สมาชิก

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 93

ตอนที่ 93 กระรอกมาอีกแล้ว

เหยียนหมิงซุ่นสังเกตเห็นแววตาที่เหมยซูหานมองอู่เหมย เขารู้สึกงงมาก เท่าที่เขารู้ ถึงแม้เหมยซูหานจะไปกินข้าวที่บ้านตระกูลอู่อยู่บ่อยๆ แล้วก็ค่อนข้างสนิทกับอู่เยวี่ย แต่เขาไม่เคยพูดคุยกับอู่เหมยเลย

ทว่าดูจากตอนนี้แล้วทำไมเหมยซูหานถึงได้ดูเข้าอกเข้าใจอู่เหมยล่ะ

เรื่องนี้ทำให้เขาไม่สบายใจอย่างมาก แล้วที่ยิ่งไม่สบายใจก็คือโจทย์สระว่ายน้ำก่อนหน้านี้ อู่เหมยไม่ได้เข้าใจเพราะการอธิบายของเขา ทั้งๆ ที่เขาอธิบายให้เธอฟังตั้งหลายรอบขนาดนั้น เขาลงมือทำโจทย์เองยังไม่สิ้นเปลืองเซลล์สมองมากขนาดนี้

เหยียนหมิงซุ่นมีความรู้สึกเหมือนเหมยซูหานช่วงชิงสิ่งที่เป็นของเขาไป เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ปกติเขาไม่ค่อยสนิทสนมกับเหมยซูหาน ผลการเรียนของเหมยซูหานดีเยี่ยมจริงๆ เรื่องนี้เขาขอชื่นชม แน่นอนว่าผลการเรียนของเขาก็ไม่เลวทีเดียว แต่ไม่อาจเทียบกับเหมยซูหานได้

บางคนเกิดมาก็เรียนเก่งเลย เหมยซูหานก็คือคนประเภทนี้ สำหรับเขาแล้วการเรียนหนังสือยังง่ายสบายกว่าการกินข้าวดื่มน้ำเสียอีก การจะสอบได้ที่หนึ่งของระดับชั้นนั้น เขาไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากเลย ทำให้เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกอับอายที่สู้ไม่ได้

เขารู้ว่าตัวเองไปทางวิชาการไม่รอด เขาไม่มีพรสวรรค์ทางด้านวิชาการ เขาไม่อาจที่จะโดดเด่นในเส้นทางนี้ได้ เขาจึงมองหาอีกเส้นทางหนึ่งให้กับตัวเอง

ในเมื่อไปทางบุ๋นไม่ได้ก็เอาดีทางบู๊ แม้เส้นทางนี้จะยากลำบากและอันตราย และแม้กระทั่งอาจต้องชดใช้ด้วยชีวิต แต่เขาก็ไม่กลัว เพราะเขาจะต้องโดดเด่นเหนือคนอื่น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นคือเพื่อคุณแม่ที่น่าสงสารของเขา

“พี่ใหญ่ ผมไปเล่นตรงนั้นแป๊บนึงนะ”

เหยียนหมิงต๋าวิ่งมาบอก ทำให้ขัดจังหวะความคิดของเหยียนหมิงซุ่น เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้าและกำชับว่า “อย่าไปไหนไกลละ ฉันไม่เดินไปตามนายหรอกนะ”

“เข้าใจแล้ว”

เหยียนหมิงต๋ากับเพื่อนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งไปเล่นเกมพลิกกระดาษที่เนินดินทางด้านโน้น เจินหวานหว่านก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เธอตามติดเหยียนหมิงต๋าตลอด เดินตามต้อยๆ ไม่ห่าง

อู่เชาเห็นแล้วก็อิจฉา เขาดึงอู่เหมยไป “เราก็ไปเล่นกันเถอะ?”

อู่เหมยไม่สนใจ เล่นจนเหงื่อท่วมตัวสนุกตรงไหน สู้นั่งตากลมอยู่เงียบๆ แบบนี้ดีกว่า อู่เชาจึงจำต้องไปคนเดียว ปรากฏว่าไม่ทันไรอู่เชาก็เล่นกับพวกเหยียนหมิงต๋าอย่างสนุกสนานครื้นเครง

“ว้าย! มีงู!”

พวกเด็กผู้หญิงตกใจร้องเสียงดัง พวกเธอตัวสั่นงันงกพลางกอดกันกลม แล้วจ้องมองไปข้างหน้าด้วยความตื่นตกใจ พวกเด็กผู้ชายค่อนข้างใจกล้าเล็กน้อย พวกเขามองดูงูตัวใหญ่ที่อยู่บนพื้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น งูขนาดใหญ่เท่าแขนเด็ก ลำตัวอีกครึ่งหนึ่งยังคงซ่อนอยู่ในพงหญ้า ส่วนลำตัวท่อนบนชูคอสูง มันแลบลิ้นส่งเสียงขู่ฟ่อ ท่าทางเย็นเยือกน่ากลัว

“อย่าเข้าไป งูตัวนี้หัวเป็นทรงสามเหลี่ยม มีพิษร้ายแรง พวกเราอยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ขอเพียงเราไม่ขยับ มันก็ไม่กัดเราหรอก” เสียงของอู่เชาสงบนิ่งมาก แต่หากเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าน่องของเจ้าตุ้ยนุ้ยคนนี้กำลังสั่นพั่บๆ

คำพูดของอู่เชาทำเอาทุกคนต่างตกอกตกใจยกใหญ่ ความอยากรู้อยากเห็นก็พลอยมลายหายไปสิ้น พวกเขาหยุดเดินทันทีและสีหน้าดูตึงเครียด เด็กนักเรียนหญิงที่ขี้ขลาดบางคนเริ่มร้องไห้ฮือๆ

“ทุกคนดูนี่สิ กระรอก งูตัวนี้จะกินกระรอกตัวนั้น” เหยียนหมิงต๋าชี้ไปที่ข้างหน้าของงูพลางพูด เขาอยากจะเดินเข้าไปใกล้อีกนิด แต่ถูกคนที่อยู่ข้างหลังดึงตัวไว้

ทุกคนมองไปตามที่เขาชี้ มีกระรอกขาวที่น่ารักตัวหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้างูจริงๆ ด้วย รูปร่างของกระรอกแตกต่างจากเจ้างูใหญ่อย่างชัดเจน กระรอกตัวน้อยไม่เพียงพอสำหรับเจ้างูตัวใหญ่

ด้วยความที่เป็นห่วงเจ้ากระรอกน้อยที่น่ารัก พวกเด็กผู้หญิงก็เลยไม่ได้หวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว พวกเธอแสดงความคิดเห็นเบาๆ ว่า “เจ้ากระรอกน่าสงสารจัง เราช่วยมันกันเถอะ”

“จะช่วยยังไง ถ้าเกิดถูกงูพิษกัดจะทำยังไงล่ะ?”

“นั่นสิ ฉันไม่กล้าเข้าไปหรอก”

อู่เจิ้งซือสังเกตเห็นถึงความผิดปกติทางด้านนี้ เขาจึงรีบเดินเข้าไปดู เหมยซูหานกับเหยียนหมิงซุ่นก็เดินตามไปด้วย ส่วนอู่เหมยได้ยินคำว่ากระรอกแว่วๆ เธอพลันนึกขึ้นมาได้ แล้วก็เดินตามหลังไปด้วยเช่นกัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด