ตอนที่ 72
ตอนที่ 72 เอาแต่กินงานไม่ทำเหมือนเคย
อู่เหมยรับเงินสองหยวนมา เธอรู้สึกว่าบาดแผลตามตัวไม่ค่อยเจ็บเท่าไรแล้ว สองวันมานี้แม้จะโดนตีไปสองยก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เลวทีเดียว พัดลมเอย เงินค่าขนมเอย เสื้อผ้าใหม่เอย นมสดเอย แล้วก็นมรสมอลต์ ไม่ว่าอะไรก็เอามาได้แล้ว
พอนึกถึงนมรสมอลต์ อู่เหมยก็เดินวกกลับมาอีก แล้วเปิดตู้เก็บของ เธอหยิบกระป๋องนมรสมอลต์ออกมาโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย จากนั้นตักสองช้อนใหญ่พูนๆ ชงใส่แก้วใบใหญ่ อีกทั้งเทน้ำมันตับปลามากินหนึ่งช้อน น้ำมันตับปลาสมัยนี้เป็นของแท้และราคาสมเหตุสมผล มีลักษณะเหนียวข้นเหมือนกาว อีกสิบกว่าปีข้างหน้าก็หาน้ำมันตับปลาแท้ๆ แบบนี้กินไม่ได้แล้ว มีแต่น้ำมันตับปลาที่เหลวเหมือนน้ำ
อู่เหมยกลั้นหายใจตักน้ำมันตับปลาที่มีกลิ่นเหม็นคาวใส่ปาก เพื่อที่ดวงตาจะได้ใสแจ๋ว ต่อให้เหม็นคาวแค่ไหนก็ต้องกิน กินวันละหนึ่งช้อนแบบนี้เธอไม่มีทางสายตาสั้นอีกแน่นอน
“ทำอะไรน่ะ”
เหอปี้อวิ๋นออกมาเตรียมชงนมรสมอลต์ให้อู่เยวี่ย แล้วบังเอิญเห็นอู่เหมยแอบกินน้ำมันตับปลาพอดี เธอจ้องอู่เหมยเขม็ง น้ำมันตับปลาราคาแพงกว่านมรสมอลต์เสียอีก เธอซื้อแบบดีที่สุดด้วย หนึ่งขวดราคาตั้งสิบแปดหยวน เพื่อให้อู่เยวี่ยได้กิน เธอไม่เสียดายแม้แต่น้อย แต่เจ้าเด็กบ้านี่มีสิทธิ์อะไรมากิน
“หนูกินน้ำมันตับปลากับนมรสมอลต์ พ่อตกลงแล้ว” อู่เหมยถือแก้วและเตรียมกลับห้อง
เหอปี้อวิ๋นพยายามสะกดกลั้นไม่เหวี่ยงฝ่ามือใส่ เธอกัดฟันกรอดๆ และพูดว่า “ส่วนของแกพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อมาให้ พวกนี้เป็นของพี่แก ห้ามกิน”
เหอปี้อวิ๋นจะซื้อน้ำมันตับปลาแบบถูกที่สุดให้เจ้าเด็กบ้ากิน อย่างไรเสียอู่เจิ้งซือก็ไม่เคยยุ่งกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้อยู่แล้ว แค่เพียงให้เขาเห็นว่าซื้อของกลับมาก็พอแล้ว อู่เหมยพูดตกลงเสียงเบา พอถึงเวลานั้นเธอก็กินส่วนของอู่เยวี่ยอยู่ดี ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้แล้ว เหอปี้อวิ๋นไม่มีทางซื้อของดีๆ มาให้เธอหรอก
“แกไปล้างจานชาม แล้วก็ซักเสื้อให้พี่แกด้วย”
เหอปี้อวิ๋นชงนมรสมอลต์เสร็จแล้วก็เทน้ำมันตับปลาหนึ่งช้อน เตรียมเอาไปให้อู่เยวี่ยที่ห้อง แล้วสั่งงานอู่เหมยเหมือนเช่นเคย อู่เหมยอมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อก่อนเธอโง่เง่าถึงได้ทำงานบ้านเยอะแยะขนาดนั้น แม้กระทั่งกางเกงในที่เลอะประจำเดือนของอู่เยวี่ยเธอก็ยอมซักให้ แต่ตอนนี้เธอไม่โง่แล้ว
“หนูยังทำการบ้านไม่เสร็จเลย”
อู่เหมยก้าวขาเดินจากไป มือเธอหยาบกร้านไปหมดเพราะทำงานเยอะเกินไป เมื่อก่อนเธอเคยเห็นคำพูดประโยคหนึ่งในหนังสือ ในนั้นเขียนว่ามือคือใบหน้าที่สองของผู้หญิง จะปล่อยให้ดูน่าเกลียดไม่ได้
ขมับของเหอปี้อวิ๋นเต้นตุบๆ เมื่อก่อนอู่เหมยอ่อนแอเหลือเกิน เธอเห็นแล้วก็โมโห ทว่าตอนนี้เธอคิดถึงอู่เหมยในตอนนั้นมาก อู่เหมยในเวลานี้ดื้อรั้นหัวแข็ง วันๆ เอาแต่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ สู้เป็นคนโง่ๆ ทึ่มๆ อย่างเมื่อก่อนไม่ได้
“ทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปทำการบ้าน อย่าให้ต้องพูดซ้ำเป็นหนที่สอง” เหอปี้อวิ๋นตวาด
อู่เหมยหยุดเดินแล้วหันมายิ้มเยาะ “ให้หนูทำงานก็ได้ แต่แม่ไปเรียกพี่เขาออกมาทำงานกับหนูด้วย เมื่อกี้พ่อพูดไม่ใช่เหรอว่าต้องไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แม่ความจำไม่ค่อยดีหรือเปล่า?”
“พี่แกต้องอ่านหนังสือ มีเวลามาทำงานซะที่ไหน ถ้าแกสอบได้ร้อยคะแนน...”
“หนูสอบไม่ได้ร้อยคะแนนแล้วต้องทำงานเหรอ นี่มันกฎหมายข้อไหนกัน ถ้าอย่างนั้นอีกสองสามวันหนูจะลองไปถามที่ศาลดู ดูสิว่ามีกฎข้อนี้มั้ย”
อู่เหมยย้อนถามอย่างใจเย็น เธอรู้ว่าอู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋นเป็นคนที่รักศักดิ์ศรี รักหน้าตาอย่างมาก ตอนนี้เธอได้แต่ใช้ไม้นี้ ผลปรากฏว่า...
เหอปี้อวิ๋นเริ่มลนลานแล้ว เธอรู้อยู่แล้วว่าหลักการข้อนี้ของเธอไม่มีเหตุผล เมื่อก่อนเธอสามารถจัดการอู่เหมยได้อยู่หมัด แต่ตอนนี้เธอไม่มั่นใจเลยจริงๆ ไม่แน่ว่าเจ้าเด็กบ้านี่อาจกล้าไปถามเรื่องนี้ที่ศาลจริงๆ ถึงตอนนั้นเธอกับอู่เจิ้งซือจะต้องถูกหัวเราะเยาะไปทั่วทั้งเมืองจิน พ่อแม่สามีต้องต่อว่าต่อขานเธอแน่นอน