สมาชิก

กุหลาบเล่นไฟ

ตอนที่ 15

อัลบั้ม: วี วีรภาพ คั่ว 3 นางเอก 'นาว-โบว์-เซฟ' เพื่อนรักหักสวาทใน “กุหลาบเล่นไฟ”

ธิปไตยในชุดเสื้อสูทผูกเนกไทแวะมาหาปริตาที่บ้านแต่เช้า เห็นเธอกำลังตักบาตร ขอร่วมทำบุญด้วย หลังจากกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแล้ว เขาหันมาขอบใจเธอมากที่ยอมให้ตักบาตรด้วย

“ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยฉันในวันนั้น ไม่ได้คุณเข้าไปช่วย ฉันอาจไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้...คุณมาเจอฉันที่นี่ มันคงไม่ดีกับความรู้สึกมิ้นท์และแม่ของคุณ”

เขาขอทำตามความต้องการของตัวเองบ้าง เพราะชีวิตเป็นของเขา แต่ชีวิตใหม่ที่เขาเลือก อาจทำให้เราไม่ได้เจอกัน ปริตาไม่เข้าใจ หมายความว่าอย่างไร กำลังจะถามเขาอยู่เหมือนกันทำไมวันนี้ถึงแต่งเต็มยศ

“สายแล้ว ฉันต้องไปแล้วล่ะ มีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก” ธิปไตยตัดบทเสร็จ ค้อมหัวให้ปริตาเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป เธอได้แต่มองตามแปลกใจ...

ครู่ต่อมา ธิปไตยมาถึงบริษัท ตรัย แอ๊ดเวอร์ไทซิ่ง บอกกับศิโรจน์ว่าตนต้องไปช่วยดูแลงานแทนแม่ซึ่งตอนนี้ป่วยหนัก ส่วนงานของที่นี่ก็จะมอบหมายให้เขาทำหน้าที่แทน ศิโรจน์ทักท้วงว่างานโฆษณาเป็นงานที่บอสรักและก็ทุ่มเทมากับมือ ธิปไตยยอมรับว่ารักงานนี้มาก แต่รักแม่ตัวเองมากกว่า

“อ๋องจะทำให้ดีที่สุดครับ บอสทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วล่ะครับ” ศิโรจน์ยิ้มให้กำลังใจ...

ฝ่ายชาลินีลงมาที่ห้องโถงบ้านไม่เห็นพิชัยก็เอะอะลั่น รัญชิตาเตือนท่านให้ควบคุมอารมณ์บ้าง เกิดความดันเลือดขึ้นจะยุ่งอีก ชาลินีอารมณ์ค้างจากเมื่อวานพาลหาเรื่องด่าว่าเธอต่างๆนานา แล้วยังพาลด่าสามีตัวเองอีกด้วยว่าสำส่อนไม่เลือก พิชัยมาทันได้ยินก็ด่าคืนให้บ้าง สองสามีภรรยาเปิดศึกน้ำลายใส่กันเสียงลั่นไปหมด

“พอเถอะค่ะ มิ้นท์เบื่อที่จะฟังอีกแล้ว ไม่รักกันก็หย่ากันไป อย่ามาสร้างปัญหาให้ลูกเลย ที่มิ้นท์เป็นแบบนี้ก็เพราะคุณพ่อคุณแม่” รัญชิตาระเบิดอารมณ์อย่างเหลืออด พิชัยโกรธจัดตบหน้าลูกฉาดใหญ่

“อย่ามาโทษว่าเป็นความผิดของฉัน กี่ครั้งแล้วที่ฉันต้องคอยตามแก้ปัญหาให้แก แล้วสิ่งดีๆที่เคยพูดเคยสอน ทำไมไม่จำ เอาแต่วิ่งไล่จับผู้ชาย”

รัญชิตายังเถียงคำไม่ตกฟาก พิชัยทนไม่ไหว เงื้อมือจะตบซ้ำ พลศิษฎ์เข้าไปขวางไว้ ขอร้องให้หยุดได้แล้ว พิชัยเลยเล่นงานเขาแทนว่าคอยให้ท้ายน้องตลอดเวลา ถึงได้

เสียคนแบบนี้ พลศิษฎ์ระบายความอั้นอัดตันใจว่าที่เขาต้องทำแบบนี้ก็เพราะท่านทั้งสองเอาแต่สนใจเรื่องของตัวเอง เขาจึงต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่แทนเพื่อให้น้องรู้ว่าบ้านหลังนี้ยังมีคนในครอบครัวอยู่ ชาลินีสั่งให้หยุดต่อว่าพวกตนได้แล้ว

“วันนี้ขอให้ผมได้พูดเถอะครับ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะมีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้หรือเปล่า ผมต้องทนทำในสิ่งที่ผมไม่ได้รัก แล้วเมื่อไหร่ครับ เมื่อไหร่ที่ผมจะได้ทำตามความต้องการของตัวเอง”

“แกกำลังจะบอกให้ฉันยอมรับยัยอ้อมเป็นสะใภ้ ไม่มีทาง รอให้ฉันตายไปก่อน”

พิชัยเห็นด้วยกับชาลินี พลศิษฎ์จะแต่งงานกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คนที่น้องเกลียด เขาสวนทันที ในเมื่อพ่อยังร่วมเตียงกับพอลลี่ที่น้องเกลียดได้ แล้วทำไมเขาถึงทำไมได้ พิชัยฉุนขาดตบหน้าลูกชาย แล้วเดินออกไป

“คุณจะไปไหน กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง” ชาลินี พูดจบ วิ่งตาม พลศิษฎ์ถึงกับน้ำตาซึม บ่นอย่างท้อแท้ว่า

เป็นคนดีทำไมถึงได้ยากเย็นนัก เขาน่าเป็นคนเลวให้รู้แล้วรู้รอด อาจจะมีความสุขมากกว่านี้ แทนที่รัญชิตาจะเห็นใจพี่ชายตัวเอง กลับยื่นคำขาด ถ้ายังคิดจะเป็นพี่น้องกันต่อไป ต้องเลิกยุ่งกับปริตา

“พี่อยากอยู่คนเดียว ไม่ต้องรับภาระใครอีกแล้ว” พลศิษฎ์ว่าแล้วเดินหนี รัญชิตาขยับจะตามไปถามให้รู้เรื่องว่าพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร แต่มีข้อความส่งมาทางมือถือเสียก่อนว่า ทีมงานละครรออยู่

ooooooo

ไม่นานนัก รัญชิตามาถึงกองถ่าย ชาญวุฒิเห็นหน้าตาบอกบุญไม่รับของเธอแล้ว รีบชวนต้อยติ่งไปเตรียมงานที่หน้าเซต แล้วพากันชิ่งหนี รัญชิตาปรี่เข้ามาต่อว่าปริตาที่คิดจะใช้มารยาหญิงล่อหลอกจนธิปไตย

ปฏิเสธไม่รับรักตน แต่อย่าเพิ่งหลงระเริงว่าจะชนะ คนอย่างตนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

“เขาจะทำอะไร พูดอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ฉันไม่รู้ มันเป็นเรื่องของแกกับเขา แต่ฉันอยากพูดกับแกเรื่องระหว่างเรา...มิ้นท์ ทำไมแกถึงทิ้งฉัน ทำไมไม่ช่วยฉัน”

“ก็เพราะฉันเกลียดแก”

“ความผูกพันที่ดีระหว่างเรา มันไม่อยู่ในจิตใต้สำนึกแกบ้างหรือ ต่อให้เราโกรธเกลียดกัน แต่อย่างน้อยสัญชาตญาณของความเป็นเพื่อนมนุษย์มันก็ควรมีอยู่บ้าง”

นอกจากจะไม่มีความเป็นเพื่อนมนุษย์ให้ปริตาแล้ว หากย้อนเวลากลับไปได้ รัญชิตาจะผลักเธอเข้า

กองไฟให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่มายืนด่าตนอยู่อย่างนี้ ปริตาสะเทือนใจมาก จับมือเพื่อนมากุม ถามว่าจะฆ่าตนจริงหรือ อีกฝ่ายยังไม่ทันจะตอบอะไร เสียงพอลลี่โวยวายใส่สมภพว่าทำอย่างนี้กับตนไม่ได้ดังขึ้นเสียก่อน รัญชิตาดึงมือศัตรูออกแล้วมองไปยังต้นเสียง เห็นพอลลี่ตามจิกสมภพอยู่ โดยมีดอกแก้วพยายามห้ามปราม พอลลี่ไม่พอใจผลักเธอพ้นทาง แล้วยื่นบทละครพรวดไปตรงหน้าสมภพ

“บทสามตอนสุดท้าย มีพอลลี่ไม่ถึงสิบฉาก ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรคะ”

“แล้วเธอทำอะไรไว้ล่ะ” สมภพย้อนถาม “ฉันเมตตาเธอมากแล้วนะที่ยังมีบทให้เล่น อย่าเรื่องมากกับฉัน”

รัญชิตาเข้ามาบอกสมภพว่าต้องการให้ตัวละครที่สวมบทโดยพอลลี่ตายในตอนนี้เลยไม่ต้องรอให้ถึงตอนจบ รวมทั้งตัวที่ดอกแก้วแสดงด้วย สมภพปฏิเสธว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะคนดูจะงง

“ก็ได้ค่ะไม่ต้องตาย ให้โผล่มาแค่ฉากจบฉากเดียว แล้วขอตบแบบนี้” รัญชิตาไม่พูดเปล่า ตบพอลลี่หน้าหัน “ตบตีตัวละครตัวนี้สลบ ถือเป็นฉากปิดตัวละครตัวนี้ค่ะ... ขอโทษนะพอลลี่ ฉันแค่ซ้อมฉากสุดท้ายของเธอ”

“คุณสมภพ คุณยืนดูมันตบพอลลี่ได้ยังไง พวกคุณรวมหัวแกล้งพอลลี่ พอลลี่ไม่เล่นแล้ว ขาดตัวละครสำคัญอย่างพอลลี่ ละครจบไม่สมบูรณ์ ทางช่องไม่ให้งานต่อ” พอลลี่ว่าแล้วเดินจากไปอย่างหัวเสีย ดอกแก้วพยายามจะอ้อน สมภพเพื่อให้ได้แสดงมากกว่าที่รัญชิตาว่า แต่เขาไม่สนใจ แถมไล่อีกต่างหาก ต้อยติ่งเตือนเขาว่าถ้าตัวแสดงหายไปสองตัวแบบนี้ คนดูอาจงงได้

“ไม่ต้องห่วง ผมจะให้คนเขียนบทปรับให้เรื่องเดินต่อไปได้” สมภพว่าแล้วหันไปทางรัญชิตา “คุณคงพอใจแล้วนะครับ ผมทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว”

รัญชิตายังไม่สาแก่ใจ ต้องการให้ตัดปริตาออกด้วย จึงเดินไปหาพ่ออู๊ดซึ่งกำลังชื่นชมปริตาที่ไม่เอาเรื่องทีมงานจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น บอกว่าอยากให้ ตัดบทของปริตาออกทุกฉากทุกตอนจากนี้ไป สมภพ ชาญวุฒิและต้อยติ่งตกใจที่รัญชิตากลั่นแกล้งปริตาไม่เลิกไม่แล้ว

“ตัวละครที่หนูอ้อมเล่น ต้องอยู่คู่กับบทที่หนูมิ้นท์เล่น ตัดออกไม่ได้หรอกครับ” พ่ออู๊ดอธิบายอย่างใจเย็น

“มิ้นท์ไม่อยากร่วมงานกับอ้อมค่ะ”

“ถ้าหนูมิ้นท์ไม่เห็นด้วยกับพ่อ ก็สั่งให้คุณสมภพเปลี่ยนผู้กำกับเถอะ พ่อทำไม่ได้จริง”

“คุณมิ้นท์ครับ เราต้องปิดกล้องภายในเดือนนี้ ถ้าพักกองหาผู้กำกับใหม่ ก็จะกระทบกับค่าใช้จ่ายของคุณชาลินี ผลงานของคุณมิ้นท์ก็ต้องเลื่อนออนแอร์ไปอีกปีนะครับ” คำพูดของสมภพทำให้รัญชิตาจนแต้ม

“ก็รีบถ่ายสิคะ จะได้ปิดกล้องไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก” เหวี่ยงเสร็จ ยัยตัวแสบประจำกองถ่ายเดินกระแทกเท้าออกไป ชาญวุฒิกับต้อยติ่งแสดงความยินดีกับปริตาด้วยที่ได้แสดงละครจนจบ ปริตาไหว้ขอบคุณพ่ออู๊ดที่ช่วยเหลือ เขาไม่อยากให้ถือเป็นบุญคุณ มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำเพื่อปกป้องนักแสดงดีๆ...

ทางฝ่ายดอกแก้วตามมาขอร้องให้พอลลี่ไปขอโทษสมภพกับรัญชิตา เผื่อจะได้งานคืน แต่เธอไม่ยอมทำตาม แม้จะไม่ได้ถ่ายละครเรื่องนี้เธอก็ไม่อดตายเพราะกำลังจะได้เงินก้อนจากพิชัย ดอกแก้วเจ็บใจที่เพื่อนเห็นแก่ตัว คิดจะเอาตัวรอดคนเดียว หมายหัวเธอเอาไว้ สักวันจะเอาคืนให้สาสม...

นอกจากจะโดนรัญชิตาป่วนอยู่ตลอด ปริตายังมีเรื่องเงินค่าบ้านให้ปวดขมับอีก เพราะยังหาได้ไม่ครบ ใกล้จะถึงเส้นตายต้องจ่ายให้ธิปไตยเข้ามาทุกที ยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนทัน ปริเทพอาสาจะไปคุยกับเขา ขอให้ยืดเวลาให้ ปริตาเห็นทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ขืนให้เขาไปทางโน้นอาจเล่นแง่ได้ เธอจึงขอรับหน้าที่นี้เอง

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ปริตามาหาธิปไตยที่บริษัทของเขา ต้องแปลกใจที่เจอศิโรจน์นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานเจ้าของบริษัท สอบถามว่าธิปไตยไปไหน ได้ความว่าไปทำงานให้เสาวลักษณ์

“คืออย่างนี้ครับ...เอาแบบรวบยอดแล้วกัน บอส

บอกเลิกคบคุณมิ้นท์อย่างเป็นทางการ คุณชาลินีก็ถอนหุ้นอย่างถาวร บริษัทของท่านประธานวิกฤติหนักครับ ท่านเครียดจนล้มป่วยอีกรอบ แต่คราวนี้หนักเลยครับ ล้มหมอนนอนเตียงขยับร่างกายไม่ได้...น้องอ้อมมาหาบอสมีธุระอะไร ฝากพี่ก็ได้ พี่จะเอางานไปส่งให้บอส”

หญิงสาวได้ฟังเรื่องราวของเสาวลักษณ์และธิปไตยแล้วรู้สึกสงสาร ตัดสินใจจะทำบางอย่าง...

ด้านธิปไตยพยายามเอาใจแม่ทุกอย่าง ถึงเวลากินยาก็ยกถาดใส่ยาเข้ามาให้ ท่านกลับเรียกหาน้อยให้มาทำหน้าที่แทน เขารู้ว่าแม่ยังโกรธอยู่ ไม่อยากขัดใจ ส่งถาดใส่ยาให้น้อยแล้วเดินลงมาที่ห้องโถง เจอศิโรจน์หอบแฟ้มเอกสารมาให้ตรวจ ธิปไตยรู้สึกเหงามากอยากมีเพื่อนคุย ชวนเขากินข้าวด้วยกัน

“เอ่อ อยากกินด้วยครับ แต่ผมออกไปก่อนดีกว่า บอสมีแขก” ศิโรจน์รู้งาน เดินเลี่ยงออกไปสวนกับปริตาที่เดินเข้ามาหาธิปไตยพร้อมกับยื่นกระเช้าผลไม้จะเอามาเยี่ยมเสาวลักษณ์ให้ เขารับมาถือไว้

“ฉันขออนุญาตรับฝากให้นะ เดี๋ยวจะให้ป้าน้อยเอาไปให้คุณแม่ ท่านยังโกรธไม่อยากเจอหน้าฉัน”

“คุณควรจะบอกท่านนะคะว่าคุณทิ้งงานบริษัทตัวเองมาช่วยดูแลงานของท่าน ท่านคงจะรู้สึกดีขึ้น”

ธิปไตยไม่อยากคุยเรื่องงานให้ท่านได้ยิน กลัวจะเครียดหนักกว่าเก่า ได้แต่เร่งทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ก่อนที่มันจะล้มละลาย ปริตาเชื่อมือเขาว่าต้องรักษาบริษัทของเสาวลักษณ์ไว้ได้ แล้วเล่าให้ฟังว่าวันก่อนเจอรัญชิตาที่กองถ่ายละคร เขาชิงพูดเสียก่อนว่าทางนั้นคงบอกเธอเรื่องของเขาแล้ว “คุณมิ้นท์เล่นงานเธอหรือเปล่า”

“ต้องให้เวลามิ้นท์ทำใจสักพัก”

“ฉันเองก็ผิด ฉันเคยให้ความหวังกับเขา แต่มันถึงเวลาที่ต้องพูดความจริง ฉันไม่อยากโกหกใครอีกแล้ว โดยเฉพาะตัวเอง อ้อม ฉันอยากบอกเธอ...” ธิปไตย ยังไม่ทันจะสารภาพความในใจที่มีต่อปริตา ศิโรจน์เดินถือโทรศัพท์สีหน้าเคร่งเครียดเข้ามารายงานเสียก่อนว่าทางธนาคารโทร.มาเรื่องเงินกู้ของท่านประธาน

“อ้อม เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันอีกหรือเปล่า” ธิปไตยเสียงเครียดขึ้นมาทันที

“เปล่าค่ะ คุณทำงานเถอะ ฉันกลับนะคะ” ปริตาว่าแล้วเดินออกมา ได้ยินเสียงธิปไตยคุยโทรศัพท์กับธนาคารเรื่องที่แม่ของเขาขาดส่งเงินกู้มาหลายเดือนแล้ว ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้...

เมื่อเจอปริเทพในตอนเย็น ปริตาเล่าถึงอาการป่วยของเสาวลักษณ์ให้ฟัง เขาหาว่าที่ท่านเดินไม่ได้ คงเป็นเพราะบาปกรรมที่เคยทำไว้กับปัทมาศ ปริตาได้แต่หวังว่าเสาวลักษณ์จะสำนึกในความผิดนั้น ปริเทพอยากรู้ว่าเธอพูดกับธิปไตยเรื่องบ้านหรือยัง เธอยังไม่มีโอกาสพูด ยิ่งได้รู้ว่าเขามีปัญหาการเงิน เธอยิ่งพูดไม่ออก ปริเทพเห็นว่าหมดทางจะทำอะไรได้ แนะให้น้องปล่อยบ้านหลังนั้นไป

“ไม่ค่ะ ยังไม่หมดทางซะทีเดียว อ้อมยังพอมีทางเลือก” ปริตาคว้ามือถือออกไปที่ระเบียงหน้าบ้าน โทร.นัดสมภพเรื่องจะเบิกค่าตัวเล่นละครที่เคยเกริ่นไว้ ปริเทพได้ยินน้องคุยโทรศัพท์ ถามว่าจะไปไหน

ooooooo

ค่ำวันเดียวกัน ที่เคาน์เตอร์บาร์ในผับแห่งหนึ่ง พิชัยนั่งดื่มเหล้าไปคิดถึงเหตุการณ์ที่ทะเลาะกับชาลินีไปด้วย เรื่องที่มีปากเสียงกันก็ไม่พ้นเรื่องความหึงหวงของเธอ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเซ็ง ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกราวกับดื่มน้ำเปล่า ดอกแก้วเห็นพิชัยมาคนเดียว รีบเข้ามานั่งข้างๆ ขอเป็นเพื่อนดื่มกับเขา

“ฉันต้องการอยู่คนเดียว” พิชัยนั่งดื่มต่อไปไม่สนใจอะไรเพราะไม่อยากมีปัญหาอีก ขณะที่ดอกแก้วยังตื๊อไม่เลิก นั่งกระแซะเขาอยู่ตรงนั้น

อีกมุมหนึ่งของผับ รัญชิตาทั้งโกรธแค้น ทั้งเจ็บใจที่ถูกธิปไตยบอกเลิก รวมทั้งเหตุการณ์ตอนที่พอลลี่บุกมาแสดงตัวว่าเป็นเมียของพ่อเธอถึงบ้าน ดื่มเหล้าเพื่อดับอารมณ์ สมภพเห็นเธอเมาแล้ว เข้ามาขอร้องให้หยุดดื่ม เธอตัดพ้อต่อว่าเขาว่าหากเธอไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่ เขาคงไม่เห็นหัว แล้วไปเข้าข้างปริตา

“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ ผมดูแลอ้อมในฐานะนักแสดง แต่สำหรับคุณ...คุณพิเศษสำหรับผมเสมอ” สมภพเข้ามาโอบกอดเธอไว้ รัญชิตาแกะมือเขาออก

คุยว่าตนเองมีพร้อมทุกอย่างไม่จำเป็นต้องพึ่งเขา สมภพมีข้อเสนอให้เธอพิจารณา ถ้าเราสองคนร่วมมือกัน เขาจะได้ปริตามาครอบครอง ส่วนเธอก็จะได้ธิปไตยคืน จังหวะนั้นปริตาปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าผับ

“สนใจข้อเสนอของผมก็เรียกใช้บริการได้ครับ ผมขอตัวไปเจรจาธุรกิจก่อนนะครับ” สมภพพูดจบเดินไปต้อนรับปริตาแล้วพาไปนั่งโต๊ะ รัญชิตามองตามแปลกใจ ทำไมเธอยอมมาหาเขาถึงที่นี่

สมภพชวนปริตาดื่มด้วยกัน แต่คราวนี้ไม่ได้สั่งเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์มาให้เธอ เป็นเพียงน้ำผลไม้เท่านั้น แล้วชวนเธอคล้องแขนดื่ม ปริตาไม่อยากขัดใจ กลัวจะไม่ได้ค่าตัวเล่นละคร จำต้องทำตามที่เขาต้องการ รัญชิตาคว้ามือถือขึ้นมาเก็บภาพไว้ แล้วส่งไปให้ธิปไตยซึ่งมองภาพนั้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล...

ระหว่างที่ธิปไตยกลัวปริตาจะถูกสมภพมอมเหล้า พิชัยซึ่งเมาได้ที่เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังไปที่รถตัวเอง

ดอกแก้วเข้ามาช่วยพยุง พร้อมทั้งอาสาจะขับรถให้ เขาขอร้องอย่ามายุ่ง เขาไม่อยากมีปัญหาอีก

“ดอกแก้วไม่ใช่พอลลี่นะคะ ดอกแก้วรู้ดีว่าเป็นใครอยู่ตรงไหน ดอกแก้วอยากช่วยแบ่งเบาความทุกข์คุณอาค่ะ” ดอกแก้วรอลุ้นพิชัยจะว่าอย่างไร เขาขับรถไม่ไหว ตัดสินใจส่งกุญแจรถให้ พอลลี่ยืนมองอยู่ ไม่พอใจที่เพื่อนคิดคดทรยศ รีบสะกดรอยตามเพื่อหาทางเอาคืน...

ที่คฤหาสน์ของพิชัย ชาลินีพยายามโทร.หาสามีแต่ไม่มีใครรับสาย เริ่มหงุดหงิด เห็นพลศิษฎ์เพิ่งกลับจากทำงาน จัดแจงชวนให้ไปตามหาพ่อที่ผับด้วยกัน เขาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ทันทีที่เขาพ้นสายตา พอลลี่โทร.เข้ามือถือของชาลินีซึ่งยังไม่ทันจะอ้าปากด่า เธอชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“อย่าเสียเวลามาหาเรื่องพอลลี่เลย รีบตามจิกผัวจะดีกว่า” พอลลี่พูดจบไลน์รูปดอกแก้วกำลังประคองพิชัยขึ้นคอนโดฯที่พักไปให้ชาลินี...

ขณะที่ชาลินีอกแทบระเบิดเมื่อเห็นสามีตัวเองคลอเคลียกับหญิงอื่น ปริตาเห็นว่าดึกมากแล้ว ได้เวลาต้องกลับบ้านแล้ว จึงขอให้สมภพช่วยเซ็นเช็คค่าแสดงละครให้ เขาแสร้งค้นหาสมุดเช็คในเสื้อนอกไม่เจอ สงสัยจะลืมไว้ที่ห้องพัก เธอไม่อยากไปที่นั่น ขอนัดเจอกันพรุ่งนี้อีกครั้ง

“รอฉันกลับจากฮ่องกงอาทิตย์หน้านะ ฉันต้องพานางแบบไปถ่ายงานที่ฮ่องกงแต่เช้าเลย”

ปริตาไม่มีทางเลือกจำต้องไปกับเขา สมภพแอบยิ้มกริ่มที่หลอกเธอเข้าถ้ำเสือสำเร็จ...

ธิปไตยตามมาที่ผับ คลาดกับปริตาแค่เส้นยาแดงผ่าแปด เพราะรัญชิตาทำทีมาชวนคุยเบนความสนใจ พอเขารู้ว่าเธอไปกับสมภพ ขยับจะไปตาม รัญชิตาคว้าแขนไว้ อาสาจะพาไปยังที่ที่สมภพพาปริตาไป ธิปไตยเป็นห่วงหญิงสาวที่ตัวเองหลงรัก จำต้องไปกับเธอ...

ทางด้านพลศิษฎ์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ลงมาข้างล่าง แต่ไม่เจอแม่ หันไปถามเด็กรับใช้ว่าท่านไปไหน

“คุณผู้หญิงคุยโทรศัพท์แล้วก็รีบออกไป ลืมมือถือไว้ค่ะ” เด็กรับใช้ส่งมือถือให้ เขารีบเปิดดู เห็นภาพที่พอลลี่ส่งมาให้ เป็นภาพดอกแก้วประคองพิชัยขึ้นคอนโดฯ แถมมีภาพถ่ายเลขห้องพักที่พากันเข้าไปเสร็จสรรพ

พลศิษฎ์กลัวแม่จะตามไปอาละวาด รีบออกจากบ้านทันที

ooooooo

ขณะดอกแก้วกำลังนัวเนียอยู่กับพิชัยที่เมาหนัก ชาลินีเปิดประตูผลัวะเข้ามา กระชากเธอมาตบจนล้มคว่ำ ปากก็ด่าว่าสามีตัวเองไปด้วยที่สำส่อนไม่เว้นแม้แต่เพื่อนของลูก แล้วชักปืนเล็งดอกแก้วซึ่งกลัวตัวสั่น

“เธอมันมักง่าย อยากรวยทางลัด ชอบแย่งของของคนอื่น นังแพศยา” ชาลินีลั่นกระสุนใส่ ดอกแก้วไวทายาดโดดหลบได้ทัน ก่อนจะวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ชาลินีแค้นมากหันปืนเล็งพิชัยแทน

“อย่านะคุณ ต่อไปนี้ผมจะไม่นอกใจคุณ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับคุณ”

“คุณสัญญาแล้วนะว่าคุณจะอยู่กับฉัน”

พิชัยรับปาก พลางเขยิบเข้าใกล้ พอได้ระยะก็คว้าปืนในมือชาลินี แต่เธอยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย เขาเห็นท่าไม่ดีผลักเธอกระเด็นแล้ววิ่งหนี ชาลินีไล่ตามยิงขาเขาทรุดกับพื้น พลศิษฎ์ตามมาทันร้องห้ามเสียงหลง แต่เธอไม่ฟังยิงขาอีกข้างของพิชัยทะลุ เพื่อจะได้ไม่หนีเธอไปไหนอีก พลศิษฎ์พุ่งเข้าไปแย่งปืนจากแม่จนได้...

อีกมุมหนึ่งของคอนโดฯ ดอกแก้ววิ่งหน้าตื่นมาตามทางเดิน เสียงปืนดังติดกันสองนัดยิ่งทำให้ตกใจ เร่งฝีเท้าหนี แต่ต้องชะงักเมื่อเจอพอลลี่ดักหน้า ขู่ว่าอย่าหักหลังตนอีก ไม่อย่างนั้นศพจะไม่สวย...

ในระหว่างที่พิชัยเจ็บหนักเพราะความเจ้าชู้

ไม่เลือกของตัวเอง รัญชิตาพาธิปไตยมาถึงหน้าคอนโดฯ

ที่พักซึ่งสมภพพาปริตาขึ้นไป เธอไม่วายใส่ไฟว่าคราวนี้เขาจะได้เห็นสักทีว่าผู้หญิงแสนดีที่เขารัก กำลังเอาตัวเข้าแลกเงิน ทำตัวไม่ต่างจากพอลลี่และดอกแก้ว ธิปไตยตำหนิเธอว่าเป็นเพื่อนปริตาแท้ๆน่าจะรู้จักนิสัยกันดี

“เงินมันทำให้คนเปลี่ยนได้ ฉันมั่นใจว่าถ้าคุณได้เห็นภาพความสุขของพวกเขา คุณคงเปลี่ยนความคิด”...

ทางด้านสมภพเซ็นเช็คเสร็จ แกล้งยืนรอให้ปริตาซึ่งไม่ยอมอยู่ห่างจากประตูห้องพักเดินเข้ามาเอา เธอจำใจต้องเข้าไปหา เขาสบช่องรวบตัวเอาไว้ ปริตาดิ้นสุดฤทธิ์ขอร้องให้ปล่อย พลันมีเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น

“ถ้าคุณไม่เปิดประตูภายในหนึ่งนาที พี่เทพจะพังประตูเข้ามา”

“เธอโทร.บอกพี่ชายเธอเมื่อไหร่” สมภพสีหน้าตกใจ ปริตานัดแนะกับพี่ชายตั้งแต่วางสายจากเขาเมื่อคืน และที่เธอยอมมาตามนัด ไม่ใช่เพราะไว้ใจเขา แต่เพราะรู้ว่าพี่ชายตัวเองตามมาคุ้มครองความปลอดภัยให้ เสียงกริ่งเปลี่ยนเป็นเสียงทุบประตูปังๆแทนที่ เธอเตือนให้เขารีบเปิดประตู ไม่เช่นนั้นพี่เทพจะแจ้งตำรวจว่าเธอโดนลวงมาข่มขืน เขาคงไม่อยากมีคดีความก่อนละครจะออนแอร์ แล้วขอเช็คค่าเล่นละครให้เธอด้วย

“เธอเล่นฉันหนัก ฉันคงไม่ใจดีอนุมัติเงินให้เธอ ฉันจะสั่งระงับการจ่ายเงิน”

ปริตาอัดเสียงทุกคำสนทนาของเราสองคนไว้หมดแล้ว ถ้าเขาไม่อยากเดือดร้อนก็ไม่ควรจะทำแบบนั้น สมภพหาว่าเธอแบล็กเมล์เขา เธอปฏิเสธว่าเปล่า เธอแค่ต้องการเงินในส่วนที่เธอควรได้รับเท่านั้น แล้วบอกให้เขาเปิดประตูให้ สมภพจำต้องทำตาม ทันทีที่ประตูเปิดออก ปริเทพปล่อยหมัดตรงเข้าหน้าเขาหงายหลังตึง แล้วตามเข้าไปซ้ำ สมภพเห็นธิปไตยตามเข้ามา ร้องขอให้ช่วย ปริตารีบฟ้องทันที

“คุณสมภพคิดจะขืนใจอ้อมค่ะ”

แทนที่ธิปไตยจะช่วยสมภพ กลับช่วยปริเทพอัดเขาสะบักสะบอม แล้วสั่งไม่ให้มายุ่งกับปริตาอีก ไม่อย่างนั้นไม่ตายดีแน่ รัญชิตายืนมองอยู่หน้าห้องพัก ผิดหวังที่ศัตรูหัวใจรอดไปได้อีกครั้ง...

จากนั้นปริเทพ ธิปไตย และปริตาก็ชวนกันกลับ เธออดถามไม่ได้ว่าธิปไตยมาที่นี่ได้อย่างไร พอรู้ว่า รัญชิตาเป็นคนโทร.บอก ปริเทพเดาออกว่าไม่ใช่เพราะความหวังดี

“ครับ คุณมิ้นท์ตั้งใจให้ผมมาเห็นว่าอ้อมนอนกับคุณสมภพ”

ปริเทพบ่นอุบ เมื่อไหร่รัญชิตาถึงจะเลิกจองเวรจองกรรมน้องสาวของตนสักที ปริตาไม่อยากเอาผู้หญิงคนนี้มาใส่ใจ ถ้าเธอไม่รู้สึกสำนึกผิดก็คงต้องปล่อยไป หลังละครถ่ายเสร็จ เราก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทุกอย่างคงจะดีขึ้น แล้วหันไปขอบคุณธิปไตยที่มาช่วยตนเอาไว้

ทางฝ่ายรัญชิตาเข้าไปช่วยพยุงสมภพที่หน้าตาบวมปูดไปนั่งบนโซฟา บ่นเสียดายที่เขาจัดการปริตาไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงเขายังมีโอกาสแก้ตัว เธอจะร่วมมือกับเขาทำลายนังนั่น

“ยัยอ้อมตกเป็นของคุณ มันก็ไม่มีหน้าคบกับคุณตรัยอีก คุณได้ยัยอ้อม ฉันได้คุณตรัย วินๆทั้งคู่”...

จากนั้นไม่นาน รัญชิตากลับถึงบ้าน พอรู้ข่าวพ่อถูกแม่ยิงขาสองข้างต้องนอนโรงพยาบาลก็ต่อว่าแม่ว่าทำแบบนี้กับพ่อได้อย่างไร ชาลินีกลับโทษว่าเป็นเพราะพิชัยทำตัวเองต่างหาก

“ฉันจะไม่ยอมเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว ใครที่มันทำฉัน มันต้องเจ็บกว่าฉัน” ชาลินีเสียงกร้าว

ooooooo

ในที่สุดก็ถึงวันสุดท้ายของการถ่ายทำละครเรื่อง “ร้ายรักร้ายมารยา” ศิโรจน์ถือช่อกุหลาบสีชมพูมามอบให้ต้อยติ่งเพื่อเป็นกำลังใจ เธอเอาแต่ยืนบิดตัวแทบจะม้วนเป็นเลขแปดด้วยความขวยเขิน ชาญวุฒิหมั่นไส้ เตือนว่าอย่าเยอะ รถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว เธอถึงยอมรับช่อดอกไม้จากศิโรจน์ ปริตาคิดแล้วอดใจหายไม่ได้

“ถ่ายทำมาด้วยกันหลายเดือน วันนี้เป็นวันปิดกล้องแล้ว”

“ปิดๆน่ะดีแล้วพี่ใจหายใจคว่ำลุ้นทุกวัน ไม่อยากเป็นผู้ผลิตละครล่ะ กลับไปทำโมเดลลิ่งอย่างเดียวดีกว่า”

ปริตาเห็นนักข่าวมาออกันเต็ม ถามชาญวุฒิว่านัดพวกนั้นมาทำข่าวหรือ เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ...

พอลลี่เป็นคนนัดนักข่าวมาเพื่อจะบีบสมภพ เพราะเธอได้รับค่าตัวขาดไป 3 ตอนที่ถูกตัดออกอย่างไม่ยุติธรรม เขาทำท่าจะไม่ยอมจ่าย เธอขู่จะเอาคลิปร่างกายที่ฟกช้ำของตนเองด้วยฝีมือเขาให้นักข่าวดู

“แล้วฉันจะจัดการเรื่องเงินให้ เธอออกไปได้แล้ว”

พอลลี่ยิ้มสะใจ ก่อนจะออกไปพร้อมกับกลุ่มนักข่าว ปริตา ชาญวุฒิ ศิโรจน์ และต้อยติ่งเห็นสิ่งที่พอลลี่ทำกับสมภพแล้ว ได้แต่มองอย่างปลงๆยกให้เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมชั่วไว้ก็จะได้อย่างนั้นตอบแทน

“แล้วใครจะรับกรรมเป็นรายต่อไปครับ” สิ้นเสียงศิโรจน์ รัญชิตาเดินเข้ามาสตูดิโอเสมือนจะเป็นคนรับกรรมที่เขาพูดถึง พ่ออู๊ดเห็นนักแสดงมากันครบแล้ว เข้ามาสรุปบทละครตอนจบที่ปรับใหม่ให้ฟัง

“เพื่อนรักผิดใจกัน แยกทางกันเดิน สุดท้ายรดาก็ได้แต่งงานกับคนรัก โดยมีเดือนเป็นเพื่อนรักและจริงใจกับรดาเพียงคนเดียว” สิ้นเสียงพ่ออู๊ด ปริตาหันมองรัญชิตาต้องการสื่อถึงความจริงใจที่มีให้ แต่เธอไม่สนใจ

ศิโรจน์อดสงสัยไม่ได้ แล้วพระเอกไม่มาเข้าฉากด้วยหรือ ต้อยติ่งอธิบายว่าถ่ายเจาะฉากแต่งงานไปแล้ว เหลือแค่ฉากส่งตัวเจ้าสาว รัญชิตารำคาญ เร่งให้ถ่ายเร็วๆ จะได้จบๆสักที...

เมื่อฉากพร้อม นักแสดงทุกคนพร้อม พ่ออู๊ดสั่งแอ็กชั่น รัญชิตาในชุดเจ้าสาวตามบทรดาเดินมาหยุดที่มุมหนึ่งของฉาก ปริตาในคราบเดือนสวมชุดเพื่อนเจ้าสาวเข้ามาหา

“ฉันดีใจกับเธอด้วยนะ หลังจากนี้เธอไม่ต้องแย่งชิงกับใครอีกแล้ว เธอเชื่อฉันแล้วใช่ไหม ความดีเท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งได้ ฉันขอให้เธอได้อยู่กับคนที่เธอรัก และมีความสุขกับเขาตลอดไป” ปริตาพูดจบ ส่งช่อกุหลาบสีแดงให้รัญชิตาซึ่งรับมาด้วยน้ำตานองหน้า ทุกคนที่ดูอยู่หน้าจอมอนิเตอร์คิดว่าเธอดีใจตามบท

แต่ความจริงแล้วเธอร้องไห้เพราะช้ำใจที่ตัวเองไม่สมหวังเหมือนรดาในละคร เมื่อได้ภาพตามต้องการ พ่ออู๊ดสั่งคัต เป็นอันปิดกล้องโดยปริยาย รัญชิตาขยับจะไปเปลี่ยนชุด ปริตาเรียกไว้ ขอบใจที่เธอบอกให้ธิปไตย

ไปช่วยตนให้พ้นเงื้อมมือสมภพ ตนไม่สนใจว่าเธอจะคิดดีหรือร้าย แต่อย่างน้อยธิปไตยก็ช่วยตนไว้ได้

“แกมันร้ายกว่าที่ฉันคิด ย้อนรอยเอาคืนจนคุณสมภพแทบแย่ แล้วยังจะมาเย้ยฉันอีก”

ปริตาไม่เคยคิดร้ายกับใคร แค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น แล้วขอร้องรัญชิตาให้หยุดได้แล้ว ขืนยังเลือกทำในสิ่งไม่ดี ก็จะได้รับผลกรรมเหมือนพอลลี่ ดอกแก้วและสมภพ มีแต่คนสำนึกผิดเท่านั้นที่จะได้รับการให้อภัย

“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแม่พระโปรดฉันฉันจะบอกให้นะ ชีวิตฉันกับตัวละครรดาต้องเหมือนกัน ไม่ว่าอุปสรรค ตัวมารมาขัดขวาง ฉันก็จะทำลาย แล้วฉันต้องได้สมหวังกับคนที่ฉันรัก แกคือศัตรูที่ทำลายฉัน...ฉันจะยอมเป็นเพื่อนที่ดีกับแกในวันที่แกตาย แล้วฉันจะไปโปรยดอกไม้ในวันลอยอังคารให้แก” รัญชิตาพูดจบดึงกุหลาบจากช่อดอกไม้ในมือตัวเองโยนใส่หน้าปริตา ก่อนจะเดินจากไป เธอมองตามผิดหวังที่รัญชิตายังอาฆาตไม่เลิก

จากนั้นปริตาเดินไปขอบคุณพ่ออู๊ดที่ยืนเช็กงานอยู่หน้าจอมอนิเตอร์สำหรับโอกาสดีๆที่มีให้เธอ เขาเพิ่งรับงานละครเรื่องใหม่มา ชวนเธอไปร่วมงานด้วย โดยเสนอบทนางเอกให้

“ขอบคุณพ่ออู๊ดมากนะคะ แต่อ้อมคิดว่าอ้อมไม่เหมาะกับวงการนี้” ปริตาว่าแล้วยกมือไหว้ลา

ooooooo

แม้พิชัยต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ถือโทษโกรธชาลินี และไม่ติดใจจะเอาความ ขอเพียงให้เราสองคนกลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม รัญชิตากับพลศิษฎ์ช่วยกันขอร้องแม่อีกแรง ชาลินียังไม่ทันจะว่าอะไร พอลลี่เข้ามาทวงเงินที่พิชัยสัญญาจะจ่ายให้เสียก่อน พลศิษฎ์จะโอนให้เอง ขอร้องให้เธอกลับไปได้แล้ว

“ขอบคุณนะคะ ว่างๆเราน่าจะไปดื่มด้วยกัน” พอลลี่ส่งสายตาหวานให้พลศิษฎ์

ชาลินีเหลืออดตะคอกใส่ “ออกไปก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาลากตัวเธอออกไป”

พอลลี่ยิ้มเย้ยชาลินี แล้วเดินนวยนาดออกจากบ้าน พิชัยเข้ามาขอร้องชาลินีให้มาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง เธอกลับเดินหนี สั่งห้ามเขามายุ่งวุ่นวายกับเธออีก รัญชิตาเห็นหายนะของครอบครัวตัวเองแล้วทนไม่ไหว ตามไปเอาเรื่องพอลลี่ กระชากตัวมาตบตีจนล้มคว่ำไปกองกับพื้น แล้วจะตามไปซ้ำ เธอชักมีดขึ้นมาขู่

“ถึงฉันไม่ได้เล่นละครจนจบ ไม่มีงานในวงการ ฉันก็จะดังไม่แพ้เธอ ฉันจะเอาข้อมูลเลวๆชั่วๆของเธอมาแฉรายวัน แล้วดูกันว่านางเอกในจอกับจอมแฉอย่างฉัน ใครจะดังกว่ากัน”

รัญชิตาเจ็บใจมากได้แต่มองพอลลี่เดินจากไปอย่างผู้ชนะ แล้วนึกถึงสมภพขึ้นมาได้ รีบโทร.หาทันที

“คุณสมภพคุณอยู่ที่ไหน”

ooooooo

กุหลาบเล่นไฟ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด