icon member

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 88

ตอนที่ 88 ครั้งแรกที่มีคนชมว่าอัจฉริยะ

อู่เหมยนำโจทย์ที่เหยียนหมิงซุ่นตั้งวาดเป็นรูปออกมา เมื่อวาดเส้นสุดท้ายเสร็จแล้ว สมองเธอก็ปิ๊งขึ้นมาทันที แล้วเธอก็เขียนสูตรเลขออกมา อีกทั้งคำนวณคำตอบได้ถูกต้องด้วย

“ใช่แล้ว ทำได้ถูกต้อง” เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้า

อู่เหมยอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ วันนี้สวรรค์ทำให้เธอตาสว่างแล้วใช่หรือเปล่า

เธอทำโจทย์เลขถูกสองข้อติดต่อกันอย่างนั้นเหรอ

อู่เชาเองก็ตะลึงงันเช่นกัน ให้ตายสิ เจ้าเพื่อนบ้าเก่งกว่าเขาเสียอีก โจทย์ลิงเด็ดลูกท้อเขายังคิดไม่ออกเลย!

“เธอไม่ใช่เหมยเหมย เธอต้องถูกเทพแห่งหนังสือเข้าสิงแล้วแน่ๆ เหมยเหมยไม่ได้ฉลาดเหมือนเธอ เหมยเหมยเค้าทำโจทย์พวกนี้ไม่ได้หรอก”

อู่เชายืนยันการอนุมานของเขา อู่เหมยที่อยู่ตรงหน้าต้องถูกเทพแห่งหนังสือเข้าสิงอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจู่ๆ จะฉลาดขึ้นมาได้อย่างไร แม้แต่นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปด้วย

อู่เหมยถลึงตาใส่เขา “นายน่ะสิโง่ สิบขวบแล้วยังฉี่รดที่นอนอีก”

อู่เชาตกใจรีบปิดปากของอู่เหมย แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตกใจ เจ้าเพื่อนบ้านี่ ทำไมถึงพูดเรื่องน่าขายหน้าของเขาออกมา แล้วทีนี้ภาพลักษณ์ของเขาจะเป็นอย่างไร

ช่างเถอะๆ ไม่ว่าอู่เหมยจะถูกเทพแห่งหนังสือเข้าสิงหรือไม่ก็ตาม ขอเพียงเธอไม่กลับไปเซื่องซึมเหมือนอย่างแต่ก่อนอีก เขาก็จะยังคงดูแลปกป้องลูกพี่ลูกน้องคนนี้ต่อไป!

อู่เหมยปัดมือเขาทิ้ง แล้วเช็ดปากอย่างแรง กลิ่นไส้กรอกติดปากเธอไปหมด เธอถลึงตาใส่อู่เชาหนึ่งที แล้วมองดูสูตรเลขบนพื้นต่ออย่างมีความสุข เธอรู้สึกภูมิใจสุดขีด

“เหมยเหมย ต่อไปถ้าเจอโจทย์เลขที่ทำไม่ได้อีก ก็ลองใช้วิธีนี้ดูนะ” เหมยซูหานบอก

อู่เหมยพยักหน้าหงึกหงัก แล้วพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณค่ะพี่ซูหาน”

เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกอึดอัดใจมาก เขาอดพูดเหน็บแนมไม่ได้ว่า “วาดรูปๆ นึงต้องใช้เวลานาน ถึงเวลาสอบจริงๆ เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งจะพอให้วาดรูปได้สักกี่รูป”

อู่เหมยหน้าบึ้งตึงทันที ท่าทางหงอยเหงาเศร้าซึมอย่างยิ่ง ความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อครู่นี้มลายหายไปสิ้น ใบหน้าเล็กๆ ของอู่เหมยยับยู่ยี่

เหมยซูหานหัวเราะ “ไม่เป็นไร เหมยเหมย เธอวาดแบบคร่าวๆ ก็ได้ ขอเพียงตัวเธอเข้าใจก็พอแล้ว ไม่ต้องวาดเป็นรูปเป็นร่างขนาดนี้หรอก”

อู่เหมยนึกถึงเมื่อชาติก่อนที่เธอเรียนวาดการ์ตูนอยู่พักหนึ่ง แล้วเธอก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา เธอลบสิ่งที่วาดไปก่อนหน้านี้ออกหมด จากนั้นวาดใหม่อีกครั้ง คราวนี้เธอวาดเร็วมาก ขีดๆ เขียนๆ แค่สามสี่ทีก็วาดรูปลิงที่น่ารักออกมาได้หนึ่งตัว ใช้เวลาไปแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น แล้วเธอก็ขีดๆ เขียนๆ อีกสามสี่ที ลิงอีกตัวก็วาดเสร็จเรียบร้อย ถึงแม้จะไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนเหมือนก่อนหน้านี้ แต่มันกลับดูน่ารักมากกว่าเดิมอีก

เธอวาดจนติดเครื่อง เธอวาดรูปลิงรวดเดียวหลายตัว แถมยังวาดรูปกระรอกขาวตัวเมื่อกี้นี้ด้วย กระรอกตัวน้อยที่น่ารักดึงดูดให้เด็กนักเรียนหญิงหลายคนเข้ามามุงดู ซึ่งทุกคนต่างก็ชมเปาะ

“วาดเก่งจริงๆ วิธีการวาดนี้เรียกว่าอะไร วาดได้เร็วมากเลย!” มีคนเอ่ยถาม

เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยซูหานเองก็อยากรู้ วิธีการวาดของอู่เหมยคล้ายๆ กับการวาดลายเส้นแบบเรียบง่าย แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว แม้จะวาดออกมาดูโอเวอร์ไปหน่อย แต่สัตว์ตัวน้อยที่วาดออกมากลับดูน่ารักมาก น่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กคนนี้ไปเรียนมาจากที่ไหน

อู่เหมยเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าสมัยนี้ยังไม่มีใครรู้จักการ์ตูน ต้องเป็นช่วงยุค 90 การ์ตูนถึงจะค่อยๆ บูมขึ้นมา เธอครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ฉันแค่วาดไปมั่วๆ น่ะ”

“วาดมั่วๆ ยังวาดได้ดีขนาดนี้ อัจฉริยะจริงๆ!” มีคนตื่นตะลึง

อู่เหมยประหลาดใจและเบิกตาโต หัวใจเธอเต้นตึกตัก แล้วพูดด้วยความตะลึงงัน “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนชมว่าฉันเป็นอัจฉริยะ”

ตั้งแต่เด็กจนโตคำที่เธอได้ยินบ่อยที่สุดก็คือ “ไอ้โง่” เธอนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำว่าอัจฉริยะ อู่เหมยไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ อีกอย่างวาดรูปได้นับเป็นความสามงความสามารถอะไร เก่งวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีต่างหากถึงจะสำคัญที่สุด

มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า เมื่อเก่งวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ไม่ว่าเดินทางไปแห่งหนใด ก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ไม่เห็นมีใครพูดว่าวาดรูปเก่งแล้วสามารถท่องเที่ยวไปสุดหล้าฟ้าเขียวได้

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด