”

“ออกไปทำงานแต่เช้าแล้วค่ะ” ขาดคำมีเสียงสัญญาณเตือนว่ามีข้อความเข้ามาในมือถือดังขึ้น ณิชรันย์หันมองตามเสียงเห็นมือถือของพี่ชายลืมเอาไว้ ตั้งใจจะเอาไปให้เขาที่ที่ทำงาน...

ขอจันทร์เดินเข้ามาในบริษัทเชตวัตรกรุ๊ปกับนที ได้ยินพวกพนักงานพากันซุบซิบนินทาตัวเองก็ไม่ค่อยสบายใจ ถามเขาว่าแน่ใจหรือว่าจะให้เธอมาทำงานที่นี่

“ก็เพราะผมรู้ว่าคุณไม่ยอมรับเงินผมเปล่าๆน่ะสิ เพราะฉะนั้นก็ทำงานให้ผมแลกกับเงินก็แล้วกัน”

ลีน่าผ่านมาเห็นทั้งคู่ปรี่เข้ามาทักทายนทีวันนี้พาเด็กที่บ้านมาเที่ยวด้วยหรือ ขอจันทร์ไม่พอใจเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เสียงเขียวใส่ ตนไม่ได้มาเที่ยวแต่มาทำงาน ลีน่าหมั่นไส้หาเรื่องแดกดันต่างๆนานา แถมยังพูดจาดูถูกอีกต่างหาก ขอจันทร์ก็เลยด่าคืนให้บ้าง ก่อนจะเดินออกไปกับนที แทนที่จะโกรธลีน่ากลับชอบใจ

“อย่างนี้สิถึงจะสนุก”

บุญนำมองอยู่ที่มุมหนึ่งไม่สบายใจมาก รีบหยิบมือถือขึ้นมาจะโทร.รายงานศิลา แต่เขาโผล่มาที่บริษัทเสียก่อน บุญนำรีบรายงานเรื่องที่เห็นขอจันทร์มากับนที เขาไม่สนใจจะฟัง รีบตามสองคนนั่นไปทันที เดินได้ไม่กี่ก้าวเจอณิชรันย์ยืนงงๆอยู่ ร้องทักว่ามาทำอะไรที่นี่ เธอจะเอามือถือที่พี่ชายของเธอลืมไว้มาให้ แต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน พอรู้ว่าครรชิตอยู่ห้องทำงานเก่าของศิลา ณิชรันย์ขอโทษเขาแทนพี่ชายตัวเองด้วย

“ไม่เป็นไร...ไปเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”...

ระหว่างเดินมาตามทางในบริษัท ขอจันทร์อยากรู้ว่านทีจะให้ทำงานตำแหน่งอะไร เขาจะให้เธอเป็นผู้ช่วยของเขาไปพลางๆก่อน เธอเดินไปคุยไปไม่ทันระวังสะดุดขาตัวเองจะล้ม นทีรีบประคองเธอไว้ ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า จังหวะนั้น ศิลาเดินเข้ามากับณิชรันย์เห็นภาพบาดตาถึงกับอึ้ง ณิชรันย์ทนไม่ได้ วานศิลาช่วยเอามือถือไปให้ครรชิตแทนเธอด้วยแล้วผลุนผลันออกไป นทีหันมาเห็นณิชรันย์ รีบวิ่งตาม ทิ้งขอจันทร์ไว้ตรงนั้น

ณิชรันย์วิ่งหนีมาถึงบันไดทางลงไปชั้นล่าง นทีที่ไล่หลังมาตะโกนบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ขอจันทร์รองเท้ากัด เขาก็เลยจะดูให้ เธอหยุดกึกหันมาประชดว่ามาบอกเธอทำไม

“ถ้ารันไม่ได้คิดอะไรแล้วรันเดินหนีทีมาแบบนี้ทำไม”

“ทีคิดว่ารันหึงทีเหรอ เราไม่ได้รักกันนะที” ณิชรันย์ทำเหมือนไม่แคร์ แต่ในใจกลับเจ็บช้ำไม่อาจทนฟังต่อได้ หันหลังจะไป นทีคว้าแขนไว้ขอร้องให้คุยกันก่อน เธอไม่มีอะไรจะคุยด้วย สะบัดแขนเขาออกอย่างแรงจนตัวเองเสียหลักร่วงตกบันได นทีจะคว้าแต่ไม่ทัน...

อีกมุมหนึ่งของบริษัท ขอจันทร์เดินกะเผลกๆมาตามทางโดยมีศิลาตามมาห่างๆด้วยความเป็นห่วง แนะให้นั่งพักก่อนถ้าเท้ายังเจ็บ เธอไม่สนใจกัดฟันเดินต่อไป อารามจะเดินหนีให้พ้นหน้าเขา ยิ่งทำให้รองเท้ากัด เดินไม่ไหวจะล้ม ศิลารีบประคองเธอไว้ แล้วนึกขึ้นได้ว่าพกปลาสเตอร์ในกระเป๋าประคองเธอนั่งลงแล้วถอดรองเท้าออกให้ เธอชักเท้าหนีแต่เขาดึงเอาไว้ สั่งให้อยู่เฉยๆก่อนจะปิดปลาสเตอร์ให้ มีพนักงานพากันวิ่งผ่านหน้าทั้งคู่ไปอย่างรีบร้อน ศิลาร้องถามหนึ่งในพวกนั้นว่ามีอะไรกันหรือ

“น้องสาวคุณครรชิตตกบันไดค่ะ” คำตอบของพนักงานทำให้ศิลากับขอจันทร์พากันตกใจ

ooooooo

ไม่นานนัก ณิชรันย์ที่นอนสลบไม่ได้สติถูกนำตัวมายังห้องฉุกเฉิน นทีซึ่งวิ่งตามมาด้วยเป็นความห่วงถูกพยาบาลสั่งให้รอหน้าห้อง ขณะที่หมอกับพยาบาลอีกชุดหนึ่งกรูกันเข้ามาล้อมรอบตัวเธอ สักพัก ขอจันทร์กับศิลาตามมาสมทบถามว่าณิชรันย์เป็นอย่างไรบ้าง ทำไมเธอถึงตกบันได นทีเอาแต่ยืนนิ่งไม่ตอบ

จังหวะนั้น ครรชิตเดินหน้าเครียดเข้ามาถามว่าน้องสาวของตนอยู่ไหน เธอตกบันไดได้อย่างไร หรือว่าศิลากับพวกอยากแก้แค้น ทำกับตนไม่ได้ก็เลยหันไปเล่นงานน้องสาวของตนแทนที่

“ใจเย็นๆก่อนสิ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องร้ายๆ อย่างนี้ขึ้นกับรันหรอก”

“ทำไมฉันต้องเชื่อพวกแก ในเมื่อพวกแกพยายามจะฆ่าน้องสาวฉันเหมือนที่ฆ่าพ่อฉัน ถ้าน้องฉันเป็นอะไรไปล่ะก็ พวกแกจะต้องชดใช้...แกกลับไปซะ”

นทีไม่ยอมไปไหนทั้งนั้นจนกว่าณิชรันย์จะฟื้น ครรชิตไล่ตะเพิดทุกคนไปให้พ้น ตนดูแลน้องตัวเองได้ ขอจันทร์เห็นเขากำลังโกรธชวนนทีกับศิลากลับกันก่อน ไว้ค่อยมาเยี่ยมณิชรันย์ทีหลัง แล้วช่วยกันกับศิลาลากนทีกลับไป...

ครรชิตแทบช็อกเมื่อหมอเจ้าของไข้แจ้งว่าณิชรันย์กับเด็กในท้องปลอดภัย แต่ถ้าจะให้แน่ใจหมอคงต้องรอผลอัลตราซาวนด์อีกครั้งหนึ่งก่อน จากนั้นไม่นานครรชิตประคองณิชรันย์ในสภาพมีผ้าพันที่ข้อเท้ากับมีรอยฟกช้ำตามตัวเข้ามาในบ้าน เด็กรับใช้รีบเข้ามาช่วยประคองเธออีกข้างหนึ่งไปนั่งที่โซฟา ครรชิตไล่เด็กรับใช้ออกไปก่อน แล้วหันมาคาดคั้นน้องสาวว่าท้องกับใคร เธอบอกเขาไม่ได้ ครรชิตจับแขนสองข้างของเธอเขย่า

“ทำไมแกถึงบอกฉันไม่ได้ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”

ณิชรันย์สะบัดมือครรชิตออก แล้ววิ่งหนีไปทั้งน้ำตา เขามองตามขบกรามแน่นด้วยความแค้น...

ตกค่ำ ขณะที่ครรชิตกำลังดื่มเหล้าดับความขุ่นเคืองใจอยู่ที่ผับหรู ลีน่าเข้ามานั่งข้างๆพูดจายั่วประสาทตามนิสัยตัวแสบเรื่องที่ณิชรันย์ท้องและเขากำลังจะได้เป็นลุง เขาไม่พอใจคว้าคอเธอบีบ ขู่ซ้ำถ้ายังพูดเรื่องนี้อีกจะไม่ให้เธอได้พูดอีกต่อไป แล้วคลายมือออก ก่อนจะถามว่ามาที่นี่ทำไม เธอโทร.หาแต่เขาไม่รับสายก็เลยต้องมาด้วยตัวเอง เขาไล่ตะเพิดให้กลับไป ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย

“แล้วถ้าฉันบอกว่าพรุ่งนี้จะมีตัวแทนของมิสเตอร์ทีมาที่บริษัทล่ะ...เตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน” ลีน่ายิ้มยั่วก่อนจะเดินจากไป

ไม่ใช่ครรชิตเท่านั้นที่รู้เรื่องตัวแทนของมิสเตอร์ทีจะมาที่บริษัทเชตวัตรกรุ๊ป บุญนำก็รู้เรื่องนี้เช่นกันรีบโทร.รายงานศิลาซึ่งแปลกใจมาก ถามย้ำว่าแน่ใจหรือ เขาแน่ใจเพราะทางนั้นติดต่อมาเพื่อให้ทางเราเตรียมการต้อนรับ ศิลางงทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน บุญนำเองก็งงไม่แพ้กัน

“ถ้าไม่ใช่คุณศิลาแล้วจะเป็นใคร เพราะทางนั้นแจ้งว่ามีคนนามสกุลเชตวัตรติดต่อไปเมื่อเร็วๆนี้เองครับ”

ศิลาถึงบางอ้อทันที รีบจ้ำพรวดๆไปที่ห้องนอนของนที เคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้งไม่มีใครเปิดรับ เขาลองเปิดประตูเข้าไปดู ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าของห้อง...

ณิชรันย์เครียดจัดหยิบเหล้ามาเทใส่แก้วจะดื่ม แต่แล้วก็ได้คิดรีบเททิ้งลงอ่างล้างมือ รู้สึกผิดที่เกือบจะทำร้ายลูก มีเสียงมือถือของเธอดังขึ้น ณิชรันย์หยิบขึ้นมาดูเห็นนทีโทร.มา ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นจนสายตัดไปเอง สักพักมีเสียงมือถือดังขึ้นอีกครั้ง เธอตัดสินใจรับสาย นทีบอกว่าอยู่หน้าบ้านให้ช่วยมาเปิดรับด้วย เธอเดินไปดูที่หน้าต่าง เห็นเขายืนอยู่หน้าประตูรั้ว ถามว่ามาทำไม

“เมื่อครู่นี้ทีไปหารันที่โรงพยาบาลมา แต่พยาบาลบอกว่ารันออกมาตั้งแต่บ่ายแล้ว ทีเป็นห่วงรันรันไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

“รันไม่เป็นอะไร ทีกลับไปเถอะ” ณิชรันย์พูดจบจะเดินไปที่เตียง แต่เกิดเจ็บขาขึ้นมาร้องโอ๊ยลั่น นทีได้ยินเสียงจากมือถือก็ตกใจ จะปีนรั้วเข้ามาหา เธอร้องห้ามเสียงหลงไม่ต้องเข้ามา เธอไม่ได้เป็นอะไร

“รันแน่ใจนะ แล้วเด็กล่ะ ปลอดภัยใช่ไหม”

“อืม...กลับไปได้แล้ว อยากให้พี่ชิตรู้นักเหรอ”

นทีไม่ยอมไป ณิชรันย์ขู่ถ้าไม่เลิกยุ่งกับเธอคราวหน้าเธอจะตั้งใจตกบันไดให้รู้แล้วรู้รอด เขาจะได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือต้องรับผิดชอบอีก เขาสงบปากสงบคำแทบไม่ทัน

ooooooo

เช้าวันถัดมา นทีเดินคุยถึงตารางนัดของตัวเองอยู่กับขอจันทร์ยังไม่ทันจะถึงห้องทำงาน รปภ.วิ่งหน้าตื่นเข้ามาแจ้งว่าสัญญาณกันขโมยดังมาจากรถของเขา รบกวนกลับไปดูที่รถด้วย

“คุณขึ้นไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมมา”

ขอจันทร์รับคำแล้วเดินต่อไป ระหว่างนทีเดินกลับไปที่รถ คิดถึงคำพูดของณิชรันย์และนึกถึงความรับผิดชอบ ตัดสินใจจะไปสารภาพความจริงให้ครรชิตรู้ จ้ำพรวดๆไปที่ห้องของฝ่ายหลัง พยายามจะบอกเรื่องที่ตัวเองเป็นพ่อเด็กในท้องณิชรันย์แต่ไม่มีโอกาสพูด เพราะตัวแทนของมิสเตอร์ทีมาถึงเสียก่อน ครรชิตรีบลากตัวนทีออกจากห้องพร้อมกับลีน่า

“ครั้งนี้ฉันจะทำให้มันรู้ว่าฉันเร็วกว่าไอ้ศิลาอยู่หนึ่งก้าวเสมอ” ครรชิตคุยโว แล้วเห็นศิลากับบุญนำเดินเลี้ยวมาจากอีกทางหนึ่งเพื่อไปยังห้องรับรองแขกก็ยิ้มเย้ย “ข่าวเร็วเหมือนกันนี่ แต่ยังไงก็สายไปอยู่ดี”

ศิลาพยายามกล่อมนทีให้ล้มเลิกความคิดนี้ แต่เขาไม่สนใจ หันไปเร่งครรชิตรีบไปพบตัวแทนของมิสเตอร์ที เกรงทางนั้นจะรอนาน แล้วเดินลิ่วไปที่ห้องรับรองแขกกับลีน่า ครรชิตหันมาประจันหน้ากับศิลา

“ตอนนี้แกยังเหลือเวลาเป็นเจ้าของเชตวัตรอีกแค่อึดใจเดียวเท่านั้น แต่หลังจากที่ฉันก้าวเข้าไปในห้องนั้น เชตวัตรจะต้องกลับมาเป็นของนพอนันต์” พูดจบครรชิตเดินตามนทีกับลีน่าไปอย่างอารมณ์ดี

“จะทำยังไงดีล่ะครับคุณศิลา เข้าไปขวางเลยดีไหมครับ” บุญนำร้อนใจมาก ศิลากลับบอกว่าไม่ต้อง สั่งให้เขาไปจองห้องอาหารเพื่อเลี้ยงต้อนรับคุณแลรี่ ตัวแทนของมิสเตอร์ที บุญนำมึนตึบ

“แล้วจะจองไปทำไมกันล่ะครับ ในเมื่อ...”

“อย่าเพิ่งถามอะไรเลยครับ ช่วยทำตามที่ผมบอกก็พอ”...

สักพักครรชิตเดินหน้าบูดบึ้งออกมาพร้อมกับลีน่าและนที เนื่องจากแลรี่ไม่ยอมเจรจาด้วย ศิลาเห็นสีหน้าของเขาก็พอจะเดาเรื่องได้ แกล้งถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตกลงเชตวัตรจะเปลี่ยนเป็นของนพอนันต์เมื่อไหร่

“แกยื่นข้อเสนออะไรให้มัน”

“ไม่มีอะไร ฉันคงลืมบอกแกไปว่า ทางเดียวที่แกจะได้หุ้นจากมิสเตอร์ที คือแกต้องเป็นเชตวัตรเท่านั้น” พูดจบศิลาผละจากไป บุญนำยิ้มสะใจเดินตาม เมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าห้องรับรองแขกคุณแลรี่ออกมาพอดี ร้องทักศิลาอย่างสนิทสนม แล้วขอโทษเขาด้วยที่ไม่สามารถเก็บเรื่องความตายของมิสเตอร์ทีเป็นความลับต่อไปได้

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าต้องมีวันนี้สักวัน แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือทำไมจู่ๆคุณแลรี่ถึงได้ประกาศเรื่องการตายของมิสเตอร์ทีออกมา ไหนคุณแลรี่บอกว่ากลัวความวุ่นวายเกี่ยวกับทรัพย์สินของท่านไม่ใช่เหรอครับ”

“นี่แหละครับ ผมถึงเดินทางมาที่นี่เพื่ออยากคุยกับคุณเรื่องนี้แหละครับ” สีหน้าเคร่งเครียดของคุณแลรี่ทำให้ศิลามองออกว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญ เชิญไปคุยกันต่อที่ห้องทำงานของเขา...

ด้านครรชิตแค้นใจสุดๆที่อุตส่าห์เสนอราคาหุ้นให้สูงลิบขนาดนี้แล้วคุณแลรี่ยังเมิน พาลหาเรื่องเล่นงานนทีระบายอารมณ์ จนเขาทนไม่ได้เดินหนี ลีน่าบอกให้ครรชิตใจเย็น ใช้อารมณ์ไปก็เท่านั้น

“ถ้าเราเสียทีไปอีกคน เราอาจจะยิ่งเสียเปรียบก็ได้”...

เรื่องสำคัญที่คุณแลรี่ต้องการคุยกับศิลาก็คือเรื่องที่มิสเตอร์ทีแอบมามีภรรยาลับเป็นคนไทยอยู่ที่นี่ความจริงท่านจะเปิดเรื่องภรรยาคนนี้อยู่แล้ว แต่เกิดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่เสียก่อน

“จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ทนายความประจำตัวของมิสเตอร์ทีได้บอกกับผมว่าครบกำหนดเปิดอ่านพินัยกรรมที่มิสเตอร์ทีได้ระบุไว้หลายปีก่อนหน้าที่ท่านจะจากไป ผมถึงได้ทราบว่ามิสเตอร์ทีมีลูกสาวกับภรรยาลับคนนั้นอยู่คนหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครรู้ และในพินัยกรรมระบุไว้ชัดเจนว่าหุ้นในส่วนของเชตวัตรทั้งหมดนั้นไม่ใช่ชื่อมิสเตอร์ที แต่ระบุว่าต้องมอบให้กับลูกสาวซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวของท่านเท่านั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าทายาทที่ว่าคือใคร และถ้าหาทายาทคนนี้ไม่เจอ หุ้นส่วนนี้ก็จะถูกขายเพื่อมอบเงินให้กับมูลนิธิต่างๆต่อไป”

“ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องหาเธอให้เจอใช่ไหม” ศิลาหน้าเครียดขึ้นมาทันที

ooooooo

ที่มุมหนึ่งของบ้านเชตวัตร ขณะน้ำทิพย์กำลังเอาพวงมาลัยดอกมะลิวางหน้ารูปถ่ายของเมฆา เดือน-วารีโดดกอดแม่จากด้านหลังหยอกล้อเหมือนที่เคยทำ แม่อิ่มยิ้มให้กับความสดใสขี้เล่นของเธอ อยู่ๆเดือน-วารีถามแม่ว่าทำไมหน้าตาตัวเองไม่เห็นเหมือนพ่อ น้ำทิพย์สะดุ้งโหยงก่อนจะเอ็ดลูก

“ยัยวา พูดอะไรไร้สาระ”

เดือนวารีงงแค่พูดเล่นทำไมแม่ต้องเป็นจริงเป็นจังด้วย ลูกหน้าไม่เหมือนพ่อมีเยอะแยะไป แม่อิ่มรีบเปลี่ยนเรื่องพูด พรุ่งนี้เป็นวันเกิดคุณวาไม่ใช่หรือ จะจัดงานที่บ้านเหมือนทุกปีหรือเปล่า เดือนวารีส่ายหน้า ที่เธอมาหาแม่ก็เพื่อจะบอกว่าปีนี้ไม่ต้องจัดงานวันเกิดให้ เพราะพักนี้บ้านเรามีแต่เรื่องยุ่งๆ

“วันไหนๆก็เหมือนกันแหละค่ะ ขอบคุณนะคะป้าอิ่ม วาไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ”

น้ำทิพย์มองตามลูกสาวที่ยิ้มร่าออกไปพลางถอนใจหนักใจ แล้วหันไปขอบใจแม่อิ่มมากที่ช่วยเบนความสนใจของเดือนวารี เพราะท่านก็ไม่รู้จะตอบลูกอย่างไร

“ที่จริงดิฉันก็ไม่ได้อยากให้คุณวาเธอต้องมารู้ความลับนั้นเหมือนกัน ตอนนี้เธอสดใสมีความสุขดีอยู่แล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งเธอเกิดรู้ความจริงนั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ คงเสียใจน่าดู”...

เดือนวารีกลัวตะวันฉายจะลืมวันเกิดของเธอ ลองเลียบๆเคียงๆถามว่ารู้หรือเปล่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร เขาจำได้ขึ้นใจอยู่แล้วแต่แกล้งลืมเพราะความเจียมตัว สาโรจน์เดินมาจากมุมหนึ่งได้ยินทั้งคู่คุยกันก็หลบมุมแอบฟัง เดือนวารีทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เขาจำวันเกิดตัวเองไม่ได้เดินหนี เขามองตามยิ้มๆ แต่พอหันหลังจะกลับเรือนเล็กต้องชะงักที่เห็นพ่อยืนจ้องอยู่ รีบหุบยิ้มทันทีแล้วเดินหนี สาโรจน์ตามมาคาดคั้นทำไมต้องโกหกคุณวาว่าจำวันเกิดเธอไม่ได้ ทั้งที่ตัวเองใช้ปากกาสีแดงวงที่ปฏิทินตัวเป้งขนาดนั้น เขานิ่งไม่ตอบอะไร

“ฉันไม่อยากให้แกคิดอะไรเกินเลยกับคุณวาถ้ามันเพิ่งเริ่มแกก็ตัดใจซะตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า”

“แล้วถ้าฉันเลือกที่จะรักเขาข้างเดียวล่ะพ่อ มันไม่ผิดใช่ไหม”

สาโรจน์อธิบายว่าไม่ผิดที่จะรัก แต่ผิดเพราะคุณวาอยู่สูงเกินไปสำหรับลูก ยิ่งเขาบินสูงขึ้นไปเท่าไหร่ก็จะตกลงมาเจ็บมากขึ้นเท่านั้น ตนไม่อยากเห็นเขาต้องเจ็บแบบตน แล้วเดินจากมาโดยเลี่ยงที่จะพูดถึงแม่ของ ขอจันทร์ที่ตัวเองแอบหลงรัก...

ฝ่ายขอจันทร์เป็นห่วงณิชรันย์ ขออนุญาตนทีเลิกงานเร็วหน่อยเพื่อไปเยี่ยมเธอที่บ้าน ถือโอกาสนี้ชวนเขาไปด้วย แต่ต้องแปลกใจที่เจอศิลาอยู่ที่นั่นเช่นกัน นทีหัวเสียทันทีแขวะพี่ชายตัวเองเป็นทำนองมีเมียอยู่แล้วทั้งคนแทนที่จะกินข้าวกับเธอ กลับมากินข้าวเย็นบ้านคนอื่นทั้งที่บอกเธอว่ารักนักรักหนา

“เมียฉันก็มีแกอยู่ทั้งคนแล้วนี่ จะต้องไปห่วงอะไรอีก”

“ที่จริงฉันไม่ได้อยากเป็นภาระให้ใครต้องมาเป็นห่วงหรอก ฉันควรจะห่วงตัวเองก่อนซะด้วยซ้ำจะได้ไม่ต้องโดนใครบางคนหลอกซ้ำๆซากๆ...ขอตัวนะคะคุณรัน” ขอจันทร์ทนไม่ไหวผลุนผลันออกไป นทีมองณิชรันย์อย่างขุ่นเคืองก่อนจะตามขอจันทร์ออกไป...

หลังกินมื้อเย็นเสร็จ ศิลาขอตัวกลับ ไม่อยากอยู่เจอหน้าครรชิต ณิชรันย์ขอบคุณเขามากที่มากินข้าวเป็นเพื่อน ชวนให้แวะมาอีกบ่อยๆ เขาอดถามไม่ได้ว่าพี่ชายของเธอรู้เรื่องเธอท้องหรือยัง เธอโกหกว่ายัง ศิลาเห็นเธอเหม่อๆเหมือนมีอะไรปิดบัง เสนอตัวว่า

ถ้ามีอะไรจะปรึกษา เขายินดีเสมอแล้วจะมาเยี่ยมใหม่

“พี่ศิลาคะ พี่กับแองจี้เลิกกันแล้วจริงๆเหรอคะ”

ศิลานิ่งอึ้งไปอึดใจก่อนจะพยักหน้ารับคำ บอกให้เธอพักผ่อนมากๆแล้วเดินไปขึ้นรถ

ooooooo

ขณะที่ขอจันทร์ยืนซึมอยู่ที่สวนข้างบ้านเชตวัตร นทีเข้ามาขอโทษเรื่องที่เธอตั้งใจจะไปทำอะไรดีๆ แต่กลับต้องไปเจอเรื่องแย่ๆ เธอไม่อยากให้เขามาขอโทษในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด

“ถ้าจะมีคนผิดฉันว่า...” ขอจันทร์หยุดกึกเมื่อเห็นศิลาที่เพิ่งกลับเข้ามา เขาจ้องหน้าเธออึดใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้านโดยไม่พูดอะไรสักคำ ขอจันทร์เสียใจมากไม่อยากให้นทีเห็นน้ำตา ขอตัวไปพักผ่อนแล้วเดินกลับเรือนเล็ก นทีเดินตามพี่ชายจนทันต่อว่าเขาที่ไปวุ่นวายกับณิชรันย์ สองพี่น้องมีปากเสียงกันดังลั่นบ้าน น้ำทิพย์ต้องเข้ามาปรามให้ใจเย็นๆกันก่อน นทีหันมองแม่แล้วเดินหัวเสียขึ้นห้อง ท่านถามศิลาว่ามีเรื่องอะไรกัน

“ไม่มีอะไรหรอกครับ เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”

“แม่เกือบลืมแน่ะ คุณบุญนำโทร.มาบอกแม่ว่าตัวแทนมิสเตอร์ทีเข้าไปพบลูกที่บริษัท เป็นยังไงบ้าง”

ศิลาเล่าเรื่องลูกสาวซึ่งเป็นทายาทคนเดียวของมิสเตอร์ทีที่เกิดกับภรรยาลับที่เป็นคนไทยให้แม่ฟัง พร้อมกับถามว่าพอจะจำเรื่องราวอะไรได้บ้างไหม น้ำทิพย์ไม่ค่อยจะรู้เรื่องของเขาเท่าใดนัก มาเมืองไทยเมื่อไหร่ก็มักจะออกไปข้างนอกกับเมฆาตลอด ศิลาย้ำหากแม่พอจะนึกอะไรออกต้องรีบบอกตนทันที เพราะทายาทคนนี้กำลังจะถือหุ้นเชตวัตรกรุ๊ปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หากเราช้าแม้แต่ก้าวเดียว เราอาจต้องเสียเชตวัตรกรุ๊ปไปจริงๆ

“เราต้องหาเธอให้เจอก่อนครรชิตให้ได้” ศิลาเสียงเครียด

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น เดือนวารียังงอนไม่หายที่ตะวันฉายจำวันเกิดของเธอไม่ได้ พอเจอหน้ากันก็เลยเหวี่ยงวีนใส่ แถมไล่ตะเพิดไปไกลๆ เขาเดินหน้าเครียดกลับมาที่เรือนเล็ก ขอจันทร์กำลังจะไปทำงาน เห็นสีหน้าน้องชายก็ทักทำไมทำหน้าแบบนั้น เขาได้แต่อึกอัก เธอเห็นเขาไม่พูดอะไรขยับจะไป ตะวันฉายเรียกไว้

“เดี๋ยวก่อนสิพี่ คือวันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งของฉัน แต่ฉันแกล้งทำเป็นจำวันเกิดเธอไม่ได้ เธอก็เลยงอนใหญ่ ฉันควรจะทำอย่างไรดี”

“ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆก็ไม่เห็นจะต้องงอนเลย ว่าแต่...เธอเป็นใครเหรอ”

ตะวันฉายได้แต่บอกว่าเป็นเพื่อนในกลุ่ม ขอจันทร์มองท่าทางน้องชายพอจะเดาได้ว่าหมายถึงใคร แนะให้เขาบอกความรู้สึกที่ตัวเขามีต่อผู้หญิงคนนั้นไปตามตรง ความรักเป็นสิ่งดีงาม ยิ่งถ้ามาจากใจจริงๆไม่ได้โกหกหลอกลวงก็ถือว่าโชคดีมากๆ แล้วตบไหล่เป็นกำลังให้เขา...

รุจน์ต้องการจะทำวันเกิดของเดือนวารีให้เป็นวันพิเศษแต่ไม่รู้จะทำวิธีไหนดี จึงขอคำปรึกษาจากน้ำหนึ่งซึ่งแนะนำให้เขาทำเซอร์ไพรส์ให้ รุจน์หูผึ่งขึ้นมาทันที...

ในเวลาต่อมา ที่มหาวิทยาลัย เดือนวารีกำลังจะเดินไปตึกเรียนเจอตะวันฉายเดินมาจากอีกทางหนึ่งก็เชิดใส่เดินต่อไปไม่สนใจ เขาเดินตามพร้อมกับไลน์ถามเธอว่าคืนนี้ว่างหรือเปล่า มีเรื่องอยากจะคุยด้วย เธอหันขวับมาบอกให้คุยตอนนี้เลยก็ได้ เขาขอเป็นคืนนี้จะดีกว่า

“งั้นนายก็ลองไลน์มาก่อนแล้วกัน ถ้าฉันว่างก็อาจจะไป” เดือนวารีว่าแล้วหันหลังเดินต่อ พอเห็นเขาไม่ตามก็ฉีกยิ้มหน้าบาน ไม่ทันสังเกตเห็นเชนแอบมองมาที่ทั้งคู่ด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย...

ฝ่ายนทียังครุ่นคิดถึงเรื่องที่บ้านณิชรันย์ไม่หาย พอขอจันทร์มาชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เดือนวารี ก็เลยไม่มีอารมณ์จะไปด้วย วานเธอช่วยไปจัดการให้ อ้างตอนบ่ายมีนัด ขอจันทร์งงในตารางนัดไม่เห็นลงเอาไว้ เขาโกหกว่าลูกค้าเพิ่งโทร.มานัดเมื่อครู่นี้เอง เธอพยักหน้ารับรู้แล้วกลับไปทำงานต่อไป...

ระหว่างที่นทีมีแผนจะแวะไปหาณิชรันย์ตอนบ่ายวันนี้ ลีน่าตั้งข้อสังเกต ในเมื่อแลรี่ไม่ได้มาเพื่อขายหุ้นให้ศิลาและไม่ได้มาเพื่อพบประธานบริหารคนใหม่ของเชตวัตรกรุ๊ป ถ้าอย่างนั้นเขามาเมืองไทยทำไม ครรชิตเห็นด้วยว่าต้องมีเงื่อนงำบางอย่างสั่งการให้วุธคอยจับตาดูศิลาทุกฝีก้าว ลีน่าทักท้วง ถ้าเป็นเธอจะให้จับตาดู

บุญนำมากกว่า ศิลาเป็นคนระวังตัวทุกฝีก้าว ถ้าจะทำอะไรก็คงไม่ลงมือทำเอง

เป็นอย่างที่ลีน่าคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน ศิลาสั่งการให้บุญนำเป็นคนติดต่อนักสืบให้สืบหาภรรยาลับๆของมิสเตอร์ที โดยที่บุญนำไม่รู้ว่าถูกวุธกับพวกสะกดรอยตาม สุดท้ายเขาถูกอุ้มตัวไปยังตึกร้างแห่งหนึ่งเพื่อเค้นความจริงว่าศิลามีแผนจะทำอะไร แต่เขาไม่ยอมเปิดปาก วุธสั่งให้ลูกน้องซ้อมจนกว่าเขาจะยอมพูด

ในที่สุดบุญนำก็ยอมเปิดปากบอกว่ากำลังตามหาภรรยาลับของมิสเตอร์ทีแต่ไม่พูดเรื่องลูก ครรชิตสั่งให้ วุธตามหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอก่อนศิลา ส่วนบุญนำก็ให้กักตัวไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น...

นทีแวะไปหาณิชรันย์ที่ร้านสปา พนักงานที่นั่นบอกว่าเธอออกไปแล้วให้เขาลองโทร.เข้ามือถือ เขาไม่มีธุระด่วนอะไรแค่จะเอาของมาให้แล้วฝากถุงใบหนึ่งไว้ พนักงานรอจนนทีลับสายตา หยิบถุงใบนั้นไปให้ณิชรันย์ซึ่งอยู่ในห้องทำงาน พนักงานอดถามไม่ได้ว่าทะเลาะกับนทีหรือ เธอแปลกใจทำไมคิดอย่างนั้น

“ก็ปกติเวลาคุณทีมาดูคุณรันจะดีใจ แต่นี่กลับสั่งให้บอกว่าไม่อยู่”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ งานรันเยอะน่ะ” ณิชรันย์โกหกหน้าตาเฉย ทันทีที่พนักงานปิดประตูห้อง เธอหยิบถุงของฝากของนทีขึ้นมาดู ข้างในเป็นหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็ก รวมทั้งการดูแลตัวเองเวลาตั้งครรภ์ ณิชรันย์ถึงกับหน้าเครียด...

ที่ห้างฯหรูกลางกรุง ระหว่างศิลากำลังเดินหาซื้อของขวัญให้น้องสาว น้ำทิพย์โทร.มาบอกว่าพอจะจำบางอย่างได้ ตอนนั้นมิสเตอร์ทีชอบไปตีกอล์ฟบ่อยๆ เมฆาเล่าให้ฟังว่าเขากำลังชอบพอกับแคดดี้หน้าตาดีคนหนึ่งที่นั่น เธออาจจะมีลูกกับเขาก็ได้ ศิลาขอบคุณท่านมาก วางสายแล้วโทร.หาบุญนำ มัวแต่ก้มหน้ากดเบอร์ เดินชนเข้ากับขอจันทร์อย่างจัง เขาอดสงสัยไม่ได้เธอมาทำอะไรที่นี่ไม่ทำงานหรือ

“ฉันกำลังหาซื้อของขวัญให้คุณวาแทนคุณที”

“งั้นเธอกลับไปเลย เดี๋ยวเรื่องของขวัญยัยวาฉันจัดการเอง” ศิลาเห็นเธอยืนนิ่งก็ไล่ซ้ำ เธอไม่ไปในเมื่อเขาไม่ได้เป็นเจ้านาย เธอไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของเขาแล้วเดินหนี ศิลามองตามยิ้มๆก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง...

ศิลาเดินดูของหลายอย่างแต่ไม่ถูกใจ จนกระทั่งไปจบที่เคาน์เตอร์ขายน้ำหอม สักพักขอจันทร์ตามเข้ามา เขาสังเกตเห็นชายชุดดำท่าทางมีพิรุธ ขอตัวไปดูของอย่างอื่น สั่งห้ามเธอตามเด็ดขาด แล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัว รอจนชายชุดดำทั้งสองคนเดินผ่านจึงวิ่งหนีไปอีกทางแต่ชนเข้ากับขอจันทร์เต็มๆ เขาเอ็ดลั่นสั่งไม่ให้ตามยังจะตามมาอีก ชายชุดดำได้ยินเสียงโวยวายรีบวิ่งกลับมา ศิลาเห็นท่าไม่ดีคว้ามือเธอวิ่งหนี

ขอจันทร์คิดว่าเป็นละครตบตาของเขาอีกครั้งหนึ่ง ไม่ยอมหนี เขาต้องลากเธอไปหลบในห้องลองเสื้อ ชายชุดดำทั้งสองคนไม่ยอมรามือ ตามมาเห็นห้องลองเสื้อปิดประตูอยู่ ต่างให้สัญญาณเตรียมพร้อม

ooooooo

คู่วุ่นลุ้นแผนรัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด