สมาชิก

คุณผีที่รัก

ตอนที่ 13

อัลบั้ม: นิยายเรื่อง "คุณผีที่รัก"

เข้าไปดูในห้องเมสินีก็ไม่พบอะไร พีระออกมาส่องดูข้างนอกบอกน้ำมนต์ว่าทางสะดวกออกมาเลย แต่พอน้ำมนต์ออกมาก็เจอกับพนักงานหน้าตาขึงขังคนหนึ่งจ้องอยู่ ถามว่ามาทำอะไรในห้องเมสินี

น้ำมนต์สะดุ้ง พนักงานคนนี้หาว่าเป็นขโมยตะโกนบอกให้ตาม รปภ.มาจับ พีระตะโกนบอกน้ำมนต์ให้หนี แต่อยู่ๆแมนสรวงก็วิ่งเข้ามาบอกพีระอย่างตื่นเต้นว่าตนเจอที่ซ่อนลุงสนแล้ว บอกให้ตามมาเร็ว พีระรีบวิ่งตามแมนสรวงไป

ที่ห้องลับ ลุงสนยังคงเห็นภาพหลอนตะโกนโวยวายไล่ “ออกไปๆๆๆ” อาจารย์เทพบอกยุทธกับเมสินีว่า

“ไม่เคยมีใครทนอาคมนี้ได้เกินสิบห้านาที ถ้ามันไม่พูดออกมา มันก็จะกลายเป็นคนวิกลจริต จนต้องพูดทุกอย่างออกมาเองอยู่ดี”

ครู่ต่อมาลุงสนก็ร้องบอกว่ายอมแล้ว จะบอกว่าร่างคุณพีทอยู่ที่ไหน แต่ให้เอาพวกผีเหล่านั้นออกไปก่อน เมสินีให้บอกก่อนแล้วถึงจะเอามันออกไป
ที่ข้างนอก แมนสรวงพาพีระกับน้ำมนต์มาถึงแล้ว น้ำมนต์เร่งให้รีบไปช่วยลุงสน แมนสรวงเตือนสติว่า

“อย่า...ไอ้หมอผีเทพอยู่ข้างใน ถ้าเราผลีผลามเข้าไป เราจะเสร็จมัน”

พีระถามว่าแล้วจะเอาอย่างไร แมนสรวงมองไปรอบๆเห็นถังดับเพลิงวางอยู่ ฉุกคิดได้ก็ตาโต

เป็นนาทีที่ลุงสนทนไม่ได้กำลังบอกว่าร่างของพีระอยู่ที่ คลิ...พลันก็หยุดกึกเมื่อมีควันพวยพุ่งเข้ามาอย่างหนาแน่น!

ฝีมือพีระนั่นเอง เขาเอาท่อถังดับเพลิงสอดผ่านช่องลมเข้าไปในห้องแล้วฉีดไม่หยุด พวกพนักงานตกใจคิดว่าไฟไหม้

ท่ามกลางหมอกควันนั่นเอง อาจารย์เทพคว้าลุงสนขึ้นมา แต่ต้องผงะเมื่อเจอพีระเดินฝ่าหมอกควันมายืนขวางหน้าถามว่าจะเอาลุงสนไปไหน! แล้วต่อยอาจารย์เทพกระเด็น พอจะลุกขึ้นสู้ก็ถูกแมนสรวงล็อกจากด้านหลัง อาจารย์เทพตาเหลือกเมื่อเห็น พีระสะบัดหมัดพร้อมต่อยอยู่ตรงหน้า!

น้ำมนต์พาลุงสนหนีในสภาพที่ลุงสนยังคลั่งเพราะหวาดกลัวภาพหลอน น้ำมนต์มาเจอเอมี่จึงให้พาลุงสนหนีต่อ ส่วนตัวเองจะไปช่วยพีระ พอหันกลับก็เจอเมสินีมาขวางหน้าจับตัวไว้ถามว่า

“ยัยน้ำมนต์ เธอจะไปไหน” น้ำมนต์ดิ้นร้องให้ปล่อย “ฉันไม่ปล่อย เธอควรจะได้รู้ความจริงว่าเธอกำลังถูกไอ้พีระหลอก เธอกำลังหลงผิดไปช่วยฆาตกรที่ฆ่าแม่ของเธออยู่” น้ำมนต์ชะงักถามว่าพูดอะไร? “ฉันพูดความจริง นายพีทคือคนที่ทำให้แม่ของเธอรถคว่ำตาย นายพีทมันคือฆาตกร!”

น้ำมนต์ไม่เชื่อโต้ว่าเธอต่างหากเป็นเจ้าของรถ สปอร์ตคันนั้น เมสินีรับว่าใช่แต่วันนั้นพีระเป็นคนขับและขับไปเฉี่ยวรถแม่เธอถึงต้องหนีไปอยู่เมืองนอก
ไม่กลับมา ถ้าไม่เชื่อก็ให้ถามดูเอาเองแล้วกัน

เวลาเดียวกัน พีระกับแมนสรวงก็ถูกพลังอาคมของอาจารย์เทพกระเด็นไป แมนสรวงบอกพีระว่าอาคมของมันตอนนี้เหนือกว่าตนมากเพราะตนไม่เหลือพลังอำนาจอีกแล้ว แมนสรวงออกไปประจันหน้าอาจารย์เทพ บอกพีระว่า

“ฉันจะเสียสละเพื่อปกป้องแกเอง ไอ้หมอผีแกจะได้รู้พลังที่แท้จริงของยมทูตอย่างฉัน แกเตรียมตัวตายได้ หนึ่ง...สอง...สาม โกย!!!!” แมนสรวงโกยแน่บไปเลย พีระตกใจรีบวิ่งตามออกมาเจอน้ำมนต์ก็คว้ามือพาวิ่งไปด้วยกัน ยุทธจะตาม อาจารย์เทพบอกว่า

“ไม่ต้องตาม ปล่อยให้มันไป เชื่อผม”

ยุทธกับเมสินีหัวเสียมากที่ถูกห้าม แต่อาจารย์เทพยิ้มอย่างมีแผนร้ายในใจ

ooooooo

เกี๊ยงดูแลโกศใส่วิญญาณคามินอย่างสะใจ เอาโกศวิญญาณใส่ไมโครเวฟจนวิญญาณคามินแทบไหม้ คามินนึกว่าเกี๊ยงมีอาคมชั้นสูง แต่แค่ร้อนยังไม่สะใจ เกี๊ยงเอาไปแช่ในถังน้ำแข็งอีก

เกี๊ยงเตรียมจะทำสลับกันไปมาอย่างนี้จนกว่าจะสาแก่ใจ แต่ไม่ทันไร เจ๊เจ้าของตลาดก็มาทวงน้ำมนต์ที่อาจารย์เทพรับปากไว้ เข้ามาเห็นเกี๊ยงถือโกศใส่วิญญาณคามินอยู่ก็นึกว่าเป็นโกศใส่น้ำมนต์ รีบเข้าไปเอาแต่เหยียบน้ำที่พื้นลื่นล้มทับเกี๊ยงโดยไม่ตั้งใจ แต่พอลุกขึ้นโกศก็อยู่ในมือเจ๊ไปแล้ว เกี๊ยงพุ่งเข้าไปจะแย่งคืน แต่เจ๊แกรีบเปิดฝาโกศเอาน้ำพรมใส่หัวตัวเองปากก็พร่ำพูด

“ผัวรักผัวหลง...ผัวรักผัวหลง...ผัวรักผัวหลง...”

เกี๊ยงช็อกจะวิ่งหนีแต่พอหันก็ผงะเจอคามินยืนขวาง คำรามอย่างสะใจ

“ได้เวลาที่ฉันจะเอาคืนพวกแกแล้ว!”

ooooooo

ลุงสนยังคลั่งทั้งร้องทั้งดิ้น แม้น้ำมนต์กับเอมี่จะพยายามร้องบอกว่าพวกตนเป็นคนไม่ใช่ผีก็ไม่รับรู้อะไร สะบัดจนน้ำมนต์กระเด็นไปกระแทกขอบปูนหัวแตกแล้ววิ่งหนีไป

แต่ลุงสนวิ่งไปไม่ทันไรก็ถูกพีระกับแมนสรวงหิ้วปีกลอยกลับมาเอาไปมัดไว้กับเก้าอี้จนดิ้นไม่ได้ แต่ก็ยังอาละวาดจนหมดแรงคอพับไป กระนั้นก็ยังพึมพำอย่างอ่อนแรง “ออกไป...ฉันยังไม่อยากตาย...”

แมนสรวงบอกว่าถ้าปล่อยไว้ไม่รีบคลายอาคมอาจสติแตกฟั่นเฟือนไปเลยก็ได้ พอดีน้ำมนต์เข้ามาสั่งให้พีระกับแมนสรวงหลบไป แล้วหันบอกเอมี่ให้เอาตะกรุดของหลวงพ่อใส่ให้ลุงสนเลย

เอมี่ถือตะกรุดที่หลวงพ่อเทียนให้น้ำมนต์ยกขึ้นจบแล้วสวมคอให้ลุงสน พริบตานั้นลุงสนผวาเฮือก

อ้าปากกว้าง ทุกคนถอยอย่างระวังตัว แต่ลุงสนกลับแค่ผ่อนลมหายใจออกมายาว...แล้วหลับต่อสบายๆ...ทุกคนถอนใจอย่างโล่งอก...

เมสินีไม่พอใจที่อาจารย์เทพปล่อยให้พวกน้ำมนต์เอาตัวลุงสนไปได้ ถามว่าถ้าพีระกลับเข้าร่างได้อาจารย์เทพจะรับผิดชอบอย่างไร อาจารย์เทพพูดอย่างมั่นใจว่าถึงเอาร่างพีระไปแต่มันไม่มีทางกลับเข้าร่างได้ บอกเมสินีว่า

“คุณไม่ต้องรู้ แต่อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรที่ผมไม่ได้สั่งก็พอ” อาจารย์เทพตัดบทแล้วแยกไปเลย

ooooooo

เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว น้ำมนต์ก็อดคิดถึงคำพูดของเมสินีที่บอกว่าพีระเป็นคนทำให้แม่เธอตายไม่ได้

ข้าวต้มกลับจากแจ๊วพาไปเที่ยวงานวัดมา ส่องดูจนเห็นน้ำมนต์หัวแตก ก็ทำเป็นโวยวายแล้วเรียกพีระเข้ามาทำแผลให้ น้ำมนต์บอกว่าตนทำเองได้ พีระอ้างโน่นอ้างนี่ทำแผลให้น้ำมนต์จนได้

เท่านั้นไม่พอ ข้าวต้มยังบอกให้พีระอาบน้ำให้น้ำมนต์ด้วย พอน้ำมนต์ปฏิเสธก็ยุให้อุ้มไปเลย น้ำมนต์โมโหสั่งให้ปล่อยและไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตตนอีก พีระตกใจ มึนงงกับความโกรธเกลียดชังอย่างรุนแรงของน้ำมนต์ ตัดพ้อเสียงอ่อย

“ผมก็แค่ล้อเล่น ทำไมต้องดุผมขนาดนั้นด้วย”

อัฐชัยเสนอว่าน้ำมนต์ไม่สบายตนจะค้างเป็นเพื่อนเธอที่นี่ เพื่อนๆไม่ยอมจะค้างกันทุกคน ลูกโป่งพยายามที่จะให้อัฐชัยญาติดีกับพิมพ์ดาว บอกให้ไปเคลียร์กันเสีย บุ้ยใบ้ให้ดูพิมพ์ดาวที่กำลังคุยกับเอมี่อยู่ พออัฐชัยมองไปก็ตัดบทเอ่ย “ราตรีสวัสดิ์” ลูกโป่งได้แต่ถอนใจเซ็งๆ

ส่วนเอมี่ที่กำลังคุยกับพิมพ์ดาวก็ถามอย่างไม่สบายใจว่า “ดาว เธอจะเลิกคบอัฐชัยจริงๆเหรอ”

“เขาเป็นแฟนกับใครก็ได้ ยกเว้นดาว แล้วพี่จะให้ดาวทำยังไงคะ พอเถอะค่ะ ดาวจะแสดงละครเวทีให้จบ จากนั้นก็พอแล้วค่ะ”

เอมี่ได้แต่มองอย่างเป็นห่วง

ooooooo

อาจารย์เทพกลับไปถึงสำนัก พบว่าข้าวของในสำนักกระจัดกระจายราวกับมีการต่อสู้กัน อาจารย์เทพร้องเรียกเกี๊ยงจนกระทั่งไปสะดุดโกศคามินพบว่ามันล้มและเปิดอยู่

“เฮ้ย ไอ้คามินมันหลุดออกไปได้แล้ว งั้นไอ้เกี๊ยงก็...” แต่กลับเจอเจ๊เจ้าของตลาดหน้าตาซีดเผือดซุกตัวมุมห้อง อาจารย์เทพดูออกว่าต้องมีสิ่งผิดปกติ ถามว่า “ไอ้คามินมันฝากอะไรถึงข้าใช่ไหม”

“หึๆๆ ฉันจะตามล่าแกไอ้อาจารย์เทพ ฉันจะตามล่าแก...ฉันจะตามล่าแก!!” สิ้นเสียงเจ๊ก็ปรากฏร่างวิญญาณผีผู้ชายกระโดดจากร่างเจ๊วิ่งหนีไปอย่างเร็ว ร่างเจ๊เจ้าของตลาดฟุบไปทันที

“ไอ้คามิน...แก...แกทำอะไรไอ้เกี๊ยง”

น้ำมนต์คิดมากจนนอนไม่หลับ พีระมาเจอถามว่าเธอมีอะไรจะคุยกับตนใช่ไหม น้ำมนต์เลียบเคียงถามว่าเขาจำอดีตของตัวเองได้แล้วใช่ไหม คนถามก็ถามเลี่ยงๆ คนตอบก็ตอบเลี่ยงๆ จนน้ำมนต์บอกว่าวันนี้เมสินีบอกตนเรื่องหนึ่งแต่ตนไม่เชื่อ คิดว่าเมสินีต้องการทำให้ตนเกลียดเขา น้ำมนต์ย้ำในตอนท้ายว่า

“แต่ฉันเชื่อนาย ไม่เชื่อเมสินี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะช่วยนายให้ถึงที่สุด นายไม่ต้องสืบเรื่องแม่ให้ฉันแล้ว ฉันไม่อยากรู้เรื่อง มันจบไปแล้ว ปล่อยให้มันจบไป อย่ารื้อฟื้น ให้ฉันเสียใจอีก เพราะฉันคงทนไม่ได้ถ้าความจริงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด” พีระยังพยายามจะชี้แจงอะไรอีก ถูกน้ำมนต์ตัดบทว่า “พอ! ตั้งแต่วันนี้ไปห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ฉันขอร้อง”

พีระยืนเงียบ น้ำมนต์กอดเขาร้องไห้ ทั้งสองรู้กันว่าต่างฝ่ายต่างรู้กัน...แต่ไม่พูดออกมา...

ooooooo

รุ่งขึ้นแจ๊ววิ่งหน้าตื่นมาบอกน้ำมนต์ว่าลุงสนแย่แล้ว น้ำมนต์รีบไปดูเห็นลุงสนลงไปนอนชักกระตุกทั้งที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ ตัวเกร็งหงิกงอคำรามแฮ่ๆ มือหนึ่งกำแขนข้าวต้มไว้แน่น

ทุกคนงุนงงว่าลุงสนเป็นอะไร พีระบอกว่า “ตะกรุดหลวงพ่อทำได้แค่สะกดอาคมของอาจารย์เทพไว้ แต่ไม่ได้ทำให้อาคมเสื่อม” น้ำมนต์ถามอย่างกังวลว่าแล้วลุงสนจะพาไปพบร่างเขาได้ไหม?

เมื่อลุงสนรู้สึกตัวขึ้นอีกทีแกเพ่งมองทุกคนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน น้ำมนต์ถามว่าลุงจำพวกเราได้ไหม

“จำได้สิ น้ำมนต์แล้วก็...คุณพีท ใช่...ลุงต้องพาคุณพีทไปกลับเข้าร่าง...พาลุงไป ลุงจะพาไปหาคุณพีท”

ลุงสนกระวีกระวาดจะไป น้ำมนต์ดีใจมาก แต่แล้วก็มีเรื่องให้ต้องเครียด เมื่ออาจารย์อิ๋วโทร.มาบอกลูกโป่งว่าต้องกลับไปซ้อมละครเดี๋ยวนี้เพราะอาจารย์เชิญคณบดีมาดูการซ้อมใหญ่วันนี้ อัฐชัยเสนอให้ขอเลื่อนการซ้อมออกไป

“ไม่ต้องเลื่อน!! ลุงสนฟื้นแล้ว เดี๋ยวลุงสนจะพาฉันกับพี่เอมี่และนายพีระไปเจอร่างของเขา พวกแกกลับไปซ้อมละครเถอะอย่าให้เรื่องของพีระทำให้งานของทุกคนเสียหายเลย”

“งั้นแกดูแลตัวเองด้วยนะน้ำมนต์ มีอะไรฉุกเฉินโทร.หาฉันทันทีนะ” ลูกโป่งคว้ามืออัฐชัยที่ทำท่าจะอยู่ดูแลน้ำมนต์ อีกมือก็จูงพิมพ์ดาวเร่ง “ไป...ไปซ้อมละครกัน” แล้วลากทั้งสองไปเลย

ooooooo

อาจารย์เทพวิ่งตามหาเกี๊ยง เจอวิญญาณผีตนหนึ่งยืนหันหลังให้ อาจารย์รู้ทันทีว่านั่นคือเกี๊ยง พอเกี๊ยงหันกลับมาอาจารย์เทพถามว่าไม่เป็นอะไรใช่ไหม แต่พอจะเข้าไปกอดกลับทะลุร่างเกี๊ยงไป

“ไอ้เกี๊ยง...แก...แกตายแล้วเหรอ!”

“ใครคือเกี๊ยง เกี๊ยงคือใคร จำไม่ได้ แกคือใคร ใครคือแก จำไม่ได้ อ้อ...จำได้แล้ว แกต้องตาย!” เกี๊ยงกระโดดขี่หลังอาจารย์เทพแล้วกัดคอทันที!

จนเมื่ออาจารย์เทพเห็นคามินยืนอยู่อย่างยิ่งใหญ่ราวกับเป็นเจ้าสำนัก อาจารย์เทพตกใจถามว่าคามินจับเกี๊ยงไปเป็นทาสรับใช้หรือ คามินบอกว่า
“และฉันจะให้มันฆ่าแกด้วย! หมอผี กับผีหมอผี หึๆๆ” คามินหัวเราะสะใจประกาศอย่างผยองว่า “ฉันจะเอาวิญญาณแกมาเป็นทาสฉัน!”

อาจารย์เทพถูกคามินยึดสำนักและเอาเกี๊ยงไปเป็น ทาสรับใช้ จึงไปหาเมสินีขออยู่ด้วย เมสินีบอกอาจารย์เทพ ให้หาทางจัดการพีระให้ตนแล้วเอาเงินค่าจ้างไปเริ่มต้นสำนักใหม่ดีกว่า

“แต่ผม...ตอนนี้กำลังเสียใจ”

“หรืออยากจะเสียทั้งหลานเสียทั้งเงิน!” เมสินีถามอย่างเป็นต่อ...เลือดเย็น...และเหี้ยม!

ooooooo

วันนี้ลุงสน พีระ น้ำมนต์และเอมี่เตรียมออกเดินทางแล้ว น้ำมนต์ฝากงอแงให้ดูแลข้าวต้มด้วย

ลุงสนเอาตะกรุดคืนน้ำมนต์เพราะตนไม่เป็นอะไรแล้ว ลุงสนให้น้ำมนต์ถอดให้ แต่พอทุกคนขึ้นรถไป งอแงกับข้าวต้มวิ่งออกมาดู แล้วงอแงก็ผงะเมื่อเห็นที่หลังของลุงสนมีฝ่ามือซีดๆโผล่ออกจากคอเสื้อกุมท้ายทอยลุงสนไว้ งอแงตกใจร้องเฮ้ย! แต่พอมองไปอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว จนรถแล่นออกไป...

ระหว่างนั่งรถไปด้วยกัน เอมี่นั่งเศร้าที่วิ่งมาถามน้ำมนต์ว่ามีเบอร์โทร.หรือที่อยู่ติดต่อแมนสรวงได้ไหม เขาหายไปสองวันแล้วกลัวเขากำลังจะตาย แต่ไม่มีใครรู้ เธอนั่งเศร้าเป็นห่วงแมนสรวง หันมองพีระอย่างขอร้อง

“ผมไม่รู้ว่ามันหายหัวไปไหน รู้แต่ว่ามันจะปรากฏกายให้ใครเห็นไม่ได้อีกแล้ว มันคงทำผิดกฎหลายอย่างเลยถูกลงโทษ”

น้ำมนต์ถามว่าแล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบความรู้สึกของเอมี่ ทำให้เอมี่สงสัยถามว่าพีระบอกอะไรเธอหรือ

ทันใดนั้น รถเบรกเอี๊ยดจนทุกคนหัวคะมำ ลุงสนบอกว่า

“ถึงแล้วครับ”

ทุกคนมองไปมึนงงสงสัยถามกันว่าที่นี่เหรอ เพราะมันคือโรงงานตุ๊กตาร้าง ลุงสนยืนยันว่าที่นี่แหละ พีระพึมพำเสียวๆว่า “ตุ๊กตาอีกแล้วเหรอ”

และที่ด้านหลังของลุงสน ยังมีมือผีซีดเซียวกุมท้ายทอยแกอยู่อย่างเหนียวแน่น!

น้ำมนต์สงสัยมากถามลุงสนว่าแน่ใจว่าเก็บร่างพีระไว้ที่นี่ ในโรงงานร้างที่สกปรกอย่างนี้หรือ ลุงสนที่เดินรั้งท้ายสุดยืนยันว่าที่นี่แหละ

“น้ำมนต์ พี่ว่าพี่คุ้นๆโรงงานนี้นะ โรงงานผลิตตุ๊กตาเถื่อนที่เกณฑ์เอาแรงงานเด็กต่างด้าวมาทำงาน ใช้แรงงานเยี่ยงทาส ใครป่วยก็ไม่รักษา ว่ากันว่ามีเด็กคนนึงเอานิ้วขูดพื้นจนกลายเป็นเลือดเขียนที่พื้นเป็นคำสาปแช่งเจ้าของโรงงานนี้ แล้วที่นี่ก็เกิดโรคระบาด เด็กตายเป็นสิบๆคน แล้วโรงงานนี้ก็อยู่ไม่ได้เพราะความอาฆาตแค้นที่รุนแรงของเด็กๆเหล่านั้นยังวนเวียนอยู่”

ทุกคนยังคงเดินเข้าไป ลุงสนพามาหยุดที่หน้ากระจกเงาสะท้อนให้เห็นว่ามีเด็กผู้หญิงผมบ๊อบอุ้มตุ๊กตาเกาะหลังลุงสนอยู่ พริบตานั้นเด็กคนนั้นหันมองกระจกเงา ดวงตาแดงก่ำน่ากลัว!

ooooooo

ลุงสนพาน้ำมนต์ เอมี่และพีระไปที่โรงงานตุ๊กตาร้าง บอกให้ทุกคนเข้าไปแต่ตัวลุงสนเองกลับยืนอยู่ข้างนอก เพราะถูกผีจับมือดึงไว้

พอเข้าไปในห้อง ทุกคนมองอย่างตื่นตกใจ เพราะตุ๊กตาที่อยู่ในห้องนั้นมีทั้งที่สมประกอบและไม่สมประกอบ บางจุดมีแต่หัวตุ๊กตาวางอยู่

ทันใดนั้น ประตูห้องปิดฟึ่บ! เอมี่วิ่งพรวดไปเปิดประตูแต่เปิดไม่ออก ได้แต่ตะโกนถามว่าลุงขังพวกเราไว้ทำไม เปิดประตู! พีระอาสาไปดูให้ แล้วเขาก็ทะลุประตูออกไป พริบตาเดียวก็กระเด็นกลับเข้ามา บอกสองสาวอย่างตื่นเต้นว่า

“ผี...ลุงสนถูกผีบงการให้มาที่นี่และพาเรามาที่นี่...เราติดกับแล้ว”

เวลาเดียวกัน อาจารย์เทพทำพิธีอยู่กลางแจ้งที่สถานีพราวด์ดิจิตัล ปักธูปกับพื้นดินบริกรรมคาถา บอกกับเมสินีว่า

“ก่อนที่ฉันจะให้พวกมันเอาตัวลุงสนไป ฉันฝากผีกลับไปด้วย และพวกมันไม่รอดแน่”

น้ำมนต์บอกให้พีระออกไปเปิดประตูให้ พีระบอกว่าลุงสนคล้องแม่กุญแจไว้และยังมีน้องผมบ๊อบเฝ้าอยู่ด้วย แต่ก็จะลองออกไปดู

พีระออกไปเจอผีเด็กกำลังจูงลุงสนไป เขาถามว่าลุงจะไปไหนก็ถูกผีเด็กตวาดว่า “อย่ามายุ่ง!”

อาจารย์เทพหัวเราะชอบใจว่าเด็กน้อยของตนจัดการพวกส่วนเกินเรียบร้อยแล้ว บอกยุทธกับเมสินีว่า

“ตอนนี้ลุงสนกำลังจะพาเด็กฉันไปเจอร่างไอ้ผีพีระ พวกคุณเตรียมตัวตามไปได้เลย” ยุทธถามว่าแล้วจะให้ตามไปที่ไหน “มันไปถึงเมื่อไหร่ ผมจะรีบบอกทันที” แล้วอาจารย์เทพก็ผงะเมื่อเสียงเกี๊ยงมาเรียก...อาจารย์เทพ...อาจารย์เทพถามว่า “เกี๊ยง...คามินส่งแกมาใช่ไหม”

“ท่านคามินต้องการวิญญาณไอ้พีระ มันอยู่ที่ไหน...พีระคือวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านคามินต้องการพลังของมัน เพื่อกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยร่างของพีระ ถ้าท่านคามินเสพพลังพีระ ท่านก็จะมีสถานะเป็นวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ต่างจากพีระ และร่างไอ้พีระก็คือร่างท่าน”

ทั้งอาจารย์เทพและเมสินีตกใจ แต่จิตการรับรู้ของเกี๊ยงพาลื่นไหลไปสู่...โรงงานตุ๊กตาร้าง! และส่งต่อไปยังคามิน มันพึมพำยิ้มร้ายหมายมาด...“ไอ้วิญญาณบริสุทธิ์อยู่ที่โรงงานตุ๊กตางั้นเหรอ”

เมสินีถามอาจารย์เทพว่ามีผีที่โหดกว่าพีระอีกหรืออาจารย์เทพชี้แจงว่า

“ไอ้คามิน มันต้องการพลังวิญญาณพีระ เพื่อที่มันจะได้เข้าสิงร่างพีระและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

เมสินีถามว่าแล้วตอนนี้พีระอยู่ไหนให้รีบบอกมา

ooooooo

เอมี่กลัวผีจนแทบสติแตก น้ำมนต์บอกว่าตนมีตะกรุดจากหลวงพ่อ บารมีหลวงพ่อต้องคุ้มครองเราได้แน่ ให้เอมี่มาอยู่ด้วยกัน

พวกผีเด็กพากันเล่นมอญซ่อนผ้าอย่างสนุกสนาน ซ้ำยังมานั่งรอบเอมี่กับน้ำมนต์ชวนให้เล่นด้วย เอมี่จึงต้องกลั้นใจเล่นด้วยแต่พอถูกผีเด็กจ้องมองและร้องแฮ่...ใส่เท่านั้น เอมี่ก็ทนไม่ได้ลุกวิ่งเตลิดไป น้ำมนต์จะตามก็ถูกชั้นวางของกั้นไว้เลยตามไม่ทัน

พีระถูกพวกผีเด็กจับกดไว้กับพื้น ร้องขอให้แมนสรวงช่วยก็เงียบกริบ ครู่หนึ่งเห็นเท้าก้าวเข้ามาพีระนึกว่าแมนสรวง แต่พอมองเต็มตากลายเป็นคามิน!

เอมี่วิ่งเตลิดไปยังอีกมุมหนึ่งของห้องเก็บตุ๊กตา แมนสรวงมาถึงพอดี เขาโอบกอดเอมี่ไว้อย่างปกป้อง เอมี่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัย แต่มองไม่เห็นแมนสรวง ระหว่างนั้นแมนสรวงหันขวับจ้องพวกผีเด็ก จนพวกนั้นผงะ

อาจารย์เทพต้องเผชิญกับเกี๊ยงที่ถูกคามินใช้มาคุกคาม อาจารย์เทพขู่ว่าถ้าเกี๊ยงจำตนไม่ได้จริงๆก็จะจับขังเอาไว้ดีกว่าที่จะปล่อยให้ไปเป็นสมุนของคามิน เกี๊ยงเถียงว่าตนไม่ได้เป็นสมุนแต่เป็นติ่งของคามิน แล้วขู่ว่า

“เกี๊ยงจะฆ่าแกตามความต้องการของท่านคามิน”

“งั้นแกก็ลองดู!”

ทั้งอาจารย์เทพและเกี๊ยงต่างท่องคาถาต่อสู้กัน แต่อาจารย์เทพทันสมัยกว่าใช้ธัมป์ไดรฟ์ดูดเกี๊ยงเข้าไปเก็บไว้ บอกว่า

“อยู่ในนี้ไปก่อนนะเกี๊ยง ฉันจะหาทางช่วยแก”

ooooooo

เมื่อเกี๊ยงถูกดูดเข้าไปเก็บไว้ในธัมป์ไดรฟ์ คามินจึงไปที่ห้องเก็บตุ๊กตาร้างเอง ไปดูดพลังผีเด็กแล้วไล่มาถึงพีระ! พีระวิ่งหนีสุดชีวิต ถูกคามินโผล่มาดักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

พีระชกคามินถูกมันปัดออก แต่สุดท้ายพีระก็ถูกคามินคว้าคอไว้ได้มันตะโกน “เอาวิญญาณแกมา!”

แต่ขณะคามินจะดูดวิญญาณพีระนั่นเอง แมนสรวงโผล่มายืนคั่นกลางจนคามินผงะ แมนสรวงท้าคามินให้มาดูดตนแทน น้ำมนต์วิ่งมาพอดีเอาสร้อยตะกรุดให้พีระ พีระบอกให้เธอเอาไว้ป้องกันตัวเอง น้ำมนต์บอกว่าเขาเป็นเป้าหมายของคามินไม่ใช่ตน

แมนสรวงปล่อยพลังใส่คามินทีเดียวมันก็ดิ้นพล่าน แมนสรวงหันบอกพีระให้รีบหนีไป น้ำมนต์ได้สติก่อนเร่งพีระกับเอมี่ให้รีบไป บอกเอมี่ให้ไปขับรถ เอมี่ใจไม่อยู่กับตัวเหมือนห่วงกังวลอะไรที่อยู่ที่นี่ ขับรถส่ายไปมาจนน้ำมนต์กับพีระต้องช่วยกันประคองลุงสนที่ยังไม่ได้สติไว้ไม่ให้ถูกรถเหวี่ยงล้ม

แมนสรวงกับคามินต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย คามินกางกรงเล็บจิกเข้ากลางหลังแมนสรวงจึ้ก! แต่พอหันมองไปกลับเห็นแมนสรวงยืนหัวเราะอยู่อีกที่หนึ่ง คามินก้มมองที่ท้องตัวเองกลายเป็นฝ่ามือจิกจ้วงเข้าไปที่ท้องตัวเองเต็มๆจนทรุดลง

“ทีหลังเวลาดูดพลังวิญญาณมา อย่าเอาแต่กำลัง เอาตรงนี้ด้วย” แมนสรวงชี้ที่สมอง “เข้าใจตรงกันนะ จุ๊บๆ”

พูดแล้วแมนสรวงเดินไป ทิ้งให้คามินทั้งเจ็บปวดและเจ็บใจอยู่ตรงนั้น

ooooooo

เอมี่ขับรถเหมือนคนสับสนในอารมณ์ จนกระทั่งแมนสรวงกลับมาที่รถ แม้ไม่เห็นแต่เอมี่ก็รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ทำให้ขับรถดีขึ้น

ลุงสนรู้สึกตัวขึ้นแล้ว น้ำมนต์ดีใจมากบอกลุงสนว่าไว้จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่ตอนนี้ช่วยบอกทางไปหาร่างพีระเดี๋ยวนี้เลย

ยุทธกับเมสินีขับรถมาเจอรถของน้ำมนต์ เมสินีจิกตามองสั่งยุทธที่เป็นคนขับว่า

“ตามมันไป ให้มันพาไปเจอร่างนายพีท จะได้จัดการทีเดียวเลย”

ลุงสนพาทั้งสามไปจอดริมถนน น้ำมนต์กับพีระลงจากรถ พีระมองไปข้างหน้าถามว่า

“ร่างของผมอยู่ที่นี่หรือ” ลุงสนบอกว่าไม่ใช่หลังนี้ อยู่ด้านในแล้วชวนไปกัน ส่วนเอมี่รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ใกล้ๆ บอกทั้งสองว่าเดี๋ยวจะตามไป

ลุงสนพาพีระกับน้ำมนต์เดินไปในสวน พีระถามน้ำมนต์ว่าอยากให้ตนกลับเข้าร่างจริงๆใช่ไหม น้ำมนต์บอกว่าตนช่วยให้เขากลับเข้าร่างเพื่อจะได้กลับไปบริหารสถานีพราวด์ แล้วก็มาช่วยเหลือพวกตนด้วย

พีระรับรองว่าตนจะไม่ลืมบุญคุณของเธอและเพื่อนๆที่ช่วยตน และจะบอกเรื่องที่อยากบอกเธอด้วย น้ำมนต์อึ้งไปนิดหนึ่ง บอกว่า

“ไม่ต้องบอก...เรื่องบางเรื่องเราปล่อยให้มันคลุมเครือต่อไปดีกว่า อย่าไปทำให้มันชัดเจนเลย” พีระถามว่าทำไม? “ถ้าทุกอย่างคลุมเครือ ฉันก็ยังมโนให้เป็นอย่างที่ฉันต้องการได้ แต่ถ้ามันชัดเจน มันก็คือความจริงและฉันไม่แน่ใจว่าตัวฉันจะรับมือกับความจริงบางอย่างได้...นะ...ฉันขอร้องนะพีระ ฉันอยากให้นายเป็นความทรงจำที่ดีของฉัน”

พีระบอกว่าตนก็อยากให้เธอเป็นความทรงจำที่ดีของตน น้ำมนต์ตัดบทว่าถ้าอย่างนั้นก็อย่าพูดอะไรที่จะมาทำลายทุกอย่างเลย

“น้ำมนต์ คุณคือคนเดียวที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตอีกครั้ง ผมอยากทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้กับคุณ อยากทำให้คุณมีความสุข อยากบอกว่าผมรักคุณ...แต่ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าไม่ได้สารภาพบาปของผมกับคุณ”

น้ำมนต์จับแก้มพีระให้ยิ้ม บอกว่าแค่ยิ้มก็พอ

ถ้าเขาอึดอัดก็ยิ้มแล้วตนก็จะยิ้มตอบ พีระติงว่านั่นก็แค่การหลอกตัวเองไปวันๆ น้ำมนต์บอกให้เขายิ้ม...ยิ้ม...

แล้วตัวเองก็ยิ้มแฉ่งทั้งน้ำตา พีระสะเทือนใจจนดึงเธอเข้าไปกอด...

พอดีมาถึงโรงนาที่โปร่งโล่งสะอาด มีแสงแดดพอดี ลุงสนเดินนำไปที่มุมหนึ่งที่มีม่านกั้นไว้ พอรูดม่านออกก็เผยให้เห็นว่า มีเตียงพักฟื้นที่มีร่างคนนอนอยู่ มีสายให้อาหาร สายปัสสาวะโยงจากร่างนั้น

“นั่นไงครับคุณพีท” ลุงสนบอก พีระชะงักไม่ยอมเดินเข้าไป น้ำมนต์ต้องหันกลับมายิ้มให้ชวนให้เข้าไป พีระอึกอักลังเล

“ไม่มีอะไรต้องลังเล ไปเข้าร่างของนายนะ...นายจะได้มีชีวิต แล้วจะได้มาบอกรักฉันไง ฉันจะได้ไม่ต้องถูกเพื่อนล้อว่ามีแฟนเป็นผีเสียที”

ลุงสนกับน้ำมนต์ปล่อยให้พีระเดินเข้าไปเอง พีระค่อยๆก้าวเข้าไปข้างเตียง จนเห็นใบหน้าตัวเองชัดเจนเขาพึมพำ

“นี่...ผมเหรอ...หน้าผมเป็นอย่างนี้เหรอ...หล่อจริงๆ”

ooooooo

ที่หอประชุมมหาวิทยาลัย...การซ้อมละครเวทีไม่เป็นที่ประทับใจจนลูกโป่งหัวเสียแหวใส่อัฐชัยกับพิมพ์ดาวว่า

“ไม่ต้องโทษกันไปมา!! ผิดทั้งคู่นั่นแหละ อาจารย์อิ๋วและคณบดีบอกว่า นี่เหรอละครเวทีที่จะแสดงในอีก 5 วัน มันห่วยมาก พวกเธอจะทำให้คณะและมหาวิทยาลัยขายหน้า”

พิมพ์ดาวกับอัฐชัยต่างจะโทษอีกฝ่ายว่าไม่ยอมส่งอารมณ์ให้ ก็โดนลูกโป่งแหวใส่อีกว่า

“เงียบ!!! พรุ่งนี้อาจารย์อิ๋วจะขอดูอีกที ถ้ายังเป็นอย่างนี้ อาจารย์อิ๋วจะทำเรื่องแจ้งคณบดีให้งดการแสดงนี้ซะ” ทุกคนตกใจกลัวถูกสั่งงดการแสดง อัฐชัยเสนอว่า ถ้าอย่างนี้เราทุกคนก็ต้องซ้อมแก้ไขใหม่ใช่ไหม ถูกลูกโป่งชี้ว่า

“คนอื่นไม่ต้อง เพราะนักแสดงที่มีปัญหา มีแค่แกสองคน!!”

พิมพ์ดาวกับอัฐชัยเลยเงียบกริบ ลูกโป่งตัดสินใจย้ายไปซ้อมที่บ้านน้ำมนต์ เจอข้าวต้มกับงอแงยืนมอง ข้าวต้มถามว่าทำไมต้องมาซ้อมที่บ้านตนด้วย แต่พออัฐชัยถามว่าไม่ได้เหรอ พลางหยิบถุงขนมมากมายออกมาวาง บ่นว่า “แหม...อุตส่าห์ซื้อขนมมากินระหว่างซ้อมเยอะมาก งั้นก็คงต้องขนกลับทั้งหมด”

“ก็ได้...ก็ได้...เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม เรื่องนี้เค้าจะไม่ยุ่ง” ข้าวต้มรีบบอกกลัวอัฐชัยจะขนขนมกลับไปจริงๆ

ลูกโป่งเพิ่งคุยโทรศัพท์กับน้ำมนต์เสร็จ บอกทุกคนอย่างสบายใจว่า

“น้ำมนต์ปลอดภัยดี บอกว่าเพิ่งจะไปถึง ถ้าพีระเข้าร่างเรียบร้อย จะรีบกลับมา”

“กลับมาพร้อมพีระที่ฟื้นด้วยสินะ แฮปปี้เอนดิ้งซะที” พิมพ์ดาวดีใจมาก ถูกอัฐชัยถามเสียงเขียวว่า พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง พิมพ์ดาวลอยหน้าทำเสียงสูงว่า “ปล๊าววววว”

“เอ้าๆๆ พร้อมจะซ้อมละครกันหรือยัง” ลูกโป่งตัดบทก่อนที่ทั้งสองจะป่วนกันอีก พอดีงอแงเอาผ้าขนหนูห่มตัวแทนสไบวิ่งหน้าแป้นแล้นเข้ามาส่งเสียงใส

“งอแงพร้อมแล้วค่ะ คุณหลวงของบ่าว” แล้วไปนั่งพับเพียบกับพื้นทำตาปริบๆ อยากเล่นละครด้วย

พออัฐชัยกับพิมพ์ดาวเริ่มซ้อม อัฐชัยตะคอกตามบทว่า

“นังเยื้อนเรื้อนกินกบาล นังทาสกลับกลอก เอ็งจงใจใส่ความคุณหญิง เอ็งหาได้มีความยำเกรงไม่”

“เยื้อนพูดความจริง ไม่เคยมีสักครั้งที่เยื้อนคิดร้ายกับคุณหลวง” พิมพ์ดาวที่เล่นเป็นนางทาสเอ่ย พลันงอแงที่นั่งอยู่หลังพิมพ์ดาวก็แจ๋ขึ้นมาว่า

“อย่าไปเชื่อมันค่ะท่านเจ้าคุณ นังนี่มันโกหก”

ทุกคนชะงักมองงอแงที่แทรกขึ้นมา ลูกโป่งบอก “งอแง...ไปเล่นที่อื่นได้ไหม”

“บ่าวชื่อย้อยเจ้าค่ะ เป็นทาสในเรือน...”

“งอแง!” ลูกโป่งเสียงดัง งอแงเลยเสียงอ่อย “เจ้า ค่ะ...” แล้วลุกเดินหน้าจ๋อยไปนั่งข้างข้าวต้มที่กินขนมแก้มตุ่ยอยู่บ่นหน้าง้ำว่าขอเล่นด้วยคนก็ไม่ได้

“เราก็มาเล่นกันตามประสาเด็กเถอะ” ข้าวต้มชวน หยิบขนมใส่ปากไม่หยุด

ooooooo

เอมี่นั่งสับสนอยู่ในรถ คิดว่าอารมณ์สับสนว้าวุ่นของตนอาจเป็นเพราะวัยทอง พยายามทำใจให้สงบ แมนสรวงที่ยืนมองอยู่ก็นึกด่าตัวเองว่า

“ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้ทำในสิ่งที่ผมห้ามนายพีระเสียเอง มันคือความรักใช่ไหม?” อยู่ๆก็มีใบไม้ร่วงปลิวลงมาที่มือแมนสรวงพอดี เขาดูใบไม้ในมือพึมพำ “ใบไม้ร่วง...กำลังจะมีคนตาย ใครกันมาตายตอนนี้? ขอตัวไปทำงานก่อนนะ”

แมนสรวงถือใบไม้ให้นำทางไปหาวิญญาณคนตาย แต่อยู่ๆก็กลับมาที่เดิมอีกครั้ง เขาตกใจ “เฮ้ย...ทำไมมาที่เดิม หรือว่า...คนตายอยู่ที่นี่!!”

พลันแมนสรวงก็เห็นเมสินีกับยุทธเดินมาด้านหลังเอมี่ที่ยังไม่รู้ตัว ยุทธยกปืนเล็งใส่เอมี่

“อย่า!!!” แมนสรวงร้องลั่นพุ่งเข้าเตะปืนในมือยุทธกระเด็น ตัวยุทธล้มคว่ำไป เอมี่รู้ตัวหันมองตะลึง

“คุณยุทธ คุณมาได้ยังไง” แมนสรวงบอกเอมี่ให้รีบไปบอกน้ำมนต์เร็วๆ พอเอมี่จะไปก็ถูกเมสินีออกมาขวางกระชากแขนสั่งให้อยู่เฉยๆ

“อย่าแตะต้องเจ๊ใหญ่ของผม” แมนสรวงกระชากแขนเมสินีออกมา เอมี่มองเมสินีที่ดิ้นเร่าๆ เหมือนถูกใครยึดตัวไว้แล้วเหวี่ยงกระเด็นออกไปอย่างแปลกใจ แล้วแมนสรวงก็มาเร่งเอมี่ “เจ๊...เจ๊...รีบไปบอกน้ำมนต์เร็ว”

ยุทธไปคว้าปืนขึ้นมาเล็งใส่เอมี่อีกครั้ง ตวาดทั้งที่มองไม่เห็นว่าใครทำเมสินี

“พอได้แล้ว...แก ไอ้พีระหรือไอ้ยมทูต ต้องเป็นยมทูตสินะถึงได้ไม่กลัวผ้ายันต์เลย” ยุทธหยิบสร้อยคอผ้ายันต์ออกมา “แต่ถ้าแกซ่ากับฉันอีกฉันยิงยัยเอมี่แน่!!” ขู่ว่า “ถ้าแกคิดว่าแกไวกว่าลูกปืนก็ลองดู!!”

“ยมทูต?? มียมทูตด้วยเหรอ??” เอมี่ถามงงๆ

ooooooo

พีระยืนมองร่างตัวเองตะลึง ลุงสนบอกว่า

“อาการของคุณพีทตอนนี้ทรงตัว อวัยวะภายใน สมองและร่างกายทุกส่วนอยู่ในสภาพปกติ เหลือแค่ฟื้นขึ้นมาเท่านั้น”

“พีระ...จะรออะไรอยู่” น้ำมนต์เร่ง

“ไม่...ผมทำไม่ได้ ผมมีชีวิตต่อไปไม่ได้ถ้าคุณไม่ให้อภัยผม” พีระหันกลับมาสารภาพว่า “น้ำมนต์ ผมต้องบอกคุณว่า ผม...คือคนที่...”

“ไปเข้าร่างได้แล้ว!!” น้ำมนต์แทบจะเป็นตะโกน แล้วผลักพีระ “ไปสิ...ไป!” น้ำมนต์ดุจริงจัง ผลักไสพีระให้หันไปหาร่างตัวเอง “ไหนบอกว่าจะทำให้ฉันมีแต่ความสุขไง ถ้าอยากให้ฉันมีความสุขก็อย่าทำอย่างนี้...ไปเข้าร่าง!”

กระนั้น...พีระก็ยังลังเลอยู่ตรงหน้าร่างตัวเอง...

ทันใดนั้นประตูถูกถีบผาง ยุทธพรวดเข้ามาสั่ง “หยุด!!!”

น้ำมนต์เร่งให้พีระรีบเข้าร่าง ยุทธเอาปืนเล็งน้ำมนต์ขู่พีระว่าถ้าเข้าร่าง น้ำมนต์ตาย!!

พีระชะงักไม่กล้าเข้าร่าง เขาโกรธมากหันเผชิญหน้า ยุทธพุ่งเข้าใส่ทันที ถามยุทธว่าจะทำอะไรน้ำมนต์ เขาชกยุทธแต่ตัวเองกลับกระเด็นออกมาเพราะยุทธห้อยผ้ายันต์ไว้ ยุทธเดินเข้าหาพีระเย้ยว่า

“หึ...ผ้ายันต์ใช้กันยมทูตไม่ได้ แต่ใช้ป้องกันแกได้...แกควรจะตายไปตั้งนานแล้ว ฉันไม่ควรต้องมาเหนื่อยขนาดนี้”

น้ำมนต์จะพุ่งเข้าใส่ยุทธไม่ให้ทำอะไรพีระ ถูกพีระคว้าตัวไปกอดไว้บอกว่าช่างมัน ชีวิตตนไม่สำคัญเท่าเธอ น้ำมนต์ไม่ยอมเพราะเราช่วยกันมาจนขนาดนี้แล้ว แต่ยุทธก็ยังเล็งปืนไปที่ร่างของพีระ

ทันใดนั้น ถังไม้ขนาดใหญ่ที่แขวนกับชักรอกก็เหวี่ยงใส่ยุทธจังๆ จนมันล้มคว่ำหัวแตก

ฝีมือลุงสนนั่นเอง ลุงสนร้องบอกน้ำมนต์ให้รีบหนีไปก่อน พลางตัวเองก็ลากรถเข็นไปรับร่างพีระ น้ำมนต์รีบไปช่วย ยุทธตั้งหลักได้หันไปหยิบปืน พีระเห็นคว้าไม้ใกล้มือพุ่งเข้าฟาดยุทธสุดแรง

“ชกหน้าแกไม่ได้ แต่ฉันตีหัวแกได้เว้ย” พีระสะใจ

น้ำมนต์กับลุงสนช่วยกันเข็นรถพาร่างพีระไปที่รถตู้ แต่ที่นั่นเจอเมสินีถือปืนปากกาที่ยุทธให้จ่อเอมี่อยู่ พอเห็นร่างพีระ เมสินีตกใจเผลอหันปืนมาทางร่างพีระทันที น้ำมนต์ขู่ว่าตนจะถ่ายคลิป เอมี่ก็เอามือถือมาถ่ายด้วยบอกว่าจะส่งไปสำนักงานตำรวจ

“ฉันจะแฉให้คนทั้งประเทศรู้ว่าผู้บริหารสถานีพราวด์มีพฤติกรรมอย่างไร ทั้งคุณและสถานีคุณต้องเละแน่” น้ำมนต์ขู่ต่อ เมสินีรีบเก็บปืนปากกาดราม่าตีหน้าชื่นทำเป็นผู้ใจบุญแสนดีใส่กล้องทันที

“สวัสดีค่ะ เมสินีมาจะทำบุญค่ะวันนี้”

แมนสรวงพูดอย่างสมเพชแกมขำว่าสมัยนี้คนถ่ายคลิปน่ากลัวกว่าคนถือปืนเสียอีก ส่วนน้ำมนต์บอกลุงสนให้รีบไปขึ้นรถเลย แมนสรวงเห็นพีระยังวิ่งตามมาก็เอ็ดอย่างหงุดหงิด...

“นายจะมาวิ่งตามหาพระแสงง้าวอะไร ทำไมไม่กลับเข้าร่างไปเลย” พีระบอกว่ากำลังจะเข้าแต่พวกมันมาก่อน “งั้นก็รีบไปสิ” แมนสรวงเร่งยิกๆ

ทันใดนั้น ยุทธในสภาพเลือดอาบหน้าขับรถของเมสินีก็พุ่งใส่รถเข็นร่างพีระที่กำลังจะข้ามถนน ทุกคนตะลึง พรึงเพริด ลุงสนช็อก รถพุ่งชนอย่างแรงรถเข็นกระเด็นไปตกตรงหน้าน้ำมนต์ แมนสรวงจับร่างพีระไว้บอกว่า

“ไม่! คนที่ฉันต้องรับวิญญาณไปไม่ใช่นาย”

พีระมองไปอีกทีเห็นร่างตัวเองฟุบอยู่ข้างทางร่างกายไม่เป็นอะไรเลย แต่ลุงสนถูกรถอัดก๊อบปี้ติดกับต้นไม้ เมสินีเห็นท่าไม่ดีรีบหนีไป พวกน้ำมนต์วิ่งไปเพื่อช่วยลุงสน เอมี่ชี้หน้าด่ายุทธว่า “แกฆ่าลุงสน แกต้องรับผิดชอบ”

“ฉันไม่เกี่ยว” ยุทธปัดเอมี่ออกแล้ววิ่งหนีไป น้ำมนต์พยายามช่วยลุงสน แมนสรวงบอกเธอว่า

“ไม่ทันแล้ว...ลุงสน...อยู่ตรงนี้แล้ว...”

วิญญาณลุงสนยืนอยู่ข้างแมนสรวงในสภาพสีหน้าว่างเปล่า จำอะไรไม่ได้ แมนสรวงวาดมือทำพิธีส่งวิญญาณ...

“ลุงทำดีที่สุดแล้ว ผมมั่นใจว่าลุงจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีปราศจากทุกข์ เป็นภพภูมิที่อุดมไปด้วยความสุขนิรันดร์”

ooooooo

คุณผีที่รัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด