ดอกหญ้าในพายุ
บัวสวมชุดเดิมที่มาบ้านนี้วันแรกเพราะเสื้อผ้าถูกวิภูษาตัดขาดเหลือแค่ชุดเดียว ระหว่างกำลังฝึกขว้างมีดสั้นใส่ต้นไม้ ดุสิตายื่นถุงใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้ ได้ข่าวมาว่าเสื้อผ้าของเธอขาดหมด แล้วแนะนำตัวเองว่าชื่อดุสิตาเป็นลูกของแม่จิตราซึ่งเป็นพี่สาวพ่อของบัว เราสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จะเรียกตนว่าสิตาเฉยๆก็ได้
“บัวขาดเหลืออะไรก็บอกนะ บัวชอบกินอะไรก็บอกนะ เราทำกับข้าวเป็นตั้งหลายอย่าง”
มีเสียงบางอย่างดังมาจากบนต้นไม้ บัวเงยหน้ามองก่อนจะปีนขึ้นไป สักพักกลับลงมาพร้อมกับกิ้งก่าหนึ่งตัวชูให้ดุสิตาดู เธอตกใจเป็นลมล้มพับไปเลย พงศ์ระพีมาทันพอดีปรี่เข้าไปประคองเธอไว้ทัน จากนั้นอุ้มมาวางไว้ที่โซฟาบ้านจิตรา โดยมีบัวหิ้วถุงใส่เสื้อที่ดุสิตาเอามาให้ตามมาด้วย
จิตรารู้เรื่องที่ดุสิตาเป็นลมรีบลงมาดู ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เจียมฟ้องว่าบัวจับกิ้งก่ามาหลอก ดุสิตาตกใจก็เลยเป็นลม แล้วหันไปทางพงศ์ระพีฟ้องเรื่องที่บัวแกล้งเป็นปอบหลอกรุ่งกลัวแทบฉี่ราด แถมยังนุ่งผ้าถุงลงไปอาบน้ำในบ่อปลาคาร์ปของคุณผู้หญิงอีกด้วย ทำเอาบ้านแทบแตก จิตรารำคาญสั่งให้เจียมพูดน้อยๆหน่อย
“ผมต้องขอโทษแทนบัวด้วยนะครับ” ระหว่างที่พูดพงศ์ระพียกมือไหว้จิตราด้วย ท่านไม่ถือโทษโกรธอะไรคงต้องขัดเกลาบัวกันอีกมากแล้วเข้าไปดูแลลูก พงศ์ระพีหันสั่งให้บัวตามมา จากนั้นเดินนำออกไป เจียมมองตามงงๆทำไมบัวถึงว่าง่ายนัก เมื่อมาถึงโต๊ะสนามข้างตึกใหญ่ พงศ์ระพีต่อว่าบัวว่าทำไมถึงได้เกเรอย่างนี้ เขาหายหน้าไปแค่วันเดียวก่อเรื่องยาวเป็นหางว่าว แทนที่จะสำนึกผิดเธอกลับทำหน้าทะเล้น
ระหว่างนั้นปวีณเดินเข้ามาขอให้พงศ์ระพีช่วยพาบัวไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้จำเป็น เขายินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ บัวก็เหมือนกับน้องสาวคนหนึ่งของเขา บัวยื่นถุงเสื้อผ้าให้ดู
“สิตาเอาเสื้อมาให้แล้ว ไม่ต้องซื้อให้สิ้นเปลืองหรอก ให้บัวออกไปข้างนอกจะอับอายนามสกุลของคุณเปล่าๆ” บัวจงใจแดกดันพ่อตัวเอง พงศ์ระพีดึงถุงเสื้อจากมือเธอไปดู เสื้อผ้ามีอยู่แค่นี้จะไปพอใส่ได้อย่างไร ว่าแล้วลากแขนเธอไปที่รถ ปวีณมองตามหนักใจ
ooooooo
พงศ์ระพีเองก็ถูกบัวป่วนเช่นกัน ไม่ยอมให้เขาซื้อเสื้อผ้าไฮโซราคาแพงระยับให้ บอกกับพนักงานขายว่าตัวเองเพิ่งออกจากป่า ขืนให้ใส่เสื้อผ้าพวกนี้ โรคเรื้อนกำเริบแน่นอน แล้วแกล้งเกาตัวเกาหัวยิกๆ พนักงานพากันถอยหนี บัวยิ้มชอบใจขยับจะไป พงศ์ระพีตามมาคว้าแขนไว้
“อย่าคิดแกล้งฉัน ไม่สำเร็จหรอก เข้าไปเลือกซะดีๆ”