icon member

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 49

ตอนที่ 49 กลับสู่ชีวิตในรั้วโรงเรียนอีกครั้ง

ห้องเรียนประถมปีที่ห้าห้องสามอยู่ชั้นสองของอาคาร ภายในห้องเรียนมีนักเรียนมากมายนั่งรออ่านหนังสือตอนเช้าเสียงครึกครื้นฟังแล้วเสนาะหูเหมือนเสียงพระเทศน์ก็ไม่ปาน

อู่เหมยยืนชั่งใจอยู่หน้าประตูห้องเรียน ที่นั่งของเธออยู่ตรงไหนนะ?

“เธอเดินละเมออะไรอีก? ยังไม่รีบไปนั่งอ่านหนังสือเรียน ไม่งั้นถ้าหัวหน้าสารวัตรเห็นเข้าต้องหักคะแนนห้องเราแน่ๆ”

อู่เชาลากอู่เหมยไปยังที่นั่ง เขานั่งอยู่ด้านหลังอู่เหมยพอดี

อู่เหมยนึกขอบคุณเจ้าอ้วนอู่เชาอยู่เต็มอก หากไม่ใช่เพราะเจ้านี่เธอต้องถามคนอื่นและต้องถูกหัวเราะเยาะแหง

อู่เหมยวางกระเป๋าหนังสือบนโต๊ะเรียนก่อนจะหยิบหนังสือเรียนภาษาออกมา เพิ่งเปิดหน้าแรกก็เห็นตัวอักษรที่จดบันทึกเต็มไปหมด ทั้งเป็นระเบียบและสวยงามแต่ผลการเรียนกลับแย่

อ่านที่จดบันทึกอันคุ้นเคยจนอู่เหมยอดยิ้มขมขื่นไม่ได้ หากจะบอกว่าในห้องใครที่จดบันทึกได้ตั้งใจที่สุดต้องเป็นเธออยู่แล้ว มีแต่คนบอกว่าพระเจ้าไม่มีทางเพิกเฉยต่อคนที่ขยัน แล้วเธอล่ะ?

“เฮ้! เธอคืออู่เหมยเหรอ? ทำไมหน้าตาเปลี่ยนไปล่ะ?”

เพื่อนร่วมโต๊ะคือเด็กสาวหน้ากลมมีกระตามปลายจมูกประปราย ผิวค่อนไปทางขาว ทรงหน้าแอปเปิ้ลหน้าตาน่ารักพอสมควร แต่ลักษณะนิสัยกลับไม่น่ารักเท่าที่ควรเลย

เด็กสาวหน้าทรงแอปเปิ้ลคนนี้ชื่อเจินหวานหว่าน เป็นสายข่าวที่อู่เยวี่ยมอบหมายให้ประกบอยู่ข้างเธอ ชาติก่อนเธอไม่รู้ความสัมพันธ์ของเจินหวานหว่านกับอู่เยวี่ยเลยเห็นอีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง มีหลายสิ่งในใจได้ระบายให้อีกฝ่าย แต่สุดท้ายเจินหวานหว่านกลับไปเล่าให้อู่เยวี่ยฟังทั้งหมด

รวมถึงทุกการกระทำทุกย่างก้าวของเธอในโรงเรียน เจินหวานหว่านจะเก็บไปฟ้องอู่เยวี่ยทั้งหมด จึงเป็นที่มาว่าชาติก่อนอู่เยวี่ยควบคุมเธอได้อยู่หมัด ขยับตัวไปไหนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

อู่เหมยปรายตามองเจินหวานหว่านอย่างเย็นชาแวบหนึ่งพลางหยักหน้ารับถึงนั่งลงเปิดหนังสือเรียน หวังว่าชาตินี้ผลการเรียนของเธอจะดีขึ้นสักนิดก็ยังดี

เจินหวานหว่านทำหน้าตกใจ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็นึกไม่ถึงว่าหน้าตาที่แท้จริงของอู่เหมยจะเป็นแบบนี้ มิน่าอู่เยวี่ยถึงได้สนใจผมของอู่เหมยนักหนา

    “เหมยเหมยขี้กลัวไม่กล้าพบปะผู้คนภายนอก หวานหว่านเธอต้องระวังไม่ให้ผมของเหมยเหมยถูกลมพัดขึ้นนะ!”

ถ้อยคำอู่เยวี่ยผุดดังขึ้นข้างหูของเจินหวานหว่าน เมื่อก่อนเธออิจฉาอู่เหมยที่มีพี่สาวอ่อนโยนคอยรักและปกป้อง แต่ดูเหมือนตอนนี้...

“ที่แท้เหมยเหมยเธอสวยขนาดนี้ เมื่อก่อนทำไมถึงไม่ยอมมัดผมล่ะ?” เจินหวานหว่านถามหยั่งเชิง

อู่เหมยไม่ตอบอะไร เมื่อคืนอู่เจิ้งซือได้เน้นย้ำเหตุผลที่มัดผมขึ้นอีกครั้ง แม้เธอจะไม่อยากยอมรับว่าตัวเองมีตุ่มขึ้นตามใบหน้า แต่เธอก็ไม่อยากไปท้าทายอู่เจิ้งซืออีก จึงเลือกที่จะเงียบ

“เมื่อก่อนเหมยเหมยมีตุ่มขึ้นตามหน้า เพิ่งหาย” อู่เชาช่างพูดมาก ตอบแทนอู่เหมยไปแล้ว

อู่เหมยถลึงตาดุดันใส่เขาแวบหนึ่ง “ฉันไม่มีตุ่มขึ้น นายสิมี นายมีตุ่มขึ้นเต็มตัวเลย”

เพื่อนร่วมโต๊ะของอู่เชาเป็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่พูดน้อย เมื่อได้ยินดังนั้นก็ขยับตัวไปข้างๆ เล็กน้อยแถมยังยกหนังสือที่อยู่ใกล้แขนอู่เชาหนีไปด้วย

เจินหวานหว่านมองอู่เหมยอย่างฉงนใจ ไม่ใช่แค่หน้าตาที่เปลี่ยนไปแถมยังดูร่าเริงขึ้นมากทีเดียวราวกับเกิดใหม่

หลังเลิกเรียนต้องบอกอู่เยวี่ยถึงความเปลี่ยนแปลงของอู่เหมย เช่นนี้แล้วจะได้เงินมาอีกสองสตางค์ เพราะมีเงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ จากอู่เยวี่ยเป็นบางครั้งบางคราวทำให้เจินหวานหว่านแทบไม่ต้องเสียเงินซื้อค่าอุปกรณ์การเรียนในแต่ละเทอมเลย

เพื่อนนักเรียนคนอื่นก็ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของอู่เหมยอย่างมากจนไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้ในตลอดช่วงเช้า ไม่ใช่แค่นักเรียน แม้แต่คุณครูยังตาพร่ากับความสวยของอู่เหมย คำพูดติเตียนที่มีติดปากเสมอก็อ่อนลงมากโดยไม่รู้ตัว

ทำใจให้ก่นด่าอย่างน่าเกลียดกับใบหน้าสวยงามนี้ไม่ได้จริงๆ!

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด