ดอกหญ้าในพายุ
บัวยังยืนงงๆ พันเข้ามาลากแขนเธอขึ้นไปบนเวที โดยมีดุสิตาคอยเชียร์ให้กำลังใจ ทุกคนตบมือให้เมื่อเธอก้าวขึ้นไปยืนข้างๆปวีณ วิภูษามองแม่งงๆ
ถามว่าพ่อคิดจะเล่นตลกอะไร นงรามเห็นด้วย
“นั่นน่ะสิ ไม่อายแขกเหรื่อบ้างหรือไง”
“ถ้าผมมีลูกฉลาดแบบนี้ไม่เห็นต้องอายเลยคุณ” สารินทร์เห็นต่าง
ที่บนเวทีบัวไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อมโดยที่ปวีณ แนะนำว่านี่คือลูกสาวของตนที่พลัดพรากจากกันไปนาน ตอนนี้ครอบครัวของเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว วิภูษาไม่พอใจที่บัวมาแย่งซีน นี่มันคงจะอ้อนคุณพ่อให้ทำแบบนี้แน่ๆ มันคิดจะเผยอมาเทียบชั้นกับตน พันผ่านมา ทันได้ยินก็ยิ่งเกลียดวิภูษาเพิ่มเป็นทวีคูณ คิดหาทางแกล้ง โดยจะให้บัวเล่นเปียโนแทนตัวเองที่ต้องขึ้นแสดง เข้าไปแย่งไมโครโฟนจากมือชิน
“ท่านผู้มีเกียรติครับ นอกจากเธอคนนี้จะมีความรู้เรื่องยาสมุนไพรแล้ว เธอยังมีความสามารถในการเล่นดนตรีและแต่งเพลงอีกด้วย ขอเชิญทุกท่านฟังเพลงเพราะๆที่เธออยากมอบให้เป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในงานวันนี้ด้วยครับ” พันว่าแล้วดันหลังบัวไปที่เปียโน เธอพยายามขืนตัวไว้แต่เขาจับเธอนั่งหน้าคีย์เปียโนจนได้
“ไม่อยากแสดงให้ทุกคนเห็นเหรอว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาดูถูก เต็มที่นะบัวเวทีนี้เป็นของเธอแล้ว” พันขยับจะไปแต่บัวดึงมือไว้เหมือนต้องการกำลังใจ เขาตบมือเธอเบาๆ “ฉันจะยืนอยู่ข้างๆเวทีนี่แหละ”
บัวสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกพลังจากนั้นก็พรมนิ้วไปบนคีย์ เสียงร้องอันไพเราะของเธอสะกดทุกคนให้เดินเข้ามายืนหน้าเวที พงศ์ระพีฟังเนื้อร้องแล้วรู้ทันทีว่าเป็นเพลงของเขา ระหว่างเล่นเปียโน บัวมองมาทาง
พงศ์ระพีตลอด เขาเองก็มองตอบด้วยสายตาแบบเดียวกัน วิภูษาไม่พอใจที่นอกจากบัวจะแย่งซีนยังจะแย่งพี่พีไปจากเธออีก ถึงกับสติแตกพุ่งขึ้นไปบนเวทีกระชากบัวมาตบ เธอไม่สู้เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายท้อง
วิภูษาย่ามใจ จับหัวบัวโขกกับเปียโนอย่างบ้าคลั่ง เดชาทนไม่ไหวขึ้นไปบนเวที โดยที่พงศ์ระพีกับปวีณวิ่งขึ้นไปบนนั้นจากอีกด้าน เดชาถึงตัววิภูษาก่อน ผลัก ให้ออกห่างจากบัว แต่ผลักแรงไปหน่อย วิภูษาชนตู้
แอมป์ร่วงตกเวที กุมท้องร้องครวญคราง พงศ์ระพีเห็นมีเลือดเปื้อนชุดเจ้าสาวก็ตกใจรีบเข้าไปอุ้ม พาตัวไปส่งโรงพยาบาล งานเลี้ยงฉลองสมรสเป็นอันปิดฉากไปโดยปริยาย
ooooooo
ที่หน้าห้องพักฟื้นผู้ป่วย ปวีณ วรรณพรกับนงรามและสารินทร์ต่างตกใจยกเว้นพงศ์ระพี เมื่อหมอแจ้งให้ทราบว่าคุณแม่ปลอดภัยแล้วแต่หมอ
ไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในท้องไว้ได้ ปวีณทักท้วง
“เดี๋ยวนะครับคุณหมอ ลูกสาวผมชื่อวิภูษา ที่คุณหมอ บอกมาคงจะเป็นคนละคนกันหรือเปล่าครับ”