ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 ไฝสีแดงกลางหน้าผาก
เหยียนหมิงซุ่นแคะหูพลางหันมองไปทางต้นเสียงพบว่าเป็นเด็กผู้หญิงปล่อยผมสยายและที่นั่งอยู่ข้างๆ คือน้องชายของเขาเอง รวมถึงเด็กผู้หญิงหน้าตาโดดเด่นตัวโตกว่าหน่อย เขาจำได้ลางๆ ว่าเธอชื่ออู่เยวี่ย
พี่น้องที่มีภาพลักษณ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคู่นี้เหยียนหมิงซุ่นยังพอจดจำได้บ้าง ความจำของเขาดีเยี่ยม แค่มองแวบเดียวหรือเคยฟังครั้งเดียวก็สามารถจดจำคนคนนั้นฝังหัวได้หลายสิบปีก็ไม่ลืม
พี่น้องตระกูลอู่พักอยู่อาคารเดียวกับเขา เขาย่อมรู้จักดีเป็นทุนเดิมอีกทั้งยังรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้ไม่น้อย อย่างเช่นคุณพ่อคุณแม่อู่ลำเอียง ความสัมพันธ์ที่ดีเพียงฉาบหน้าของอู่เยวี่ยกับอู่เหมย ชีวิตอันน่าเศร้ายิ่งกว่าหนอนตัวหนึ่งของอู่เหมย เขารู้ดีทุกอย่างเพียงแต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ
คนที่ไม่สำคัญเท่านั้นเอง เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?
แต่เสียงของน้องสาวคนนี้กลับน่าฟังไม่น้อย เหยียนหมิงซุ่นแคะหูอีกทีและคงท่าทีนิ่งเฉย เสียงที่ไพเราะน่าฟังสักแค่ไหนก็ทำอะไรเขาไม่ได้ นั่นเป็นแค่คนที่ไม่สำคัญอะไรกับเขา!
อู่เหมยใจหม่นลง เธอลืมได้อย่างไรว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นคนไร้หัวใจ ระหว่างเธอกับเขาไม่นับว่าเป็นคนรู้จักด้วยซ้ำ เขาจะมาแบกเธอทำไมกัน?
เฮ้อ! หยุดเล่นละครต่อดีกว่า เดินกลับไปเองเถอะ ยังไงซะเธอก็ไม่มีทางยอมรับความช่วยเหลือจากเหยียนหมิงต๋าแน่นอน แค่คิดก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
“ฉันหายดีหน่อยแล้ว ขอบคุณนะพี่หมิงต๋า ฉันเดินกลับไปเองดีกว่า” อู่เหมยค่อยๆ ลุกขึ้นยืนขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้าโดยใช้มือกุมท้องไว้ แสดงละครก็ต้องแสดงให้ถึงที่สุด อย่าเผยไต๋ออกมาเด็ดขาด
เธอในชาติก่อนไม่รู้จักแสดงละครถึงได้โดนคนอื่นรังแกจนตาย ชีวิตนี้เธอจะต้องแสดงละครชุดใหญ่ เอาให้ตายไปข้างเลย!
เหยียนหมิงต๋าเป็นคนซื่อตรง ไม่ทันครุ่นคิดอะไรหลงคิดว่าอู่เหมยหายเป็นปกติแล้วจริงๆ จึงลุกขึ้นยิ้มซื่อๆ ให้อู่เยวี่ย “เยวี่ยเยวี่ย จะมาดูพวกเราเล่นบาสมั้ย?”
อู่เยวี่ยปิดปากยิ้มเขิน “ไม่ล่ะ คืนนี้ฉันต้องไปหาคุณปู่ จะสายไม่ได้ พี่หมิงต๋าต้องสู้ๆ นะ!”
“เยวี่ยเยวี่ยไว้ใจได้เลย ฉันจะเอาขนะพวกเอ้อร์ปิ่งให้ได้!” เหยียนหมิงต๋าได้กำลังใจจากคนที่ชอบ ยิ้มจนปากแทบฉีกและดูซื่อเหมือนหมีโคอาล่า ไม่ได้ดูดีเหมือนพี่ชายของเขาเลย
“หมิงต๋าอย่ามัวแต่ชักช้า!”
เหยียนหมิงซุ่นเร่งเร้าอย่างไม่สบอารมณ์และกำลังมุ่งหน้าเดินไปทางสนามบาสแล้ว เสียงของเขาเย็นชาเหมือนใบหน้าของเขา เย็นยะเยือกราวกับเกล็ดน้ำแข็ง อู่เหมยเผลอมองไปทางเขาพลางสบตาเข้าพอดี เธอสะดุ้งรีบก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าสบตาเหยียนหมิงซุ่นด้วยความใจกล้าอย่างรวดเร็ว
หากไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะสบตาเหยียนหมิงซุ่น ในอนาคตจะเป็นเพื่อนกับเขาได้อย่างไร?
อู่เหมยฮึดสู้ กล้ามองแค่ตรงใต้คางอีกฝ่าย แม้แต่เช่นนี้แล้วเธอยังมองจนลำคอแห้งผากเพราะความตกใจเป็นสาเหตุหลัก อีกอย่างเป็นเพราะลูกกระเดือกของเหยียนหมิงซุ่นดูเซ็กซี่เกินไป บอกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก อู่เหมยตั้งรับกับลูกกระเดือกนี้ไม่ไหว ที่เลือดกำเดาไม่ไหลเพราะร่างกายยังวัยเยาว์นัก ประจำเดือนก็ยังไม่ทันมาด้วยซ้ำแล้วจะมีเลือดกำเดาเพราะเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร!
ทันทีที่รู้ตัวว่าสภาพตัวเองไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไร อู่เหมยรีบยกแขนทัดผมข้างหนึ่งเพื่อเปิดใบหน้าครึ่งหนึ่ง เรียกกำลังใจก่อนจะยิ้มมุมปากถือเป็นการทักทายที่พึ่งคนนี้
เหยียนหมิงซุ่นเห็นทุกอิริยาบถของอู่เหมย ทแม้เธอจะขี้กลัวเหมือนหนูที่กลัวเขาแทบตาย แต่ไม่รู้ใจกล้ามาจากไหนถึงมาท้าทายตัวเขา แต่ท่าทางเหมือนสุนัขพันธุ์ปั๊กตัวน้อยๆ นั้นช่างดูน่าสนใจเสียจริง และแล้วเธอก็ดึงดูดความสนใจจากเหยียนหมิงซุ่นได้สำเร็จ
อู่เหมยสางผมยาวให้เปิดใบหน้าใสชัดเจน ผิวขาวซีดเพราะไม่ได้สัมผัสแดดเป็นเวลานานและดูมีน้ำมีนวล ขาวใสจนเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนัง แม้ดูเหมือนคนป่วยแต่ก็ดูสวยไปอีกแบบ
รวมถึงไฝสีแดงเลือดเม็ดเล็กขนาดถั่วเขียวกึ่งกลางหน้าผาก ทำให้ใบหน้าที่อ่อนเยาว์สมกับวัยกลับดูยั่วยวนเล็กน้อยเพราะไฝเสน่ห์เม็ดนี้
นึกไม่ถึงว่าลูกสาวคนเล็กของตระกูลอู่ไม่ได้ขี้เหร่เหมือนที่ลือกัน แถมยังเป็นคนสวยที่แท้จริงอีกต่างหาก!
น่าสนใจจริงๆ!
เหยียนหมิงซุ่นแย้มมุมปากน้อยๆ อย่างผิดปกติ รู้ตัวอีกทีเหยียนหมิงซุ่นก็หงุดหงิดที่เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ไม่ควรเอาเสียเลย