ตอนที่ 90
ตอนที่ 90 ความคิดของอู่เยวี่ย
เหอปี้อวิ๋นยุ่งจนหัวหมุนอยู่ที่บ้าน เธอหยิบฟูกออกมาผึ่งแดด รวมถึงผ้านวมผืนบางด้วย อากาศเริ่มค่อยๆ เย็นลงแล้ว หากตอนกลางคืนนอนบนเสื่อเย็นอีก ร่างกายอาจทนไม่ไหว จะต้องห่มผ้าห่มและปูผ้าปูที่นอน
นอกจากนี้เสื้อผ้าสำหรับหน้าร้อนก็ต้องซักให้สะอาด พับให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและเก็บใส่ในกล่อง แล้วก็ใส่ลูกเหม็นลงไปสองสามเม็ด พอถึงฤดูร้อนปีหน้าหยิบออกมาก็ยังคงดูเหมือนของใหม่ หากใช้วิธีนี้จะสามารถเก็บรักษาเสื้อผ้าได้เป็นสิบๆ ปีโดยไม่มีรอยยับ อย่างชุดกี่เพ้าที่คุณแม่ของเธอเคยใส่สมัยก่อน ผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกเสียจากเนื้อผ้าจะบางลงไปนิดหน่อย ทว่าไม่มีรอยยับแม้แต่นิดเดียว
อู่เยวี่ยนั่งทำการบ้านอยู่คนเดียวในห้อง แต่เธอไม่มีกะจิตกะใจทำเลยแม้แต่น้อย การที่อู่เหมยดูผิดแปลกไปตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว เมื่อก่อนเป็นคนน่าสงสารที่ดูเซื่องซึมสงบเสงี่ยม แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำเอาอู่เยวี่ยปรับตัวไม่ทัน
สองวันมานี้อู่เยวี่ยแอบไปถามเจินหวานหว่าน เธอเสียเงินไปห้าเจี่ยว แต่กลับไม่ได้อะไรเลย เจินหวานหว่านบอกว่าอู่เหมยยังคงเหมือนเมื่อก่อน ไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกับใคร แม้แต่เธอที่เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ อู่เหมยก็ไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไร นอกเสียจากว่าจะค่อนข้างสนิทกับอู่เชา อู่เหมยพูดคุยกับอู่เชาอยู่บ้าง
อู่เยวี่ยไม่พอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างยิ่ง จะไม่มีคนยุยงเสี้ยมสอนอู่เหมยได้อย่างไร
ไม่อย่างนั้นอู่เหมยจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันขนาดนี้ได้เช่นไร
อู่เชา?
อู่เยวี่ยตาเป็นประกายทันที เธอไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ รู้แค่ว่าอู่เชาเรียนอยู่ห้องเดียวกับอู่เหมย แล้วนิสัยก็ค่อนข้างแปลก แต่อู่เชาเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคุณปู่มาก คุณปู่มักจะพูดว่าอู่เชาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในบรรดาลูกพี่ลูกน้อง
ฮึ! เธอกลอกตามองบนมองล่างมองซ้ายมองขวาแล้วแต่ก็มองไม่เห็นว่าเจ้าตุ้ยนุ้ยอู่เชามีพรสวรรค์ตรงไหน คนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในตระกูลอู่ไม่ใช่เธอ อู่เยวี่ยหรอกหรือ
มีคนไหนบ้างที่ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างเธอ
ผลการเรียนของเจ้าตุ้ยนุ้ยอู่เชาก็ดีกว่าอู่เหมยแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง ทั้งหมดก็เพราะเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ คุณปู่ถึงได้พูดแบบนั้น สุดท้ายแล้วคุณปู่ก็ให้ความสำคัญกับหลานชายมากกว่าอยู่ดี
อู่เชาต้องพูดอะไรบางอย่างกับอู่เหมยแน่นอน เจ้าตุ้ยนุ้ยคนนี้เป็นคนประหลาด มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะยุยงเสี้ยมสอนให้อู่เหมยตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ อู่เยวี่ยถอนหายใจโล่งอก เรื่องในใจกระจ่างเรียบร้อยแล้ว ขอแค่รู้ตัวตัวการสำคัญก็พอแล้ว เธอไม่เชื่อหรอกว่าจะดึงอู่เชามาเป็นพวกไม่ได้!
ศึกภายนอกค้นพบสาเหตุแล้ว อู่เยวี่ยก็เริ่มหันมาครุ่นคิดเรื่องศึกภายใน เธอแน่ใจว่าตัวเธอครอบครองพื้นที่ในใจของอู่เจิ้งซือมากกว่าอู่เหมย แต่อู่เจิ้งซือเป็นคนรักหน้าตาศักดิ์ศรีเป็นอย่างมากและชอบความเงียบสงบ ทางที่ดีที่สุดในบ้านควรจะรักใคร่ปรองดองกันไว้
เมื่อก่อนอู่เหมยเงียบไม่พูดไม่จา ทำให้ภายในบ้านเงียบสงบจริงๆ อู่เจิ้งซือก็เลยไม่ได้พูดว่าอะไร แต่ช่วงนี้อู่เหมยเอาแต่พูดใส่ร้ายป้ายสีทั้งวัน แถมยังโวยวายเรื่องการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันด้วย ทำให้อู่เจิ้งซือหงุดหงิดอย่างยิ่ง แล้วพาลไปตำหนิคุณแม่ หากขืนปล่อยให้อู่เหมยโวยวายต่อไป เกรงว่าแม้แต่เธอเองก็อาจพลอยถูกตำหนิด้วย
เธอจะต้องปรึกษาหารือกับคุณแม่เสียแล้ว พวกเธอจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการจัดการอู่เหมย จะทุบตีหรือด่าทอเหมือนอย่างแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้ว อย่างน้อยที่สุดจะต้องไม่ทุบตีด่าทอต่อหน้าคุณพ่อ
อู่เยวี่ยเปิดประตูห้อง เหอปี้อวิ๋นกำลังถูพื้นอยู่ในห้องรับแขก ผมที่หน้าผากเปียกชุ่มเหงื่อ เหอปี้อวิ๋นทำงานยุ่งมาตลอดทั้งเช้า เธอเหนื่อยสายตัวแทบขาด ตอนนี้เธอชักจะเริ่มคิดถึงลูกสาวคนเล็กแล้ว
เมื่อก่อนเวลาทำความสะอาดครั้งใหญ่เธอมีอู่เหมยคอยช่วยเช็ดโต๊ะถูพื้น ทำให้เธอทำงานน้อยลงไปกว่าครึ่ง สบายกว่าตอนนี้เยอะเลย
“แม่คะ พักสักเดี๋ยวนึงสิคะ เดี๋ยวหนูช่วยทำให้”
อู่เยวี่ยพูดพลางเดินเข้ามาแย่งไม้ถูพื้น เหอปี้อวิ๋นรีบห้ามเธอและพูดอย่างไม่เห็นด้วย “ไม่ต้องๆ เหลืองานอีกแค่นิดเดียวแล้ว เยวี่ยเยวี่ย ลูกไปอ่านหนังสือเถอะ แม่ทำได้จ้ะ”
ต่อให้เหนื่อยสายตัวแทบขาด เหอปี้อวิ๋นก็ไม่อาจให้ลูกสาวคนโตสุดที่รักทำงานได้ เบียดเบียนการเรียนน่ะไม่เท่าไร แต่ถ้ามือหยาบกร้านขึ้นมาจะทำอย่างไร
ต่อไปเยวี่ยเยวี่ยของเธอจะต้องเป็นคุณหญิงคุณนาย ถ้ามีมือหยาบกร้านล่ะก็ขายหน้าแย่!