ตอนที่ 95
ตอนที่ 95 ตายแล้ว?
“พี่หมิงซุ่นสุดยอดเลยค่ะ”
อู่เหมยดีอกดีใจแล้วอุ้มกระรอกที่ชักกระตุกไม่หยุดขึ้นมา ขนสีขาวเปื้อนเลือดมากมาย ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเลือดของงูหรือว่าของตัวกระรอกเอง เหยียนหมิงซุ่นยกหางงูขึ้นมาและโยนมันเข้าไปในพงหญ้า จากนั้นเสียงสวบสาบก็ดังขึ้น เจ้างูตัวใหญ่หายตัวไปแล้ว
“กระรอกตัวนี้โดนพิษงู มันคงไม่รอดแล้วละ” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงราบเรียบ
พิษของงูห้าก้าวทำให้วัวที่แข็งแรงตายได้ ต่อให้กระรอกตัวนี้มีสิบชีวิตก็ไม่อาจต้านทานได้ ต้องตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
อู่เหมยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเลือดให้กระรอก แต่แล้วเธอก็เห็นขาหลังของมันบวมขึ้นมาและมีสีดำคล้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกงูกัดพอดี กระรอกชักกระตุกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันกระตุกอยู่อีกพักหนึ่ง แล้วจากนั้นมันก็ตัวตรงทื่อและไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย
“ฮือ ตายแล้ว กระรอกตายแล้ว”
อู่เหมยน้ำตาไหลพราก เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้เศร้าเสียใจกับกระรอกน้อยตัวหนึ่งขนาดนี้ เธอต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะช่วยชีวิตเจ้ากระรอกน้อยได้ ทว่าสุดท้ายเธอก็ไม่อาจรักษาชีวิตของเจ้าตัวน้อยเอาไว้ได้อยู่ดี
เมื่อมองดูเจ้ากระรอกน้อย เธอเหมือนเห็นตัวเองในชาติก่อน แล้วน้ำตาเธอก็ไหลพรากเหมือนกับเปิดก๊อกน้ำ
เมื่อเห็นว่าอู่เหมยปลอดภัยดี อู่เจิ้งซือก็โล่งอก แต่เขารู้สึกเอือมระอามากที่เห็นอู่เหมยร้องห่มร้องไห้ เขาพูดด้วยความโมโหว่า “ร้องไห้อะไรกันนักกันหนา ก็แค่กระรอกตัวหนึ่ง รีบโยนกระรอกทิ้งไปซะ แล้วเตรียมตัวเดินลงเขา”
พอพูดจบ อู่เจิ้งซือก็ไม่สนใจอู่เหมยอีก เขาหันไปเรียกให้พวกเด็กนักเรียนมารวมตัวกัน แล้วเช็กชื่อทีละคน เหมยซูหานเดินมาหาและพูดโน้มน้าวว่า “เหมยเหมยอย่าร้องไห้เลยนะ แล้วโยนเจ้ากระรอกทิ้งไปเถอะ ตัวกระรอกมีเชื้อโรคเยอะแยะเลย”
“ฉันอยากจะฝังศพให้มัน”
อู่เหมยอุ้มเจ้ากระรอกพลางมองหาสถานที่ที่จะขุดหลุม เธอแอบตำหนิตัวเองที่อ่อนแอเกินไป หากเธอลงมือเร็วกว่านี้ บางทีเจ้ากระรอกน้อยอาจไม่ต้องตาย เธอช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!
พอเช็กชื่อเสร็จ เหยียนหมิงซุ่นก็มองหาอู่เหมยทันที เขาเห็นเธอนั่งยองๆ อยู่ที่เนินดินตรงโน้น ไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ พอนึกถึงท่าทางที่เด็กคนนี้ร้องห่มร้องไห้น่าสงสารเมื่อสักครู่นี้ เขาก็นึกขึ้นมาได้ แล้วเดินเข้าไปหา
อู่เชาช่วยอู่เหมยใช้กิ่งไม้ขุดหลุม โชคดีที่ดินบริเวณนี้อ่อนนุ่ม ไม่ต้องเปลืองแรงขุดสักเท่าไร เพียงไม่นานก็ขุดเสร็จเรียบร้อย แต่อู่เหมยกลับไม่พอใจ “ขุดลึกอีกหน่อย จะได้ไม่ถูกพวกสัตว์ป่าขุดคุ้ยเจ้ากระรอกออกมากิน”
“สมองเธอไม่ได้มีปัญหาใช่มั้ย ก็แค่กระรอกที่ตายแล้วตัวหนึ่ง ตายก็ตายไปแล้ว ทำไมเธอต้องสนใจอะไรมากมาย หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ!” อู่เชามองค้อนตาเหลือก ไม่ชอบอารมณ์ศิลปินของอู่เหมยอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ได้อยากให้นายขุดสักหน่อย ฉันจะขุดเอง”
อู่เหมยถลึงตาใส่เขา สองมือคว้ากิ่งไม้มาและขุดดินสุดแรง เธอไม่สังเกตเห็นเลยว่าเจ้ากระรอกที่นอนอยู่ด้านข้างนั้นตัวกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย
อู่เชาเองก็โมโหเช่นกัน เขาโยนกิ่งไม้ทิ้งและนั่งยองอยู่ด้านข้างด้วยความขุ่นเคือง เขามองดูอู่เหมยขุดหลุมอย่างตกตะลึง มีหลายครั้งที่เขาอยากจะเข้าไปช่วย แต่สุดท้ายก็ยับยั้งตัวเองไว้ได้
เจ้าเพื่อนบ้านับวันก็ยิ่งเจ้าอารมณ์มากขึ้น วันนี้เธอตวาดใส่เขาหลายทีแล้ว ถ้าเขาไปขุดอีกไม่เสียฟอร์มแย่หรอกหรือ
เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วก็ขำ เขารู้สึกว่าอู่เหมยที่แยกเขี้ยวยิงฟันน่ารักกว่าตอนที่ร้องห่มร้องไห้เสียอีก ดูมีชีวิตชีวา ไม่ได้เซื่องซึมเหมือนอย่างแต่ก่อน
“ฉันช่วยเธอขุดก็แล้วกัน”
เหยียนหมิงซุ่นย่อตัวลงและช่วยอู่เหมยขุดหลุม ดวงตาที่แดงก่ำของอู่เหมยมองไปทางเขา เธอพูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณค่ะพี่หมิงซุ่น”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เราเร่งมือกันหน่อย เดี๋ยวจะต้องลงเขาแล้ว”
อันที่จริงเหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมอู่เหมยถึงได้ใส่ใจกระรอกตัวหนึ่งมากขนาดนี้ แต่ว่าพอเห็นท่าทางน่าสงสารของเด็กคนนี้ เขาก็ใจอ่อนขึ้นมาอีก
เขาใจอ่อนให้กับอู่เหมยหลายต่อหลายครั้งเสียจนเขาไม่อยากจะไปค้นหาสาเหตุแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าคงจะเป็นเพราะอู่เหมยมีชีวิตที่ขมขื่นเหมือนกับสมัยที่เขาเป็นเด็ก ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่อาจอธิบายสาเหตุที่ตัวเองใจอ่อนครั้งแล้วครั้งเล่าได้แล้วล่ะ แต่ก็ช่างเถอะ อย่างไรเสียอีกสองปีเขาก็จะไปจากที่นี่แล้ว ตอนนี้ก็ใจอ่อนแบบนี้ไปก่อนก็แล้วกัน!